บทที่ 248 รับฟังความเห็นของอาจารย์เฉียว

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

เผยเชียนเดินขึ้นไปชั้นสองของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเงียบๆ เขาอยากเห็นว่าตอนนี้อาจารย์เฉียวสภาพเป็นยังไง

การได้เห็นอาจารย์เฉียวทุกข์ทรมานคือความสนุกอย่างหนึ่งในชีวิตอันแสนมืดมนของเผยเชียน และเป็นกำลังใจให้เขาเล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่งต่อไปได้

แต่เผยเชียนก็ต้องผิดหวัง

อาจารย์เฉียวไม่ได้กำลังจ้องหน้าจอด้วยความตื่นตะลึงเหมือนครั้งก่อน แต่กำลังเอนหลังดื่มค็อกเทลอย่างสบายจิตสบายใจ

หน้าจอคอมพิวเตอร์ฉายภาพหมอกหนาสีเหลือง เผยเชียนจำได้ทันทีว่าเป็นฉากเส้นทางสู่ยมโลก อาจารย์เฉียวกำลังจะถึงสายธารลืมชาติและสะพานลืมภพ

“เชี่ยไรเนี่ย…

“เล่นคืบหน้าช้ากว่าฉันนิดเดียวเองเหรอ

“ไม่สิ…เล่นเร็วกว่าฉันอีก!”

เผยเชียนอึ้งไป

ตอนนี้เผยเชียนกำลังมุ่งหน้าสู่ทางเข้าสังสารวัฏทั้งหก ตามการออกแบบเกม หลังจากผ่านสายธารลืมชาติและสะพานลืมภพก็จะเข้าสู่หอทอดอดีตและหินสามชาติ ต่อจากหินสามชาติจะมุ่งสู่ตำหนักพญายมและสังสารวัฏทั้งหก

แต่เผยเชียนมีผู่ตู้เลยสามารถใช้ทางลัดข้ามสะพานลืมภพ หินสามชาติ และอื่นๆ เข้าสู่เส้นทางสู่ยมโลกและไปถึงสังสารวัฏทั้งหกได้เลย

ถ้าดูจากตรงนี้ อาจารย์เฉียวก็เล่นเกมคืบหน้าไปได้เร็วกว่าเผยเชียน

“ไม่นะ ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ…”

เผยเชียนรู้สึกเหมือนจะเป็นลม เขาตระหนักว่าตัวเองประเมินความสามารถในการทนทุกข์ทรมานและทักษะการเล่นเกมของอาจารย์เฉียวต่ำเกินไป!

เนื่องจากเป็นอัปโหลดมาสเตอร์ ฝีมือการเล่นเกมของอาจารย์เฉียวก็ไม่น่าจะเทพมาก คลิปที่ผ่านๆ มาของอาจารย์เฉียวเป็นการอธิบายตัวเกม เผยเชียนจึงคิดว่าอาจารย์เฉียวน่าจะต้องทรมานใจเมื่อได้เล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่ง

แต่ตอนนี้เผยเชียนรู้แล้วว่าตัวเองประเมินฝีมืออาจารย์เฉียวต่ำเกินไป…

พอมาคิดดูดีๆ แล้ว ในฐานะผู้เล่นที่สามารถทนขับรถไปเรื่อยๆ ได้แปดชั่วโมง ดังนั้นถึงจะตายอนาถแค่ไหนในเกมกลับใจคือฟากฝั่ง ยังไงก็น่าจะสนุกกว่าขับรถโง่ๆ ไปตามทางอยู่ดี

ดูจากสีหน้าของอาจารย์เฉียวแล้ว เขาน่าจะเรียนรู้วิธีการหาความบันเทิงในความขมขื่นแล้วเรียบร้อย เพราะดูจะสนุกสนานกับเกมเหลือเกิน…

เผยเชียนหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย

อาจารย์เฉียวไม่ทรมานกับการเล่นเกมอีกต่อไป เผยเชียวสูญเสียกำลังใจและความสุขในชีวิตไปแล้ว!

แล้วฉันจะไปต่อได้ยังไง

แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาหลัก

ปัญหาจริงๆ คือถ้าอาจารย์เฉียวเล่นผ่านมาได้ขนาดนี้ด้วยความเพียรพยายาม ก็แสดงว่าเกมยังยากไม่พอสิ

ถ้ายังยากไม่พอก็ทำให้ผู้เล่นเลิกเล่นไม่ได้ ยอดขายเกมก็จะไม่ตก เกมอาจทำเงินได้แทน

แย่แน่ถ้าเป็นแบบนั้น!

เห็นสีหน้าของอาจารย์เฉียว เผยเชียนก็คิดถึงกรณีเลวร้ายที่สุดขึ้นมาทันที

ไม่นะ ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้!

เผยเชียนเก่งเรื่องการแก้ปัญหา ตอนนี้รู้แล้วว่าสถานการณ์กำลังวิกฤต จะให้นั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไรได้ยังไง

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็นึกไอเดียออก

เฉียวเหลียงที่กำลังจิบค็อกเทลและคิดว่าจะเล่นเกมต่อไปยังไงดีหันมาเห็นบอสเผย

“บอสเผย!”

เฉียวเหลียงยิ้มกว้าง

หลังจาก ‘คลายประเด็นเข้าใจผิด’ ไป เขาก็มองบอสเผยเหมือนญาติสนิทและรักใคร่อีกฝ่ายยิ่งกว่าเดิม

เผยเชียนยิ้มตอบพลางลากเก้าอี้เข้ามาหาตัว ถึงตอนนี้จะไม่ได้รู้สึกดีกับอาจารย์เฉียวอีกแล้ว แต่เขาก็ต้องฝืนยิ้มออกไปอย่างสุดความสามารถ

เพราะยังต้องเค้นเอาผลประโยชน์จากอาจารย์เฉียวเพิ่มให้ได้

เฉียวเหลียงมาจิงโจวได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ถ้าไม่นับวันเสาร์อาทิตย์ อีกฝ่ายก็เล่นเกมไปแล้วประมาณสี่สิบชั่วโมง

เกมกลับใจคือฟากฝั่งไม่ได้มีเนื้อหาหลากหลายเหมือนเกมตระกูล Souls จากการคาดการณ์คร่าวๆ ผู้เล่นที่มีฝีมือหน่อยน่าจะเล่นเนื้อเรื่องหลักจบได้ในสามสิบชั่วโมง

ถ้าเป็นผู้เล่นสายเก็บทุกอย่างครบและอยากจะเก็บฉากจบทุกแบบ เอาให้ครบทุกรายละเอียดจริงๆ เวลาที่ใช้ในการเล่นก็อาจจะยืดออกไปเป็นประมาณห้าสิบถึงหกสิบชั่วโมง

ถ้าเป็นผู้เล่นมือใหม่…น่าจะต้องใช้เวลานานแสนนาน

เนื่องจากช่วงแรกอาจารย์เฉียวยังไม่คุ้นชินกับเกมจึงตายและหลงทางอยู่หลายครั้ง เขาเองก็เป็นผู้เล่นสายเก็บทุกอย่างครบ จึงเพิ่งเล่นถึงตรงนี้แม้จะเล่นไปแล้วกว่าสี่สิบชั่วโมง ตอนนี้เขาเล่นผ่านไปประมาณหกสิบเปอร์เซ็นต์ของเกม

แต่ความเข้าใจในตัวเกมของเขาตอนนี้น่าจะลึกซึ้งมากขึ้น

“เป็นไงบ้าง” เผยเชียนถามพร้อมยิ้มให้

เฉียวเหลียงตื่นเต้นมาก

บอสเผยถามคำถามเดียวกันกับรอบก่อนเลย!

เขาจำได้ขึ้นใจว่าครั้งก่อนที่บอสเผยมาหาที่ร้านก็ถามคำถามนี้ แต่ตอนนั้นเขาคิดว่ามีบางอย่างแปลกๆ กับระดับความยากของเกม

แต่ตอนนี้เฉียวเหลียงเข้าใจแล้วว่าไม่มีอะไรผิดพลาด บอสเผยตั้งใจทำเกมออกมาให้ยากแบบนี้แหละ!

ช่วงที่ผ่านมาเฉียวเหลียงเริ่มเข้าใจความสนุกอันเป็นเอกลักษณ์ของเกมสุดหฤโหดแบบนี้ จึงมีคำตอบที่ต่างออกไปจากเดิม

“สนุกมากเลยครับ! นานแล้วที่ผมไม่ได้เล่นเกมที่ท้าทายแบบนี้” เฉียวเหลียงตื่นเต้นมาก

ดูท่าไม่ดีจริงๆ ด้วย…

ที่เผยเชียนกังวลนั้นถูกต้อง เขาพยายามตีหน้านิ่งอย่างสุดความสามารถแล้วถามต่อ “แล้วเรื่องความยากของเกมล่ะ คุณจะให้คะแนนความยากแต่ละด่านในเกมเท่าไหร่ มอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกกับอาวุธด้วย คุณให้คะแนนเท่าไหร่”

เฉียวเหลียงดีใจมาก ดูเหมือนว่าบอสเผยจะให้ความสำคัญกับความเห็นฉัน เขาถามเสียละเอียดเชียว!

เนื่องจากเป็นคำถามที่เกี่ยวกับเกมโดยตรง เฉียวเหลียงจึงกระตือรือร้นที่จะตอบมาก

“เรื่องความยากของเกม ผมคิดว่าหมู่บ้านกับเมืองตอนเริ่มต้นยากที่สุด ต่อจากนั้นก็ง่ายขึ้น น่าจะเพราะหลังออกจากเมืองแล้ว ผมเริ่มจับทางเกมได้ เลยรู้สึกว่าไม่ยากเหมือนตอนแรก…

“ส่วนเรื่องอาวุธ ปังตอคืออาวุธที่ดีที่สุดในช่วงแรก เพราะโจมตีได้รวดเร็วว่องไว ดาเมจที่ทำได้ก็สูง สามารถใช้ได้ตั้งแต่ช่วงต้นไปจนถึงกลางเกม ส่วนดาบจันทร์เสี้ยว ท่าฟันแนวตั้งมีประโยชน์มาก ใช้ฆ่ามอนสเตอร์ได้เกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์จากที่มีทั้งหมด…”

เฉียวเหลียงไม่ได้นึกสงสัยอะไร เขาอธิบายความเข้าใจในตัวเกมไปตามตรง

เผยเชียนจดตามเงียบๆ

เขาไม่ค่อยรู้เรื่องอาวุธเท่าไหร่ แต่ถ้าอาจารย์เฉียวบอกว่าดีก็น่าจะเป็นอย่างนั้น

เฉียวเหลียงไม่ใช่ผู้เล่นที่เก่งกาจเรื่องการฆ่าฟัน แต่ความอดทนที่มีนั้นสูงกว่าผู้เล่นร้อยละเก้าสิบเก้า ความรู้เรื่องเกมเหนือชั้นกว่าผู้เล่นเกือบร้อยละเจ็ดสิบ ส่วนเรื่องทักษะการควบคุมถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ

ถ้าอย่างนั้นอาจารย์เฉียวก็ถือเป็นผู้เล่นระดับธรรมดาสิ

เฉียวเหลียงพูดสิ่งต่างๆ ที่อยากพูดและให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา เขารู้สึกอิ่มเอมใจมากกว่าครั้งไหนๆ

ที่ผ่านมาเขาทำได้แค่อัดคลิปวิจารณ์เกมและเสวนากับแฟนๆ ผู้พัฒนาเกมไม่เคยสนใจเขาเลย

แต่ตอนนี้ผู้พัฒนาเกมกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าและฟังคำแนะนำของเขาอย่างตั้งใจ เพราะฉะนั้นต้องแสดงฝีมือให้เต็มที่!

“อืม…ประมาณนี้ครับ สรุปสั้นๆ คือเกมยากพอตัวแล้ว แต่ถ้ารู้จักใช้อาวุธให้ถูกชนิดก็สามารถสู้ผ่านได้ง่ายๆ ครับ!”

เฉียวเหลียงรู้สึกว่ายังมีอะไรให้พูดอีกเยอะมาก

เผยเชียนพยักหน้า “โอเค แนะนำได้ดีมากเลยครับ เดี๋ยวผมจะไปปรับแก้ตัวเกมตามที่คุณแนะนำ!”

เห็นสีหน้าของบอสเผย เฉียวเหลียงก็รู้สึกตื้นตันใจ

แต่เฉียวเหลียงก็ไม่รู้ว่าที่บอสเผยพูดนั้นจริงจังแค่ไหน เพราะเวลาเกมเมอร์โทรไปเสนอความคิดเห็นกับฝ่ายบริการลูกค้า มักจะได้การตอบกลับที่เจอได้ทั่วไปอย่าง ‘ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ เราจะส่งความเห็นของคุณให้กับทีมผู้พัฒนานะคะ’ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าทีมผู้พัฒนาได้รับฟังความเห็นบ้างหรือเปล่า

ดังนั้นเฉียวเหลียงจึงไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้มาก เขาแค่คิดว่าทัศนคติของบอสเผยนั้นน่าชื่นชม

นักออกแบบเกมผู้ประสบความสำเร็จมานั่งฟังความเห็นของเขาอย่างตั้งใจ

ไม่แปลกเลยที่บอสเผยจะประสบความสำเร็จขนาดนี้!

กลับถึงบริษัท เผยเชียนก็รัวมือพิมพ์คำแนะนำของอาจารย์เฉียวลงคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว

อาจารย์เฉียวคิดว่าหมู่บ้านกับเมืองตอนเริ่มต้นยากที่สุด

จริงๆ แล้วตามการออกแบบคือความยากในเกมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่พวกลู่หมิงเหลียงก็ลืมไปว่าผู้เล่นเองก็สามารถทนกับความโหดได้มากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกัน

เนื่องจากผู้เล่นเพิ่งจะเจอกับมอนสเตอร์ในหมู่บ้านและเมืองตอนเริ่มต้นเป็นครั้งแรก ทุกอย่างจึงดูเป็นเรื่องยาก แต่พอเริ่มคุ้นชินกับตัวเกม ความยากที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ส่งผลต่อผู้เล่นมากนัก

ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเพิ่มความยากช่วงหลังๆ ขึ้นอีก!

ส่วนอาวุธ อาจารย์เฉียวบอกว่าชอบปังตอเหรอ งั้นเอาออก!

ท่าฟันแนวตั้งของดาบจันทร์เสี้ยวใช้ดีเหรอ งั้นลดพลังลง!

อะไรก็ตามที่อาจารย์เฉียวคิดว่ามีประโยชน์กับเกม ผู้เล่นใหม่ก็น่าจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะงั้นต้องปรับให้หมด

เผยเชียนตั้งใจจะจัดการให้เด็ดขาด

ถึงยังไงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่กระทบกับตัวเอง เพราะเขามีอาวุธพิเศษ

เผยเชียนทำรายการสิ่งต่างๆ แล้วส่งให้หลี่หย่าต๋า

“ปรับตามนี้ด้วย” เผยเชียนสั่งสั้นๆ

หลี่หย่าต๋ารับรายการมาดูแล้วพบว่าบอสเผยลงลึกถึงรายละเอียดมาก

เช่น ระบุชัดเจนว่าให้ลดพลังท่าฟันแนวตั้งของดาบจันทร์เสี้ยว ทุกอย่างดูเฉพาะเจาะจงสุดๆ

“ได้ค่ะบอสเผย ดิฉันจะปรับแก้ทันทีค่ะ!”

หลี่หย่าต๋าถอนหายใจ บอสเผยพยายามทำให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบจริงๆ

ตอนที่ไปรายงานความคืบหน้าให้บอสเผยฟัง เธอเห็นบอสใช้ผู่ตู้ตลอด หลี่หย่าต๋าไม่รู้ว่าบอสเผยเอาเวลาไหนไปลองใช้อาวุธอื่นๆ

เห็นได้ชัดว่าที่ทุกวันนี้บอสเผยประสบความสำเร็จได้ก็เพราะคอยทำงานหนักอยู่เบื้องหลังโดยไม่มีใครรู้

หลี่หย่าต๋าถือรายการในมือ ในหัวจดจ่ออยู่กับคำสั่งของบอสเผย

เผยเชียนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รู้สึกสงสารอาจารย์เฉียวขึ้นมาเล็กน้อย

ถึงจะพยายามเพิ่มความยากให้ตัวเกม แต่การลดพลังอาวุธที่อาจารย์เฉียวโปรดปรานลงหมดก็ดูจะเกินไปหน่อย

ถ้าอย่างนั้นต้องเลี้ยงข้าวอีกมื้อเป็นการขอโทษ!

อาจารย์เฉียวช่วยเรื่องพัฒนาเกมกลับใจคือฟากฝั่งได้มากทีเดียว เพื่อเป็นการขอบคุณ เชิญเขาไปกินอาหารอร่อยๆ ที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนก็ไม่น่าจะมากเกินไปหรอกมั้ง

คิดได้อย่างนั้น เผยเชียนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเชฟหลิน

“จองมื้อค่ำพรุ่งนี้ให้ที”

หลินชั่นหรงที่อยู่ปลายสายผงะไป “เอ่อ มีคนจองไปแล้วครับบอสเผย”

“หา”

เผยเชียนตกใจเล็กน้อย

มีลูกค้ากลับมาใช้บริการด้วยเหรอ

“ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องเอาห้องใหญ่สุด เอาห้องเล็กก็ได้”

หลินชั่นหรงกระแอมกระไอ “ทุกโต๊ะมีคนจองไปหมดแล้วครับบอสเผย”

“???”

เผยเชียนรู้สึกเหมือนจะเป็นลม เขาสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีตอนที่ถามออกไป “แล้ววันมะรืนล่ะ”

หลินชั่นหรงตอบตามตรง “อย่าว่าแต่วันมะรืนเลยครับบอสเผย ร้านเราคนจองเต็มไปถึงสัปดาห์หน้าๆ เลย…”

เผยเชียนช็อก

อะไรวะ!

ฉันไม่ได้ไปที่ร้านแค่สัปดาห์เดียว เกิดอะไรขึ้นกับครัวส่วนตัวหมิงหยุนกันแน่