เซี่ยยวี่หลัวโอบกอดเซียวจื่อเมิ่งไว้แน่น ราวกับกลัวว่าว่าหากปล่อยมือ เด็กก็จะหายไปอย่างไรอย่างนั้น “จื่อเมิ่งของข้าฉลาดจริงๆ ! ”
“พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าทิ้งผ้าเช็ดหน้าที่ท่านทำให้ไว้ระหว่างทาง…” เซียวจื่อเมิ่งคิดถึงผ้าเช็ดหน้าที่ตัวเองชอบที่สุด ตอนนั้นนางนั่งอยู่ริมหน้าต่าง ในมือกุมผ้าเช็ดหน้าไว้ จับโยนออกไปด้านนอก
พวกค้ามนุษย์สองคนนั้นไม่ทันสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของเซียวจื่อเมิ่ง
เซี่ยยวี่หลัวหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากอกเสื้อ หากไม่ใช่เพราะผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ นางก็คงถอดใจแล้ว
เมื่อเซียวไฉซุ่นและเซียวลี่เห็นผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น ต่างก็นิ่งเงียบไม่กล่าวอะไร
เดิมทีนึกว่าผ้าเช็ดหน้านั่นไม่ว่าใครก็อาจมีได้ ตอนนี้ลองมองลายที่ปักไว้บนผ้าเช็ดหน้าโดยละเอียด จึงได้เข้าใจ ว่าเหตุใดเซี่ยยวี่หลัวถึงมั่นใจเต็มเปี่ยมว่านั่นเป็นผ้าเช็ดหน้าของเซียวจื่อเมิ่ง
บนนั้นปักลายที่จะว่าเป็นมนุษย์ก็ไม่ใช่ จะว่าเป็นแมวก็ไม่เชิง ทั้งยังมีหูเตี๋ยเจี๋ย สวมใส่เสื้อผ้า ดูแปลกประหลาด ทว่า ก็ดูน่ารักเป็นพิเศษ
เกรงว่าคงมีแต่คนที่ไม่คิดตามหลักเหตุผลทั่วไปอย่างเซี่ยยวี่หลัว ถึงจะปักของเช่นนี้ออกมาได้
เสี่ยวฮวาพักพิงอยู่ในอ้อมอกเซียวไฉซุ่นพร้อมสะอื้นไห้เสียงเบา หลังจากได้เห็นผ้าเช็ดหน้า แววตาพลันลุกวาว มองผ้าเช็ดหน้าในมือเซี่ยยวี่หลัวด้วยท่าทางหวาดหวั่น
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว “เสี่ยวฮวาก็ชอบหรือ? ”
“ชอบเจ้าค่ะ! ” เสี่ยวฮวากล่าวด้วยท่าทางหวาดหวั่น
ก่อนหน้านี้แย่งของของจื่อเมิ่งอย่างก้าวร้าว หลังจากเผชิญกับเรื่องนี้ กลับว่าง่ายขึ้นไม่น้อย
“เช่นนั้นกลับไปข้าจะปักให้เสี่ยวฮวาหนึ่งผืน! ” วันนี้หากไม่ได้เซียวไฉซุ่นช่วยเหลือ เกรงว่าคงยังหาตัวเด็กสองคนไม่พบ
เสี่ยวฮวาได้ฟังดังนั้น แววตาพลันลุกวาว ราวกับลืมความหวาดกลัวที่เกือบจะโดนพวกค้ามนุษย์ลักพาตัวไปแล้ว
เซียวไฉซุ่นมองดูบุตรสาวของตัวเอง กลัวมานานถึงเพียงนี้ เมื่อเห็นว่านางไม่กลัวแล้ว จึงรู้สึกวางใจ
รถม้ามุ่งตรงไปทางหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว
คนในหมู่บ้านไม่พบตัวเด็กสองคน เกรงว่าคงแทบคลั่ง
ยามนี้ภายในหมู่บ้าน ใกล้จะเกิดความวุ่นวายแล้วจริงๆ
เซียวจื่อเซวียนหาทั่วทั้งภายในและภายนอกหมู่บ้านอีกครั้ง ไม่มีวี่แววแม้แต่น้อย หลัวไห่ฮวาที่กลับไปก็กลับมาอีกครั้ง ได้ยินว่าไม่พบเด็กในหมู่บ้าน หลัวไห่ฮวาจะยังนิ่งเฉยได้อย่างไร ร่ำไห้โวยวาย เกลือกกลิ้งอาละวาดอยู่บนพื้น “เสี่ยวฮวา เสี่ยวฮวา… ลูกแม่ ลูกแม่…”
เซียวจื่อเซวียนเองก็ไม่สู้ดีนัก ร่างบางนั่นเหมือนถูกสูบพละกำลังทั้งหมดออกไป ดูไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
หลัวซื่อร่ำไห้โวยวายเสร็จ เห็นเซียวจื่อเซวียน จึงเข้าไปดึงคอเสื้อของเขา ทั้งตีทั้งด่า “เจ้าคืนเสี่ยวฮวาของข้ามา เจ้าคืนเสี่ยวฮวาของข้ามา…”
เซียวจื่อเซวียนเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมออกก็มิปาน ไม่มีชีวิตชีวาแม้แต่น้อย ปล่อยให้หลัวซื่อทั้งตีทั้งด่าตามอำเภอใจ
น้องสาวของเขาก็หายไป จื่อเมิ่งก็หายตัวไป!
ชาวบ้านที่ช่วยกันออกตามหาเห็นหลัวซื่อตีเซียวจื่อเซวียน ต่างก็เข้ามาดึงตัวหลัวซื่อออก
“หลัวซื่อ เสี่ยวฮวาของเจ้าหายไป จื่อเมิ่งก็หายไปเหมือนกัน เกี่ยวอะไรกับจื่อเซวียนด้วย” มีคนเข้าไปดึงหลัวซื่อออก
หลัวซื่อตะคอก “ต้องเป็นจื่อเมิ่งที่พาตัวเสี่ยวฮวาของข้าไปแน่”
“สามีของเจ้าก็บอกแล้วว่าไม่ใช่จื่อเมิ่งพาไป ทำไมเจ้าถึงไร้เหตุผลเช่นนี้! ”
“เสี่ยวฮวา เสี่ยวฮวา ลูกแม่…” หลัวไห่ฮวาร่ำไห้โวยวาย
เซียวจื่อเซวียนไม่กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว ปล่อยให้หลัวไห่ฮวาดึงทึ้งทำร้ายเขา
เวลานี้เซียวยวี่ก็กลับมาแล้วเช่นกัน เมื่อเซียวหมิงจูที่กลับมานานแล้วแต่ไม่ปรากฏตัวเห็นว่าเขามาแล้ว แววตาพลันลุกวาว นางไม่ได้รีบเดินออกไป แต่ยังคงรอคอยต่อ
รอให้เซียวยวี่เดินเข้าไปในกลุ่มคน เซียวหมิงจูจึงรีบเร่งฝีเท้าเดินไปพร้อมแสร้งทำทีเป็นวิตกกังวลและตื่นตระหนก เดินไปพลางตะโกนไปพลาง “เมื่อครู่ข้าไปหาดูรอบๆ แล้ว ไม่พบอาเมิ่งเลย อาเมิ่งกลับมาหรือยัง? ”
ทุกคนต่างไม่กล่าวอะไร แต่ละคนสีหน้าย่ำแย่เสียยิ่งกว่าอะไร
หยาดน้ำตาของเซียวหมิงจูไหลรินทันที “พี่อายวี่ ข้ากลัวเหลือเกิน อาเมิ่งจะเป็นอะไรหรือไม่? ”
เซียวยวี่สีหน้านิ่งขรึม ไม่กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว
เซียวหมิงจูร่ำไห้สะอึกสะอื้น ท่าทางเศร้าโศกเสียใจ “พี่อายวี่ อาเมิ่งจะเป็นอะไรหรือไม่? อาเมิ่งเป็นเด็กว่าง่ายถึงเพียงนั้น จะหายไปได้อย่างไร? ถึงแม้นางจะว่าง่ายรู้ความ แต่ถึงอย่างไรนางก็ยังเป็นเด็ก หากข้างกายไม่มีคนคอยดูแลควบคุม รอบหมู่บ้านของเราก็มีแม่น้ำ หากอาเมิ่งเล่นสนุก ไปริมแม่น้ำจะทำอย่างไร? ”
เซียวยวี่มองเซียวหมิงจูด้วยท่าทางเย็นเยียบ
เซียวหมิงจูยังคงร่ำไห้ต่อ ไม่เห็นเลยว่าเซียวยวี่ใบหน้านิ่งขรึมเย็นเยียบ ยังคงกล่าวต่อ “พี่อายวี่ อาเมิ่งเป็นเด็กที่ว่าง่ายรู้ความถึงเพียงนั้น นางต้องการคนที่รักนางจากใจจริง เซี่ยยวี่หลัว นางเห็นแก่ตัวเกินไป นางไม่เหมาะสม หากนางเป็นห่วงจื่อเมิ่งจริง เด็กคนนั้นคงไม่เกิดเรื่อง! ท่านอย่าเสียใจเลย เรื่องนี้ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเซี่ยยวี่หลัว หากไม่ใช่เพราะนาง…”
เซียวจื่อเซวียนก้มหน้ากุมศีรษะอยู่ตลอด ร่ำไห้อยู่คนเดียว พอได้ฟังวาจาของเซียวหมิงจู ก็เงยหน้าขึ้นอย่างฉับพลัน กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้น “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่สะใภ้ใหญ่ เป็นข้าเอง ข้าไม่ได้ดูแลน้องสาวดีๆ ข้าเป็นคนทำน้องสาวหายไป! พี่ใหญ่ หากท่านจะโทษก็โทษข้าเถอะขอรับ ฮือๆ…”
เซียวยวี่ไม่กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว เขาเองใช่ว่าจะไม่เคยคิดเหมือนที่เซียวหมิงจูกล่าวมา เด็กเล็กไปเล่นริมแม่น้ำ หากก้าวพลาด…
เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด
“อาเซวียน เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้ายังจะช่วยพูดแทนนางอีก อาเมิ่งหายไปแล้ว นั่นไม่ใช่ลูกแมวหรือลูกสุนัขหนึ่งตัว นั่นเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเจ้า! ” เซียวหมิงจูเห็นว่ามาถึงบัดนี้ เซียวจื่อเซวียนยังปกป้องเซี่ยยวี่หลัว จึงเกิดอารมณ์โทสะ “พี่อายวี่ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเซี่ยยวี่หลัว! ”
เซียวยวี่มองมือของเซียวหมิงจูอย่างเย็นเยียบ
เวลานี้เซียวหมิงจูจับแขนเซียวยวี่ไว้แน่น เซียวยวี่จ้องมือของเซียวหมิงจูเขม็ง แววตาเย็นเยียบดุดัน “ปล่อยมือ”
“พี่อายวี่…” เซียวหมิงจูไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย มองเซียวยวี่อยู่อย่างนี้ แม้แต่สีหน้าก็ไม่ทันเปลี่ยนแปลง “ท่านดุข้า? ”
เซียวยวี่สะบัดมือเซียวหมิงจูออก เย็นชาไร้เยื่อใย ทั้งยังถอยหลังไปหลายก้าว ทิ้งระยะห่างกับเซียวหมิงจู
ท่าทางที่เขาถอยหลังอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้ารังเกียจ เพียงแค่แววตานั่น เซียวหมิงจูก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว ราวกับถูกคนราดน้ำหนึ่งอ่างลงบนศีรษะก็มิปาน หัวใจเซียวหมิงจูแทบหยุดเต้น “พี่อายวี่…”
เซียวยวี่ไม่แยแสนาง ไม่มองนางแม้แต่แวบเดียว สาวเท้าก้าวเดินไปยังปากทางเข้าหมู่บ้าน
เซียวจื่อเซวียนตามหลังไปติดๆ ชาวบ้านที่มุงดูต่างก็ทยอยกันเดินตามไป เหลือเพียงเซียวหมิงจูที่ยืนเหม่ออยู่ที่เดิมเพียงลำพัง ราวกับตัวตลกก็มิปาน
“เซียวหมิงจูนี่หน้าไม่อายเสียจริง อีกฝ่ายแต่งงานแล้ว นางยังจะบากหน้าเข้าหาอีก! ”
“ไม่รู้จริงๆ ว่าท่านลุงสี่ท่านป้าสี่สอนบุตรสาวอย่างไร ทำไมถึงสอนสั่งบุตรสาวจนไร้ยางอายเช่นนี้”
เสียงพูดจาเหน็บแนมดังแว่วเข้าโสตประสาทของเซียวหมิงจู เซียวหมิงจูหน้าขาวซีดก่อนกลายเป็นสีแดง แล้วจึงแปรเปลี่ยนเป็นถมึงทึง จ้องมองทิศที่เซียวยวี่เดินจากไปด้วยแววตาราวคนคลุ้มคลั่งเสียสติ “ข้าชอบท่านถึงเพียงนี้ แต่ท่านกลับชอบปีศาจตัวหนึ่ง! ”