ตอนที่ 463 ขอเชิญคุณถ่ายทอดสดกินตำรายาเปิ๋นเฉ่ากังมู่ / ตอนที่ 464 ฟังจือหันหนึ่งในสี่หนุ่ม

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 463 ขอเชิญคุณถ่ายทอดสดกินตำรายาเปิ๋นเฉ่ากังมู่

 

 

เจี่ยนเวยเวยนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง หลับตาลงแต่ยังไงก็นอนไม่หลับอยู่ดี

 

 

เพียงแค่นอนนานไปหน่อยเลยค่อนข้างเบลอ คล้ายกับว่าหลับแต่ก็ไม่ได้กลับ รู้สึกปวดท้องอยู่หน่อยๆ จึงลุกขึ้นไปห้องน้ำรอบหนึ่ง

 

 

ขณะที่เธอกำลังล้างมืออยู่ สายตาเผลอมองตนเองในกระจก สาวน้อยในกระจกเครื่องหน้าชัดเจนมาก

 

 

เจี่ยนเวยเวยกระพริบตาเหมือนกับว่าไม่อยากจะเชื่อ พลันร้องด้วยความตกใจขึ้นมา “อ๊าก!!”

 

 

ต่อมาเธอก็ถือไม้ค้ำรีบร้อนเดินลงไปชั้นล่าง “คุณปู่คะ คุณปู่…”

 

 

ปู่เจี่ยนได้ยินเสียงหลานสาวสุดที่รักของตนเองรีบร้อนและตื่นตระหนกขนาดนั้นยังนึกว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น รีบร้อนลุกขึ้นก้าวไปหา “เวยเวย…”

 

 

โจวหย่วนเฉวียนหลุดขำ พูดเย้ยหยันลอยๆ “ทางที่ดีที่สุดเธอควรอวยพรให้คนไข้ไม่เป็นอะไร”

 

 

อวี๋กานกานปรายตามองเขาเล็กน้อยแวบเดียว

 

 

เจียงฉี่ขยับเข้ามาตรงหน้าอวี๋กานกาน “พี่สะใภ้…”

 

 

อวี๋กานกานตบเบาๆ บนมือเธอ สื่อว่าทุกอย่างไม่เป็นไร

 

 

เจียงฉี่หยักริมฝีปากเป็นรอยยิ้ม

 

 

ยามเธอมองโจวหย่วนเฉวียนก็ทำหน้านิ่ง พลางพูดด้วยความโมโห “คุณไปคิดว่าอีกสักพักจะทำยังไงถึงกินตำรายาเปิ๋นเฉ่ากังมู่ลงไปดีกว่านะ”

 

 

รอยยิ้มของโจวหย่วนเฉวียนเปลี่ยนเป็นค่อนข้างได้ใจ ยังอยากจะให้เขากินตำราเปิ๋นเฉ่ากังมู่อีก ช่างไม่ประมาณตนเองเลยเสียจริง

 

 

เขาจะรอให้เธอคุกเข่าขอโทษเขา

 

 

“คุณปู่คะ หนูเห็นชัดแล้ว เห็นชัดขึ้นมามากแล้วจริงๆ…”

 

 

น้ำเสียงดีใจของเจี่ยนเวยเวยดังขึ้นมาในห้องรับแขก ทำให้โจวหย่วนเฉวียนตัวแข็งทื่อไปหมด

 

 

แววตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ทั้งร่างราวกับโดนฟ้าผ่า วิญญาณหลุดลอย “นี่จะเป็นไปได้ยังไง”

 

 

ไม่มีทางที่ผู้ป่วยจะเป็นอาการร้อนใน ไม่มีทางเป็นร้อนในอย่างเด็ดขาด

 

 

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

 

ปู่เจี่ยนก็ดีใจด้วย มองหลานสาวพร้อมใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เห็นชัดแล้วจริงเหรอ กลับเป็นเหมือนเดิมทุกอย่างเลยใช่ไหม”

 

 

เจี่ยนเวยเวยพูดอย่างดีใจ “ไม่ได้เหมือนเดิมทุกอย่างค่ะ แต่ก็ดีกว่าก่อนหน้านี้มากแล้ว อย่างน้อยก็เห็นได้ชัดแล้ว”

 

 

เจียงฉี่รีบเอ่ย “ช่างวิเศษจริง”

 

 

อวี๋กานกานยิ้ม “นี่ไม่ใช่เรื่องวิเศษ นี่คือใช้ยาถูกกับโรค คุณหนูเจี่ยนเดิมร่างกายก็แค่เจ็บป่วยเล็กน้อย ผู่กงอิงเป็นราชันลดความร้อน อาการร้อนในแบบนี้ใช้ได้ผลดีที่สุด”

 

 

“ดื่มอีกไม่กี่ครั้งก็น่าจะดีขึ้นมาแล้ว”

 

 

“เมื่อครู่หมอโจวหย่วนเฉวียนก็พูดแล้ว คุณหนูเจี่ยนร่างกายพร่องเย็น ผู่กงเองไม่อาจดื่มมากเกินไป ต่อไปคุณใช้ผู่กงเองกับเก๋ากี้แช่น้ำดื่ม หลังจากนั้นก็พยายามพักผ่อน อย่าอดนอน ไม่กี่วันดวงตาก็จะดีขึ้นเป็นปลิดทิ้ง”

 

 

เจี่ยนเวยเวยซึ้งใจจนน้ำตาแทบจะไหล

 

 

เจียงฉี่เป็นคนหนึ่งซึ่งคอยปกป้องมาก เธอไม่อาจลืมถึงการมีตัวตนของโจวหย่วนเฉวียน “เมื่อสักครู่ไม่ใช่ว่าคุณบอกว่าจะถ่ายทอดสดกินตำรายาเปิ๋นเฉ่ากังมู่เหรอ ตอนนี้คุณก็กินเลยสิ ฉันมีแอปพลิเคชั่นไลฟ์พอดีเลย”

 

 

โจวหย่วนเฉวียนนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม ใบหน้าร้อนฉ่า

 

 

เขาเป็นหมอเทวดาแห่งเมืองไป๋หยางถูกแม่สาวน้อยคนหนึ่งสั่งสอนบทเรียนอย่างแรง แผ่นความร้อน ยาหยอดตา เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่างที่เธอพูดทั้งหมดนั้นต่างก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ดวงตาเกิดอาการพร่ามัวจริงด้วย

 

 

ในตอนนี้ไม่รู้จะเอาหน้าไปซ่อนที่ไหนแล้วจริงๆ

 

 

โจวหย่วนเฉวียนรู้สึกไม่สบายตัวไปหมด เพียงครู่เดียวก็ไม่อยากอยู่ต่อ

 

 

แต่ว่าเขารับปากส่งๆ ไป หรือจะต้องไลฟ์กินตำรายาเปิ๋นเฉ่ากังมู่จริงๆ

 

 

สายตาขอร้องของเขามองไปที่ปู่เจี่ยน เป็นธรรมดาที่นึกถึงคุณธรรมบารมีสูงส่งของปู่เจี่ยน คงจะไม่ให้ลูกหลานกลุ่มหนึ่งมาก่อความวุ่นวาย

 

 

ปู่เจี่ยนนึกถึงโจวหย่วนเฉวียนเมื่อสักครู่คนที่พูดเรื่องวิทยาศาสตร์ไม่สามารถดื่มผู่กงเองกับตนเอง ทำเขาตกอกตกใจยกใหญ่ ก็หมดหนทางไว้หน้าเขาแล้ว “ห้องหนังสือฉันมีตำรายาเปิ๋นเฉ่ากังมู่อยู่เล่มหนึ่ง แม่บ้าน คุณไปหยิบมาสิ”

 

 

โจวหย่วนเฉวียน “…”

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 464 ฟังจือหันหนึ่งในสี่หนุ่ม

 

 

อวี๋กานกานก็ไม่ได้ทำให้โจวหย่วนเฉวียนลำบากใจ ไม่ได้ให้เขากินตำรายาเปิ๋นเฉ่ากังมู่จริงๆ อยู่แล้ว เพียงแค่พูดกับเขาเบาๆ ประโยคเดียว “ไลฟ์กินตำรายาเปิ๋นเฉ่ากังมู่นั่นก็ช่างมันเถอะ ถึงอย่างไรหมอโจวของเราก็เป็นถึงหมอเทวดาเชียว เพียงแต่ว่าหมอเทวดาก็ต้องฝึกฝนมา สะสมประสบการณ์มา บรรยายเยอะไป ดูเคสน้อย ความเป็นไปได้ที่จะเข้าใจผิดก็เยอะ ชื่อเสียงของหมอเทวดานั้นได้มายากเชียว หมอโจวต้องรักษาเอาไว้ให้ดี”

 

 

สีหน้าของโจวหย่วนเฉวียนบูดบึ้ง

 

 

เขาจะไม่เข้าใจในคำพูดของอวี๋กานกานได้ยังไง มาว่าให้เขาสร้างชื่อเสียงจอมปลอมให้น้อยหน่อย อย่าลืมความตั้งใจแรก

 

 

โดนเด็กสาวคนหนึ่งสั่งสอน จะมีหน้าอยู่ได้ยังไงกัน

 

 

ตอนที่โจวหย่วนเฉวียนพาผู้ช่วยของออกไป อย่าพูดเลยว่ากระอักกระอ่วนใจขนาดไหน

 

 

 

 

 

ระหว่างทางกลับไป เจียงฉี่มองอวี๋กานกานด้วยความนับถือพลางเอ่ยด้วยแววตาเป็นประกาย “พี่สะใภ้คะ คุณเก่งมากจริงๆ”

 

 

อวี๋กานกานโดนเธอมองจนทำตัวไม่ถูก บีบแก้มของเธอไปพลางพูดหยอก “อยากแต่งงานกับฉันใช่ไหม”

 

 

เจียงฉี่โดนเธอหยอกเสียใจดวงหน้าแดงซ่าน พูดตะกุกตะกักด้วยความเขินอาย “พี่ชายคงไม่ยอมแน่ ฉันไม่อยากกลายเป็นศัตรูหัวใจของพี่นะ”

 

 

“เธอลองดูหน่อย”

 

 

“ฉันไม่กล้า”

 

 

ท้องฟังหลังจากหิมะตกเป็นสีฟ้าสดใสแผ่กว้าง เจียงฉี่คล้องแขนอวี๋กานกานพลางเดินทอดน่องใต้ต้นไม้หอมซึ่งเขียวชอุ่มตลอดปี พูดจาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดุจดอกไม้ “พี่สะใภ้คะ คุณรู้ไหม แต่ก่อนฉันมักจะคิดว่าพี่ฉันยอดเยี่ยมขนาดนั้น จะได้พี่สะใภ้แบบไหนกัน ก่อนที่คุณจะปรากฏตัว ฉันมักจะรู้สึกว่าผู้หญิงคนไหนต่างก็ไม่คู่ควรกับพี่ชายฉันเลย…”

 

 

อวี๋กานกาน “…”

 

 

น้องที่รักพี่ชายคงไม่อาจใช้บรรยายได้ถึงความชอบของเจียงฉี่ที่มีต่อฟังจือหันแล้ว

 

 

นี่มันรุ่นพี่แฟนคลับตัวยงของฟังจือหันชัดๆ เลย ฟังจือหันในสายตาของเธอทั้งตัวเป็นหยก ทั้งหมดล้วนเป็นจุดเด่น

 

 

อวยได้สุดยอดเกินไปแล้ว

 

 

“พี่ชายคุณก็ใช้ได้นะ”

 

 

“พี่ชายฉันไม่ใช่แค่ใช้ได้ พี่ชายฉันน่ะยอดเยี่ยมที่สุด พี่สะใภ้ คุณรู้ไหมว่าพี่ฉันเขาเป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่ผู้หญิงในเมืองหลวงต่างก็อยากจะแต่งงานด้วยมากที่สุด และก็เป็นไอดอลในใจของผู้ชายหลายคน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเดียวกันหรือว่ารุ่นพี่ต่างก็ชมเขาไม่ขาดปาก”

 

 

สีหน้าของเจียงฉี่ภูมิใจและโอ้อวดเป็นพิเศษ

 

 

อวี๋กานกานอึ้งไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็หันหน้าไปถามด้วยความตกใจ “เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ สี่หนุ่มเมืองหลวง พี่ชายคุณอยู่อันดับที่หนึ่งเหรอ”

 

 

“ใช่” เจียงฉี่มีสีหน้าภูมิอกภูมิใจเหมือนกับดอกไม้ที่ใกล้จะบานแล้ว

 

 

“พี่ชายคุณเป็นหนึ่งในสี่หนุ่มเมืองหลวงเหรอ”

 

 

“ใช่แล้ว คุณไม่รู้เหรอ”

 

 

เธอไม่รู้จริงๆ น่ะสิ!! อวี๋กานกานกลืนน้ำลาย “งั้นลู่เสวี่ยเฉิน ก็ใช่เหรอ”

 

 

เจียงฉี่พยักหน้า จากนั้นก็เอ่ยอย่างไม่ค่อยชอบใจ “พี่ลู่อยู่อันดับสุดท้าย ตำแหน่งอันตราย พอพี่เจี่ยนรังแกเขา เขาก็จะมาให้พี่ชายฉันช่วย ว่ากันว่ากอดพี่ฉันร้องไห้ เขาหน้าตางามเหมือนดอกไม้ดุจหยก สวยยิ่งกว่าผู้หญิงอีก หลังจากนั้นทุกคนต่างพูดกันว่าพวกเขาสองคนเป็นคู่รักกัน ทำลายชื่อเสียงพี่ชายฉัน พี่ฉันไม่มีทางชอบเขาหรอก…”

 

 

เสียงของเด็กสาวอ่อนยวบ แต่ในใจของอวี๋กานกานกลับเกิดคลื่นโหมกระหน่ำ “…”

 

 

เธอจำได้ว่าเธอพูดถึงสี่หนุ่มเมืองหลวงต่อหน้าฟังจือหันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว

 

 

และเหมือนยังพูดว่าสี่หนุ่มเมืองหลวงอะไรนั่นต่างก็เป็นพวกรักเพศเดียวกัน โดยเฉพาะคนนั้นที่แซ่ลู่กับแซ่ฟังซึ่งเป็นคู่รักกัน