บทที่ 355 สายที่โทรหาซือเยี่ยหาน / บทที่ 356 พาไปที่บ้านแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จัก

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 355 สายที่โทรหาซือเยี่ยหาน / บทที่ 356 พาไปที่บ้านแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จัก Ink Stone_Romance

บทที่ 355 สายที่โทรหาซือเยี่ยหาน

บทที่เยี่ยหวันหวั่นพูดคำพูดพวกนี้ มือถือในมือเธอส่องสว่างขึ้นมา โชว์ให้เห็นสถานการณ์โทรออก

หลายนาทีก่อน ด้านนอกบ้านใหญ่ตระกูลเยี่ย

มีเงาคนซ่อนอยู่ในรถคันหนึ่ง ชายหนุ่มมีสีหน้าเย็นชานั่งอยู่เบาะหลัง

ที่นั่งคนขับด้านหน้า สวี่อี้แอบแขวะในใจอยู่ครึ่งค่อนชั่วโมงมาแล้ว

เมื่อกี้ตอนแรกจะกลับจิ่นหยวน ปรากฏว่าจู่ๆ นายท่านให้เขากลับรถ บอกว่าจะไปอีกสถานที่หนึ่งที่เป็นทรัพย์สินเขา ปรากฏว่าไปได้ครึ่งทาง แล้วพลันให้เขาหยุดรถ

เขากำลังสงสัยอยู่ว่าทำไมสถานที่ที่ไปนั้นดูเหมือนไม่เคยไปมาก่อน แล้วทำไมถึงให้เขาหยุดรถกลางทาง จากนั้นก็พบว่า สถานที่ที่จอดรถอยู่ใกล้กับบ้านใหญ่ตระกูลเยี่ยพอดี

ได้! ไปสถานที่อื่นคือหลอก จงใจผ่านมาดูคนรักนี่สิของจริงใช่ไหม?

บทที่สวี่อี้กำลังประชดประชันอยู่ จู่ๆ มือถือซือเยี่ยหานก็ดังขึ้นมา หัวใจดวงน้อยตกใจแทบกระโดดออกมา

จากที่เขาเหลือบมองไป เห็นว่าสายที่โทรมาคือ… เยี่ยหวันหวั่น

ให้ตาย! ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ร่วมงานเลี้ยงวันเกิดปู่เธออยู่ไม่ใช่เหรอ?

เวลานี้โทรมาหาเจ้านายทำไม?

บทที่กำลังร้อนใจ ที่เบาะหลัง หลังชายหนุ่มนิ่งไปอยู่นาน ก็รับสายขึ้นมา

วินาทีต่อมา เสียงของหญิงสาวก็ดังออกมาจากมือถือ…

‘คุณชายกู้ ขอฉันยืมไมโครโฟนหน่อยได้ไหม?’

ได้ยินประโยคนี้ ที่เบาะหลัง นัยน์ตาของฝ่ายชายมืดมิดลงโดยไม่สามารถสังเกตได้

สวี่อี้ก็อึ้งไป นี่หมายความว่ายังไง?

เยี่ยหวันหวั่นเหมือนกำลังพูดกับคนอื่นอยู่? คนที่พูดด้วยยังแซ่กู้อีก? คงไม่ใช่… กู้เยว่เจ๋อนะ!

ตามมาด้วย เสียงของเยี่ยหวันหวั่นที่พูดต่อ…

‘เรียนแขกผู้มีเกียรติ และเพื่อนสนิท…’

‘วันนี้ ที่ตรงนี้ ฉันขอประกาศกับทุกคนอย่างน่าเสียดาย ฉันเยี่ยหวันหวั่น ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ขอยกเลิกสัญญาแต่งงานกับคุณกู้เยว่เจ๋ออย่างเป็นทางการ…’

‘คุณกู้ ฉันเข้าใจความโกรธของคุณ แต่ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่มีความรู้สึกต่อคุณอีกแล้ว…’

‘ฉันมีคนที่ชอบแล้ว…’

……..

ในขณะเดียวกัน ในห้องโถงงานเลี้ยง หลังกู้เยว่เจ๋อฟังคำขู่ของเยี่ยหวันหวั่นจบ รูม่านตามีแสงเย็นวาบปรากฏ

เขาย่อมไม่ต้องการให้มีคนรู้ว่าคู่หมั้นของกู้เยว่เจ๋อกลายเป็นผู้หญิงของซือเยี่ยหาน

ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น เขาย่อมดูถูกได้ แม้แต่คุณชายจากตระกูลที่ร่ำรวยทั้งเมืองหลวงก็ยังไม่มีใครสักคนที่เขาต้องกลัวเกรง แต่ทำไม…ทำไมต้องเป็นซือเยี่ยหาน…

แม้แต่ตระกูลยิ่งใหญ่ของพวกเขายังไม่มีคุณสมบัติที่จะเงยหน้าขึ้นมามองเลย

บทที่กู้เยว่เจ๋อสีหน้าเย็นชานิ่งเงียบอยู่ เยี่ยหวันหวั่นก็สะบัดกระโปรง เดินออกไปแล้ว

ภายในงาน มีเหล่าคุณชายไฮโซจับกลุ่มกันสามสี่คน อุทานด้วยความประหลาดใจ

“แม่…แม่เจ้า! ฉันดูผิดไปหรือเปล่า? คุณชายใหญ่กู้ของพวกเราตอนนี้โดนคนทิ้งแล้วหรือ?”

“ฮ่า ยิ่งกว่าโดนทิ้งอีก คู่หมั้นประกาศต่อหน้าทุกคนว่ารักกับผู้ชายคนอื่น จะยกเลิกสัญญาแต่งงาน บนยอดศีรษะนั้นกลายเป็นทุ่งหญ้าไซบีเรียแล้ว!”

“คิดไม่ถึงว่าคุณชายใหญ่กู้ก็จะมีวันนี้เหมือนกัน!”

คืนนี้เดิมทีกู้เยว่เจ๋อวางแผนไว้อย่างสวยงาม ยกเลิกสัญญางานแต่ง แล้วจะประกาศหมั่นกับเยี่ยอีอี ตอนนั้นถ้าเยี่ยหวันหวั่นโวยวายสูญเสียการควบคุม ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อเขา

แต่เขาคิดไม่ถึงเลย สุดท้ายกลับโดนเยี่ยหวันหวั่นทำร้าย ตอนนี้เขากลายเป็นคนนั้นที่โดนทิ้งแล้ว แล้วยังเป็นวิธีที่น่าขายหน้าที่สุดสำหรับลูกผู้ชายด้วย

ไม่เพียงแต่กู้เยว่เจ๋อ ใบหน้าเล็กที่อ่อนโยนของเยี่ยอีอีก็แข็งทื่อไปหมด

เห็นอยู่ว่าเยี่ยหวันหวั่นเป็นคนที่ถูกทิ้งถูกละเลย แต่โดนเยี่ยหวันหวั่นทำแบบนี้ กลายเป็นว่าเธอไปหยิบผู้ชายที่เยี่ยหวันหวั่นไม่ต้องการมา

…………………………………………………

บทที่ 356 พาไปที่บ้านแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จัก

“แก…”

คราวนี้เยี่ยมู่ฝานได้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว มองเยี่ยหวันหวั่นด้วยท่าทางราวกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น

ใบหน้าของเหลียงหวั่นจวินกับเยี่ยเส่าถิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาคิดไม่ถึงว่าลูกสาวจะกล้าทำเช่นนี้เช่นกัน

“หวันหวั่น ลูก…ที่ลูกพูดเมื่อกี้ เป็นความจริงทั้งหมดหรือ?” เหลียงหวั่นจวินซักถามด้วยความตื่นเต้น

ก่อนที่เยี่ยหวันหวั่นจะมา เธอได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธกับพ่อแม่ค่อนข้างห่างเหินจึงไม่เป็นอะไร แต่ว่าตอนนี้ ยากที่จะปิดบังเรื่องที่เธอกับซือเยี่ยหานอยู่ด้วยกันต่อไป ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องรู้เข้าสักวัน

เทียบกับการปล่อยให้พ่อแม่จินตนาการไปไกล รู้อะไรที่ไม่ควรรู้เข้า เธอไม่สู้ตัดไฟเสียแต่ต้นลม

ดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นผงกศีรษะเอ่ยว่า “พ่อคะ แม่คะ เป็นความจริงค่ะ!”

เหลียงหวั่นจวินรู้สึกดีใจมากกับข่าวดีที่ไม่ได้คาดหมายนี้ “ถ้าอย่างนั้นอีกฝ่ายเป็นคนที่ไหน? อายุเท่าไรแล้ว? ทำงานอะไร? พึ่งพาได้หรือเปล่า?”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยตอบอย่างรำคาญใจ “โธ่ แม่ วันนี้ไม่เหมาะจะเล่ารายละเอียดให้ฟัง วันหลังมีเวลาหนูจะเล่าให้พ่อกับแม่ฟังอย่างละเอียด แล้วก็พาไปที่บ้านแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จักนะคะ!”

เธอคิดไว้แล้วว่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ใช่วิธีที่ดี เธอต้องคิดหาวิธีให้ซือเยี่ยหานไม่กีดกันคนรอบกายเธอออกไปแบบนั้น…

เยี่ยหวันหวั่นพูดถึงตรงนี้ พลันได้ยินเสียงดังออกมาจากโทรศัพท์ ถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองลืมวางสายโทรศัพท์มาโดยตลอด ส่วนซือเยี่ยหานก็ไม่ได้วางสายไป

เยี่ยหวันหวั่นได้แต่วางสายโทรศัพท์อย่างงุนงง

นั่นมันเสียงอะไร?

เมื่อครู่นี้เธอไม่ได้พูดอะไรผิดไปใช่ไหม?

หลังจากได้ยินสิ่งที่ลูกสาวพูด เหลียงหวั่นจวินกับเยี่ยเส่าถิงสุดท้ายถึงได้วางใจพากันพยักหน้า

เยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่ด้านหน้าพ่อแม่ ใบหน้าเปื้อนยิ้มอ่อนหวานว่าง่าย “พ่อคะ แม่คะ พวกเรากลับบ้านกันเถอะค่ะ”

“ดี…ดี…”

จนตอนนี้เวลานี้เอง สองสามีภรรยาสุดท้ายถึงได้มั่นใจอย่างไร้ข้อกังขาว่าลูกสาวที่เอาแต่ใจดื้อรั้นมุทะลุคนนั้นเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

ก่อนจะกลับ ทั้งครอบครัวได้ไปบอกลาผู้อาวุโส

 เยี่ยเส่าถิงกับเหลียงหวั่นจวินกลัวว่าคุณปู่จะตำหนิเยี่ยหวันหวั่น กำลังคิดจะพูดอะไร…

ทว่า ไม่รอให้คุณปู่ต่อว่า เยี่ยหวันหวั่นก็ก้มหน้า ออกปากขอโทษรับผิดด้วยตนเอง “คุณปู่คะ ขอโทษค่ะ วันนี้หวันหวั่นบุ่มบ่ามเกินไป…แต่ว่า…ปล่อยให้ยืดเยื้อต่อไปแบบนี้ ทั้งหนู ทั้งกู้เย่วเจ๋อ ทั้งพี่ ทุกคนมีแต่จะเจ็บปวด ไม่สู้แก้ปัญหาไปซะให้จบ แต่ก่อนเป็นหนูเองที่ยึดติดเกินไป ตอนนี้หนูคิดได้แล้ว หนูอยากใช้ชีวิตของตัวเอง!”

เยี่ยหวันหวั่นพูดด้วยท่าทางอดกลั้นและเจ็บปวด ราวกับแฝงด้วยความน้อยใจคณานับและความเสียใจอันหนักอึ้ง

เดิมทีผู้อาวุโสรู้สึกโมโหจริงๆ แต่เมื่อเห็นท่าทางเด็กสาวที่ก้มศีรษะกัดริมฝีปาก กลับรู้สึกโกรธไม่ลงอย่างประหลาด

เขาจะโกรธเรื่องอะไรหรือ? โกรธที่เธอพูดว่าจะถอนหมั้นเพื่อดีต่อตัวเธอเอง เรื่องแบบนี้น่ะหรือ?

แต่ว่าการหมั้นหมายของเธอกับเจ้าหนุ่มตระกูลกู้คนนั้นเหลือแค่ชื่อมานานมากแล้วจริงๆ ก็เหมือนกับที่เธอพูด ยืดเยื้อต่อไปรังแต่จะไม่ดีต่อทั้งสามคน

ส่วนเรื่องที่เธอพูดต่อหน้าธารกำนัลว่าเหตุผลที่ถอนหมั้นเพราะมีคนที่ชอบ แบกรับคำครหาว่าทรยศคู่หมั้น?

นั่นยิ่งเป็นเรื่องที่พูดได้ไม่ชัด…

ว่ากันถึงต้นสายปลายเหตุ ในขณะที่กู้เย่วเจ๋อมีการหมั้นหมายอยู่กับตัวก็ออกงานคู่กับอีอีอย่างเปิดเผย เขาไม่มีสิทธิจะตำหนิการกระทำของเยี่ยหวันหวั่น

จนสุดท้าย เยี่ยหงเหวยกลับพบว่าตนเองเอ่ยต่อว่าไม่ออกสักคำ

ตรงกันข้าม มองหลานสาวที่เมื่อก่อนเอาแต่วิ่งตามหลังเจ้าหนุ่มตระกูลกู้คนนั้น ออกมาตัดความสัมพันธ์ด้วยตนเอง มีความทระนงอย่างที่คนตระกูลเยี่ยควรจะมี

“เอาเถอะ อย่าทำอีกก็แล้วกัน กลับไปเถอะ” ผ่านไปนาน เยี่ยหงเหวยก็พูดเพียงเท่านี้

เยี่ยหวันหวั่นผงกศีรษะรับอย่างว่าง่าย “ค่ะ แล้วพบกันใหม่นะคะคุณปู่ รักษาสุขภาพด้วย หนูจะมาเยี่ยมคุณปู่บ่อยๆ นะคะ!”

ปกติแล้วเยี่ยหงเหวยไม่อนุญาตให้ครอบครัวพวกเขามาที่นี่ ตอนนี้ได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น กลับไม่ได้พูดว่าไม่อนุญาต เพียงพยักหน้าและส่งเสียงขานรับง่ายๆ ไปทีหนึ่ง

…………………………………………