ลู่ฝานหนังตากระตุก ผู้หญิงคนนี้อันตรายเหลือเกิน

คนที่ไม่เอาใจใส่อะไรอย่างฮ่วนเย่ว์ กลับไม่สนใจอะไรมาก ดึงแขนลู่ฝาน พุ่งขึ้นไปบนหัวหุ่นสีทอง

หุ่นสีทองเงยหน้ามองพวกเขา ตอนกำลังจะพูด ฮ่วนเย่ว์พูดเสียงดังว่า “ไอ้ยักษ์โง่ ถ้าพูดมากอีก ฉันจะเรียกท่านผอ.มาฆ่าแก”

หุ่นสีทองปิดตาลงอย่างเหนื่อยใจ ไม่ขยับไปไหน

ลู่ฝานโดนฮ่วนเย่ว์ ลากมาบนหัวหุ่นสีทอง

ฮ่วนเย่ว์ใช้ฝ่าเท้าเหยียบลงบนหัวหุ่นสีทองอย่างแรง สองสามครั้ง แล้วพูดว่า “หัวบวมๆ สีทองนี่ ใครเป็นคนทำให้กลมขนาดนี้ แถมยังลื่นด้วย อีกทั้งยังมีค่ายกลด้วย ยืนไม่อยู่เลย ทำเป็นสี่เหลี่ยมไม่ได้หรือไง”

หุ่นสีทองลืมตาขึ้นอีกครั้ง มันรู้สึกอัดอั้นจริงๆ ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลชั้นหกของหอคอยฝึกฝน ปกตินักเรียนที่มาล้วนให้ความเคารพ แต่ผู้หญิงคนนี้ อาศัยอำนาจใหญ่เบื้องหลังตัวเอง ไม่เพียงแต่จะเหยียบหัวมัน ยังรำคาญที่หัวมันกลมเกินไป หุ่นเชิดก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะ!

แอบบ่นอยู่สองสามครั้ง หุ่นก็ปิดตาลง ครุ่นคิดในใจ เรื่องอะไรที่รู้ว่าเห็นแล้วจะแปดเปื้อนสายตาและจิตใจเรา ก็อย่าไปมอง……

ลู่ฝานพูดว่า “ทะเลดาวแห่งเคล็ดวิชาบู๊ ใช้มือคว้าเคล็ดวิชาลงมา เหมือนกับด้านล่างใช่ไหม”

ฮ่วนเย่ว์พูดว่า “ใช่ก็ใช่นะ แต่ด้านล่างโจมตีกลับไม่ได้ ส่วนทะเลดาวแห่งเคล็ดวิชาบู๊พวกนี้ โจมตีกลับรุนแรงมาก ฉันเกือบเอาเคล็ดวิชาบู๊มาได้หลายครั้งแล้ว แต่โดนแสงกระบี่บ้าบอพวกนั้นทำให้ต้องหลบ ฉันเสียเวลาที่นี่มาครึ่งวันแล้ว เดี๋ยวนายต้านทานแสงกระบี่ให้ฉัน ฉันช่วยนายเอาเคล็ดวิชาบู๊คนละเล่ม เป็นไง”

“ครึ่งวันเหรอ” ลู่ฝานพูดอย่างตกใจ “มีเวลาอยู่ในหอคอยฝึกฝนแค่หนึ่งชั่วยามไม่ใช่เหรอ”

ฮ่วนเย่ว์สะบัดผมหางม้าอย่างได้ใจ ยิ้มแล้วพูดว่า “นั่นมันพวกนาย ฉันจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนก็ได้ ถ้าไม่ได้เคล็ดวิชาบู๊ดีๆ ใครจะกล้าไล่ฉันออกไป ใช่ไหม ไอ้ยักษ์โง่ แกกล้าไล่ฉันไหม”

ฮ่วนเย่ว์เหยียบลงบนหุ่นสีทองสองสามครั้ง

หุ่นสีทองหลับตา ไม่พูดอะไร ทำเหมือนไม่ได้ยิน

ฮ่วนเย่ว์พูดว่า “ดูสิ มันไม่กล้าไล่ฉัน”

ลู่ฝานพูดอย่างเหนื่อยใจ “โอเค เธอเก่ง งั้นเริ่มเลยละกัน ฉันมีเวลาแค่ครึ่งชั่วยามเท่านั้น”

ฮ่วนเย่ว์ถลกแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นแขนเรียวขาว “ได้ งั้นเริ่มเลย นายระวังด้วย”

มีแสงสีแดงพุ่งขึ้นมาบนตัว ต่อมา ฮ่วนเย่ว์สะบัดแส้ยาวที่ก่อตัวจากพลังปราณ

แส้ยาวเข้าไปในทะเลดาวแห่งเคล็ดวิชาบู๊ พันเข้ากับดวงดาวที่กะพริบอยู่ดวงหนึ่ง

“จับได้แล้ว!”

ฮ่วนเย่ว์ดีใจเป็นอย่างมาก ต่อมา ทะเลดาวแห่งเคล็ดวิชาบู๊เริ่มเกิดเป็นพลังหมุนวน จากนั้นแสงกระบี่พุ่งออกมาเป็นแถบ

ลู่ฝานยกกระบี่หนักขึ้นมา ตอนนี้ได้เห็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของตัวกระบี่หนักแล้ว

ยกกระบี่ขึ้นมา เหมือนโล่ขนาดใหญ่กันไว้ด้านหน้าฮ่วนเย่ว์กับลู่ฝาน

เสียงดังชิ้งๆ แสงกระบี่ร่วงลงบนกระบี่หนักของลู่ฝาน

เมื่อแสงกระบี่แสงแรก ร่วงลงบนกระบี่หนัก ลู่ฝานรู้สึกกดดัน เหมือนแสงกระบี่แต่ละแสงคือการโจมตีด้วยแรงทั้งหมดของนักบู๊แดนปราณนอกขั้นต้น

ทันใดนั้นแสงกระบี่หลายสิบแสงร่วงลงมา ลู่ฝานทำได้เพียงกัดฟันอดทน

ฮ่วนเย่ว์ก็กำลังพยายามสุดชีวิต ตะโกนออกมาว่า “ใกล้ออกมาแล้วๆ อดทนไว้”

ลู่ฝานตะโกนว่า “ฉันอดทนอยู่ เธอเร็วหน่อย”

ในทะเลดาวแห่งเคล็ดวิชาบู๊ หนังสือโบราณเล่มหนึ่ง โดนดึงออกมาจากกลุ่มดาว

ตอนนี้ ความหนาแน่นของแสงกระบี่ มากขึ้นเรื่อยๆ แสงกระบี่อ้อมมาด้านหลังด้วย