บทที่ 257
บทที่ 257

การที่ถังหยินไว้ใจให้หยวนจี้จัดการดูแลมณฑลแบบนี้ บ่งบอกได้ถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและความสามารถของเขาได้เป็นอย่างดี “วางใจเถิดนายท่าน ข้าน้อยจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”

ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วตบบ่าอีกฝ่าย “หยวนจี้ เจ้าจงเก็บสะสมประสบการณ์ให้ดี และเมื่อพร้อม ก็จงขึ้นดูแลทั้ง 3 มณฑลเสีย ทว่าก็ต้องอย่าลืม ยังไงเจ้าก็เป็นมนุษย์ ที่มีพละกำลังจำกัดเหมือนกัน ดังนั้นถ้าวันไหนที่เจ้าไม่ไหว ก็ฝากให้คนที่ไว้ใจที่สุดทำงานแทนก็ได้นะ”

หยวนจี้พยักหน้าให้ “ข้าน้อยรับทราบ”

ถังหยินครุ่นคิดอีกครั้ง “ตอนนี้เสบียงยังขาดอีกมากทีเดียว ดังนั้นข้าจึงอยากให้ทางจินกวงรีบจัดหามา”

“ขอรับนายท่าน”

“แล้วก็พวกแม่ทัพที่เหลืออยู่นั่น เจ้าจะทำยังไงกับพวกมันก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจข้า”

“ข้าน้อยรับทราบ”

“เรื่องภาษีและหนี้ของมณฑลจินกวง ข้าจะใช้ซงหยวนมาช่วยเจ้าก็แล้วกัน”

“ขอรับนายท่าน”

เมื่อถังหยินพูดถึงปัญหาทั้งหมดเท่าที่จะนึกได้ เขาก็พาเช่าฮุยมาที่นี่เพื่อบอกให้อีกฝ่ายเตรียมเสบียงสำหรับกองทหารเพื่อเข้าโจมตีหลีฮู่ ซึ่งงมันก็ทำให้เช่าฮุยดีใจมาก ที่ถังหยินยอมฟังคำแนะนำนั่นของตน

5 วันหลังจากที่ยู่เต๋าถูกไล่ออกไป ชัวน่าก็พาแม่ทัพของนางเข้ามาที่ฮวยหยางพร้อมกับข่าวดีเรื่องจดหมายที่นางส่งไปยังรัฐดูกี ที่กำลังจะได้รับคำตอบในไม่ช้า ทำให้ถังหยินดีใจมากที่ได้ยินแบบนี้

หลังจากที่ได้รับจดหมายของชัวน่า คนีสก็ได้ทำการส่งมันต่อให้ อัลเดน ราชาของรัฐดูกีทันที ซึ่งอีกฝ่ายก็ได้ส่งกลับมาว่าไม่เห็นด้วย พร้อมทั้งมอบเงื่อนไขให้ถังหยินมาที่เมืองเพื่อพูดคุยกัน

เมื่อคนีสได้รับข้อความตอบกลับ เขาก็พลันไม่พอใจกับคำตอบนี้และส่งคนไปตักเตือน ทำให้ในคราวนี้อัลเดนส่งจดหมายกลับมาอย่างยาวเหยียด

พื้นที่ชายแดนระหว่างดูกีและพวกเฟิงเต็มไปด้วยที่ดินแห้งแล้งในขณะที่ดินแดนติดกับพวกหนิงมีพื้นที่กว้างขวางและเหมาะสมกับการเพาะปลูกมากกว่า แถมทั้งสองดินแดนก็มีความสัมพันธ์เป็นกลางไม่ได้มีการปะทะใด ๆ ทำให้พวกเขาหวาดกลัวพวกหนิง ด้วยกลัวว่าถ้าทำตามที่ถังหยินร้องขอ จะทำให้พวกตนโดนพวกหนิงตามมาล้างแค้นในภายหลัง ดังนั้นหลังจากคิดดีแล้ว อัลเดนก็ได้เขียนเงื่อนไขออกมา 2 ข้อด้วยกัน

หนึ่งก็คือเขาอยากเห็นว่าถังหยินเป็นคนยังไง สองคือเขาอยากทำข้อตกลงให้แน่ใจกับถังหยิน ว่าถ้าเกิดเขายอมทำตามที่ร้องขอไปแล้วถังหยินจะยอมส่งทหารมาช่วยในช่วงเวลาที่พวกเขาโดนรุกรานหรือไม่ ?

คนีสเข้าใจถึงความกังวลของอัลเดน และตอบกลับไปว่าถ้าเกิดพวกหนิงมารุกรานจริง เบสซ่าจะเข้าไปช่วยพวกเขาอย่างแน่นอน แต่ถึงจะได้รับคำตอบเช่นนั้น หากแต่อัลเดนก็ยังอยากจะพบตัวถังหยินอยู่ดี

เขาไม่คิดว่าอัลเดนจะติดใจเรื่องหยุมหยิมแบบนี้ ทำให้คนีสไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งจดหมายนี้มายังฮวยหยาง

ซึ่งในช่วงเวลาระหว่างนั้น ถังหยินเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยแต่อย่างใด ด้วยเขาได้เข้าควบคุมทั้ง 3 มณฑล พร้อมทั้งทำการฝึกทหารใหม่ทั้งกองทัพเพื่อให้พร้อมรบตลอดเวลา

และในขณะนั้นนั่นเอง มันก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่หน่วยสอดแนมของชายหนุ่มกลับมาถึงจินกวงแล้วเข้ารายงานให้เขาฟังถึงเรื่องที่ได้มา

จำนวนทหาร ณ ประตูตงมีประมาณ 5 หมื่นนาย ที่ทำการตั้งรับเป็นอย่างดีทางฝั่งตะวันออก ด้วยเพราะพวกหนิงกลัวว่าพวกเฟิงจะเข้าโจมตีจากทางนั้น นอกจากนี้กองทัพของอู่ฉางและอู่ตี้ก็ได้กลับไปยังเมืองหยานแล้ว ซึ่งก็ดูเหมือนว่าอ๋องแห่งแคว้นจะไม่ได้ส่งกำลังมาเสริมหรือว่าสั่งให้พวกเขาถอนทัพกลับแต่อย่างใด

ในบรรดาอ๋องทุกพระองค์ หยานชูถือว่าเป็นอ๋องที่อายุน้อยที่สุดแต่ก็สามารถพัฒนาแคว้นตนเองให้ก้าวไกลแบบสุด ๆ ด้วยเช่นกัน อีกทั้งคนผู้นี้ก็ยังเก่งกาจในเรื่องของการรบและการกลอนกวีอีกด้วย

จากมุมมองของหยานชู การต่อสู้ระหว่างถังหยินกับซ่งเทียนถือว่าเป็นสงครามกลางเมืองของพวกเฟิง และเรื่องภายในของพวกเฟิงก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะเข้าไปยุ่งด้วยสักเท่าไหร่ ด้วยมันจะเป็นการเสียกำลังพลโดยใช่เหตุ

แต่อันที่จริงแล้วนั้น การที่กองทัพหนิงพ่ายแพ้ให้กับถังหยินแถมยังเสียทหารไปมากมายแบบนี้ มันก็ทำให้หยานชูไม่พอใจทั้งสองแม่ทัพนั่นยิ่ง จนคิดทิ้งให้ทั้งสองเน่าตายอยู่ที่นั่น

และถึงหยานชูจะเป็นคนฉลาด หากแต่เขาก็มีจุดอ่อนที่ร้ายแรงอยู่เช่นกัน ซึ่งนั่นก็คือความหัวแข็ง ชนิดที่ว่าจะไม่ให้อะไรมาชี้นำได้ง่าย ๆ ตราบเท่าที่เขาเชื่อว่ามันถูกต้อง เขาก็จะทำมัน แล้วก็เพราะแบบนี้เอง ที่ทำให้เขาคิดว่าไม่ว่าจะชนะสงครามครั้งนี้หรือไม่ มันก็จะเป็นการตัดกำลังของพวกเฟิงอยู่ดี จนลืมไปแล้วว่าซ่งเทียนไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบมากนัก และถ้าไม่มีกองทัพหนิงของอู่ตี้อยู่ต่อ อีกฝ่ายก็อาจจะถูกโค่นล้มไปแล้วก็ได้

หลังจากที่อู่ฉางภายแพ้ กำลังทหารทั้ง 2 แสนนายที่เหลือก็อยู่ในสภาพเหนื่อยล้ามาก ทำเอาสถานการณ์ของซ่งเทียนแย่ลงไปอีก แถมซ่งเวิ่นลูกชายของเขาก็ตายไปแล้วพร้อม ๆ กับกองกำลังที่ส่งไป และแม้ว่าเขาจะพยายามเกณฑ์ทหารใหม่ ทว่ามันก็ไม่มีใครสนใจสมัครเลยแม้แต่น้อย จนต้องออกคำสั่งบีบบังคับให้คนมาเข้าร่วมกองทัพ ! ชนิดที่ว่าถ้าไม่ยอมก็จะถูกฆ่า !!!

และด้วยคำสั่งนี่เอง ที่ทำให้ประชาชนมากมายโกรธแค้น แต่พวกเขาก็ไม่อาจขัดขืนคำสั่งนี้ได้ เพราะถ้าเกิดว่าต่อต้านเมื่อไหร่ ก็เท่ากับตายทันที !

พวกเขาอยู่ภายใต้กุมมือของซ่งเทียน ต่อให้หนียังไงก็ไม่มีทางรอด จึงทำให้ซ่งเทียนสามารถสร้างกองทัพทหารที่มาจากชาวเมืองกับทาสได้มากถึง 1 แสน 5 หมื่นนายเลยทีเดียว

ทว่ากองทัพส่วนกลางอันใหม่นี้ก็ไม่เหมือนกับอันก่อน ไม่ใช่แค่ทหารไม่มีประสบการณ์รบเท่านั้น เพราะพวกเขายังไม่ได้รับการฝึกใด ๆ เลยด้วยซ้ำ และที่น่าขันคือพวกเขาไม่มีแม้แต่แม่ทัพสักนาย !!

การกระทำของซ่งเทียนถือว่าไร้ความหมายมากในตอนนี้ และเมื่อผนวกกับการที่พวกหนิงไม่ยอมส่งทหารมา มันก็ทำให้สองพี่น้องจ้านได้แต่นั่งรอความตายอยู่ที่นี่อย่างเดียวแล้ว

…ซึ่งมันก็บังเอิญยิ่ง ที่จู่ ๆ จดหมายจากคนีสก็ได้มาถึงมือของถังหยินพอดี และเมื่อเขาอ่านจบ ชายหนุ่มก็คิดจะถือเอาโอกาสนี้เดินทางไปยังรัฐดูกีดู !

ทว่ายังไม่ทันได้ไปไหน ชิวเจิ้น หยวนจี้และทุกคนที่ได้ข่าวก็ได้เข้ามาหาเสียก่อน

ชิวเจิ้นพูดตรง ๆ “นายท่านจะไปรัฐดูกีงั้นหรือ ?”

ถังหยินพยักหน้าให้ และแปลกใจที่ทุกคนมารวมตัวกัน “มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ? พวกเจ้าคงไม่คิดว่าพวกนั้นวางแผนเอาไว้ใช่ไหม ?”

“เป็นไปได้มากที่เดียว เพราะจากข่าวกรองของหลีเทียนกับอัยเจีย มันก็ทำให้เราทราบว่าพวกดูกีและพวกหนิงค้านั้นทำการขายกันเป็นอย่างดี จนพานทำให้การที่ราชาของที่นั่นเรียกร้องให้นายท่านไปหาดูน่าพิกลยิ่ง”

นี่คือจุดที่ถังหยินคาดไม่ถึง และหลังจากได้ฟังแล้ว เขาก็นิ่งเงียบไปในทันที