บทที่ 244 มุ่งหน้าไปยังจุดหมายแรกของแผนที่ร้านอาหารต่างโลก

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ตอนนี้พ่อครัวแม่ครัวฝึกหัดก็ได้มาครบสองคนแล้ว แถมแต่ละคนยังมีพรสวรรค์ไม่น้อยด้วย แม้อาหารที่อวี่ฝูทำจะเทียบชั้นกับอาหารของปู้ฟางไม่ได้ แต่ก็ทำให้ลูกค้าอยากเสียเงินซื้อมากิน ซึ่งนับว่าเป็นพัฒนาการครั้งใหญ่

เซียวเสี่ยวหลงเพิ่งมาเป็นพ่อครัวฝึกหัด ดังนั้นจึงต้องฝึกฝนและสั่งสมประสบการณ์อีกพักใหญ่กว่าจะเทียบชั้นอวี่ฝูได้

ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝน เพราะทักษะการทำอาหารนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะบรรลุกันได้ภายในข้ามคืน เหล่าพ่อครัวแม่ครัวตัวจริงต่างผ่านการฝึกฝนมานับครั้งไม่ถ้วนกว่าจะมีความสามารถถึงขั้นนี้

ครึ่งเดือนให้หลัง ปู้ฟางยังคงอยู่ที่ร้านเพื่อสอนทักษะการทำอาหารและวิธีการประกอบอาหารจานเด็ดของร้าน ได้แก่ ข้าวผัดไข่ ซี่โครงเปรี้ยวหวาน และเนื้อตุ๋นตำรับจีนให้อวี่ฝูและเซียวเสี่ยวหลง

ทุกเช้าเสียงที่ส่งออกมาเป็นจังหวะจะดังก้องไปทั่วร้าน มันคือเสียงของมีดและเขียงที่กระทบกันนั่นเอง

ทั้งปู้ฟาง เซียวเสี่ยวหลงและอวี่ฝูต่างพิถีพิถันมากตอนที่จับมีดหั่นวัตถุดิบต่างๆ นั่นเพราะมันคือการฝึกฝนทักษะการใช้มีดของพวกเขา

เซียวเสี่ยวหลงตั้งใจจะพักอยู่ในร้านแต่ปู้ฟางปฏิเสธ เพราะที่ร้านนั้นมีห้องนอนแขกเพียงห้องเดียวซึ่งตอนนี้เป็นของอวี่ฝูไปแล้ว แม้รูปร่างของเซียวเสี่ยวหลงจะเพรียวบาง หน้าตาออกไปทางสะสวย แต่อย่างไรก็เป็นผู้ชาย และปู้ฟางก็ตระหนักดีว่าเขาควรจะแยกคนทั้งสองเพศออกจากกัน

ตอนนี้ร้านเข้าที่เข้าทางดีแล้ว และด้วยความช่วยเหลือจากเสี่ยวหลงและอวี่ฝู ความตึงเครียดของปู้ฟางจึงบรรเทาลงไปมาก ปู้ฟางสอนคนทั้งคู่ทุกวันเป็นเวลาครึ่งเดือน ถึงตอนนี้พวกเขาทำอาหารได้ค่อนข้างดี

“นายท่าน ระบบมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ การเคลื่อนย้ายภายในแผนที่ร้านอาหารต่างโลกครั้งแรกจะปรากฏขึ้นในอีก 4 ชั่วยาม…”

ปู้ฟางยังไม่ตื่นดีตอนที่ได้ยินเสียงเคร่งขรึมของระบบดังขึ้นในหัว เขาอึ้งอยู่พักใหญ่ รู้สึกงุนงงเล็กน้อย

“จะเริ่มภายในสี่ชั่วยามหรือ” ปู้หางหาวก่อนจะลงจากเตียง มีเวลาอีกตั้งสี่ชั่วยาม ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย

หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ ปู้ฟางก็โบกมือเรียกสมุดปกหนังวัวออกมาจากคลังเก็บของระบบ บนหน้าปกเขียนไว้ว่า สมุดสูตรอาหาร

นี่คือรางวัลที่ปู้ฟางพิชิตภารกิจฉุกเฉินสำเร็จ มันคือสมุดโบราณที่มีอักขระโบราณจารึกเอาไว้

เมื่อพลิกปกที่เป็นหนังวัว ด้านในนั้นกลับมีแต่กระดาษโล่งโจ้งสีขาว

“สมุดสูตรอาหาร แล้วจะใช้อย่างไรเล่า…” ปู้ฟางอับจนหนทาง แต่ในเมื่อมันเป็นรางวัลจากภารกิจฉุกเฉิน ก็แปลว่าต้องไม่ใช่สมุดธรรมดาแน่

หลังจากเปิดผ่านๆ ไปรอบหนึ่ง ปู้ฟางก็รู้สึกเบื่อขึ้นมา เพราะในสมุดมีแต่หน้ากระดาษว่างๆ ไม่มีเนื้อหาอะไรเลย ชายหนุ่มยัดสมุดกลับที่เดิมจากนั้นก็เก็บชุดเสื้อผ้าทั่วไปใส่ในช่องว่างของกระเป๋าคลังเก็บ แล้วเดินออกจากห้องนอนเข้าไปในครัว

เซียวเสี่ยงหลงมาถึงร้านตั้งแต่เช้าตรู่ กำลังใช้มีดคู่หั่นวัตถุดิบอยู่  

“อรุณสวัสดิ์เถ้าแก่!” เซียวเสี่ยวหลงเงยหน้าขึ้นมาเมื่อมีจังหวะแล้วเอ่ยทักทายปู้ฟาง

ทันทีที่ได้สัมผัสโลกของการทำอาหาร เซียวเสี่ยวหลงก็หมกมุ่นอย่างมาก พ่อหนุ่มมากพรสวรรค์ผู้นี้ตอนนี้สนุกสนานกับการจับมีดแทนการจับพู่กันเสียแล้ว

ปู้ฟางพยักหน้ารับ มองคนทั้งคู่ที่ฝึกอย่างขยันขันแข็งด้วยรอยยิ้มยินดี

อวี่ฝูคุ้นเคยกับปู้ฟางมากขึ้น จึงไม่มีอาการเขินอายอีก นางยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นปู้ฟาง

“ข้าจะไม่อยู่สักสองสามวัน พวกเจ้าสองคนแบ่งหน้าที่รับผิดชอบร้านกันเองแล้วกัน ช่วงที่ข้าไม่อยู่ การจัดการร้านและการทำอาหารต้องพึ่งพวกเจ้าแล้ว อย่าทำให้ชื่อเสียงของร้านเสียหายเล่า” ปู้ฟางยืนอยู่ตรงกลางระหว่างคนทั้งคู่พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“หือ” เซียวเสี่ยวหลงและอวี่ฝูพลันเงยหน้าขึ้นแล้วอึ้งไป เถ้าแก่ปู้จะไม่อยู่ร้านหรือ

“เถ้าแก่ปู้ ท่านจะไปไหนน่ะ ร้านนี้อยู่ไม่ได้หรอกนะถ้าไม่มีท่าน…เราจะอยู่กันได้อย่างไร” เซียวเสี่ยวหลงวางมีดลง มองหน้าปู้ฟางด้วยสายตาวิตกกังวล

ปู้ฟางแค่ต้องการบอกพวกเขาว่าได้เวลาสำแดงทักษะของตนเองแล้ว…แต่ทั้งสองยังไร้ซึ่งความมั่นใจ นั่นเพราะทุกวันที่ผ่านมาพวกเขามีปู้ฟางคอยชี้แนะอยู่ตลอด เมื่อมีปู้ฟางอยู่ใกล้ๆ พวกเขาจึงรู้สึกอุ่นใจ

ปู้ฟางปรายตามองเซียวเสี่ยวหลง “อย่าสติแตกไป มีเจ้าขาวอยู่ด้วย ใครหน้าไหนก็มาก่อเรื่องที่ร้านไม่ได้”

เซียวเสี่ยวหลงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นเสียหน่อย

“ในฐานะศิษย์ของข้า พวกเจ้าจะอยู่ใต้เงาข้าไปตลอดไม่ได้ ข้าหวังให้พวกเจ้าเดินตามเส้นทางของตัวเองและมีเป้าหมายในชีวิต สิ่งแรกที่พวกเจ้าทั้งสองต้องพัฒนาก็คือความมั่นใจ” ปู้ฟางพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “การที่ข้าจะไม่อยู่ร้านชั่วคราวก็เพื่อให้พวกเจ้าได้ฝึกความกล้า อย่าทำให้ข้าผิดหวังเล่า”

เอ่อ…เซียวเสี่ยวหลงและอวี่ฝูรู้สึกซาบซึ้งไม่น้อย แต่พอคิดดูดีๆ คำพูดของเถ้าแก่ปู้ก็ฟังดูพิกลๆ

“เอาละ พวกเจ้าฝึกใช้มีดและฝึกแกะสลักไปเสีย ข้าจะเก็บของหน่อยเพราะอีกสี่ชั่วยามก็ต้องไปแล้ว” ปู้ฟางโพล่งออกมาขณะเก็บเครื่องปรุงอาหารและวัตถุดิบใส่กระเป๋าคลังเก็บ

เซียวเสี่ยวหลงและอวี่ฝูต่างมองตากัน แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นล้วนเป็นความวิตกกังวลในสายตาของอีกฝ่าย สุดท้ายทั้งสองก็ต้องดูแลร้านกันเอง จึงไม่แปลกที่จะรู้สึกหวั่นวิตก

“ใจเย็น อย่าสติแตก เถ้าแก่ผู้นี้เชื่อใจพวกเจ้า” ปู้ฟางกล่าวพลางกวาดขวดมากมายออกจากตู้

หลังจากเตรียมวัตถุดิบเสร็จ ปู้ฟางก็เริ่มทำอาหาร เขาทำซี่โครงเปรี้ยวหวานให้เจ้าดำ พอลูบขนมันเงาสีดำของมันแล้ว ชายหนุ่มก็ขึ้นห้องไป

เวลาสี่ชั่วยามใกล้จะหมดลงแล้ว ปู้ฟางได้ยินเสียงของระบบดังขึ้นในศีรษะ

“แผนที่ร้านอาหารต่างโลกเริ่มดำเนินการ ทุกกล้องพร้อม…”

ทันทีที่เสียงของระบบเงียบลง ภาพตรงหน้าของปู้ฟางก็พร่าเบลอไป ห้องที่ตอนแรกสว่างไสวพลันมืดมิด ราวกับว่าเขากำลังเดินทางผ่านห้วงดาราจักรอย่างไรอย่างนั้น

ทันทีที่เหล่าดวงดาวหายไป จุดสีขาวเล็กๆ มากมายก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าปู้ฟางก่อเกิดเป็นแผนที่แสงขนาดใหญ่ จุดแสงทุกจุดดูพร่างพราวน่าดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่ง

“การเคลื่อนย้ายของระบบเริ่มแล้ว…ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด”

จู่ๆ เสียงจักรกลก็ดังขึ้น แล้ววงแหวนเคลื่อนย้ายก็มาปรากฏอยู่ข้างๆ ปู้ฟาง แสงจากวงแหวนเจิดจ้าสว่างตามาก ร่างอ้วนกลมร่างหนึ่งปรากฏอยู่ในแสงนั้น

ปู้ฟางตะลึงงันไป นั่นเจ้าขาวหรือ แต่เมื่อเทียบกับเจ้าขาวตัวใหญ่โตแล้ว หุ่นยนต์ตรงหน้าปู้ฟางจัดว่ามีขนาดเล็กกว่ามาก ความสูงของมันเท่ามนุษย์ทั่วไปเท่านั้น

“แต่ก็ยังอ้วนเหมือนเดิม” ปู้ฟางลูบพุงกลมๆ ของหุ่นยนต์ที่เหมือนเจ้าขาวไม่ผิดเพี้ยน

“นี่คือผู้คุ้มกันที่จะเดินทางไปกับนายท่านด้วยระหว่างที่นายท่านออกท่องเที่ยวไปตามแผนที่ของร้านอาหารต่างโลก มันมีสีขาวเหมือนกัน ดังนั้นนายท่านจะเรียกมันว่าเจ้าขาวก็ย่อมได้ ภารกิจของมันคือปกป้องนายท่าน หากนายท่านตกอยู่ในอันตราย มันจะเปิดใช้งานรูปแบบการป้องกันภัยทันที

เจ๋งไปเลย! ดวงตาของปู้ฟางเป็นประกายขณะลูบศีรษะของเจ้าขาว ดวงตาจักรกลของเจ้าขาวเปล่งแสงสีแดงสร้างความรู้สึกคุ้นเคยให้ปู้ฟางยิ่งนัก แม้จะตัวเล็กกว่าแต่กลิ่นก็ยังเป็นกลิ่นของเจ้าขาวไม่ผิดเพี้ยน

“นายท่าน โปรดรับรู้ด้วยว่าตอนนี้การเคลื่อนย้ายของแผนที่เริ่มขึ้นแล้ว…”

ปู้ฟางอึ้งไปจากนั้นก็พลันจริงจังขึ้นมา เขาเริ่มรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

“แผนที่ร้านอาหารต่างโลก ระยะเริ่มต้น สถานที่แรกของการเคลื่อนย้าย อาณาจักรวายุแผ่ว แคว้นหางหยาง เมืองนครใต้”

เสียงที่จริงจังและเย็นชาของระบบดังขึ้นก่อนจะเงียบไป ปู้ฟางรับรู้ว่ามีเส้นที่ทำจากแสงปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ เส้นบางๆ ที่ว่านั้นเริ่มรวมตัวกันแล้วก่อตัวเป็นวงแหวนรูปร่างซับซ้อน วิสัยทัศน์ของปู้ฟางเริ่มพร่าเบลอ จากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนถูกพลังบางอย่างดึงตัวไป อึดใจถัดมาร่างของชายหนุ่มก็หายไปจากห้อง

ที่ศาลาพักแรมแห่งหนึ่งไกลจากเมืองนครใต้ของภูมิภาคหางหยาง อาณาจักรวายุแผ่วไปสามสิบลี้

ลำแสงหนึ่งปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า และเมื่อลำแสงนั้นค่อยๆ เจิดจ้าขึ้น พายุรุนแรงก็เริ่มก่อตัว ชายผู้หนึ่งเดินออกมาจากพายุลูกนั้น เงาร่างนั้นสูงและผอมเพรียว ผมยาวของเขาพันกันยุ่งเพราะลมจากพายุร้าย

ปู้ฟางถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ผมเผ้าของเขาถูกลมตีจนไม่เป็นทรง เจ้าขาวที่ยืนอยู่ด้านหลังเปล่งแสงสีแดงออกมาจากดวงตา ชายหนุ่มรวบผมด้วยเชือกสักหลาด พลางมองเมืองใหญ่โตที่อยู่ไม่ไกล เมืองนี้ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ รอบกำแพงเมืองเป็นน้ำตก และที่โอบล้อมแม่น้ำอยู่อีกทีก็คือป่าทึบ

นี่คือจุดหมายแรกของแผนที่ร้านอาหารต่างโลก เมืองนครใต้ แคว้นหางหยาง