ตอนที่ 429 “ตัวแสบ” / ตอนที่ 430 พี่...ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 429 “ตัวแสบ”

แต่ตอนนี้ ดูเหมือนจะมีความผิดพลาดอะไรบางอย่าง เธอเปิดเข้าไปในความคิดเห็นนั้น ด้านล่างมีคนมาตอบกลับเยอะมาก ซึ่งล้วนแต่ตอบเป็นเสียงเดียวกัน…

[ความหมายของภาษาฝรั่งเศสประโยคนั้นก็คือ เธอหุบปากไปเลย น่าขายหน้าจริงๆ ถ้าหากไม่ใช่เพราะกลับคำพูดไม่ได้ แม้แต่ 0.1 คะแนนฉันก็ไม่คิดจะให้เธอ เธอยังมีหน้ากล้าใช้คำว่า ‘รักเดียว’ นี้กับมันอีก เป็นการดูถูกทั้งผลงานชิ้นนั้น และคำคำนั้นด้วย พวกหน้าไม่อาย]

เฉินเชียนโหรวหน้าถอดสีไปชั่วขณะ ใบหน้าดุร้ายจนน่ากลัว

เธอกำโทรศัพท์ในมือไว้แน่นจนข้อนิ้วมือเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด

เธอโกรธจนตัวสั่น

“กรี๊ดดด”

อยู่ๆ เธอก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา ก่อนจะเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือในมือออกไป

ทุกคนที่อยู่ในห้องรับแขกนิ่งอึ้ง ก่อนจะพากันมองเธอด้วยสายตาเหลือเชื่อ

“เชียนโหรว เธอเป็นอะไรไป”

ซูเหิงเป็นคนที่ตอบสนองก่อนใคร เขาเลิกคิ้วรีบเอ่ยถามเธอ

ทรวงอกของเฉินเชียนโหรวกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง สายตาคู่นั้นของเธอดูโหดเหี้ยมอำมหิต

ทว่าเมื่อได้ยินเสียงของซูเหิง แววตาของเธอก็พลันนิ่งสงบลงมาในชั่วพริบตา เธอค่อยๆ เงยหน้า ทันใดนั้น น้ำตาก็ไหลรินลงมาไม่หยุด

เมื่อซูเหิงเห็นน้ำตาของเธอ สีหน้าก็จริงจังขึ้นมาถนัดตา

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

น้ำตาของเฉินเชียนโหรวไหลพรากหนักขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็โผเข้าไปในอ้อมกอดของซูเหิง

“พี่เหิงคะ…ฮือ ฮือ ฮือ…”

ซูเหิงรีบโอบกอดเธอเอาไว้ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แล้วก็ไม่รู้ว่าจะปลอบเธออย่างไร

“เชียนโหรว…”

“พี่เหิง พี่สาวเธอทำเกินไปแล้ว…ทำเกินไปแล้ว…”

ซูเหิงชะงักไป ฝานซิงอีกแล้วเหรอ…

ส่วนเจียงหรงหรงเมื่อได้ยินชื่อเฉินฝานซิง ก็รีบหลับตาลงด้วยความระอาเต็มที

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ นางมารผจญนั่นก่อเรื่องอะไรอีก”

หยางลี่เวยเห็นเมื่อครู่นี้เฉินเชียนโหรวขว้างโทรศัพท์ทิ้ง ก็รีบเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดเวยป๋อทันที

เพียงแค่เรื่องแรกที่เปิดขึ้นมาเห็น เธอก็เข้าใจอย่างกระจ่าง คำถากถาง เย้ยหยัน หรือแม้แต่คลิปวีดีโอล้อเลียนโผล่ขึ้นมาไม่หยุด

“นี่…นี่…คุณแม่”

หยางลี่เวยตะกุกตะกัก สุดท้ายก็ยัดโทรศัพท์ใส่มือของเจียงหรงหรง

เพราะเฉินเชียนโหรวไม่เข้าใจภาษาฝรั่งเศส จึงถูกเฉินฝานซิงกลั่นแกล้งจนเป็นข่าวเต็มอินเทอร์เน็ตไปหมด

เข้าใจผิดคิดว่าคำด่าเป็นคำชม

โง่เง่า เบาปัญญา ไม่มีการศึกษา!

คนอื่นกำลังด่าตัวเองอยู่แท้ๆ ยังคิดว่าตัวเองสวยอีก!

แบบนี้เขาเรียกว่า แอ๊บแตก

ซูเหิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอินเทอร์เน็ต ใบหน้าก็เผยให้เห็นความกระอักกระอ่วนที่ยากจะปกปิด

โดยเฉพาะตอนที่เฉินเชียนโหรวให้สัมภาษณ์ เขาก็ยืนอยู่ข้างเธอด้วย

แต่นี่ก็ไม่น่าใช่ความผิดของฝานซิงสิ…

“เชียนโหรว…นี่…ฝานซิงน่าจะหวังดีนะ…”

เสียงสะอื้นของเชียนโหรวชะงักไปทันที ก่อนจะผละตัวออกจากอ้อมกอดของซูเหิง เธอร้องไห้จนใบหน้าของเธอแดงก่ำใบไปถึงใบหู

“พี่เหิง พี่ก็รู้ดี…พี่ฝานซิงเธอ…จะหวังดีกับฉันได้ยังไง เห็นๆ อยู่ว่าพี่เธออยากจะให้ฉันขายหน้าน่ะ…”

ซูเหิงสีหน้านิ่งขรึม “แต่ถ้า…เธอให้ฝานซิงแปลคำพูดของเอเลนออกมาตอนนั้น…”

เฉินเชียนโหรวหน้าซีดเซียวลงในทันตา เธอจะโดนคนทั้งงานมองเป็นตัวตลก

เฉินเชียนโหรวโกรธมาก โกรธจนปอดจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว

ที่พยายามมาตลอดในช่วงหลายวันนี้ ในที่สุดก็เรียกชื่อเสียงในวงการกลับมาได้ วันนี้คนอื่นล้วนแต่ชมเธอว่ามากความสามารถ

ตอนนี้แค่คำพูดเดียวของเฉินฝานซิง ทำให้เธอตกลงไปอยู่ในจุดเดิมอีกแล้ว!

จะไม่ให้เธอโกรธได้ยังไง

จะไม่โกรธได้ยังไง

เฉินฝานซิงเก็บโทรศัพท์ ก่อนจะนึกถึงปฏิกิริยาตอบสนองของเฉินเชียนโหรวพลางนวดขมับ

ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

ป๋อจิ่งชวนหันไปมองเธอ พลันเหลือบมองหน้าอินเทอร์เน็ตบนจอโทรศัพท์แสบหนึ่ง สุดท้ายก็ยื่นมือไปลูบผมของเธอ

“ได้เล่นสนุกแล้วเหรอ”

เฉินฝานซิงทำท่าทีไม่พอใจ หันไปมองเขาด้วยแววตาเคร่งขรึม

“นี่เรียกว่าการแก้แค้นอย่างจริงจัง”

“…” ป๋อจิ่งชวนเพียงแต่มองเธอไม่ได้พูดอะไร

สุดท้ายเฉินฝานซิงก็ทนไม่ไหว ยื่นแขนไปจับไหล่เขาไว้ แล้วก้มหน้าส่งเสียงหัวเราะที่พยายามกลั้นไว้ออกมา

“ฉันคิดไม่ออกเลย…สีหน้าของเฉินเชียนโหรวตอนนี้…แต่ว่า ป๋อจิ่งชวน นี่จะโทษฉันไม่ได้นะ…ใครจะไปรู้ว่าเธอจะให้สัมภาษณ์แบบนั้น…”

ป๋อจิ่งชวนยิ้มมุมปาก ริมฝีปากเรียวบางพูดคำคำหนึ่งออกมา

“ตัวแสบ”

ตอนที่ 430 พี่…ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่

ตี้หัวฮวาถิง

รถค่อยๆ จอดสนิท ป๋อจิ่งชวนและเฉินฝานซิงเดินเข้าไปในที่พักด้วยกัน

ทว่าขาของเฉินฝานซิง จู่ๆ ก็สะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง

เธอก้มลงไปดูก็พบว่าเงาร่างเล็กๆ ที่คุ้นเคย กำลังชะเง้อศีรษะเล็กๆ ของตัวเองมองขึ้นมาที่เฉินฝานซิงด้วยดวงตากลมโตราวกับลูกองุ่น

เพียงแต่บนตัวมีรอยเปรอะเปื้อนดินโคลนหลังจากที่ผ่านการเล่นมาทั้งวันจนถึงบ่ายอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักของเธอในตอนนี้ดูเหมือนใบหน้าของแมวลายตัวน้อย

“คุณน้าคนสวย…”

เฉินฝานซิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันขึ้นมามองซ้ายมองขวา แต่ก็ไม่พบพี่สาวของเด็กน้อยจึงโน้มตัวลงไปอุ้มหนูน้อยขึ้นมา

“หวันหว่าน พี่สาวของหนูล่ะ”

“กำลังทำงาน…”

เฉินฝานซิงตกใจ

“เพราะงั้น ตอนนี้หนูอยู่ที่นี่คนเดียวเหรอ”

หวันหว่านส่ายหน้า “หังหัง…”

เฉินฝานซิงประหลาดใจ เห็นหวันหว่านยกนิ้วอวบอ้วนน้อยๆ ของเธอขึ้นมาชี้ออกไปไกลๆ

เฉินฝานซิงหันมองตามไป จึงได้เห็นร่างสูงยาวของผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในชุดลำลองเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสบายๆ สีดำ กำลังยืนสองมือล้วงกระเป๋าด้อมๆ มองๆ รถมายบัครุ่นเอ็กซ์ตรีมลิมิเต็ดของป๋อจิ่งชวนคันนั้นไม่หยุด

เฉินฝานซิงขมวดคิ้วมุ่น มิน่าล่ะ บนตัวหวันหว่านถึงได้เลอะเทอะขนาดนี้

ปล่อยให้ผู้ชายดูแลเด็ก ยังมีชีวิตรอดมาได้ก็นับว่าโชคจริงๆ

ชายหนุ่มคนนั้นยืนหันหลังให้พวกเขาอยู่ เฉินฝานซิงมองไม่เห็นใบหน้าตรงๆ ของเขา เพียงแต่ป๋อจิ่งชวนที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก

“แปลกแฮะ รถคันนี้…ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้”

น้ำเสียงแปลกใจของชายหนุ่มดังขึ้นมา เฉินฝานซิงดวงตาฉายประกาย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองยังป๋อจิ่งชวนโดยไม่รู้ตัว

สีหน้านั้น… เป็นไปอย่างที่คิด

“หังหัง…หังหัง…”

น้ำเสียงอ่อนโยนออดอ้อนของหวันหว่านดังขึ้น ในที่สุด ชายหนุ่มก็ดูเหมือนคิดขึ้นได้ว่ายังมีเด็กน้อยรออยู่ จึงหันหน้ามา แต่ก็ได้พบว่าหวันหว่านกำลังถูกผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มอยู่ในอ้อมแขนเรียบร้อยแล้ว

ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็กำลังมองมาที่เขาด้วยใบหน้าตกตะลึง

ถึงแม้ใบหน้านั้นจะไม่ใช่ใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย ในนิตยสารและหน้าข่าวบันเทิงก็เคยได้เห็นมาหลายครั้งบ้างแล้ว แต่เมื่อได้เจอตัวจริงในระยะประชิดแบบนี้ก็อดอึ้งไม่ได้

ภายในแววตาคู่นั้นมองเห็นเงาของป๋อจิ่งชวนได้ลางๆ สง่าราศีที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ท่าทางที่ดูสูงส่ง ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในตัวตามธรรมชาติ

อันที่จริงแล้ว หน้าตาเขาไม่เหมือนกับป๋อจิ่งชวนมากนัก ถึงแม้จะเป็นพี่น้องแท้ๆ กัน แต่ก็ใช่ว่าจะเหมือนราวกับถอดออกมาจากพิมพ์เดียวกันได้

รูปร่างของเขาดูเหมือนจะบึกบึนกว่าป๋อจิ่งชวนเล็กน้อย โครงหน้าชัดเจน ประณีต ทั้งยังแฝงไปด้วยความหล่อเหลาที่ดูดุดันดิบเถื่อนอยู่ด้วย

เป็นสองคนที่ดูต่างกันโดยสิ้นเชิง

ถ้าหากบอกว่าป๋อจิ่งชวนคือคนที่ดูอ่อนโยนเป็นผู้ใหญ่ ถ้าอย่างนั้น ป๋อจิ่งหังก็เป็นคุณชายที่ดูสบายๆ ไม่คิดอะไรเยอะ

“หังหัง…หังหัง…”

“พี่…ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่”

ใบหน้าของป๋อจิ่งหังเผยตกตะลึง ไม่ใช่ว่าเขามีคฤหาสน์เซิ่งจิ่งของเขาอยู่หรอกหรือ

ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ ดวงตาดำขลับสั่นไหวเล็กน้อย สายตามองมายังเฉินฝานซิง

เขาเดินจ้ำอ้าวมาหยุดตรงหน้าของเธออย่างกะทันหัน

แต่ปรากฏว่าป๋อจิ่งชวนกลับดึงเฉินฝานซิงเข้าไปโอบไว้ในอ้อมแขนเสียก่อน

ใบหน้างดงามของป๋อจิ่งหังชะงักไปชั่วขณะ สายตาฉายประกายแห่งความตกตะลึงออกมา

“คุณเป็นแฟนของพี่ชายผมเหรอ”

เฉินฝานซิงพยักหน้า

“เหอะ” เขาหัวเราะออกมาเบาๆ “ไม่ง่ายเลยนะ คนหัวโบราณดื้อด้านอย่างพี่ชายผม ในที่สุดก็มีแฟนกับเขาเสียที”

หัวโบราณดื้อด้านอีกแล้ว…

ป๋อจิ่งชวนเพียงแค่มองเขาด้วยสายตาเย็นชาปราดหนึ่ง แล้วมองไปยังเด็กสาวที่กำลังโบกมือให้ป๋อจิ่งหังไม่หยุดพร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉยชา

“เธอเป็นลูกสาวนายเหรอ”

ป๋อจิ่งชวนหันไปยิ้มให้กับใบหน้าที่เหมือนลูกแมวลายของหวันหว่าน

“…น้องสะใภ้ของผม”

“…”

“…”