ตอนที่ 431 พวกคุณสองคนอยู่ร่วมกันยังไง / ตอนที่ 432 แมงดา

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 431 พวกคุณสองคนอยู่ร่วมกันยังไง

ป๋อจิ่งชวนหรี่ตาลงมองป๋อจิ่งหังด้วยสายตาอันตราย

“เพราะงั้น…นายแต่งงานตอนไหน”

“เอ่อ…ก็สองเดือนก่อนหน้า”

“ทุกคนไม่รู้กันหมด หรือมีฉันคนเดียวที่ไม่รู้”

น้ำเสียงของป๋อจิ่งชวนฟังดูดุดันขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้หวันหว่านกอดคอเฉินฝานซิงแน่นกว่าเดิม ภายในดวงตากลมโตฉายความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด

“เรื่องนี้…ต้องบอกว่า มีแค่นายที่รู้ แต่ว่าฉันโทรหาคุณย่าแล้ว ถ้ามีเวลาจะกลับไปเยี่ยมท่านสักหน่อย”

“…”

ไอเย็นที่แผ่ซ่านจากป๋อจิ่งชวนยังไม่มีวี่แววว่าจะหายไป

ทว่า ป๋อจิ่งหังเองกลับไม่มีท่าทีเกรงกลัวใดๆ เพียงแค่หันไปพูดกับเฉินฝานซิง

“สวัสดีพี่สะใภ้”

เฉินฝานซิงเม้มริมฝีปาก จะตอบก็แปลกๆ จะไม่ตอบก็ไม่ได้

ระหว่างนั้นป๋อจิ่งชวนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ค่อยๆ เก็บมวลความเยือกเย็นจากตัวเองกลับเข้าไป

“ขึ้นไปข้างบนก่อนเถอะ”

ชั้นบน ที่ห้องครัวภายในห้องพักของเฉินฝานซิง

ป๋อจิ่งหังยกถ้วยบะหมี่ผัดซอสหนึ่งถ้วยขึ้นมากินด้วยท่าทางสบายใจ ส่วนเฉินฝานซิงนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังป้อนหวันหว่านอย่างใจเย็น

ชุดกระโปรงที่เปื้อนดินโคลนสกปรกถูกเปลี่ยนแล้ว หน้าที่มอมแมมเป็นลูกแมวตัวลายก็ถูกเฉินฝานซิงล้างจนสะอาดหมดจด

ป๋อจิ่งชวนนั่งลงข้างเฉินฝานซิง จ้องมองไปยังป๋อจิ่งหังอย่างเงียบๆ

“เธอ…ไม่ใช่ลูกของนายจริงเหรอ” จู่ๆ ป๋อจิ่งชวนก็พูดโพล่งออกมา

“พูดแปดร้อยรอบแล้ว ไม่ใช่ นั่นเป็นน้องสาวของซังอวี๋ น้องสะใภ้ของฉัน”

“…” ป๋อจิ่งชวนขมวดคิ้ว ก่อนจะแอบเหลือบมองหวันหว่านอยู่หลายครั้ง

“นายแต่งงานแล้วจริงเหรอ”

ป๋อจิ่งหังพยักหน้าอีกครั้ง

“จริงสิ จะต้องให้ฉันเอาทะเบียนสมรสให้นายดูเลยไหม”

ป๋อจิ่งชวนเม้นริมปีฝาก “ได้”

ป๋อจิ่งหังสะอึกไป พลันมองหน้าพี่ชายของตัวเองด้วยความประหลาดใจ

ใบหน้าบอกบุญไม่รับที่ดูไม่ออกว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ของเขานั้น

สุดท้ายก็ได้แต่รู้สึกระอา แล้วก้มหน้ายัดบะหมี่ผัดซอสเข้าปากไปคำโต

“…แต่งแล้วจริงๆ น่า แล้วทะเบียนสมรสมีอะไรน่าดูตรงไหน”

ป๋อจิ่งชวนหน้านิ่ง “ฉันอยากเห็นว่ามันหน้าตายังไง”

“แค่ก…”

ป๋อจิ่งหังเผลอสำลักออกมา บะหมี่ผัดซอสที่กำลังเคี้ยวอยู่ในปากก็เกือบจะพุ่งออกมาด้วย

เขารีบหันขวับไปมองทางเฉินฝานซิง

เฉินฝานซิงที่กำลังป้อนอาหารให้หวันหว่านอยู่ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง พร้อมกับสบตากับป๋อจิ่งหังด้วยท่าทางเก้อเขิน

“พี่สะใภ้ พี่นี่ใช้ได้เลยนะ ปู่ของผมเริ่มคิดหาหนทางยัดเยียดผู้หญิงให้พี่ชายผมตั้งแต่เขายังอายุสิบแปด แต่เขากลับไม่แม้แต่จะชายตามอง ไหนลองบอกมาหน่อย ว่าคุณทำให้พี่ชายผมหวั่นไหวได้ยังไง”

เฉินฝานซิงไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหน เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าที่แท้จริงแล้วป๋อจิ่งชวนชอบอะไรในตัวเธอกันแน่

เจอกันครั้งแรกก็ตามตอแยไม่ยอมเลิกรา

เอ่อ…

เธอแอบชำเลืองมองป๋อจิ่งชวนแวบหนึ่ง ท่าทางที่เย็นชา นิ่งขรึม ดูสูงส่งนั้น ดูไม่เหมือนพวกที่ตามตอแยไม่เลิกราเลยจริงๆ

“เรื่องนี้ ฉันก็…”

“เป็นฉันที่ตกหลุมรักเธอ”

แกร๊ง ตะเกียบในมือของป๋อจิ่งหังหล่นลงไปบนโต๊ะ

มีใครเคยบอกพี่ชายของเขาหรือเปล่าว่าทำหน้าซึมกระทือไร้อารมณ์แล้วพูดเรื่องความรักแบบนี้ จริงๆ แล้วมันดู…พิลึกมากแค่ไหน

“แค่ก…” เฉินฝานซิงถึงกับต้องส่งเสียงกระแอมแก้เขิน ใบหน้าสดใสงดงามเริ่มแดงระเรื่อภายในพริบตา ขยับไปทางซ้ายทีขวาที เห็นได้ชัดว่ามีอาการนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้ว

พอก้มหน้าลงก็เห็นหวันหว่านที่กำลังชะเง้อหน้ามองเธอ ดวงตากลมโตคู่นั้นกำลังเฝ้ารอให้เธอป้อนข้าวให้ด้วยความคาดหวัง

เธอก้มหน้าก้มตาป้อนข้าวต้มหนึ่งคำให้หวันหว่านด้วยท่าทางตื่นเต้น

บางที แรงต้านทานต่อเรื่องต่างๆ ของคนสกุลป๋ออาจแข็งแกร่งเกินคนทั่วไป ผ่านไปไม่นานนัก ป๋อจิ่งหังก็หยิบตะเกียบขึ้นมาใหม่แล้วฟาดบะหมี่ผัดซอสจนหมดถ้วยราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

“ฝีมือทำอาหารพี่สะใภ้สุดยอดไปเลย เอ้อ พี่สะใภ้ กลางคืนมาห่อเกี๊ยวกินกันไหม”

เฉินฝานซิงยิ้มแหยๆ “ซังอวี๋เป็นคนใต้ ส่วนรสอาหารที่ถูกปากของคุณนี่เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นคนเหนือ พวกคุณสองคนอยู่ร่วมกันยังไง”

ตอนที่ 432 แมงดา

เฉินฝานซิงยิ้มแหยๆ “ซังอวี๋เป็นคนใต้ ส่วนรสอาหารที่ถูกปากของคุณนี่เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นคนเหนือ พวกคุณสองคนอยู่ร่วมกันยังไง”

ป๋อจิ่งหังเห็นหวันหว่านที่กำลังกินข้าวต้มด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยก็อดยิ้มมุมปากออกมาไม่ได้

“ใครจะไปรู้”

เฉินฝานซิงชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะมองป๋อจิ่งหังด้วยความแปลกใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างคนสองคน เธอเองก็ถามอะไรมากไม่ได้

ป๋อจิ่งชวนกวาดสายตาไปมองป๋อจิ่งหังแวบหนึ่ง ก่อนจะพูดหน้าตาย

“ในเมื่อกลับมาแล้ว แต่งงานก็แต่งแล้ว หยุดคิดเล่นสนุกสักแป๊บ พรุ่งนี้เข้าไปที่บริษัท เก้าอี้ตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารนายต้องจับไว้ให้มั่น”

ป๋อจิ่งหังสูดหายใจเข้าลึก

“เจอหน้าทีไรไม่เคยมีเรื่องดีๆ เลย”

ป๋อจิ่งชวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา ดวงตาดำขลับดูลึกซึ้ง

ป๋อจิ่งหังโดนจ้องจนรู้สึกรำคาญ สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

“รู้แล้ว ฉันรู้จักความพอดีน่า ให้เวลาฉันอีกหน่อย มีหลายเรื่องที่ยังวางแผนไม่เรียบร้อย”

ป๋อจิ่งชวนหรี่ตาของเขาลงอย่างไม่ใส่ใจ “มีเรื่องยังวางแผนไม่เรียบร้อย นายยังมีกะจิตกะใจมาเลี้ยงเด็กอยู่ที่บ้านเหรอ”

“ฉัน…”

ป๋อจิ่งชวนหันไปมองหวันหว่าน แล้วพูดเสริมขึ้นมาอีกคำ

“ดูพี่สะใภ้”

“…”

“นายให้ผู้หญิงเลี้ยงนายเหรอ”

“…”

“ไม่ยักรู้ว่านายจะมีความสามารถในการเป็นแมงดาได้ด้วย”

“นายพอได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ผู้หญิงคนนั้นถูกญาติของเธอกลืนกินทั้งเป็นไปแล้ว”

ป๋อจิ่งชวนยังคงหน้านิ่งต่อไป “เพราะงั้น นี่ก็เลยเป็นเหตุผลที่นายให้ผู้หญิงเลี้ยงงั้นเหรอ”

ป๋อจิ่งหังรีบโบกมือปฏิเสธทันที “พอกันที เกี๊ยวนั่นฉันไม่กินแล้ว พอใจหรือยัง”

ป๋อจิ่งชวนขมวดคิ้ว ไม่ได้พูดอะไรต่อ

ข้าวต้มในถ้วยของหวันหว่านก็กินหมดแล้ว เฉินฝานซิงเห็นความเข้าอกเข้าใจกันของป๋อจิ่งชวนและป๋อจิ่งหังสองพี่น้องที่ซ่อนอยู่ลางๆ ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาไม่น้อย

บางครั้ง ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยลองจิตนาการมาก่อนว่าคนอย่างป๋อจิ่งชวน ถ้าอยู่กับน้องชายจะมีท่าทางแบบไหน

บางที อาจจะแค่ต่างฝ่ายต่างใช้ชีวิตของตัวเอง บางที ในวงศ์ตรตะกูลยิ่งใหญ่ที่ร่ำรวยขนาดนี้ การห้ำหั่นกันทั้งต่อหน้าและลับหลังระหว่างพี่น้องคงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อมาเห็นวันนี้ เธอคงจะคิดมากไปเอง

“เอาเถอะ ผู้หญิงคนนั้นจนป่านนี้แล้วก็ยังไม่กลับมา หวันหว่านก็คิดถึงเธอแล้ว ฉันพาเธอกลับไปก่อนแล้วกัน”

เวลานี้ หวันหว่านนั่งอยู่ในอ้อมแขนของเฉินฝานซิง ท่าทางเชื่อฟัง กำลังมองดูเฉินฝานซิงที่ใช้กระดาษทิชชูพับกระต่ายให้เธออยู่ ดวงตาเป็นประกายกลมโตของเธอช่างน่ารักจับใจ

หวันหว่านคิดถึงซังอวี๋แล้วงั้นเหรอ

ซะที่ไหนกัน

เห็นๆ อยู่ว่าเชื่อฟังขนาดนี้

ไม่รอให้เฉินฝานซิงโต้แย้ง ร่างสูงตระหง่านของป๋อจิ่งหังก็ลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะหิ้วหวันหว่านที่นั่งอยู่ในอ้อมแขนของเฉินฝานซิงขึ้นไปด้วย

หวันหว่านถูกหิ้วปกเสื้อด้านหลัง แขนที่เต็มไปด้วยเนื้อแน่นๆ และขาสั้นๆ ของเธอดิ้นไปมาอยู่กลางอากาศครู่หนึ่ง หลังจากที่การดิ้นขัดขืนไม่เป็นผล สุดท้ายก็ยอมปล่อยให้ป๋อจิ่งหังหิ้วเธออยู่กลางอากาศไม่ขยับเขยื้อน

ท่าทางที่จำใจยอมรับของเธอนั้นทำให้เฉินฝานซิงรู้สึกปวดใจไปตามๆ กัน

“ใครเขาดูแลเด็กแบบนี้กัน อย่าดึงปกเสื้อของเธอสิ ถ้าคุณรัดคอเธอขึ้นมาจะทำยังไง”

“เหอะ ผู้ชายจะไปละเอียดอ่อนขนาดนั้นได้ไง”

เฉินฝานซิงกุมขมับ “เธอยังเป็นแค่เด็กอยู่ อีกอย่างเป็นเด็กผู้หญิงด้วย คุณจะอ่อนโยนสักหน่อยไม่ได้เหรอ”

ป๋อจิ่งชวนยืนพยักหน้าเอออออยู่ด้านข้าง “ใช่ ป่าเถื่อน”

ป๋อจิ่งหังกัดฟันกรอด พวกนายเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยดีจริงๆ

ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยปากพูดอะไร สายตาของป๋อจิ่งชวนก็หันไปทางเฉินฝานซิง แล้วพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “ผมไม่เหมือนเขาหรอกนะ”

เฉินฝานซิงหัวเราะร่า

“…”

ป๋อจิ่งหังแทบจะกระอักเลือดลงไปตรงนั้น ผู้ชายที่กำลังทำท่าอ้อนวอนขอคำชื่นชมอยู่ตรงหน้านี่ ใช่พี่ชายแท้ๆ ของเขาจริงเหรอ

หันกลับไปดูอีกที พี่ชายของเขาก็หุบยิ้มที่ให้กับเฉินฝานซิงไปเรียบร้อย ก่อนจะหันมามองเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน

“บอกให้นายอุ้มให้ดีๆ ไม่ได้ยินหรือไง”