ณ กรมบังคับกฏ

 

การสนทนาระหว่างศิษย์อาจารย์ยังคงดำเนินต่อไป

 

“อาจารย์ ผู้หญิงที่เป็นคนช่วยหนูไว้เมื่อครู่ ได้มอบใบไม้ให้กับหนู แล้วจู่ๆมันก็เกิดการทำงานขึ้น ผลักดันให้หนูสามารถตัดผ่านขอบเขตเดิมของตัวเองได้”

 

“งั้นหรอ แต่มันก็เป็นเรื่องปกตินะ ที่เธอจะทำแบบนั้นกับเจ้า”

 

“แท้จริงแล้วเธอเป็นใครกันแน่คะอาจารย์”

 

“ ครั้งหนึ่ง  .. เอ่ออออ ถ้าจะให้เรียกก็คงจะเป็นสหายล่ะมั้ง”

 

ซูเซี่ยเอ๋อแสดงท่าทีไม่อยากจะเชื่อ

 

“ก็ได้ๆ ข้ายอมรับว่าเธอกับข้าเคยเกินเลย ไปไกลกว่าคำว่าสหาย ” จอมมารทะเลเลือดกล่าวด้วยรอยยิ้มราวกับว่าได้ตกลงสู่ห้วงความทรงจำในครั้งอดีต

 

“ในตอนที่ข้ายังเยาว์ ข้าได้เดินทางออกจากเกาะหมอก พเนจรไปยังดินแดนชิงอำนาจ หมายจะเห็นโลกกว้าง”

 

“จากนั้น ข้าก็ได้พบกับเธอ”

 

“ผู้หญิงคนเมื่อครู่นี้น่ะหรอคะ?”

 

“ใช่ พวกเราสนิทกันมาก วันคืนเหล่านั้นช่างแสนสุข แต่ละคนต่างก็รู้สึกดีต่อกันและกัน”

 

“แต่ตอนนี้เธอดูเหมือนว่าจะโกรธมาก”

 

“ตอนแรกข้าไม่รู้ถึงสถานะที่แท้จริงของเธอ ไม่ชัดเจนว่าเธอมีอำนาจอันน่าอัศจรรย์ใจเพียงใด ดังนั้นครั้งหนึ่งข้าจึงเคยพลั้งเผลอไปคาดการณ์โชคชะตาของเธอโดยพลการ และสัมผัสได้ว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย” จอมมารทะเลเลือดฝืนยิ้มอย่างขมขื่น

 

เขาเยาะหยันตนเองและกล่าว “ในช่วงเวลานั้น ข้าก็ได้ทำแบบเดียวกันกับเจ้า”

 

ซูเซี่ยเอ๋อ “แล้วเธอก็โกรธมากกับการตัดสินใจของอาจารย์งั้นหรอ?”

 

“ใช่ เมื่อเธอค้นพบความจริง เธอก็ทิ้งข้าไปทันที โดยไม่ให้โอกาสข้าได้อธิบายอีกเลย”

 

“ผ่านพ้นมานานกว่า 10000 ปี เธอก็ยังไม่เคยที่จะให้อภัยข้า สำหรับการกระทำที่ข้าคิดว่ามันถูกต้องในตอนนั้นเลย”

 

ซูเซี่ยเอ๋อเงียบไปครู่หนึ่งจึงกล่าว “แต่หนูทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นฉิงซานตาย หนูค่อนข้างคิดว่าตัวเอง … ”

 

ทันใดนั้นเธอก็เริ่มวิตกกังวลทันที “อาจารย์ หนูร้องขอให้ท่านช่วยเหลือเขาจะได้ไหม?”

 

จอมมารทะเลเลือดเฝ้ามองซูเซี่ยเอ๋อ แล้วถอนหายใจออกมา “เด็กโง่ .. ”

 

เขาครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง สุดท้ายจึงเอ่ยปาก “จงนำไพ่สามใบนั้นออกมา”

 

ซูเซี่ยเอ๋อลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็จั่วไปในความว่างเปล่าสามครั้ง

 

และทันใดนั้นไพ่ทั้งสามใบก็ปรากฏออกมา

 

ของขวัญจุมพิตจากแม่มด คำสาบานของพันธนาการ และจอมมารคุ้มภัย

 

เนื่องจากพวกมันได้ถูกทำลายลง ดังนั้นแสงที่ปรากฏออกมาบนไพ่ทั้งสามใบจึงดูริบหรี่มาก

 

จอมมารทะเลเลือดรับไพ่ทั้งสามใบมา ปากอ้าขยับร่ายคาถาอย่างเงียบๆ

 

เอ่ยพึมพำอยู่กว่า 20 ลมหายใจ ก่อนที่จะปล่อยไพ่ทั้งสามลอยไปในอากาศ

 

แล้วไพ่ใบใหม่ก็ปรากฏขึ้นในมือของจอมมารทะเลเลือด

 

บนไพ่ใบนี้ ไม่มีสิ่งใดอยู่เลยนอกจากห่วงโซ่เส้นใหญ่

 

“เจ้ารู้ไหมว่าข้าเคยมีสหายมากมาย แต่สุดท้าย ภายหลังพวกเขาก็ไม่มีใครยอมติดต่อกับข้าอีกเลย” จอมมารทะเลเลือดกล่าว

 

“ทำไมกัน?” ซูเซี่ยเอ๋อเอ่ยถาม

 

“เพราะในทุกๆครั้งที่เราออกไปสู้รบ ข้ามักจะจัดการทุกอย่างได้อย่างถูกต้องไว้ล่วงหน้าเสมอๆ”

 

“ถ้าเป็นแบบนั้น ทุกคนก็สมควรที่จะชอบท่านอาจารย์สิ”

 

“ไม่ใช่หรอก ส่วนเหตุผลน่ะหรือ นั่นเป็นเพราะข้าได้กำจัดศัตรูทั้งหมดล่วงหน้าจนสิ้น และคอยเฝ้ารอสหายที่กำลังไล่ตามมาด้วยความกระตือรือร้นจนทัน เมื่อพวกเขามาถึง ก็จะเห็นข้าที่กำลังยืนถือแก้วไวน์ ดื่มกินท่ามกลางกองซากศพ – พอมองย้อนนึกไปถึงสีหน้าของพวกเขาในตอนนั้นแล้ว อ่าาา มันช่างน่ารื่นรมย์เสียจริงๆ ”

 

“อาจารย์ ท่านทำแบบนั้น … ก็คงจะแน่อยู่แล้วที่ไม่มีใครจะมาติดต่อกับท่านอีก”

 

“ฉะนั้นก็จงเรียนรู้จากความผิดของผู้อื่นซะ แม้ตัวเจ้าจะโดดเด่น แต่ในยามที่ไม่ว่าจะเพื่อนหรือแฟนกำลังต่อสู้ เจ้าก็ต้องรู้นิสัยพวกเขา เข้าใจถึงทัศนคติของพวกเขาในฐานะมิตรแท้ เจ้าไม่สามารถกระทำแบบ-เดียว-กัน กับข้าได้ … อืมม แบบนี้มันเรียกว่าอะไรนะ?”

 

“จิตวิปริต?”

 

“ไม่ๆ ฟังดูร้ายแรงจัง ขอเป็นสำนวนจะได้หรือไม่?”

 

“ทำตนคล้ายกับกระเรียนในฝูงไก่”

 

“ใช่ คำนี้แหละสมบูรณ์แบบไปเลย”

 

จอมมารทะเลเลือดดีดนิ้วจนเกิดเสียง ‘เป๊าะ’

 

แล้วไพ่ใบที่มีห่วงโซ่เส้นใหญ่ก็สาดกลุ่มแสงออกมา เข้าปกคลุมไพ่ของขวัญจุมพิตจากแม่มด , คำสาบานของพันธนาการ และจอมมารคุ้มภัย

 

“นี่คือภาพลวงตาติดตาม เป็นทริคเล็กๆน้อยๆ แต่มันต้องใช้พลังระดับข้าในปัจจุบันเท่านั้น ถึงจะสามารถใช้เทคนิคนี้ได้  มันสามารถช่วยแสดงภาพลวงตาติดตามของผู้ที่เคยเอาชนะไพ่ของของเจ้า และแสดงสถานการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ว่าคนๆนั้นกำลังทำอะไรอยู่กันแน่” จอมมารทะเลเลือดอธิบาย

 

เห็นแค่เพียงในแสงและเงา ร่างของกู่ฉิงซานปรากฏขึ้น

 

เขาอยู่ท่ามกลางพายุหิมะ

 

ซึ่งเป็นโลกสมบัติของทริสเต้

 

ในโลกที่มีผู้เข้าสู่วิถีมารกว่าร้อยล้านคน

 

—เชื้อไฟกำลังส่งยอดฝีมือออกมา เพื่อต้องการที่จะฆ่ากู่ฉิงซาน

 

ในหัวใจของซูเซี่ยเอ๋อหนักอึ้งขึ้นทันใด

 

“ท่านอาจารย์ ตอนนี้เขาตกอยู่ในอันตรายมากไหม”

 

“อย่าถามข้า เทคนิคมนตรานี้ของข้าทำได้เพียงลอบสอดแนมเขาเท่านั้น มิอาจทำอื่นใดได้อีก”

 

“งั้นพวกเราจะไปอัลเบอัสกันในตอนนี้ … ”

 

“ไม่ แบบนั้นไม่ดีหรอก เพราะเทสส์คงกำลังวุ่นเกี่ยวกับการตระเตรียมการต่อสู้เป็นแน่ พวกเราไม่สามารถไปได้ เพราะมันจะเป็นการทำให้ศัตรูไหวตัวทัน”

 

“ถ้าอย่างงั้นพวกเรา – ”

 

“เราจะอยู่ที่นี่ และไม่ไปไหนทั้งนั้น”

 

จอมมารทะเลเลือดกล่าวอย่างจริงจัง “เซี่ยเอ๋อ เจ้ายังไม่ทราบเลยมิใช่หรือ ว่าเขาสามารถทำลายทั้งสามเทคนิคไพ่ของเจ้าได้ยังไง?”

 

“ถ้าอย่างงั้นเจ้าก็คอยเฝ้าดู แล้วทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเขาให้มากขึ้นซะก่อนเถอะ ไม่อย่างนั้นแล้วเจ้าจะร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาได้อย่างไร?”

 

ซูเซี่ยเอ๋อพอได้ฟังก็ชะงักไป

 

ปากที่กำลังโต้เถียงค่อยๆหุบลง คู่ดวงตางดงามค่อยๆเบนมองไปยังแสงและเงา ตกลงบนร่างของกู่ฉิงซานและไม่ละจากไปอีกเลย

 

….

 

อีกด้านหนึ่ง

 

กู่ฉิงซานกำลังกำลังขี่ปีกแห่งดินแดนชำระล้าง ควบไปตามผืนน้ำแข็ง

 

ทว่าทันใดนั้นเอง จู่ๆก็ปรากฏร่างเงาขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่า และมันก็เอื้อมมือไปกดลงเบาๆเบื้องหลังปีกแห่งแดนชำระล้าง

 

และทั้งคน วิหค และม้า ก็หายวับไปพร้อมกัน

 

พวกเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางจักรวาลอันมืดมิด ทว่าเต็มไปด้วยดวงดาราบนฟากฟ้า

 

“เพื่อหลีกเลี่ยงการค้นพบ พวกเราเลยต้องเว้นระยะจากมันไปชั่วคราว แต่ขอบอกก่อนนะว่าสถานที่แห่งนี้สามารถอยู่ได้ 1 นาทีเท่านั้น ดังนั้นพวกเรามาทำให้เรื่องยาวๆมันสั้นๆกระชับกันจะดีกว่า” เลดี้เทสส์กล่าวอย่างรวดเร็ว

 

“เจ้าหนูสมาคมกำปั้นเหล็ก” เธอหันไปกล่าวกับกู่ฉิงซาน “แฟนของเจ้าได้ทำสิ่งที่โง่เง่านัก หากไม่ใช่เพราะเราออกหน้าลงมือปกป้องแล้วล่ะก็ เธอคงตายลงเพื่อเจ้าไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้โชคชะตาจึงหวนกลับคืน … เจ้าจะกล้ากลับไปรับโชคชะตาอันตรายแทนที่เธอหรือไม่?”

 

“ขอน้อมรับด้วยความยินดี” กู่ฉิงซานประสานกำปั้นไปทางอีกฝ่ายและกล่าว “โชคดีจริงๆที่ท่านลงมือ ตอนนี้ผมติดหนี้ท่านแล้ว”

 

“นี่เจ้าไม่หวาดเกรงว่าจะพบเผชิญกับชะตากรรมอันเลวร้ายหรือ?”

 

“หากว่ากันตามปกติแล้ว มันต่างหากที่สมควรจะกลัวผม”

 

“ยอดเยี่ยม ประโยคนี้ช่างเหมาะสมกับชายชาตรีโดยแท้”

 

เทสส์พยักหน้า และมองดูกู่ฉิงซานด้วยความพึงพอใจมากขึ้น

 

“ว่าแต่แฟนของผมไปอยู่ที่ไหนแล้ว?”

 

“เราได้พาเธอไปมอบให้แก่อาจารย์ของเธอแล้ว จงวางใจเถอะ แม้ว่าอาจารย์ของเธอจะโง่ แต่ความแข็งแกร่งของเขาไม่เลวร้ายเลย”

 

ภายนอกแสงและเงา จอมมารทะเลเลือดเผลอบีบแก้วไวน์ในมือจนแตก เขาสะบัดๆมือ แล้วเปลี่ยนแก้วใหม่

 

ในหัวใจของกู่ฉิงซานจึงค่อยผ่อนคลายลงชั่วคราว

 

แล้วสายตาของเทสส์ก็หันไปมองลอร่า

 

“เรายังสามารถอยู่ต่อได้อีกเพียงไม่กี่สิบวินาทีสุดท้าย ลอร่า เจ้าไม่มีอะไรจะบอกเราเลยงั้นหรือ?”

 

“ป้าเทสส์!—”

 

ลอร่าวิ่งเข้าไปจับมือของเทสส์ น้ำใสๆไหลรินจากสองตา ขณะที่ปากอ้าขยับบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างอย่างรวดเร็ว

 

เลดี้เทสส์รับฟังอย่างตั้งใจ และพยักหน้าเล็กน้อยเป็นครั้งคราว

 

ในที่สุดเธอก็ถอนหายใจและกล่าว “สงครามคงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วสินะ”

 

เทสส์มองไปยังกู่ฉิงซานและกล่าวต่อ “นี่เป็นเพียงร่างเงาที่แทรกแซงเข้ามา ดังนั้นเราจึงไม่สามารถพาลอร่ากลับไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากอยู่ที่อัลเบอัส  ทริสเต้คงจะสามารถค้นพบตำแหน่งของเธอได้ง่ายดายกว่าที่นี่อย่างแน่นอน”

 

“ในกรณีนั้น ทริสเต้ก็จะสามารถถอดรหัสผนึกประทับเทคนิคมนตราจากตัวลอร่าได้ในทันที”

 

“เมื่อทริสเต้สามารถเชื่อมต่อกับโลกของตัวเองได้แล้ว เธอก็จะเปิดมัน และเริ่มแพร่เกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออกไปตลอดทั่วทั้งอัลเบอัส”

 

“ผมเข้าใจแล้ว ตอนนี้กุญแจสำคัญทั้งหมด อยู่ที่ตัวลอร่า” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“ใช่” เลดี้เทสส์กล่าว “ลอร่าจะต้องไม่ปรากฏตัวขึ้นชั่วคราว มิฉะนั้นแล้วเผ่ามารนับล้านๆที่ซุ่มซ่อนอยู่ในมุมมืด ก็จะลงมือปฏิวัติ เข้ายึดครองอัลเบอัสโดยตรง แล้วสงครามของตลอดทั้งโลก 900 ล้านชั้นก็จะเริ่มต้นขึ้นทันที”

 

“ดังนั้นพวกเราก็จะไม่ออกไปภายนอกชั่วคราว เพื่อให้แน่ใจว่าทริสเต้จะไม่สามารถค้นพบโลกใบนี้ได้” กู่ฉิงซานกล่าว

 

เทสส์พยักหน้าเล็กน้อย และเอ่ยถามอีกครั้ง “ลอร่าบอกว่าเจ้าสาบานว่าจะช่วยชีวิตเธอให้ได้ใช่ไหม?”

 

“ใช่”

 

“ดีมาก สมกับที่เป็นสมาชิกของสมาคมกำปั้นเหล็กจริงๆ ” เทสส์กล่าวด้วยความพึงพอใจ

 

“เอาล่ะ ถึงเวลาที่ข้าจะต้องรีบกลับไปเพื่อเตรียมตัวรับมือกับสงครามแล้ว แล้วเจ้าเล่า? พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับโชคชะตาดั้งเดิมของตนเองแล้วหรือยัง?”

 

กล่าวจบ เธอก็หายไปจากสถานที่เดิม

 

บังเกิดอาการพร่ามัวขึ้นเบื้องหน้าของกู่ฉิงซาน

 

รู้สึกตัวอีกที เขาก็ค้นพบว่าตนเองได้กลับมายังโลกของทริสเต้อีกครั้งแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม สถานที่ๆถูกส่งกลับมา มันดันเป็นอีกจุดหนึ่ง

 

บริเวณโดยรอบรายล้อมไปด้วยหมอกน้ำแข็งเย็นฉ่ำ

 

เมื่อจิตสัมผัสเทวะถูกปลดปล่อยออกไป แทบจะในทันทีก็พบว่าไม่ใกล้ไม่ไกล หลายสิบคนกำลังจัดกระบวนทัพป้องกันอย่างแน่นหนา คล้ายกำลังรอรับมือกับอะไรบางอย่างอยู่

 

บริเวณโดยรอบฟุ้งไปด้วยไอน้ำจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็มีสามแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่กำลังลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า

 

มันคงจะเกิดจากกระแสธารอันเชี่ยวกราดใต้ผืนน้ำแข็ง ซึ่งถูกดึงดูดขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยพลังอำนาจบางอย่าง

 

โลกถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง ขณะที่ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว คล้ายกับทุกสิ่งอย่างถูกแช่แข็งเป็นเวลาหลายปี

 

กู่ฉิงซานหันไปมองรอบๆ และสามารถเข้าใจทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็ว

 

สถานที่แห่งนี้คงเป็นที่ๆซูเซี่ยเอ๋อเคยยืนอยู่

 

ขณะที่เธอกำลังจะตาย เธอก็ได้รับการช่วยเหลือจากเลดี้เทสส์อย่างกระทันหัน

 

ผู้หญิงคนนั้นได้ทำลายเทคนิคเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของซูเซี่ยเอ๋อ

 

ดังนั้นตอนนี้ เขาจึงถูกส่งกลับมายังโชคชะตาเดิมของตนอีกครั้ง

 

กู่ฉิงซานส่ายหัว

 

ลอร่ามองผ่านหมอกหนาด้วยกล้องส่องทางไกล และเอ่ยว่า “ข้างหน้ามีคนอยู่เยอะเลย”

 

“ใช่ เชื้อไฟคงส่งพวกเขามาจับกระหม่อม แท้จริงแล้วที่คือสถานการณ์ที่หม่อมฉันจะต้องเผชิญ”

 

“งั้นตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?” ลอร่าเอ่ยถาม

 

กู่ฉิงซานกระโดดลงจากหลังม้า หนึ่งมือหยิบหน้ากากเงินขึ้นมาสวมใส่บนใบหน้า

 

เอ่ยสั่งด้วยความนึกคิด พริบตานั้นสามดาบพลันปรากฏขึ้นจากในความว่างเปล่า เวียนวนโคจรรอบตัวเขา ลอยล่องท่ามกลางหมอกหนา

 

“จุดจบของพวกเขา … จะเป็นเช่นเดียวกันกับเชื้อไฟ!”

 

หนึ่งมือดาบค้ากุมดาบพิภพที่ลอยล่อง สองเท้าย่างกรายข้ามฝ่าหมอกหนาเย็นฉ่ำ มุ่งหาศัตรูเบื้องหน้าไปอย่างเชื่องช้าทีละก้าว ทีละก้าว …