บทที่ 52 ความแข็งแกร่งของอู่จื่อ ดินแดนลับแห่งโอกาส

จอมบงการเทพยุทธ์

บนผนังหินสลักเป็นประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์

ประวัติศาสตร์อันน่าเหลือเชื่อ

ยุคดึกดําบรรพ์ช่างเป็นยุคทองที่มั่งคั่งและสดใส

เหล่าราชันผู้กําแหงนับหมื่นรวมตัวกัน ความชั่วร้ายอันไร้ผู้เทียบได้ปรากฏขึ้น และเป็นที่สงสัย ว่าสายเลือดของจอมจักรพรรดึกดําบรรพ์ปรากฏตัวขึ้นในโลกเพื่อยึดครองทั่วทั้งจักรวาล

แต่ไม่ว่าจะเป็นราชันผู้กําแหง ทรราชผู้เหี้ยมโหด หรือแม้แต่โอรสของจักรพรรดิโบราณก็ยังไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับจอมจักรพรรดิอู่จื่อในวัยเยาว์

ทุกสิ่งถูกทําลายโดยเขา ราบเรียบเป็นหน้ากลอง เขาก้าวขึ้นเป็นจอมยุทธ์ระดับสุดยอดโดยไร้ข้อกังขา เป็นดั่งตํานาน

“จอมจักรพรรดิออแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์… แข็งแกร่งเพียงนี้เลยรี ! ?”

“ยุคทอง ! เหล่าราชนผู้กําแหงนับหมื่นรวมตัวกันแต่ก็ไม่อาจต้านทานจอมจักรพรรดิอู่จื่อได้แม้แต่นิดเดียว ! ”
“ก้าวต่อไปจนสุดทาง เส้นทางนี้เป็นเส้นทางของผู้ไร้เทียมทานจริงๆ !”

เมื่อมองไปที่หินสลัก ผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์ของกองกําลังต่างๆก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ และตกตะลึงอยู่ในใจอย่างอธิบายไม่ถูก

นี่คือตัวตนของจอมจักรพรรดิอู่จื่ออั้น ?

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว !

มันไม่เคยมีการต่อสู้ เขาไม่เคยต่อสู้อย่างดุเดือด มีแต่การทําลายล้างสิ่งกีดขวางที่อยู่เบื้องหน้าออกไป

มันเป็นความภาคภูมิใจอันแรงกล้า ที่น่าตกตะลึงไปถึงหัวใจ ยากที่จะเป็นควบคุมตัวเองได้

แต่ยังไม่จบแค่นั้น

ของจริงเพิ่งจะเริ่ม

เหนือผนังหินสลัก ม้วนคัมภีร์หินสลักค่อยๆ คลี่ออกต่อหน้าฝูงชน

ฝุ่นที่สะสมมานานปีค่อยๆ ร่วงหล่น เนื้อหาค่อยๆ ถูกเปิดเผย !

จอมจักรพรรดิอู่จื่อเดินผ่านเส้นทางจักรพรรดิและพิสูจน์ตนในฐานะจักรพรรดิ วันอันรุ่งโรจน์ของเขาเพิ่งเริ่มต้นขึ้น

ในตอนนั้น ยุคทองช่างสดใส ทุกเผ่าพันธุ์กําลังเฟื่องฟู และสิ่งมีชีวิตที่คาดไม่ถึงหลากหลายชนิดก็ได้ถือกําเนิดและอยู่ร่วมกันในจักรวาล

เพลิงสงครามกําลังลุกไหม้ในสรวงสวรรค์ ความมืดที่เกินกว่าจะจินตนาการได้ปกคลุมพิภพทําให้เกิดหายนะไปทั่วทุกทิศทาง

แต่จอมจักรพรรดิอู่อนั้นถึงระดับสุดยอดแล้ว ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลง

เขาเพียงคนเดียว สั่นสะเทือนทั้งสรวงสวรรค์ ขจัดความมืดมิดอันสับสนวุ่นวาย กําจัดเทพปีศาจนอกรีตสยบทุกเผ่าพันธุ์ สูงส่งเพียงผู้เดียวในฟ้าดิน !

ไม่ว่าจะเป็นเป็นภัยคุกคามหรือความไม่สงบ เมื่อมันกล้าปรากฏขึ้นในโลกนี้ ก็จะถูกกราบจนสิ้น !

ความแข็งแกร่งและความเหี้ยมหาญถึงขีดสุด !

นั่นเป็นช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์และรุ่งเรืองของเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างแท้จริง

มีจอมจักรพรรดิอู่จื่อผู้คงกระพันอยู่ในโลก มนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามที่สุดทั้งเก่าสวรรค์สิบชั้นภพ

เขาผลักดันพลังจอมจักรพรรดิโบราณจนถึงขีดสุด !

ถึงตอนนี้ จิตรกรรมฝาผนังก็ได้จบลง

นั่นเป็นช่วงชีวิตอันรุ่งโรจน์ของจอมจักรพรรดิโบราณแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์

เขากําเนิดมาบนโลกและสั่นสะเทือนไปทั่วทุกสารทิศ

ท้ายที่สุด ก็ไม่มีความวุ่นวายอีกต่อไป

เพราะไม่มีผู้ใดกล้าก่อความไม่สงบ ในขณะที่จอมจักรพรรดิอู่จื่อยังมีชีวิตอยู่

นอกจากตายแล้วก็ไม่มีทางเลือกอื่นเลย

“จอมจักรพรรดิอู่จื่อ…”

ผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์หลายคนพึมพํากับตัวเอง

เมื่อครั้งแรกที่ได้ยินชื่อเขา พวกเขายังไม่รู้สึกอะไรมาก

แค่คิดว่านี่คือจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ควรได้รับการปฏิบัติด้วยความสุภาพและให้เกียรติ

แต่หลังจากอ่านเนื้อหาหินสลักเหล่านี้ หลังจากได้รู้ประสบการณ์จริงของจอมจักรพรรดิอู่จื่อ

ความเทิดทูนและชื่นชมต่อจอมจักรพรรดิอู่ฉือในใจทุกคนก็สูงขึ้นถึงขีดสุด !

ค่าสี่คํา จอมจักรพรรดิอู่จื่อ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อ

มันราวกับว่าจะมีพลังเซียน ทั้งศักดิ์สิทธิ์และน่าพิศวง

ราวกับมีน้ําหนักดั่งขุนเขาเทพนิรันดร์ เหมือนว่ามันสามารถบดขย์จักรวาลอันเป็นนิรันดร์ได้ !

เจ้าได้รับแต้มตกใจ +12,276 จากผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชู !!

เจ้าได้รับแต้มตกใจ +13,413 จากผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์คู่เหิง !!

“เจ้าได้รับแต้มตกใจ +2,233 จากชุนอู่เนี่ยน !!

เจ้าได้รับแต้มตกใจ +1331 จากคู่จิ๋วชาง !!

“เจ้าได้รับ…

แต้มตกใจของฉันม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

ประวัติศาตร์ที่ถูกเปิดเผยโดยผนังหินสลักได้ผลักความตกใจในหัวใจของทุกคนให้สูงขึ้นจนถึงขีดสุด

แน่นอนว่าแต้มตกใจที่ฉันม่ได้รับก็สูงตามไปด้วย

“เอาล่ะ แต้มตกใจก็เพิ่มขึ้นหนึ่งล้านหนึ่งแสนแล้ว ! ”

ฉันม่มองดูแต้มตกใจของเขาพร้อมด้วยรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก

ตั้งแต่ที่ผู้ฝึกยุทธ์ชื่อลู่เสอแบกอนุสรณ์โบราณไปยังเมืองศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งนํามาสู่การเปิดดินแดนลับที่ห้านี้

ฉันก็ได้รับแต้มตกใจถึงหนึ่งล้านหนึ่งแสนแล้ว !

ครั้งนี้ ในการสร้างดินแดนลับที่ห้า ฉันม่ได้ใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก

และใช้แต้มตกใจไปกว่าหนึ่งล้านห้าแสน

แต่ตอนนี้ ดินแดนลับแห่งนี้เพิ่งเปิดได้ไม่นาน มันก็ไม่ห่างไกลที่จะคืนทุน แล้ว

จิตรกรรมฝาผนังบนกําแพงเหมืองได้สิ้นสุดลงแล้ว

แต่ความตกใจในใจของทุกคน ก็ยากที่จะสลายไปอีกนาน

ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้นํากองกําลังเผ่าพันธุ์มนุษย์หลายคนได้ตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้ง โดยนําผู้ฝึกยุทธ์จากกองกําลังของตนไปด้วย และเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง

เสือด่ายักษ์แห่งเผ่าพันธุ์โบราณยังคงตามหลังไปอยู่

อย่างไรก็ตาม เสือดในตอนนี้ได้แตกต่างไปจากเดิมราวกับว่ามันได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปอย่างสิ้นเชิง

มันมีหางซุกอยู่ระหว่างขา ศีรษะหมอบต่ํา และแม้แต่กระแสพลังของมันเองก็จํากัดไว้อย่างระมัดระวัง พยายามทําตัวให้โดดเด่นน้อยที่สุด

และเหตุผลทั้งหมดนี้ แน่นอนว่าเป็นเพราะภาพสลักบนผนังหินก่อนหน้านี้

จอมจักรพรรดิอู่จื่อแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ทําให้มันตกใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ในความรุ่งโรจน์และความรุ่งเรืองขีดสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้แต่จอมจักรพรรดิดึกดําบรรพ์ก็ยังถูกกําราบโดยจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์

เสื้อดํายักษ์ไม่ได้รู้สึกภูมิใจในสิ่งที่เรียกว่าเผ่าพันธุ์โบราณเหมือนเคย และไม่กล้าที่แสดง ความเย่อหยิ่งแม้เพียงเล็กน้อย

ส่วนผู้นํากองกําลังสูงสุดของนิกายเทียนเฉิน ในเวลานี้เขาเอนตัวพิงกําแพงเหมืองอย่างอนาถ และไม่พร้อมที่จะไปต่ออีกเลย

ถ้าไปต่อก็จะยิ่งเห็นเพิ่ม เขาเกรงว่าจิตเต่ของเขาจะสั่นสะเทือนจนแตกเป็นเสี่ยงๆ

เขานึกภาพไม่ออก หากสิ่งที่เขาได้เห็นและได้ยินในวันนี้ได้ถูกแพร่กระจายไปยังเผ่าพันธุ์มนุษย์จะมีผลกระทบอย่างไรบ้างกับนิกายเทียนเฉิน

ในตอนนี้ เขาไม่ได้มีความกระตือรือร้นอีกต่อไป ราวกับนักโทษที่รอการพิพากษาครั้งสุดท้าย

ผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์มากมาย ภายใต้การป้องกันผู้นําของตน ได้เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง

ยิ่งลึกเข้าไป กระแสพลังในเหมืองยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ลึกลงไปในเหมือง แสงอันเจิดจรัสได้ทอประกายออกมาจากจุดๆหนึ่ง

ในที่สุดทุกคนเดินก็ออกจากอุโมงค์เหมืองและมาถึงลานใต้ดินที่กว้างใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้

และเมื่อมาถึง เสียงอุทานที่ควบคุมไม่ได้ก็หลุดมาจากปากแทบทุกคน !

พวกเขาเห็นอะไรงั้นรึ ?

โอสถล้ําค่านานาชนิด หินต้นกําเนิดชั้นเยี่ยมต่างๆ มากมายก่ายกองราวกับของไร้ค่า ไม่ว่าจะ มองไปทางไหนก็เจอ !

บริเวณมุมหนึ่ง มีหญ้าห้าต้นที่มีสีราวกับเพชรโลหิต หญ้าโลหิตทอประกาย ดูดซับกระแสพลังฟ้าดินและปล่อยกลิ่นหอมจางๆออกมา

ในโลกภายนอก หญ้าโลหิต เป็นสมุนไพรอันล้ําค่าที่น่าหวงแหนอย่างยิ่ง ใช้เวลาเกือบร้อยปีกว่าจะเติบโต เพียงต้นเดียวก็เทียบได้กับการฝึกยุทธ์อย่างพากเพียรอยู่หลายปี

แม้แต่กองกําลังอันยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ก็เกรงว่าจะไม่มีสมุนไพรชนิดนี้แม้แค่สองสามต้น

แต่ที่นี่ หญ้าโลหิตทั้งห้าเติบโตอยู่ในที่เดียว

และในที่อื่นๆ ก็ยังมีหญ้าโลหิตอีกจํานวนมากเติบโตอยู่ทั่วไป ราวกับเป็นวัชพืชที่ไร้ค่า

นอกจากหญ้าโลหิตแล้ว ยังมีสมุนไพรล้ําค่าหลายชนิดที่โลกภายนอกต่างต้องห่วงแหน ซึ่งทั้งหมดก็เติบโตไปทั่วราวกับเป็นความฝัน

นอกจากสมุนไพรล้ําค่าแล้วก็ยังมีสมบัติอีกมากมาย

ที่กองพะเนินซ้อนกันราวกับกองขยะ

มีทั้งขุมทรัพย์พิเศษที่เต็มไปด้วยกระแสพลังและพลังงานที่สูงส่ง และหินต้นกําเนิดชั้นยอดอีกด้วย

นับคร่าวๆ ก็เกรงว่าจะมีหลายร้อยชิ้น !

ขุมทรัพย์อันล้ําค่านับร้อยที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณนี้คืออะไร ?

เหมืองต้นกําเนิดทั่วไปแม้ขุดทั้งปี ก็เกรงว่าจะเทียบกับสมบัติไม่กี่ชิ้นของที่นี่ไม่ได้

ถึงแม้จะเป็นกองกําลังเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด ก็เกรงว่าจะเหลืออยู่ในมือไม่มาก

แต่ตอนนี้ แหล่งขุมทรัพย์อันล้ําค่าเช่นนี้ ปรากฏขึ้นหลายรอยชิ้นในคราวเดียว !

กระแสพลังที่ออกมาจากสมบัติล้ําค่านับร้อย แผ่ไปทั่วพื้นที่ใต้ดินทั้งหมด

และแสงที่เล็ดลอดออกมาจากสมบัติเหล่านี้ สวยงามและมีสีสันราวกับสวรรค์บนดิน

“ทรัพยากร ทรัพยากรมากมายมหาศาล !”

เมื่อมองไปที่โอสถสมุนไพรและและขุมทรัพย์ที่สามารถพบเห็นได้แทบทุกที่ในพื้นที่ใต้ดินแห่งนี้ ผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชูก็ถึงกับเสียงสั่น

สิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่โอสถล้ําค่าหรือขุมทรัพย์ สิ่งที่เขาเห็นคือทรัพยากร !

ทรัพยากรที่จะช่วยเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้ลุกขึ้นมาได้ !

ทําไมเผ่าพันธุ์มนุษย์ถึงไม่มีผู้แข็งแกร่งงั้นรี ?

ทําไมเหล่าราชนผู้ก่าแหงถึงเทียบกับเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนไม่ได้ ?

นอกจากพลังฟ้าดินในพื้นที่ครอบครองจะไม่แข็งแรงแล้ว การขาดทรัพยากรและสมบัติที่เพียงพอก็เป็นปัจจัยสําคัญเช่นกัน

แต่นั่นก็เข้าใจได้

ในแดนร้าง จะหาทรัพยากรและสมบัติมากมายได้จากที่ใดกัน ?

สมบัติที่แท้จริงทั้งหมดถูกครอบครองโดยเผ่าพันธุ์หมื่นเซียน และแหล่งที่มาของโอสถวิเศษ ส่วนใหญ่ก็ถูกซ่อนอยู่ในสมบัติเหล่านี้เช่นกัน

ผนวกกับเผ่าพันธุ์มนุษย์มีจํานวนมาก ทรัพยากรและสมบัติก็ถูกแบ่งส่วนและขาดแคลนยิ่งขึ้น

ในฐานะผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชู เขามีสถานะที่โดดเด่น

แต่เพื่อการเติบโตของศิษย์ในนิกาย บางครั้ง ผู้นําเฒ่าแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชูก็ถึงกับต้องไปสํารวจสถานที่อันตรายด้วยตัวเอง

เพื่อให้ได้มาซึ่งโอสถวิเศษเพื่อช่วยให้ศิษย์ได้เติบโต

แต่ตอนนี้ มีโอสถล้ําค่าและหินต้นกําเนิดมากมาย ณ ที่แห่งนี้

สําหรับกองกําลังเผ่าพันธุ์มนุษย์แห่งแดนางตะวันออก นี่เป็นดั่งฝนที่ตกลงมาจากฟากฟ้า !

ด้วยทรัพยากรเหล่านี้ ไม่รู้ว่าจะมีผู้แข็งแกร่งภายใต้กองกําลังเผ่าพันธุ์มนุษย์เกิดขึ้นอีกกี่คน

ความแข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มนุษย์แดนร้างตะวันออกยังจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย !

ย่อมเป็นโอกาสอันดีอย่างยิ่ง !