บทที่ 53 ของขวัญจากฉินมู่ การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่

จอมบงการเทพยุทธ์

พื้นที่ใต้ดินนั้นงดงามมาก ทั้งมิติเปี่ยมไปด้วยกระแสพลัง เป็นเบญจรังสีห้าเฉดแสงพวยพุ่งออกมา

สมุนไพรต่างๆ เติบโตอย่างอิสระภายในที่แห่งนี้ และนอกจากนี้ยังมีกองสมบัติดีๆกองพะเนินซ้อนกันอยู่ในนั้นอีกด้วย

กลิ่นหอมของโอสถโบราณ แหล่งขุมทรัพย์อันงดงาม เหมือนตกอยู่ในภวังค์ ทําให้ผู้คนเห็นภาพลวงตาว่าตนอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์

ผู้นํากองกําลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งห้า เช่นเดียวกับผู้ฝึกยุทธ์จากนิกายต่างๆ เมื่อมองไปที่โอสถอันล้ำค่าและแหล่งสมบัติที่อยู่ทุกหนทุกแห่งในสถานที่แห่งนี้พวกเขาก็ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น

แม้กระทั่งเสือด่ายักษ์ ก็ยังเต็มไปด้วยความตกใจที่ไม่มีใครเทียบได้

เขาไม่เคยเห็นฉากนี้มาก่อน

แม้แต่เผ่าพันธุ์ดึกดําบรรพ์ที่มีรากฐานที่แข็งแกร่ง ก็ไม่เคยครอบครองแหล่งสมบัติและโอสถอันล้ำค่ามากมายเช่นนี้มาก่อน

แต่ตอนนี้ มันกลับถูกพบในเหมืองใต้ดินที่ถูกทิ้งร้างมานับพันๆ ปี มันเหมือนกับความฝันที่สามารถเติบโตที่นี่ได้ตามต้องการ

ภายในพื้นที่ใต้ดิน ฝูงชนต่างก็เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น

ฉินมู่ที่ยืนอยู่ห่างๆ เฝ้ามองปฏิกิริยาของทุกคนและพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

พื้นที่ใต้ดินแห่งนี้ แน่นอนว่ามันเป็นฝีมือของเขา

เพื่อแลกเปลี่ยนโอสถอันล้ำค่าและสมบัติทุกชนิดในสถานที่แห่งนี้ ทําให้เขาต้องเสียแต้มตกใจไปถึง 300,000 แต้ม

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะใช้แต้มตกใจไปเป็นจํานวนมหาศาล ฉันมู่ก็ไม่ได้รู้สึกล่าบากใจใดๆ

ความสําคัญของการจัดดินแดนลับแห่งนี้คืออะไร ?

นอกเหนือจากการสร้างประวัติศาสตร์ของหลายล้านปีก่อนขึ้นมา ทําให้วิญญาณทั้งหมดในโลกต้องตกตะลึงและได้รับแต้มตกใจสําหรับเขาแล้ว

จุดประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดก็คือ การช่วยและส่งเสริมการเติบโตของเผ่าพันธุ์มนุษย์

และการทําเช่นนี้ ไม่ใช่แค่แต้มตกใจเท่านั้นที่ทําได้

เขาสามารถจัดการมรดกบางอย่างในดินแดนลับได้ การสืบทอดด้วยแบบฝึกหัดเดียวหรือคัมภีร์โบราณและการฝึกฝนของราชันผู้กําแหงแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่แข็งแกร่งจํานวนหนึ่ง

เขายังสามารถทิ้งทรัพยากรไว้มากมายในดินแดนลับเหมือนอย่างตอนนี้ ซึ่งได้มาจากนิกายหลักของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เพื่อใช้ฝึกฝนอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์และพัฒนาความแข็งแกร่งโดยรวมให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์

ความแข็งแกร่งของแต่ละบุคคลเป็นสิ่งสําคัญ แต่การพัฒนาความแข็งแรงโดยรวมก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ 300,000 แต้มตกใจอาจเป็นจํานวนมหาศาลสําหรับฉันม่ในตอนก่อนหน้านี้

แต่สําหรับเขาในตอนนี้ มันไม่ได้มากมายเท่าใดนัก

เขาสามารถจัดสร้างดินแดนลับถัดไปได้อย่างสบาย เก็บเกี่ยวแต้มตกใจที่จะได้รับกลับมาอย่างง่ายดาย

และด้วยการใช้แต้มตกใจไปสามแสนแต้มตกใจนั้น ผลลัพธ์ก็มีความชัดเจน

ไม่รู้ว่าผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์จะได้ประโยชน์จากสิ่งนี้มากเท่าไหร่

แต่แน่นอนว่าข้อตกลงนี้คุ้มค่าเป็นอย่างมาก

และไม่ใช่ว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรเหล่านี้ที่ฉันมู่ทิ้งไว้ที่นี่ได้

เช่นเดียวกับผู้ฝึกยุทธ์ของนิกายเทียนเฉิน และสิ่งมีชีวิตดึกดําบรรพ์อย่างเสือด่ายักษ์

แม้ว่าทรัพยากรเหล่านี้จะถูกนําออกไปจากที่นี่ แต่ตราบใดที่ฉันม่ยังไม่ปล่อยดินแดนลับแห่งนี้โอสถอันล้ำค่าและสมบัติทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนกลับเป็นแต้มตกใจและถูกรวบรวมไว้ที่ตัวเขา

เฉพาะผู้ฝึกยุทธ์ที่มีจิตใจห่วงใยเผ่าพันธุ์มนุษย์จริงๆ เท่านั้น ที่มีคุณสมบัติที่สามารถใช้ทรัพยากรต่างๆ ของที่นี่ได้

ที่ทําเช่นนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน

เฉินม่ไม่ต้องการให้ทรัพยากรที่แลกเปลี่ยนด้วยแต้มตกใจทั้งหมดนั้นถูกนําออกไปโดยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์มนุษย์หรือพวกเศษเดนของเผ่าพันธุ์มนุษย์

เขาจะไม่ทําสิ่งที่น่าขยะแขยงเช่นนี้

“จอมจักรพรรดิโบราณปรากฏตัวแล้ว และเขาได้ทิ้งสมบัติและแหล่งโอสถไว้มากมายที่นี่ !”

เสียงผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชูสันสะท้าน และดวงตาของเขาแทบจะพร่าเลือนไปกับความวิจิตรตระการตาและความยอดเยี่ยมของสถานที่แห่งนี้

“โอสถอันล้ำค่าและสมบัติของสถานที่แห่งนี้ ดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นเองในปีต่อๆมาและมีกระแสพลังจากส่วนลึกของถ้ำโบราณที่ไหลเข้ามารวมกันที่นี่

หลังจากผ่านไปหลายพันปี สิ่งนี้นี่แหละที่ทําให้สถานที่แห่งนี้ยอดเยี่ยม”

ผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ยู่เหิง พยายามระงับความตกใจของตนไว้ เมื่อเขารับรู้ถึงสถานการณ์รอบๆ ถ้ำโบราณและวิเคราะห์มัน

ถ้ำใต้ดินอันกว้างใหญ่นี้ ไม่ใช่สถานที่ที่ดีที่สุด

ด้านหลังถ้ำโบราณ ยังคงมีทางเดินยาวและลึกลงไป

มีกระแสพลังฟ้าดินที่แข็งแกร่ง ไหลออกมาจากช่องทางเดินนั้นแล้วไหลเข้าสู่ที่แห่งนี้

บางที มันอาจจะอยู่ภายใต้การปะทุของกระแสพลังทางจิตวิญญาณจํานวนมากนับพันปีในสถานที่แห่งนี้ และสิ่งนี้ได้สร้างฉากอันงดงามที่เต็มไปด้วยโอสถอันล้ำค่าและสมบัติที่กองพะเนินเทินทึกตามใจชอบเช่นนี้

แต่ในขณะที่ทําการอนุมานอยู่นี้ ผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ยเหิงก็มองไปทางถ้ำโบราณที่อยู่ด้านหลังที่เปี่ยมไปด้วยสีสันอันน่าอัศจรรย์

มีอะไรอยู่ในส่วนลึกของถ้ำโบราณนั่นกันแน่?

มันเป็นเพียงกระแสพลังที่เล็ดลอดออกมาเองซึ่งได้ก่อตัวเป็นฉากที่ยอดเยี่ยมของสถานที่แห่งนี้

สิ่งที่อยู่ลึกเข้าไปในถ้ำโบราณแห่งนี้ จะไม่น่าตกใจไปกว่านี้หรอกหรือ ?

“ลืมเรื่องที่เหลือไปเสีย นี่เป็นพรของเราที่ได้พบทรัพยากรมากมายที่นี่ และยังเป็นของขวัญจากจอมจักรพรรดิโบราณของเผ่าพันธุ์มนุษย์อีกด้วย !

พวกท่านทั้งหลาย ทําไมเราไม่แบ่งออกเป็นห้าส่วนเท่าๆ กันล่ะ ?”

หนึ่งผู้นํากองกําลังจากเผ่าพันธุ์มนุษย์เสนอ

“เป็นความคิดที่ดี !”

ผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชูพยักหน้าอย่างเห็นด้วยและพูดว่า

“ด้วยทรัพยากรเหล่านี้ ข้าไม่รู้ว่าจะฝึกฝนความสามารถได้อีกมากแค่ไหน แต่ความแข็งแกร่งของสาวกในนิกายจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก !”

ผู้นํากองกําลังเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งห้าในแดนร้างตะวันออก บรรลุข้อตกลงอย่างง่ายดายและตัดสินใจแบ่งทรัพยากรของที่นี่อย่างเท่าเทียมกัน

พวกเขาจําแนกโอสถอันล้ำค่าและสมบัติในสถานที่แห่งนี้ก่อน จากนั้นจึงแจกจ่ายตามประเภทอย่างเท่าเทียมให้กับผู้นํากองกําลัง

ในเวลานี้ผู้นํากองกําลังทั้งห้าจงใจเพิกเฉยผู้นํานิกายเทียนเฉิน

คงไม่ต้องพูดว่าเขาไม่มา ต่อให้เขามา ทั้งห้าคนก็ไม่อยากจะแบ่งให้เขา

เพราะนี่คือของขวัญจากจอมจักรพรรดิโบราณ สู่เผ่าพันธุ์มนุษย์รุ่นหลัง

ผู้นํานิกายเทียนเฉิน ดูหมิ่นผู้แข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์และบูชาแต่สิ่งที่เรียกว่าเทพเจ้ามิใช่หรือ ?

งั้นก็ให้เทพเจ้าอวยพรเขาแล้วกัน

นี่คือโอกาสและของขวัญที่จอมจักรพรรดิโบราณของเผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้าเหลือไว้นิกายเทียนเฉินอย่าได้คิดเข้ามาเกี่ยวข้อง !

เสื้อดํายักษ์หมอบอยู่ด้านข้าง มองดูผู้นํากองกําลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งห้ากําลังแบ่งสมบัติกันดวงตาของมันเต็มไปด้วยความอิจฉา

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามันจะต้องการรับส่วนแบ่งสมบัติเหล่านั้น แต่หลังจากที่คิดไปคิดมาก็ยังไม่กล้าพูดออกไป

เมื่อเห็นว่าผู้นํากองกําลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งห้ามองไปที่โอสถอันล้ำค่าและสมบัติต่างๆและดวงตาของพวกเขาเป็นสีแดง

ในเวลานี้ถ้ามันอ้าปากพูดออกไปตรงๆ ว่าต้องการเป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์โบราณที่จะรับส่วนแบ่งของสมบัตินี้ เกรงว่าจะจบไม่สวยสักเท่าไหร่

อดใจรอไปก่อน หลังจากออกจากที่นี่ไปแล้ว ก็กลับไปรายงานให้ราชันบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์ทราบ

เสือด่ายักษ์ค่อยๆ สงบลงจากความตกใจที่เพิ่งประสบมา

มันก็คิดอะไรบางอย่างออก

“แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์นี้มีจอมจักรพรรดิที่สามารถเทียบได้กับจักรพรรดิโบราณในยุคก่อนประวัติศาสตร์ แต่แล้วอย่างไรล่ะ ?

ตอนนี้เวลาได้ผ่านไปหลายล้านปีแล้ว จอมจักรพรรดิโบราณก็ได้ล่วงลับไปแล้วและเขาได้ทิ้ง มรดกไว้ให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะทําให้เผ่าพันธุ์หมื่นเซียนต้องรู้สึกอิจฉา

ไม่ว่าประวัติศาสตร์จะรุ่งโรจน์เพียงใด มันก็แค่ประวัติศาสตร์ มันจะไปมีประโยชน์อะไร ?

มีเพียงมรดกทางประวัติศาสตร์เท่านั้นที่เป็นของจริง !

หากปราศจากรากฐานเหล่านี้ เผ่าพันธุ์หมื่นเซียนก็ยังคงดูถูกเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ต่อไป

ท้ายที่สุดแล้ว เผ่าพันธุ์มนุษย์ในปัจจุบันก็ไม่มีจักรพรรดิเลยแม้แต่คนเดียว

เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มุมปากของเสือดําก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา

“แล้วความสุขของการแบ่งปันสมบัติในตอนนี้ล่ะ ?

เมื่อเวลานั้นมาถึง สมบัติและโอกาสเหล่านี้จะไม่ถูกมอบให้กับราชันบรรพบุรุษของพวกพวกเจ้าแต่จะถูกมอบให้กับสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์โบราณที่ทรงอานาจ !!