ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 46
ชีวิตทั้งก่อนหน้าและตอนนี้ของจื่ออาน ช่างเดียวดายเหลือเกิน ชาติที่แล้วก็เป็นเช่นนี้ ชาตินี้ก็เช่นกัน ไม่มีใครสนว่าเธอจะมีชีวิตอยู่หรือตายไปเลยงั้นหรือ?เธอกลั้นน้ำตาแล้วพูดเบา ๆ ว่า “การมีชีวิตอยู่ดีกว่าตาย การมีชีวิตอยู่มีความหวังสำหรับทุกสิ่ง หากตายทุกสิ่งทุกอย่างก็มลายหายไป”
จักรพรรดิเหลียงไม่พูด แต่ท่าทางของเขานิ่งเงียบราวกับพร้อมที่จะต้อนรับการมาถึงของความตาย
การหายใจของเขายังลำบากอยู่มาก ใช้แรงทั้งหมดเพื่อหายใจเข้า แต่หายใจไม่สุดเสียทีเดียว
ใบหน้าของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียว
ประตูห้องโถงเปิดออก ฮองเฮาและคนอื่น ๆ ก็เดินเข้ามา
ฮองเฮาเดินผ่านมา เหลือบมองมู่หรงเจี๋ยอย่างเฉยเมย และกล่าวอย่างผิดหวังว่า “เจ้าเฉลียวฉลาดเสมอ แต่ครั้งนี้เจ้าตัดสินใจได้น่าผิดหวังมาก ๆ เจ้าจะเสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ไปตลอดชีวิต และจะต้องแบกรับความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจครั้งนี้”
มู่หรงเจี๋ยไม่เงยหน้าขึ้นและกล่าวอย่างเฉยเมย “ฮองเฮา ทุกคนล้วนต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตนเอง ในเมื่อข้าฉันตัดสินใจให้จื่ออานรักษาอาซิน ไม่ว่าผลจะเป็นเช่นไร ข้าจะยอมรับ”
หวงไท่โฮ่วมองดูเขาอย่างเศร้าสลด น้ำตาคลอเบ้า “น่าเสียดายที่ความโอหังของเจ้า กลับทำให้หลานชายของอัยเจียต้องทนทุกข์ทรมานมาก อัยเจียขอร้องเจ้า จนกว่าวินาทีสุดท้าย ปล่อยให้เขาไปได้ดี อย่าทำให้เขาทรมานเลย”
มู่หรงเจี๋ยไม่พูด หน้าเขาเต็มไปด้วยความหดหู่ คำพูดของฮองเฮาทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาเหลือบมองที่จื่ออานอย่างไม่รู้ตัว และจื่ออานก็มองด้วยความเชื่อมั่น
จื่ออานไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงทำเช่นนี้ แต่ผู้ชายที่ควรมีความมุ่งมั่นไม่ควรแสดงท่าทีออกมาแบบนั้น เธอจะพยายามทำอย่างสุดความสามารถ
ทุกสิ่งที่จื่ออานวางแผนไว้นอกวังเริ่มออกนอกทาง หลายสิ่งหลายอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอคิด สิ่งต่าง ๆ ไม่เที่ยง นั้นคือสิ่งที่เธอคิด เมื่อสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นมนุษย์ควบคุมไม่ได้ พระเจ้าจะทรงลิขิตเอง
สิ่งที่เธอทำได้คือ ยอมรับทุกอย่างอย่างไร้ข้อกังวล
หวงไท่เฟยและกุ้ยไท่เฟยจากไป ฮองเฮาเดินขึ้นไปทีละขั้น นั่งอยู่หน้าเตียงของจักรพรรดิเหลียง พร้อมเอื้อมมือไปลูบที่ใบหน้าจักรพรรดิเหลียง เมื่อเห็นเขาหายใจแรง ใจของนางก็แตกสลาย
หัวที่หยิ่งผยองเมื่อก่อนก็ค่อย ๆ ลดลง เธอมองดูจื่ออานด้วยสายตาที่สิ้นหวัง “ใช้วิธีการทั้งหมดของเจ้าเพื่อช่วยเขาด้วยเถิด หากช่วยเขาไม่ได้ ก็อย่าให้เขาทรมานเลย”
จื่ออานพยักหน้า “ไม่ต้องกังวลเพคะ ฮองเฮา นี่คือสิ่งที่ข้าเป็นหนี้ฝ่าบาท ข้าจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขา”
จู่ ๆ จักรพรรดิเหลียงก็ลืมตาขึ้น มองดูจื่ออานและขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพูดอย่างยากลำบากว่า “เซี่ยจื่ออาน เจ้าไม่ได้เป็นหนี้ข้า และคนที่ข้าควรแต่งงานด้วยก็ไม่ใช่เจ้า ข้ากลับลากเจ้าลงน้ำอย่างไรเหตุผล ข้าควรขอโทษเจ้า”
หลังจากพูดจบ เขาก็ถอนหายใจอีกเล็กน้อยและมองไปที่ฮองเฮา “เสด็จแม่ ลูกไม่ได้ช่วยอะไรท่านเลยในชีวิตนี้ ถ้าลูกตาย…สัญญากับลูกสองอย่างเถิด”
เขาพูดลำบากมากทีเดียว เหมือนคนใกล้ตายที่กำลังหมดแรงที่จะพูดเป็นระยะ ๆ ราวกับว่าเขาหายใจเข้าไม่ได้อีกต่อไป เมื่อใดก็ตามที่หายใจออกมา
เมื่อฮองเฮาได้ยินดังนั้น หน้าก็ซีดเผือด เธอทนกับความเศร้าโศกและลูบใบหน้าจักรพรรดิเหลียง “อย่าเพิ่งพูดเลย แม่สัญญา แต่ตอนนี้ลูกอย่าเพิ่งพูดอะไรเลย พักผ่อนเสียก่อนเถิด”
จักรพรรดิเหลียงยิ้ม “เรื่องแรก สัญญากับลูกว่าอย่าโศรกเศร้าเกินไป เรื่องที่สอง อย่าตามรังควานเซี่ยจื่ออานอีกเลย นางไม่ได้ผิดอะไร ทั้งลูกและนางไม่ได้ตั้งใจ”