บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 43

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากรุ่งอรุณแห่งชีวิตใหม่ของเธอได้มาเยือนเธอไม่ลืมที่จะจัดแจงซื้อผลไม้เตรียมพร้อมด้วยขนมโปรดของคุณปู่ก่อนไปเยี่ยมท่านที่โรงพยาบาล นานแค่ไหนกันนะที่เธอไม่ได้พบเจอท่าน

เธอตรงไปที่ห้องที่ปู่ของเธอพักอยู่แต่เธอสังเกตเห็นว่าปู่ของเธอไม่อยู่ที่นี่

มาเดลีนไปที่แผนกต้อนรับเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อพยาบาลเห็นว่าเธอเป็นสมาชิกในครอบครัวของเลน ซามูเอล พยาบาลก็มองเธอด้วยสีหน้าแปลกๆ น้ำเสียงของเธอก็ไม่เป็นมิตรเช่นกัน “นี้ เธอเป็นหลานสาวของคุณซามูเอลใช่ไหม? เธอควรทำหน้าที่ในฐานะหลานของเขาไม่ใช่หรอ? เขาตายไปแล้วตั้งสามปี ทำไมเธอยังมาที่นี่อีก? ไปที่ห้องจัดงานศพ ขี้เถ้าของเขาอยู่ที่นั่น”

ซ่วบ! ผลไม้ในมือของมาเดลีนตกลงที่พื้น

เธอเบิกตากว้างและตกอยู่กับความงุนงง ความเจ็บปวดเริ่มแทรกซึมไปทั่วร่างกายของเธอ

เธอคิดว่าหัวใจของเธอตายไปแล้ว เธอคิดว่ามันชามากจนไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดที่หายใจไม่ออกนี้ทำเธอหายใจอย่างติดขัด

ปู่ของเธอเสียชีวิตแล้ว

เขาตายไปตั้งสามปีแล้ว!

เธอไม่แม้แต่จะได้เห็นเขาเป็นครั้งสุดท้าย!

มาเดลีนไปที่ห้องจัดงานศพและเอาขี้เถ้าของปู่ของเธอรวมทั้งข้าวของของเขาติดตัวกลับไปด้วย

เป็นตอนเย็นของต้นฤดูหนาวและมีฝนตกปรอยๆ

มาเดลีนจับโกศของเธอปู่และคุกเข่ากลางสายฝน น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้การมองเห็นของเธอพร่ามัวเลือนลางเต็มที

ความเจ็บและเสียใจทำให้หัวใจของเธอปวดร้าว เธอไม่สามารถทำอะไรเพื่อชดเชยมันได้เลยสักนิด

เอวาวิ่งเข้ามาอุ้มเธอที่กำลังร้องไห้ขณะปลอบที่ปลอบเธอ “อย่าร้องไห้เลย แมดดี้ ทุกอย่างมันเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้ว”

ด้วยความช่วยเหลือของเอวา มาเดลีนได้มีโอกาสจัดเตรียมฝังศพของปู่ของเธอ

หลังจากแสดงความเคารพต่อท่านแล้วเธอก็กลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อถามเกี่ยวกับสาเหตุการตายของปู่ของเธอ พยาบาลตอบอย่างไม่ไยดีว่า “เขาเสียชีวิตด้วยวัยชรา”

เสียชีวิตด้วยความชราภาพงั้นหรอ?

มาเดลีนรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ดูทะแม่งๆ ปู่ของเธอมีรูปร่างที่แข็งแรงในครั้งสุดท้ายที่เธอไปเยี่ยมเขาก่อนที่เธอจะถูกจับขับคุก ทำไมเขาถึงต้องตายในทันที?

แม้ว่าเธอจะสงสัย แต่เธอก็ไม่สามารถสงสัยอะไรได้หากไม่มีหลักฐาน

เธอพบจี้ทองคำรูปผีเสื้อในข้าวของของปู่ ซึ่งชื่อจริงของเธอคือ ‘เองลีน’ ถูกสลักไว้

มาเดลีนรับรู้ได้ทันทีว่านี่เป็นของขวัญจากปู่ที่มอบให้เธอ เธอรู้สึกเจ็บแปลบในใจก่อนจะคว้าเอาสร้อยคอเส้นนั้นมาสวมใส่ด้วยน้ำตาที่ยังคลออยู่ ด้วยวิธีนี้ มันจะเหมือนกับว่าปู่ของเธออยู่ที่นี่กับเธอเสมอ

เธอถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีและไม่สามารถหมุนตามการเปลี่ยนแปลงของเวลาในโลกภายนอกได้

เธอต้องการหางานทำอย่างรวดเร็ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถลืมเกี่ยวกับลูกของเธอที่ถูกลักพาตัวไปหลังจากที่เธอถูกบังคับให้คลอดลูก

มาเดลีนนำประวัติย่อของเธอไปสัมภาษณ์ที่บริษัทเปิดตัวใหม่ เมื่อเธออยู่ที่ประตูหน้า โชคไม่เคยเข้าข้างเธอสักนิดเธอเห็นเมเรดิธลงจากรถราคาแพง

เธอจดจำใบหน้าของเมเรดิธได้แม้ว่าใบหน้านั้นจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านก็ตาม

มาเดลีนกำหมัดแน่น เมื่อเธอเริ่มรู้สึกถึงแรงดันเริ่มประทุในหลังจากได้ยินพนักงานคนหนึ่งพูดว่า“ฉันอิจฉาเมเรดิธมาก ตอนนี้หล่อนไม่เพียงแต่เป็นทายาทของมอนต์โกเมอรี่จากสี่ตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวย แต่หล่อนยังจะแต่งงานกับเจเรมี่ วิทแมนไอดอลของฉันด้วย หล่อนทำบุญครอบจักรวาลในอดีตที่ผ่านมาแน่ๆเลย”

เมื่อเธอได้ยินเช่นนั้นหัวใจของเธอก็จมลง

หลังจากที่สอบถามเรื่องนี้ เธอก็รู้ว่าเมเรดิธไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของตระกูลครอว์ฟอร์ด เธอเป็นลูกของตระกูลมอนต์โกเมอรีที่ถูกคนอื่นมารับไปโดยมิชอบเมื่อ 28 ปีก่อน ซึ่งหมายความว่าเธอเป็นลูกสาวแท้ๆของเอโลอิส

เมื่อสามปี ก่อนเมเรดิธเปลี่ยนจากหญิงสาวในครัวเรือนสามัญชนเป็นคุณนายมอนต์โกเมอรี หนึ่งในสี่ตระกูลยิ่งใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาลในเกลนเดล นอกจากนี้ เธอยังให้กำเนิดเด็กทารกก่อนวัยอันควรให้กับเจเรมี่เมื่อสองปีก่อน มอนต์โกเมอรีและวิทแมนต่างก็ปฏิบัติราวกับเธอเป็นอัญมณีที่ล้ำค่าของทั้งสองตระกูล

มาเดลีนรู้สึกประหลาดใจอย่างไม่น่าเชื่อเกี่ยวกับการแต่งงานของเมเรดิธและเจเรมี่ เธอคิดว่าเจเรมี่จะแต่งงานกับคนที่เขารักมากที่สุดในชีวิตทันทีที่เธอต้องเข้าคุก

อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือพวกเขายังไม่ได้แต่งงานกัน

การสัมภาษณ์ผ่านไปด้วยดีและมาเดลีนได้งาน เมื่อเธอนึกย้อนกลับไปว่าเมเรดิธเป็นลูกสาวแท้ๆของเอโลอิส มีบางอย่างในความรู้สึกทำให้มาเดลีนรู้สึกไม่สบายใจ

เธอพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเริ่มค้นหาจากทางอินเทอร์เน็ตเธอเห็นเมเรดิธ โพสต์รูปของทารกในบัญชีทวิตเตอร์ของหล่อน มันเป็นเด็กผู้ชายและเขาดูประมาณสองขวบ ดวงตาและใบหน้าของเด็กชายตัวเล็กเหมือนเป็นเจเรมี่ในร่างทารก