“พ่อจ๋า สนุกจังเลย! ถวนถวนอยากเล่นอีกรอบ!”

เมื่อลงจากรถไฟเหาะ เด็กน้อยก็ตะโกนขึ้นอย่างเบิกบานไม่เหมือนกับเด็กคนอื่น ถวนถวนดูมีความกล้ามากกว่าเด็กวัยเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ อวี้ฮ่าวหรานกลับสัมผัสได้ว่ามีใครบางคนกำลังสะกดรอยตามเขาอยู่!

อันที่จริงเขาสัมผัสได้ตั้งแต่ออกจากคอนโดแล้ว แต่ตอนนี้อีกฝ่ายเข้าใกล้เขามากขึ้นกว่าเดิมมาก

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะเพิกเฉยกับการกระทำของอีกฝ่ายไปก่อน ที่นี่มีคนมากไปมันไม่สะดวกที่เขาจะจัดการกับอีกฝ่ายตอนนี้…

ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่มีทางทำอะไรเขาได้ ส่วนถวนถวนภายใต้การปกป้องของเขา ดังนั้นเด็กน้อยไม่มีวันเป็นอันตรายแน่นอน!

หลังจากเล่นรถไฟเหาะไปอีกสามรอบ คู่พ่อลูกก็พากันไปเล่นเครื่องเล่นอื่นของสวนสนุก

“พ่อจ๋า หนูอยากกินไอศกรีมจังเลย!”

ระหว่างที่เดินไป ถวนถวนเห็นร้านไอศกรีมอยู่ไม่ไกลดังนั้นเด็กน้อยจึงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าคาดหวัง

“ไอศกรีมงั้นเหรอ? อย่าเลยลูก วันนี้อากาศหนาวเกินไป”

ตอนนี้เป็นช่วงท้ายของฤดูใบไม้ผลิดังนั้นอากาศจึงหนาว ชายหนุ่มไม่อยากให้ถวนถวนกินไอศกรีมในสภาพอากาศแบบนี้เพราะมันจะไม่ดีต่อสุขภาพของเด็กน้อย ดังนั้นจึงปฏิเสธไป และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาปฏิเสธคำขอของลูกสาว

อย่างไรก็ตาม ถวนถวนหน้าเบะทันทีเมื่อถูกปฏิเสธ หลังจากนั้นแค่เพียงอึดใจเดียวน้ำตาก็เริ่มร่วงหล่น

“ฮือ…พ่อจ๋าหนูอยากกิน….ฮือ…พ่อจ๋า…อยู่ที่บ้านหนูไม่เคยได้กินเลย…ฮือ…น..หนูแค่อยากกินอันเดียวเอง…ฮือ…”

แน่นอนว่าเมื่อเห็นน้ำตาของลูกสาว อวี้ฮ่าวหรานก็รีบปลอบทันที

“ก็ได้ ก็ได้ โอ๋ ๆ หยุดร้องนะลูก เดี๋ยวพ่อจะพาไปซื้อไอศกรีมเดี๋ยวนี้แหละ โอ๋ ๆ”

อวี้ฮ่าวหรานรักลูกมากดังนั้นเขาจะทนเห็นลูกตัวเองผิดหวังได้ยังไง?

แต่แล้วเมื่อพาถวนถวนเดินตรงไปยังร้านไอศกรีม เขาก็สัมผัสได้ว่าคนที่กำลังตามอยู่เริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้นอีก ซึ่งมันน่ารำคาญเป็นอย่างมากจนชายหนุ่มตัดสินใจที่จะจัดการกับแมลงตัวนี้ให้เสร็จ ๆ ไป

“เอ๊? พ่อจะไปไหน? ร้านไอศกรีมอยู่ทางนู้นนะ!”

เมื่อเห็นว่าพ่อของเธอจู่ ๆ ก็เดินเปลี่ยนเส้นทาง อุ้มเธอไปอีกทางหนึ่งซึ่งไกลจากร้านไอศกรีมเรื่อย ๆ เด็กน้อยจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง

อวี้ฮ่าวหรานไม่ตอบกลับลูกสาว เขาเอาแต่เดินไปยังซอยแคบ ๆ ที่ไม่มีผู้คนก่อนจะหยุดยืนอยู่กับที่ในซอยและเอ่ยขึ้น

“ออกมาได้แล้ว แกตามฉันนานเกินไปแล้ว”

ถึงแม้จะยังไม่เห็นตัวแต่เขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายตามมาอย่างกระชั้นชิด

ตามที่คาดไว้!

ชายฉกรรจ์ใส่แว่นดำคนหนึ่งเดินเข้ามาในซอยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม แต่อย่างไรก็ตามชายฉกรรจ์รู้สึกประหลาดใจที่อีกฝ่ายรู้ตัวว่าถูกติดตามอยู่

“ไอ้หนุ่ม ต่อให้แกจะรู้ว่าฉันตามแกอยู่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร วันนี้คือวันสุดท้ายของแกกับลูก!”

ชายแว่นดำเอ่ยขึ้นพร้อมกับแสดงท่าทีเอานิ้วปาดที่คอ

แน่นอนว่าอวี้ฮ่าวหรานไม่ได้กลัวอีกฝ่ายอยู่แล้ว เขาแค่นึกสงสัยว่าใครเป็นคนสั่งไอ้คน ๆ นี้มาฆ่าเขา? เป็นหวังเจารึเปล่า?

“บอกฉันมา ใครเป็นคนส่งแกมาฆ่าฉัน?”

ชายแว่นดำระเบิดเสียงหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินคำถามนี้

“ฮ่าฮ่า แกจะอยากรู้ไปทำไม? แกรู้แค่ว่ามีคนจ้างฉันให้มาฆ่าแกก็พอส่วนลูกสาวของแก แกไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะส่งไปลงนรกหลังจากแกนั่นแหละ!”

แววตาของชายแว่นดำเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เขามองอวี้ฮ่าวหราน กับถวนถวนไม่ต่างอะไรกับศพสองศพ

“พ่อจ๋า…”

ถวนถวนรู้สึกหวาดกลัวเมื่อเห็นท่าทีคุกคามของอีกฝ่าย เด็กน้อยซุกหน้าเข้าไปที่อกของอวี้ฮ่าวหรานด้วยอาการตัวสั่น

“ไม่ต้องกลัวนะลูก ต่อหน้าพ่อ คน ๆ นี้ไม่ต่างอะไรกับมด ลูกหลับตาลงก่อนเดี๋ยวพ่อขอเวลาจัดการกับมดตัวนี้สักหน่อย”

“เย้! พ่อจัดการเลย จัดการคนเลวให้หายไป!”

เมื่อได้ยินคำพูดที่หนักแน่นของอวี้ฮ่าวหราน เด็กน้อยก็รู้สึกมั่นใจจนยิ้มได้และหลับตาลงอย่างเชื่อฟัง

อย่างไรก็ตาม ภาพนี้ทำให้ชายในแว่นดำรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

“ไอ้ลูกหมาเอ๊ย! จะตายอยู่แล้วยังปากดีอีกงั้นเหรอ? ฮึ่ม! ฉันจะตัดลิ้นแกก่อนแล้วค่อยฆ่าแกทีหลัง ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าถ้าแกไม่มีลิ้นแล้วแกยังจะพูดจาโอ้อวดได้อีกหรือเปล่า?!”

“แกคิดว่าฉันโอ้อวดงั้นเหรอ?”

อวี้ฮ่าวหรานยิ้มอย่างเย้ยหยันพร้อมกับค่อย ๆ เดินเข้าไปหานักฆ่า

เมื่อเห็นเช่นนี้ นักฆ่าแว่นดำไม่รั้งรออะไรอีกแล้ว เขาควักหน้าไม้จิ๋วขึ้นมาจากหลังเอวใต้เสื้อคลุมและยิงใส่อวี้ฮ่าวหรานภายในพริบตา ลูกดอกของหน้าไม้นี้ถูกอาบยาพิษร้ายแรงเอาไว้ แค่เพียงถูกเฉี่ยวก็พอที่จะทำให้มนุษย์ธรรมดาตายได้ในเวลาไม่เกิน 5 วินาที!

ฟิ้ว!

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ถ้าเป็นคนธรรมดาไม่มีทางหลบได้ทันแน่นอน แต่น่าเสียดายที่อวี้ฮ่าวหรานเป็นคนธรรมดาซะที่ไหน?!

“เฮอะ! ก็แค่ของเด็กเล่น!”

อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าดูถูกพร้อมกับเบี่ยงตัวหลบไปได้อย่างง่าย ๆ

“ห๊ะ!”

เมื่อเห็นภาพนี้นักฆ่าแว่นดำสะดุ้งโหยงทันที ด้วยความเร็วของหน้าไม้ในระยะใกล้ขนาดนี้มันไม่ควรจะมีใครหน้าไหนหลบได้นี่นา?

นี่อีกฝ่ายเป็นคนหรือสัตว์ประหลาดกันแน่?

อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้รอให้อีกฝ่ายตั้งตัวได้ทัน จู่ ๆ เขาพุ่งตัวเข้าไปหาด้วยความเร็วอย่างยิ่งยวด จนแค่เพียงชั่วพริบตาร่างของเขาก็ไปปรากฏตรงหน้าของอีกฝ่าย

พลั่ก!!

อวี้ฮ่าวหรานเตะเข้าไปที่ชายโครงของอีกฝ่ายเต็ม ๆ จนร่างของนักฆ่าแว่นดำลอยไปกระแทกกับกำแพงอย่างรุนแรง!

“อั่ก!”

“น…นี่แก!”

นักฆ่าแว่นดำรู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่าเป้าหมายของตนรอบนี้จะแข็งแกร่งราวกับไม่ใช่คน!

นี่มันไม่ใช่งานลอบสังหารแล้ว…มันคือการฆ่าตัวตายชัด ๆ!

“นี่แกเป็นใครกันแน่! แกแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง! ต่อให้แกฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่ยังเด็กแกก็ไม่อาจเก่งขนาดนี้ได้!”

เขารู้ตัวแล้วว่าหากเผชิญหน้ากันตรง ๆ คงไม่สามารถเอาชนะอวี้ฮ่าวหรานได้

“ศิลปะการต่อสู้?”

อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก อีกฝ่ายมีความรู้น้อยนิดมากจนเขาเวทนา

นี่แหละมดแมลง!

“เอาล่ะ ถ้าแกไม่อยากทรมานแกจงบอกมาว่าใครส่งแกมา”

ถึงแม้ว่าอวี้ฮ่าวหรานจะพอเดาได้แต่เขาก็อยากฟังคำยืนยันจากปากนักฆ่าคนนี้

อย่างไรก็ตามเมื่ออวี้ฮ่าวหรานยื่นหน้าเข้าไปถาม นักฆ่าแว่นดำที่ยังคงนั่งหลังพิงกำแพง จู่ ๆ ก็ชักมีดออกมาจากข้างเอวและเล็งแทงเข้าไปที่คอของอวี้ฮ่าวหรานอย่างฉับพลัน!