บทที่ 266: ความสุขในการได้รับของฟรี
โรเอลนั่งอยู่ในห้องเรียนที่ว่างเปล่า เฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ ขณะที่ลิเลียนเดินออกจากประตูก่อนจะถอนหายใจยาว ๆ
ปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาทำให้โรเอลเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าลิเลียนไม่มีเจตนาที่จะสร้างความสัมพันธ์ใด ๆ กับเขา เธอต้องการรักษาระยะห่างระหว่างพวกเขา พูดตามตรงเขาไม่เข้าใจความคิดของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
เด็กหนุ่มอดไม่ได้ที่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติระหว่างการโต้ตอบกับลิเลียน เหตุผลที่ลิเลียนเสนอนั้นอาจจะฟังดูสมเหตุสมผลในตอนแรก แต่เมื่อไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว การรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับโรเอลน่าจะให้ประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายมากกว่า
แน่นอนว่าต่างคนต่างมองปัญหาจากมุมมองที่ต่างกัน แต่คนฉลาดอย่างลิเลียนควรจะไตร่ตรองข้อดีและข้อเสียจากทั้งสองมุมมองที่ต่างกันก่อนจะตัดสินใจทำอะไร
หรือว่าอาจจะมีบางอย่างที่ขัดขวางการตัดสินใจของเธออยู่?
โรเอลครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหัว เขาไม่ควรคาดเดาโดยไม่มีมูลใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยที่เขามีหลายสิ่งที่ต้องคิดในขณะนี้
แหวนกุหลาบดำเป็นมรดกที่โรเอลได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ผู้ที่ทำให้วิญญาณนำทางของเขาพองตัวจนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึงห้าเมตร
โรเอลไม่เคยสวมแหวนนั้นเลย แม้แต่ครั้งเดียวเนื่องจากมีคนจำนวนมากคอยติดตามเขาอยู่ เด็กหนุ่มจึงกลัวว่าจะมีใครล่วงรู้ถึงเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่รู้เลยว่าความสามารถของแหวนกุหลาบดำคืออะไรกันแน่ หากเป็นตามที่โรบอก แหวนกุหลาบดำจะนำทางเขา แต่โรก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติมว่ามันจะ ‘นำทาง’ ไปสู่อะไร
เนื่องจากโรเอลไม่ต้องการสร้างความโกลาหลด้วยแหวนกุหลาบดำ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะตรวจสอบเกี่ยวกับมันหลังจากได้รับอาณาเขตของตนแล้ว
ทันใดนั้นเองเสียงฝีเท้าก็เริ่มดังขึ้นมาจากทางเดินด้านนอก ทำให้โรเอลหลุดออกจากห้วงความคิดอย่างรวดเร็ว เขารีบสวมผ้าคลุมและผ้าพันคอก่อนจะเดินออกจากห้องไป
คริสได้เลือกที่จะนัดพวกเขาประชุมกัน ก่อนเริ่มคาบเรียนในช่วงเช้า เพื่อให้โรเอลและลิเลียนได้ทำความคุ้นเคยกันล่วงหน้า เมื่อการประชุมจบลง ในที่สุดก็ถึงเวลาของการเรียนคาบเช้า
หลักสูตรของนักเรียนใหม่เน้นไปที่เนื้อหาพื้นฐาน โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมนิสัยในการเรียนรู้ของนักเรียน โดยชั้นเรียนแรกที่โรเอลต้องเรียนคือวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งทำให้เขานึกถึงวิชาคณิตศาสตร์ที่เคยเรียนในอดีตชาติ แม้ว่าคณิตศาสตร์ของทั้งสองโลกจะเทียบกันไม่ได้เลยก็ตาม
หากเทียบกับแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์อันซับซ้อนทั้งหมดที่โรเอลเคยเรียนในอดีตชาติแล้วล่ะก็ สิ่งที่อาจารย์ของสถาบันเซนต์เฟรย่าสอนในตอนนี้ ถือว่าง่ายมาก
อย่างไรก็ตามห้องเรียนของสาขาคณิตศาสตร์นั้นหรูหราโอ่อ่ามาก มันเป็นอาคารเก่าอายุหลายศตวรรษที่สร้างขึ้นจากหิน และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีจนไม่ดูโทรม
ห้องเรียนมีที่นั่งแบบฉัตร และมีหน้าต่างมากมายเพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ
ที่นั่งทำจากไม้วอร์มวูด ซึ่งหาได้จากต้นไม้ชนิดพิเศษในจักรวรรดิออสทีน มันมีความสามารถในการควบคุมพลังเวทเพื่อรักษาอุณหภูมิโดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศ และคุณสมบัตินี้ก็คงอยู่แม้ว่ามันจะกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น พื้นผิวของมันก็ไม่แข็งเกินไปทำให้นั่งได้สบาย คุณสมบัติที่โดดเด่นของมันทำให้ไม้ชนิดนี้เป็นหนึ่งในสินค้าขึ้นชื่อในท้องถิ่นของจักรวรรดิออสทีน
นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมลอยน้ำแบบโบราณ โคมไฟแขวนที่สวยงาม พรมเนื้อนุ่ม กระถางไฟ และวัตถุตกแต่งสวยงามทุกประเภท ขัดแย้งกับการรับรู้ของโรเอลเกี่ยวกับสถาบันการศึกษา แม้ว่าสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าจะเป็นสถาบันการศึกษาสำหรับขุนนางที่มีค่าเล่าเรียนสูงลิ่วก็ตามที
ยกตัวอย่างเช่นกระถางไฟของที่นี่ มันไม่ใช่แค่เครื่องประดับที่ออกแบบมาอย่างวิจิตรบรรจง แต่เป็นอุปกรณ์เวท และธูปที่จุดอยู่บนนั้นเองก็ถูกสร้างขึ้นจากวัสดุพิเศษเพื่อเพิ่มสมาธิ เช่นเดียวกับสิ่งของส่วนใหญ่ในห้องเรียน
พูดตามตรงโรเอลคิดว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะสอบตกในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ด้วยเงินจำนวนมากที่ทุ่มไปกับการปรับปรุงสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ แม้แต่หมูก็น่าจะสามารถขีดเขียนได้
“นี่คือพลังของเงินงั้นเหรอ?”
โรเอลบ่นในใจขณะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องเรียน
ในฐานะที่เป็นคนที่เคยใช้ชีวิตที่โรงเรียนมาก่อนในอดีตชาติ โรเอลมีนิสัยชอบนั่งหลังสุดของห้องเรียน เพราะความคิดที่ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งคอยดูสิ่งที่เขาทำอยู่ข้างหลังตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่ามันเป็นความกลัวที่ไม่มีเหตุผล เพราะทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ในชั้นเรียนก็ตามที
อย่างไรก็ตามที่สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า เห็นได้ชัดว่านั่นไม่ใช่แค่ความกลัวที่ไม่มีเหตุผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเพื่อนร่วมชั้นของเขามักจะหันศีรษะกลับมามองเขา
โรเอลถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่สามารถหาวิธีจัดการกับปัญหานี้ได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่หวังว่าเวลาจะดับความอยากรู้อยากเห็นของคนอื่น ๆ ในท้ายที่สุด โชคดีที่นักเรียนส่วนมากยังคงจดจ่อกับบทเรียน อาจเป็นเพราะพวกเขาไม่ต้องการทิ้งความประทับใจที่ไม่ดีให้กับอาจารย์ในชั้นเรียนแรกของพวกเขา
เนื่องจากมีนักเรียนใหม่มากเกินไป จึงมีหลายช่วงเวลาสำหรับชั้นเรียนพื้นฐานที่สอนโดยครูที่แตกต่างกัน ในกรณีของโรเอล เขาเป็นนักเรียนปีหนึ่งเพียงคนเดียวภายใต้ชั้นเรียนของคริส ดังนั้นเขาจึงได้รับมอบหมายให้เรียนในชั้นเรียนเดียวกันกับนักเรียนใน “ห้องเรียนของฟลัดเลย์” เป็นบางครั้ง ทำให้ทั้งนอร่าและชาร์ล็อตไม่ได้อยู่กับเขา
นอร่า และผู้ติดตามของเธอได้เข้าร่วม ‘ห้องเรียนของเคทลีน’ อาจารย์จากจักรวรรดิเซนต์เมซิท ในขณะที่ ชาร์ล็อตและผู้คนของเธอเองก็เข้าร่วม ‘ห้องเรียนของลอร่า’ อาจารย์จากเมืองโรซ่า
เคทลีน ไวส์ เป็นบุตรีของตระกูลไวส์ หนึ่งในห้าตระกูลขุนนางชั้นสูงของจักรวรรดิเซนต์เมซิท เมื่อสองชั่วอายุคนก่อน ทำให้เธอเป็นขุนนางชั้นสูงที่มีภูมิหลังอันสูงส่ง มันจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่เธอจะเป็นอันตรายต่อจักรวรรดิเซนต์เมซิท และผู้สืบทอดของจักรวรรดิเซนต์เมซิท
‘ห้องเรียนของเคทลีน’ เป็นที่รู้จักกันในเรื่องคาถาพิธีกรรม ซึ่งครอบคลุมการรักษา การชำระล้าง และสาขาอื่น ๆ อีกมากมาย แค่เห็นหลักสูตรก็บอกได้แล้วว่ามันมีรากฐานมาจากจักรวรรดิเซนต์เมซิท
สำหรับ ‘ห้องเรียนของลอร่า’ นั้นเชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์และคาถาทำนายดวงชะตา เธอเคยพยากรณ์เหตุล่วงหน้าถึงพายุลูกใหญ่ในโบรเนลได้อย่างแม่นยำเมื่อหลายสิบปีก่อน ทำให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงสามารถรับมือกับมัน และช่วยลดความเสียหายและความสูญเสียทางการเงินแก่ประชาชนทั่วไปได้เป็นอย่างมาก
ลอร่าเองก็เป็นคนที่น่าเชื่อถือในมุมมองของชาวโรซ่าเช่นกัน เพราะเธอเป็นคุณย่าของชาร์ล็อต หากกลับไปที่เมืองโรซ่า เธอก็เป็นหนึ่งในตัวแทนของตระกูลโซโรฟยา ชื่อเสียงของเธอโด่งดังไปทั่ว การมีบุคคลที่น่านับถือเช่นนี้สอนให้ผู้สืบทอดตระกูลนั้น ถือเป็นเรื่องน่าอุ่นใจโดยธรรมชาติ
ทำให้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่โรเอลจะได้เรียนวิชาคณิตศาสตร์กับเด็กสาวทั้งสอง
แน่นอนว่านอร่าและชาร์ล็อตไม่พอใจกับการจัดสรรนี้ แต่พวกเธอเลือกที่จะปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ เป็นไปตามนั้น เพราะถ้าหากพวกเธอได้เรียนกับโรเอลล่ะก็ ทั้งสองคงไม่ได้จดจ่อกับการเรียนกันพอดี
พวกเธอมีเป้าหมายที่ต้องบรรลุให้ได้ในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า ในฐานะผู้สืบทอดจากอาณาจักรของตน ทั้งสองต้องรักษาผลการเรียนที่โดดเด่นเอาไว้ ดังนั้นพวกเธอจึงต้องจดจ่อกับบทเรียน
แม้ว่าความสามารถในการเรียนรู้ของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามความถนัด แต่ผู้ที่ต้องการไปถึงระดับสูงสุดย่อมต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่อย่าง สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า แม้แต่อัจฉริยะอย่างนอร่าและชาร์ล็อต ยังมีโอกาสที่จะถูกเพื่อน ๆ ตามทัน ถ้าหากพวกเธอละเลยมากเกินไป
แต่แน่นอนว่าคนที่ดีใจที่สุดที่ได้รับการจัดสรรชั้นเรียนนี้ ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากโรเอล เขาไม่ต้องการที่จะผ่านประสบการณ์อันขมขื่นของการถูกประกบตรงกลางระหว่างสองสาวแบบในพิธีเปิดภาคเรียนอีกครั้งแน่
ยิ่งไปกว่านั้น โรเอลตระหนักได้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้นอร่าได้แสดงความสนใจที่จะเคลื่อนไหวลับ ๆ ล่อ ๆ ในที่สาธารณะ เพื่อดูว่าเขาจะตอบสนองอย่างไร และเธอก็มักจะเปิดเผยท่าทางตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นใบหน้าอันแดงก่ำของเขาที่เต็มไปด้วยความกลัว แค่คิดว่าเธอจะทำแบบนั้นในชั้นเรียนก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้โรเอลลนลาน
ชาร์ล็อตเองก็เป็นคนที่รับมือได้ยากเช่นกัน เนื่องด้วยความคิดแปลก ๆ ที่เธอมีอยู่ในหัวตลอดเวลา ไม่นานมานี้ เธอต้องการเริ่มต้นเทรนด์เสื้อผ้าสำหรับคู่รักและรีบออกแบบเสื้อผ้าเหล่านั้นทันที แม้เสื้อผ้าจะยังไม่เสร็จดี แต่โรเอลก็สามารถจินตนาการถึงความโกลาหลครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นทันทีที่นอร่ารู้เรื่องนี้
ทั้งนอร่าและชาร์ล็อตได้รับอาคารส่วนตัวและพื้นที่ฝึกซ้อมแล้วเรียบร้อย ทำให้ผู้ติดตามของพวกเธอมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดจากการที่นักเรียนใหม่เริ่มที่จะสวมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตรากุหลาบทอง และ กุหลาบแดงกันแล้ว
โรเอล ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายสายสัมพันธ์ที่มีอยู่ของเขาในจักรวรรดิเซนต์เมซิท และเมืองโรซ่าได้ ดังนั้นเขาจึงต้องสร้างกลุ่มขึ้นมาใหม่เองตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตามโชคดีที่เขาได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองใน ‘ค่ำคืนแห่งปีศาจ’ ไปแล้ว ดังนั้นการรับสมัครจึงไม่น่าจะลำบากเท่าไหร่นัก
หลังจากเลิกเรียนภาคเช้า โรเอลก็รีบรับประทานอาหารเช้าก่อนจะเดินทางออกจากเขตส่วนกลาง ตามที่พูดคุยตกลงกันไว้กับเจ้าหน้าที่โยธาของสถาบัน คฤหาสน์บนภูเขาแห่งใหม่ของเขา คฤหาสน์สีกรมท่า นั้นน่าจะพร้อมสำหรับการใช้งานแล้ว ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงวางแผนที่จะเข้าไปดู
โรเอลใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง จนในที่สุดก็มองเห็นอาคารสีฟ้าอันงดงาม
โดยรวมแล้ว คฤหาสน์บนภูเขานั้นเกินความคาดหมายของโรเอลไปมาก ตั้งแต่สวน น้ำพุ ไปจนถึงอาคารหลัก ทั้งขนาดและความฟุ่มเฟือยเป็นที่น่าพอใจสำหรับเขา นอกจากนี้ยังมีทรัพยากรธรรมชาติอีกมากมายที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ในภูเขามิสเทที่อยู่ใกล้ ๆ หากต้องการลิ้มรสของป่า
โรเอลถูกพาไปยังคฤหาสน์สีกรมท่า ภายใต้การนำทางของเจ้าหน้าที่ การตกแต่งภายในนั้นค่อนข้างเก่าแก่ย้อนยุค โดยมีรูปแบบเหมือนศิลปกรรมในจักรวรรดิออสทีนโบราณของยุคที่สอง โดยรวมแล้วเด็กหนุ่มค่อนข้างพอใจกับของฟรีที่เขาได้รับ
หลังจากมองไปรอบ ๆ และได้ตรวจดูให้แน่ใจว่าสถานที่นั้นถูกเตรียมการเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มก็เริ่มคิดเกี่ยวกับการรับสมัครผู้ติดตาม
มันเหมือนกับการโกง ด้วยที่โรเอลนั้นได้เปรียบในแง่ที่ว่าเขามีข้อมูลพิเศษมากมายเกี่ยวกับบุคคลที่มีชื่อเสียงจากเกมอาย ออฟ โครนิเคิล ข้อได้เปรียบนี้ที่ทำให้เขาไม่ต้องวิตกกังวลกับเรื่องการหาผู้ติดตามมากเกินไป
โรเอลวางแผนอย่างรอบคอบจนถึงเวลากลางคืน ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ห้องอาหารเพื่อทดลองอาหารของพ่อครัวของคฤหาสน์สีกรมท่า แม้มันจะไม่ได้ยอดเยี่ยมแต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้ หลังจากนั้นเด็กหนุ่มก็กลับไปที่ห้องนอน ล็อกประตูแล้วหยิบแหวนสีดำออกมา
“… เจ้านี่ มันสามารถนำทางแนะนำแก่ผู้ที่สวมใส่ได้สินะ?”
โรเอลพึมพำอย่างครุ่นคิด
เด็กหนุ่มสวมแหวนกุหลาบดำลงบนนิ้วนางบนมือขวา ทว่าการสวมแหวนครั้งแรกนี้กลับไม่ได้กระตุ้นอะไรขึ้นมาเลย ไม่มีการปะทุของพลังเวท หรือความรู้สึกทางกายภาพใด ๆ ทั้งสิ้น มันแทบจะไม่ต่างอะไรไปจากแหวนทั่ว ๆ ไปเลย
โรเอลพยายามใส่พลังเวทของตนลงไปในแหวน แต่พลังเวทของเขาก็ค่อย ๆ หายไปโดยไม่เกิดอะไรขึ้น
“มีเงื่อนไขบางอย่างที่เราต้องทำเพื่อเปิดใช้งานแหวนงั้นเหรอ? หรือบางทีเราจะต้องใส่มันเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อน?”
โรเอลคาดเดาความเป็นไปได้พลางไขว้แขน แต่เขาก็นึกอะไรไม่ออก แม้จะได้ลองทดลองสิ่งต่าง ๆ กับแหวน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึงเที่ยงคืน เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจหยุดคิดถึงมัน ปัดให้ตัวเองไปคิดเรื่องเหล่านี้ในภายหลังแทน
เขาเอนตัวลงนอนบนเตียง จ้องมองไปที่แหวนกุหลาบดำที่ส่องแสงระยิบระยับสะท้อนกับแสงจากโคมไฟ ก่อนที่จะหลับตาลงพร้อมกับถอนหายใจ
แสงจากตะเกียงถูกดับลง จากนั้นลมหายใจของโรเอลก็ค่อย ๆ ยาวและลึกขึ้น ทว่าในสภาพแวดล้อมอันสงบสุขนี้ แหวนกุหลาบดำก็เริ่มส่องแสงออกมา