ตอนที่ 69 อย่าดูถูกเด็กยากจน

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 69 อย่าดูถูกเด็กยากจน!

ร่างกายมีความเหนื่อยล้าอยู่บ้าง จิตใจรู้สึกงงงวย พอทิ้งก้นบุหรี่ก็หยิบเสื้อโคตมาคลุมไหล่ แล้วเดินไปตามทางแสงไฟ

โจวเจ๋อเดินอยู่บนทางสลัวขมุกขมัว

เงาหลังถูกทอดยาวมากขึ้น

ตำแหน่งทางออกของสวนสาธารณะ มีชายชราผมขาวโพลนคนหนึ่งยืนอยู่ ชายชราสวมชุดสูทยืนตัวตรงเป็นสง่าและเรียบร้อย เหมือนกับต้นป็อปลาร์ที่ยืนหยัดอยู่ในทะเลทราย

เพียงแค่เหลือบตามอง ก็รู้ว่าชายชราเป็นคนที่แต่งตัวเนี้ยบจนถึงขั้นสุดโต่งก็ว่าได้

โจวเจ๋อไม่มองเขา และได้แต่เดินไปตามทางของตัวเองต่อไป

กลิ่นแตงโมเนื้อทรายละเอียดลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ มีความหวานและความเลี่ยนอยู่เล็กน้อย กลิ่นนี้ทำให้โจวเจ๋อรู้สึกไม่สบาย เพราะเนื้อของแตงโมเป็นสีแดง ซึ่งทำให้โจวเจ๋อนึกไปถึงภาพที่ไม่มีความสุข

“ท่าน อารมณ์หดหู่เหรอ” ชายชราเดินตามจังหวะก้าวของโจวเจ๋อ เดินตามหลังห่างช่วงครึ่งตัวได้เหมาะเจาะพอดี

“นิดหน่อย” โจวเจ๋อตอบ

ทั้งสองคนเดินไปข้างหน้าต่อ เดินตามกันเป็นจังหวะ กลายเป็นความเหมือนที่พิเศษอย่างหนึ่ง

“ท่าน เป็นเพราะเจ้าลิงตัวนั้นใช่ไหม หรือว่า เป็นเพราะเด็กทารกที่ซวยไปด้วย” ชายชราถาม

โจวเจ๋อไม่ตอบ แต่เดินต่อไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

จนกระทั่งมาถึงสัญญาณไฟจราจรข้ามถนน โจวเจ๋อจึงหยุดเดินเพื่อรอสัญญาณไฟ

ชายชราก็หยุดเดินเช่นกัน

“เรื่องนี้ ไม่มีผิดถูก” โจวเจ๋อตอบ

“ไม่มีผิดถูกเหรอ” ชายชราพูดซ้ำอีกรอบ จากนั้นถามว่า “แต่ไม่ว่าเรื่องใดล้วนมีสองด้านเสมอ ดังนั้นจึงสามารถแยกแยะถูกผิดได้อย่างชัดเจน เจ้าลิงเป็นลิงที่ดีตัวหนึ่ง มันเป็นคนดีและทำความดีมากกว่ามนุษย์เสียอีก ตรงจุดนี้ ท่านก็ยอมรับ ใช่ไหมครับท่าน”

“ดังนั้น ความหมายของคุณคือ” โจวเจ๋อหยิบบุหรี่ออกมาอีกหนึ่งมวน ใช้มือบังลม แล้วจุดไฟ “ผมทำผิดเหรอ”

“กลับชาติมาเกิดสองสามรอบ ฝึกบำเพ็ญเพียรก็หลายครั้ง จนสุดท้ายเกือบจะสำเร็จ แต่ต้องล้มเหลวเพราะตัวเองช่วยชีวิตคน หากเปลี่ยนเป็นท่าน ท่านจะรู้สึกยังไง” ชายชราถาม

“ผมก็จะโกรธมาก” โจวเจ๋อตอบทันที โดยไม่จำเป็นต้องคิด

“หลังจากโกรธละ”

“ถ้าหากมีโอกาส ผมก็ฆ่ายกครัวเลย” โจวเจ๋อพ่นควันบุหรี่ออกมา

“ท่าน แนวคิดของท่านเรียบง่ายมาก” ชายชราเอ่ยวิจารณ์ “แต่ท่านกลับขัดขวางการแก้แค้นของมัน ถึงแม้ว่าท่านจะรู้ความจริงและเรื่องราวที่ผ่านมาจากปากของมันก็ตาม ท่านก็ยังจบชีวิตมันด้วยตัวเอง”

“ใช่ครับ”

“ท่านรู้สึกว่าท่านทำถูกต้องไหม” ชายชราถามอีก

“ผมพูดไปแล้ว ว่าเรื่องนี้ ไม่มีถูกผิด” โจวเจ๋อเขี่ยบุหรี่ “หากถอยออกมาหมื่นก้าว เด็ก ก็เป็นผู้บริสุทธิ์”

“ความหมายของท่าน ถ้าหากเจ้าลิงเลือกที่จะแก้แค้นสามี ท่านก็สามารถเข้าใจได้ และท่านก็อาจจะไม่เข้าไปขัดขวาง ใช่ไหมครับท่าน”

โจวเจ๋อเงียบ

“แต่สาเหตุที่สามีฆ่าลิงเพื่อเอาสมองลิงออกมา ก็เพราะอยากเอามาให้ภรรยาของตัวเองได้กิน เพื่อแก้ปัญหามีบุตรยาก” ชายชราพูดเตือน “ดังนั้น เหตุและผล แหมือนจะอยู่ที่ตัวของเจ้าลิงกับสามี แต่ต้นเหตุที่แท้จริง คืออยู่ที่ตัวของเจ้าลิงกับเด็กทารกคนนั้น”

“เหตุและผล สามารถคำนวณแบบนี้ได้เหรอ” โจวเจ๋อถาม

“ที่ผมคิด ไม่มีเหตุผลเหรอ” ชายชราย้อนถาม

“ตามหลักคำนวณของคุณ สามารถคำนวณได้ถึงเวลาอุกกาบาตพุ่งชนโลก ไดโนเสาร์สูญพันธ์ แล้วจึงเกิดสิ่งมีชีวิตแบบใหม่ แล้วก็เกิดมนุษย์วานร จากนั้นถึงมีคนกับลิง แล้วจึงเกิดเรื่องที่น่าเศร้าแบบนี้ ดังนั้น เหตุและผลก็อยู่ที่ตัวของอุกกาบาต”

“ท่านกำลังพูดตลบตะแลง นะท่าน” น้ำเสียงของชายชรา ดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนเลย มีความสงบมาก ราวกับว่ากำลังพูดปัญหากับคุณอยู่เท่านั้น

“ผมเป็นคน” โจวเจ๋อชี้ไปที่ศีรษะของตัวเอง “ผมยืนอยู่ในมุมมองของคน ผมรู้สึกว่าผมไม่สามารถปล่อยให้สัตว์ประหลาดตัวไหนเข้าไปทำร้ายคนที่โรงพยาบาลได้”

“ท่านไม่ใช่คน ท่านเป็นผี” ชายชราพูดเตือนอีกครั้ง

“ครั้งนี้ ถึงตาคุณเป็นฝ่ายพูดแชเชือนบ้าง”

“เหอะๆ” ชายชราหัวเราะ

ไฟเขียวแล้ว โจวเจ๋อจึงก้าวขาไปข้างหน้า จากนั้นชายชราก็เดินตาม

คนหนึ่งเป็นคนหนุ่มกับเสื้อผ้าขาดๆ อีกคนหนึ่งเป็นชายชราเคร่งขรึม

ทั้งสองคนเหลือเพียงเงาร่างอยู่บนพื้นเท่านั้น

“สุดท้าย เด็กก็มีปัญหา” ชายชราพูดซ้ำเติมด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ดูเหมือนว่าเวลานี้ สามารถพูดประโยคปลงอนิจจังได้ว่า ‘วัฏจักรแห่งสัจธรรมฟ้า ดูว่ามันจะปล่อยใคร’ ”

“ผมไม่เคยคิดว่าเรื่องที่ผู้ใหญ่ทำผิด จำเป็นต้องให้เด็กที่ใส่ผ้าอ้อมต้องแบกรับหน้าที่ไปด้วย”

“สมัยโบราณมีกฎนั่งด้วยกัน นี่หมายความว่ามันก็มีเหตุผลอื่น” ชายชราเอ่ยพูด

“ตอนนี้มันถูกกำจัดไปแล้ว ก็หมายความว่ามันไร้ตัวตนยังดีกว่าที่ยังมีตัวตนอยู่”

“ท่านครับ ท่านสงสารเด็กคนนั้น แล้วใครบ้างจะสงสารเจ้าลิงตัวนั้น”

“คุณสามารถไปถามบรรพบุรุษของเขาที่ภูเขาฮัวกั่วซานได้เลย”

“ดังนั้น หากจะว่ากันถึงแก่นแท้แล้ว นี่ก็คือทฤษฎีของชุมชนนิยม อย่างมากก็แค่เป็นการเปลี่ยนสีเพื่อป้องกันตัวเองในเขตที่เลือกปฏิบัติระดับภูมิภาคและการเลือกปฏิบัติกับคนเท่านั้น”

“ในมือของผมมีขนมปังชิ้นหนึ่ง นี่คืออาหารเย็นของผม” โจวเจ๋อแบมือข้างหนึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองกำลังถือขนมปัง

“จากนั้นละ”

“จากนั้นก็คือตอนที่ผมกำลังจะกินขนมปังชิ้นนี้ ทันใดนั้นผมก็นึกถึงเขตคนยากไร้ที่อยู่บนโลกใบนี้ ยังมีคนที่กินไม่อิ่ม และหิวจนผอมเห็นกระดูก ดังนั้นผมจึงทนกินขนมปังชิ้นนี้ไม่ได้ และยอมที่หิวไปพร้อมกับพวกเขา ถึงขั้นที่ว่าหิวตายไปพร้อมกัน”

“ท่าน ผมรู้สึกว่าคำถากถางเหน็บแนมของท่าน ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก” ชายชราส่ายหน้า “ท่านคิดว่าเจ้าลิงเป็นสัตว์เดรัจฉานใช่ไหม สิ่งที่มันทำตลอดสามเจี๋ยจื่อ ยิ่งเหมือนคนมากกว่าสิ่งที่เรียกว่าคนเสียอีก”

“โอเค งั้นเปลี่ยนตัวอย่าง ผมมีรถหรูคันหนึ่ง ข้างหน้ามีไวน์แดงชื่อดังราคาแพงกับไข่ปลาคาเวียร์ ผมจึงนึกอีกว่าบนโลกนี้ยังมีคนที่อดอยากอยู่ ผมจึงตัดใจไม่กิน และยังติดสินใจว่าจะทนหิวไปพร้อมกับพวกเขา และตายไปพร้อมกับพวกเขา ถ้าหากคุณกินของดีๆ ขนาดนั้น ถ้าหากคุณได้ขับรถดีขนาดนั้น ก็จะมีคนชี้หน้าด่าคุณ ด่าว่าคุณควรจะเอาเงินที่บำเรอความสุขของคุณบริจาคให้พวกคนยากไร้”

ชายชราหยุดเดินเหมือนกำลังครุ่นคิด

โจวเจ๋อไม่ได้หยุดและเดินไปข้างหน้าต่อ

ในที่สุด ชายชราก็ตามมาทัน

“ผมยังคงสงสัยมาก ทำไมท่านถึงห้ามมัน”

“คุณคิดว่าผมควรทำยังไง”

“ก็ทำเป็นมองไม่เห็น” ชายชราตอบ “ท่านเป็นยมทูต เป็นผู้พิทักษ์กฎของยมโลกในโลกมนุษย์ สาเหตุที่ผู้พิพากษาได้รับการเคารพ ก็เพราะความเป็นกลางของเขา ถ้าหากผู้พิพากษาเป็นนักกีฬาด้วย เกมนี้ก็จะพัง”

“ผมไม่เข้าใจความหมายของคุณ” โจวเจ๋อหยุดเดินมองไปทางชายชรา เขาใส่สูทเรียบร้อยจนอยากจะเดินเข้าไปทำให้เสื้อของเขายับยู่ยี่

“ความหมายง่ายมาก ที่ท่านยกตัวอย่างสองกรณีก่อนหน้านี้ ก็แค่อยากจะอธิบายถึงตัวเลือกที่ตัวเองตัดสินใจในตอนนั้น และเมื่อครู่ที่ผมเพิ่งถามคำถามพวกนี้ ก็เป็นเพียงเสียงโหวกเหวกของคนนอกเท่านั้น”

“ผมคิดว่าคุณฟังไม่เข้าใจ”

“เข้าใจแล้วครับ ท่านเป็นคนดี” ชายชราพูดซ้ำอีกรอบว่าเป็น “ ‘คน’ ดี”

หากมองในแง่มุมของ ‘มนุษย์’ ก็เป็นเช่นนี้จริง

“ดังนั้น คุณตั้งใจเดินเข้ามา ก็เพื่ออยากให้คำนิยามกับผมเหรอ” โจวเจ๋อมองชายชรา นิ้วทั้งสิบของเขายังคงเจ็บปวดทรมาน “ผมไม่รู้ว่าหลังจากเก็บเจ้าสิ่งนั้นมา ความซวยจะมาเร็วขนาดนี้”

ก่อนหน้านั้นสาวน้อยโลลิ เคยพูดกับตัวเองว่าเป็นหลอดไฟในยามค่ำคืน ตอนนี้โจวเจ๋อรู้สึกว่าตัวเองเป็นระเบิดเพลิงในยามราตรีมากกว่า

ชายชราส่ายหน้า เอ่ยว่า “ผมไม่ใช่ตัวซวยของท่าน อันที่จริง ผมเป็นคนใช้ที่เจ้านายคนก่อนเหลือไว้ และท่านก็เพิ่งได้สืบทอดบัตรประจำตัวของเจ้านาย ด้วยเหตุนี้ ผนึกของผมจึงถูกปลดออก ผมจึงตื่นขึ้นมา จากนั้นก็ตามหาท่าน แล้วก็คอยตรวจสอบท่านด้วย”

“เก็บได้ของดี และยังแถมคนแก่มาด้วยเหรอ”

โจวเจ๋อเผยรอยยิ้มตรงมุมปาก

“ผมควรจะพูดอีกหนึ่งประโยคไหม สามสิบปีทางทิศตะวันออกของแม่น้ำเหลือง สามสิบปีทางทิศตะวันตกของแม่น้ำเหลือง อย่ารังแกเด็กยากจน แล้วก็ถอนหายใจด้วยความหวาดกลัวอีก แบบนี้ค่อยเหมาะสมกับเหตุการณ์หน่อย”

“ผมฟังไม่เข้าใจ ครับท่าน” ชายชราพูดตามตรง

“ต้องอ่านหนังสือเยอะๆ” โจวเจ๋อเอ่ยเตือน

“ครับ” ชายชราพยักหน้าจริงจัง “ได้รับคำชี้แนะแล้ว”

ข้างหน้า เจอสัญญาณไฟจราจรอีก ทั้งสองคนจึงหยุดเดินอีกครั้ง

“ท่านครับ ท่านได้สืบทอดบัตรประจำตัวของเจ้านาย ดังนั้นจึงกลายเป็นเจ้านายคนใหม่ของผม” ชายชราเอ่ยพูด ขณะเดียวกันก็โน้มตัวเพื่อแสดงความเคารพ

โจวเจ๋อยืนอยู่กับที่พลางมองชายชรา วันนี้มีโชคเยอะจริง ได้หนังสือรับรองเล่มหนึ่ง ฆ่าลิงไปหนึ่งตัว แล้วก็มีชายชราคนหนึ่งโผล่มา บอกว่ายอมรับตัวเองเป็นเจ้านาย

โจวเจ๋อไม่ได้ดีใจแบบลิงโลด แค่รู้สึกว่ายุ่งยากเล็กน้อย เขามองชายชราที่จู่ๆ ก็โผล่ออกมาไม่ออก ว่ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่

“เจ้านายเคยสั่งไว้ว่า ให้ผมบอกผู้สืบทอดคนใหม่ของเขา” ชายชราพูดอีก “แน่นอนว่า ประโยคนี้ทิ้งไว้ให้ท่านขณะเดียวกันก็ทิ้งไว้ให้คนรับใช้อย่างผมด้วย

“บอกว่า”

“ถ้าหากผู้สืบทอดคนใหม่เป็นคนดี อย่างนั้นก็…”

“สวบ!”

เสียงวัตถุแหลมคมแทงทะลุเข้าไปในร่างกาย โจวเจ๋อก้มมองอย่างตกตะลึง เขาเห็นมือของชายชราแทงทะลุหน้าอกของตัวเองโดยตรง แทงเข้ามาทื่อๆ อย่างกะทันหัน กระทั่งเขาไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ

จากนั้นเท้าทั้งสองข้างของโจวเจ๋อค่อยๆ ลอยห่างจากพื้น ชายชรายกแขนข้างหนึ่งขึ้น แล้วโจวเจ๋อก็ถูกเขายกขึ้นมา

ภายใต้แสงไฟสลัว โจวเจ๋อสามารถมองเห็นเลือดของตัวเองไหลไปตามแขนของชายชราได้อย่างชัดเจน เลือดสีแดงฉานเปื้อนเสื้อสูทของชายชราแล้ว

“เจ้านายบอกว่า ถ้าหากผู้สืบทอดของเขาเป็นคนดี อย่างนั้นก็ฆ่าเขาเสีย จากนั้นก็รอคนต่อไป”

ชายชรายังคงพูดด้วยน้ำเสียงสงบเหมือนเดิม

เขาไม่เหมือนฆ่าคน แต่เหมือนกำลังทิ้งขยะ ดูเหมือนเป็นพ่อครัวที่เรื่องมากกำลังเลือกวัตถุดิบอาหารให้ตัวเองหากไม่ถูกใจก็โยนทิ้งไป แล้วเปลี่ยนของใหม่เข้ามา

ส่วนโจวเจ๋อ ก็เหมือนขยะที่ถูกทิ้งอย่างไม่มีสาเหตุ

เลือดสดๆ ไหลลงข้างล่างไม่หยุด เล็บทั้งสิบนิ้วของโจวเจ๋องอกยาวออกมา แต่ยังไม่ทันรอการเคลื่อนไหวต่อไปของโจวเจ๋อ ชายชราจู่ๆ ก็ใช้แรงเจาะทะลุกลางฝ่ามือของโจวเจ๋อทันที

ชั่วเวลาเดียว โจวเจ๋อรู้สึกถึงความเจ็บปวดทรมานไปทั่วร่างของตัวเอง ร่างกายของโจวเจ๋อเกิดการชักกระตุก ไร้แรงตอบโต้อย่างสิ้นเชิง

“ขอโทษจริงๆ นะครับ ท่าน เมื่อหนึ่งนาทีก่อน ท่านอาจจะรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันโชคดีของท่าน เพราะท่านได้สิ่งที่ตัวเองต้องการเป็นอย่างมาก ผมไม่รู้ว่าท่านได้สังเกตชื่อและตำแหน่งสีขาวลางๆ ที่อยู่ใต้คอลัมน์ที่สองหรือไม่ ท่านอาจจะคิดว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้จุดสีขาวนั้น คือชื่อและตำแหน่งของเจ้านาย อันที่จริง ก็เป็นเช่นนั้นครับ แต่ไม่ได้มีเพียงแค่นั้นยังมีชื่อและตำแหน่งของผู้สืบทอดแปดคนก่อนหน้าท่านอีกด้วย”

ชายชราพูดต่ออย่างเงียบสงบ

“พวกเขา…พวก…เขา…ก็เป็น…คนดีเหรอ”

โจวเจ๋ออ้าปาก เลือดสดๆ ล้นออกมาจากในมุมปากไม่หยุด เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นปลาเค็มตัวหนึ่งที่ถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ รอลมพัดให้แห้งอย่างช้าๆ

“ไม่ครับท่าน ท่านเป็นคนดีเพียงคนเดียว ในจำนวนเก้าคนนี้” ชายชราตอบ

“แล้วทะ…ทำไม…พวกเขา..ถึง…ต้องตาย…”

“เพราะว่าตอนที่ผมถามพวกเขาว่าเป็นคนดีไหม พวกเขาล้วนตอบว่า ‘ใช่’ และดูเหมือนจะยิ่งมีประโยชน์อยู่บ้าง”

ชายชราหันหน้ามาเล็กน้อย เผยสีหน้าที่จนใจออกมา

“จากนั้น พวกเขาก็ตาย”

…………………………………………………………………………