บทที่ 363 วิธีการหาเงินแบบนี้ สุดยอดไปเลย…. / บทที่ 364 ตำนานของโลกใบนี้ Ink Stone_Romance
บทที่ 363 วิธีการหาเงินแบบนี้ สุดยอดไปเลย….
หลังดื่มหนำสำราญกันแล้ว เนี่ยอู๋หมิงลุกขึ้นยืน “เถ้าแก่ คิดเงิน!”
เจ้าของร้านรีบเดินเข้ามาข้างใน “สี่ร้อยเจ็ดสิบห้าเหรียญ”
พอได้ยิน เนี่ยอู๋หมิงพยักหน้า มองไปทางสี่คน
สี่คนก็ประเมินมองมาที่เนี่ยอู๋หมิง
“เงินล่ะ! จ่ายเงินสิ!” เนี่ยอู๋หมิงพูด
“อ้อ…” หนุ่มหน้าตาดีควักธนบัตรปึกหนึ่งออกมา ส่วนใหญ่เป็นแบงก์ห้าสิบสตางค์และหนึ่งเหรียญ เนี่ยอู๋หมิงนับอย่างละเอียด ทั้งหมดเพิ่งยี่สิบกว่าเหรียญเอง
นักพรตหยิบแบงค์สิบเหรียญใหม่เอี่ยมสองใบออกมาอย่างไม่เต็มใจ
“ของนายล่ะ?” เนี่ยอู๋หมิงมองไปทางหนุ่มภูเขาน้ำแข็งหน้าสวย
“หัวหน้า ลืมแล้วหรือไง… ผมกับสามีเป็นหุ้นส่วนกัน สามีเล่นเป็นคนตาย ผมร้องไห้เสียใจ ขายตัวเพื่อฝังศพสามี… เงินพวกนี้เป็นรายรับร่วมกันของพวกเรา” หนุ่มหน้าตาดีมองไปทางเนี่ยอู๋หมิงอย่างโอดครวญ
เยี่ยหวันหวั่นที่สังเกตการณ์อยู่ตรงนั้นมาตลอด “…”
ขายตัวเพื่อฝังศพสามี?
วิธีการหาเงินแบบนี้… สุดยอดไปเลย….
“โธ่เว้ย!” เนี่ยอู๋หมิง ชี้ไปที่สามคนเรียงตัวตามโต๊ะกลม “พวกนายสามคนมันเศษขยะ! วันนี้หาเงินได้ทั้งหมดไม่ถึงห้าสิบเหรียญ!”
“ช่วงนี้การค้าลำบาก… วันนี้มีแค่คนเดียวมาหาให้ผมดูดวง… แล้วยังบอกว่าไม่แม่น ไม่ให้เงินผม เงินยี่สิบเหรียญนี่ผมเก็บได้มาจากข้างทาง…” นักพรตที่หน้าตาหล่อเหลา ดูมีเสน่ห์แบบตัวร้าย ถอนหายใจออกมา
“ไม่ต้องหาข้ออ้าง!” เนี่ยอู๋หมิงโบกมือขัดจังหวะ ชี้ไปที่กรรมกรชาวต่างชาติแล้วพูด “ดูสุดที่รักอ้ายซินเจวี๋ยหลัว[1] วันหนึ่งแบกย้ายอิฐได้ตั้งห้าพันก้อน หาเงินได้มากขนาดนั้น ดูพวกนาย แกล้งเป็นศพ ขายตัวเพื่อฝังศพสามี เป็นพวกใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้นตุ๋น… ได้เงินมาไม่ถึงห้าสิบ พวกนายขายขี้หน้าไหม ละอายใจบ้างไหม ยังมีศักดิ์ศรีกันอยู่ไหม!”
“หึ ดูสุดที่รักอ้ายซินเจวี๋ยหลัว…ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนี้ ฉันขนลุกไปทั้งตัว…” นักพรตที่หล่อเหลาและมีเสน่ห์ร้าย แอบมองไปทางกรรมกรชาวต่างชาติ
“หัวหน้า ชื่อที่หัวหน้าตั้งให้ ทำไมพวกเขาถึงหัวเราะเยาะ ตกลงสุดที่รักอ้ายซินเจวี๋ยหลัวแปลว่าอะไร?” กรรมกรชาวต่างชาติมีสีหน้าไม่พอใจ
“เหอะๆ …” เนี่ยอู๋หมิงมองไปทางกรรมกรชาวต่างชาติ พูดด้วยความจริงใจ มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ “สุดที่รักอ้ายซินเจวี๋ยหลัว หมายถึงความยิ่งใหญ่ กล้าหาญ และมีอำนาจอย่างมาก พวกเขาหัวเราะนาย เพราะตัวเองไม่คู่ควรกับชื่อนี้!”
พอได้ยิน กรรมกรชาวต่างชาติพยักหน้า พูดสีหน้าเคร่งเครียด “หัวหน้า ฉันชอบชื่อที่มีอำนาจนี้ รอฉันหาเงินได้ จะเลี้ยงหัวหน้ากินขี้!”
เนี่ยอู๋หมิงบอก “… อันนี้ไม่ต้องก็ได้”
สุดที่รัก… อ้ายซินเจวี๋ยหลัว?
สีหน้าเยี่ยหวันหวั่นเต็มไปด้วยความขำ นี่มันชื่อบ้าอะไร…
“พวกคุณตกลงกันจบหรือยัง?” เจ้าของร้านยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าดูไม่ดีแล้ว
พวกโรคจิตหลายคนนี้ หรือว่าจะไม่มีเงินจ่าย?!
“คุยกับหัวหน้าของพวกเรา ระวังน้ำเสียงและมารยาทด้วย” แววตานักพรตมีแสงเย็นชาวาบขึ้นมา
“อื้อหือ มาเนียนกินฟรีร้านผม แล้วยังมาเสแสร้งอะไรอีก?” ในมือเจ้าของร้านมีมีดที่ไม่รู้หยิบมาตั้งแต่เมื่อไร
“เถ้าแก่ อย่าเพิ่งใจร้อน” เนี่ยอู๋หมิงโบกมือ มองไปทางชาวต่างชาติ “สุดที่รัก เอาเงินออกมา”
พอได้ยิน หนุ่มต่างชาติคนนั้นพยักหน้า ควักธนบัตรใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“ยังมีอีกนี่? เอาออกมาให้หมด” เห็นแบงค์สิบเหรียญในมือกรรมกรชาวต่างชาติ เนี่ยอู๋หมิงขำ
“หัวหน้า ไม่มีแล้ว มีทั้งหมดแค่นี้” หนุ่มต่างชาติพูดสำเนียงภาษาจีนแปลกพิลึกมาก
“ไม่มีแล้ว?” เนี่ยอู๋หมิงอึ้งไป “นายแบกอิฐมาตั้งห้าพันก้อนไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ อยู่นี่หมดแล้ว เถ้าแก่บอกว่าอิฐห้าพันก้อนได้เงินเท่านี้” กรรมกรชาวต่างชาติพูด
…………………………………………………
บทที่ 364 ตำนานของโลกใบนี้
“แม่นายสิ…ย้ายอิฐทั้งวัน เถ้าแก่ให้นายสิบหยวน?” เนี่ยอู๋หมิงเดือดดาลแทบจะกระอักเลือด “คราวหน้าก็ย้ายให้มากกว่านี้หน่อย ย้ายสักหมื่นชิ้นไปเลย”
“ครับหัวหน้า” กรรมกรต่างชาติพยักหน้างึกๆ
“หัวหน้าครับ วันนี้คุณหาเงินได้หรือยัง” นักพรตเอ่ยถามอย่างใคร่รู้
“ห๊ะ…หาเงินได้หรือยัง?” เนี่ยอู๋หมิงผลิมุมปากยิ้ม ท่าทางภาคภูมิใจ ล้วงมือเข้าไปที่หน้าอกแล้วหยิบธนบัตรหนึ่งร้อยใบหนึ่งออกมา “ดูให้เต็มตา”
ได้เห็นธนบัตรหนึ่งร้อยในมือของเนี่ยอู๋หมิง คนทั้งสี่รีบท่องกลอนสี่ พูดออกมาพร้อมเพรียงกัน “หัวหน้าจูเฉิน เก่งกาจเทียมทาน หล่อหล่อหล่อหล่อ เจ๋งเจ๋งเจ๋งเจ๋ง!”
“หัวหน้าเก่งมากเลย ฉันอยากมอบจุ๊บให้หัวหน้า” หนุ่มหน้าหวานสวมกอดเนี่ยอู๋หมิง
ทว่าก็ถูกฝ่ามือหนึ่งผลักออกไป…
เยี่ยหวันหวั่นมองแบงค์ร้อยใบนั้นในมือของเนี่ยอู๋หมิงอยู่เงียบๆ…
มันคงไม่ใช่เงินหนึ่งร้อยที่เธอใช้ซื้อของขวัญหรอกนะ?
“เกลียดหัวหน้าแล้ว…หัวหน้านิสัยไม่ดีเลย…ขนาดโมโหยังหล่อได้ขนาดนี้…คนเขารักหัวหน้าจะตายแล้วน๊า” การแสดงออกของหนุ่มหน้าหวานทวีความเทิดทูนขึ้นอีก
“สุดที่รัก จับเขาโยนออกไปที” เนี่ยอู๋หมิงกล่าว
“ครับหัวหน้า” กรรมกรต่างชาติเช็ดถูมือ แล้วจับหนุ่มหน้าหวานเหมือนเป็นลูกเจี๊ยบโยนไปบนแผงลอย
ไม่ถึงสิบนาที หนุ่มหน้าหวานก็พุ่งกลับเข้ามาหาอีก ชี้หน้ากรรมกรต่างชาติ “ไอ้คนขนอิฐหน้าเหม็น หากกล้าเอาอุ้งมือสกปรกของนายมาแตะต้องผิวละเอียดนุ่มของฉันอีก ฉันจะตัดเจ้านั่นของนายไม่ให้มีลูกหลานสืบสกุล!”
“ฮับบี้ เขารังแกฉัน คุณจะไม่สงสารเลยเหรอ? ฉันยังเป็นเบบี๊ที่คุณรักที่สุดอยู่ไหม” หนุ่มหน้าหวานคล้องแขนของหนุ่มภูเขาน้ำแข็งหน้าสวย
เวลานี้เอง เถ้าแก่ที่มองดูนักแสดงกลุ่มนี้ในที่สุดความอดทนก็ถึงขีดสุด “รีบจ่ายเงินมา! พวกนายเสียสติกันหมดแล้วหรือไง!”
“เถ้าแก่ถูกกว่านี้ได้ไหม ขอลดราคาหน่อย” เนี่ยอู๋หมิงกล่าว
จ้องเศษเหรียญในมือของเนี่ยอู๋หมิง รวมแล้วมีเงินไม่น่าเกินหนึ่งร้อยหกสิบหยวน เถ้าแก่ก็ยิ้มเย็นชา “หักกระดูกมาลดราคาเป็นไง?”
“เถ้าแก่ เอาแบบนี้ล่ะกัน…” ไม่รู้ว่าเนี่ยอู๋หมิงไปเอาผลิตภัณฑ์กระดูกชิ้นหนึ่งมาจากไหน กระแอมเสมหะเคลียร์คอ เอ่ยอย่างจริงจัง “นี่คือจระเข้ดึกดำบรรพ์จากลำน้ำลึกที่ฉันล่ามาจากทุ่งน้ำแข็งทางตอนเหนือ กะโหลกที่ใช้สร้างมาจากวิธีการที่ไม่ได้มีการถ่ายทอดรุ่นต่อรุ่น ปกติฉันขายหนึ่งแสนหยวน วันนี้ลดราคาให้คุณ ให้เป็นค่าข้าวตกลงไหม?”
“เถ้าแก่ คุณได้กำไรแล้ว!” หนุ่มหน้าหวานรีบพูดเสริม
“เถ้าแก่ รีบรับไปเถอะ หากคุณเกรงใจก็เอาเกี๊ยวมาเพิ่มให้หัวหน้าของพวกเราสักสามสี่ชามก็ได้” กรรมกรต่างชาติพยักหน้าพลางกล่าว
เวลานี้ เถ้าแก่หมดคำจะพูดแล้ว คนพวกนี้มื้อนี้กินฟรีก็เรื่องหนึ่งแล้ว…ตอนนี้ยังจะเห็นเขาเป็นคนโง่อีก…
“ฉันเป็นแม่พวกแกเหรอ!” เถ้าแก่ถือมีดหั่นผักขึ้นมา สีหน้าท่าทางฉันจะสับพวกนายให้เละ
ณ มุมแห่งหนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นมองดูการแสดงนี้อยู่นาน ในที่สุดก็นั่งไม่ติดแล้ว กระแอมเสียงไอลุกขึ้นเดินเข้าไปหา หยิบเงินสามร้อยหยวนออกมาวางข้างกายเนี่ยอู๋หมิงแล้วบอกว่า “ให้นายยืม…”
รีบไปซะ อย่าอยู่ให้ระคายเคืองสายตาฉันอีกเลย
“เอ๊…คุณหนูเยี่ยมีชื่อ บังเอิญจัง!” เนี่ยอู๋หมิงแปลกใจอยู่บ้าง ทว่าถัดมาก็กำเงินสามร้อยบาทที่เยี่ยหวันหวั่นวางไว้บนโต๊ะ ไม่ยอมปล่อยมืออีก
ตอนนี้ ชายหนุ่มที่แต่งตัวเหมือนนักพรตจดจ้องที่เยี่ยหวันหวั่น ดวงตาเปล่งประกาย พลางกล่าวว่า “หัวหน้า คุณไปรู้จักสาวน้อยคนสวยท่านนี้จากที่ไหน…”
“ลูกค้าตอนเปิดแผงลอย ชื่อเยี่ยมีชื่อ จะว่าไปชื่อนี้ก็ช่างมีวาสนากับฉันจริงๆ” เนี่ยอู๋หมิงลูบคางพลางกล่าว
เยี่ยหวันหวั่นพลันหมดคำจะพูด ตัวเองบอกชื่อไปมั่วๆ เขากลับคิดว่าเป็นชื่อจริง…
“อ้าย…หัวหน้า จะดีจะเลวคุณก็ยังเป็นตำนานของโลกใบนี้…บัดนี้ต้องพึ่งสาวน้อยมาช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจแล้ว…” นักพรตรชั่วร้ายคนนั้นเอ่ยด้วยความเคียดแค้นชิงชังเป็นอย่างยิ่ง
…………………………………
[1] ราชตระกูลในราชวงศ์ชิงซึ่งมีเชื้อสายแมนจู