ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 52

มหาเสนาบดีเซี่ยถามอย่างสงสัย “แม่นมหยางผู้นี้มาทำอะไรที่นี่อีกล่ะ?”

เหล่าฟูเหรินกล่าว “ไม่รู้เหมือนกัน ต้อนรับขับสู้อย่างใจเย็นไว้ก็พอ”

หลิงหลงฟูเหรินกล่าวถาม “คงจะไม่ได้มาประกาศพระราชโองการใช่ไหม? เป็นไปได้ไหมที่ฮองเฮามีความประสงค์จะลงโทษจวนมหาเสนาบดีของพวกเรา?”

“หุบปากของเจ้าไปซะ!” เหล่าฟูเหรินมองนางตาไม่กะพริบ “รู้จักแต่พูดจาไร้สาระ”

หลิงหลงฟูเหรินที่เห็นนางโกรธ ก็ทำได้เพียงสงบปากสงบคำ ยืนข้าง ๆ อย่างระมัดระวัง

คนเฝ้าประตูได้ให้แม่นมหยางเข้ามา เหล่าฟูเหรินยิ้มต้อนรับ “แม่นม วันนี้ท่านกับจวนมหาเสนาบดีช่างมีวาสนาต่อกันเสียจริง ภายในหนึ่งวันมาถึงสองรอบ ครั้งนี้ยังไงก็จะให้ท่านอยู่รับประทานอาหารเย็นก่อนถึงจะให้กลับไปได้”

แม่นมหยางยิ้มตอบ “ขอบคุณน้ำใจของเหล่าฟูเหริน เรื่องรับประทานอาหารไม่จำเป็นแล้ว ครั้งนี้ข้าน้อยได้รับคำสั่งให้มาที่นี่ และจะต้องรีบกลับวัง”

“รับคำสั่ง? ฮองเฮาสั่งให้ท่านมาใช่หรือไม่?” ดวงตาของเหล่าฟูเหรินเปล่งประกาย รอยยิ้มยังคงปรากฏบนใบหน้าอยู่เช่นเดิม “เชิญท่านนั่งจิบชาก่อนสักครู่แล้วค่อยพูดคุยกัน”

แม่นมหยางก้าวไปด้านหน้าของมหาเสนาบดีเซี่ย “ข้าน้อยเคยพบนายท่านมาก่อน”

มหาเสนาบดีเซี่ยกล่าว “แม่นมคือคนข้างกายของฮองเฮา ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตอง”

แม่นมหยางตอบกลับอย่างจริงจัง “ถึงแม้ข้าจะเป็นคนข้างกายฮองเฮา แต่ก็เป็นแค่นางข้าหลวง นายท่านเป็นถึงมหาเสนาบดี คนสำคัญของราชสำนัก อยู่ในตำแหน่งสูงสุด ข้าน้อยมิอาจละเลยพิธีรีตรองได้”

เหล่าฟูเหรินที่เห็นนางแสดงท่าทีเช่นนี้ ไม่ไว้หน้ากัน ก็หัวเราะเล็กน้อยแล้วกล่าวถาม “มิทราบว่าฮองเฮาสั่งการเรื่องใดมาเล่า?”

แม่นมหยางมองไปที่เหล่าฟูเหรินแล้วกล่าว “คืออย่างนี้ ฮองเฮาให้ข้าน้อยออกมาเอาเสื้อผ้าของคุณหนูใหญ่กลับไปสองสามชุด พระนางทรงโปรดปรานคุณหนูใหญ่มาก ต้องการให้นางพักอยู่ในวังสักสองสามวัน”

“อ๋อ?” เหล่าฟูเหรินและมหาเสนาบดีเซี่ยมองตากัน ส่งสายตาประหลาดใจ “จริงหรือท่าน? ให้นางพักอยู่ในวัง? เช่นนี้มันจะเป็นการไม่เหมาะสมหรือไม่?”

อาจจะเป็นไปได้ว่า ไม่ได้ต้องการฝังนางทั้งเป็น? ถ้าอย่างนั้นให้นางพักอยู่ในวังเพื่ออะไร? พักอีกกี่วันที่ตรงส่วนไหนในวังกันแน่? นังเด็กนอกคอกนั่นตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นคนที่รับมือได้ยากยิ่ง จะต้องพูดจาว่าร้ายให้ฮองเฮาฟังไม่น้อยเลยทีเดียว

แม่นมหยางชักสีหน้าไม่พอใจ “จะต้องโกหกไปใย? จวนมหาเสนาบดีไม่ยินยอมปล่อยคนให้ไปใช่หรือไม่? แน่นอนว่า คุณหนูใหญ่มีความเฉลียวฉลาดมากถึงเพียงนี้ จะต้องเป็นไข่มุกในฝ่ามือของนายท่านอย่างแน่แท้ จะปล่อยให้นางไปได้เช่นไร? งั้นลืมมันเสียเถิด ถ้าท่านยังคงไม่ยินยอมให้คุณหนูใหญ่ค้างคืนในวัง อย่างนั้นข้าน้อยก็ขอตัวกลับก่อน”

หลิงหลงฟูเหรินดึงตัวแม่นมหยางไว้ พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่นมอย่าเพิ่งไป ไม่ใช่ว่าไม่ยินยอม เรื่องที่ท่านขอมาอาจไม่ใช่เรื่องที่ดี ท่านแม่ของข้าเพียงแค่เป็นกังวล จื่ออานของเราออกไปข้างนอกน้อยมาก ไม่รู้จักมารยาท เกรงว่าจะไปทำให้ฮองเฮาขุ่นเคืองพระทัย”

แม่นมหยางกล่าวอย่างแผ่วเบา “เรื่องนี้พวกท่านไม่ต้องเป็นกังวลไป ไม่รู้ว่าฮองเฮาทรงโปรดปรานคุณหนูใหญ่มากเพียงใด ใช่แล้ว ฮองเฮายังบอกอีกว่า คนในวังเกรงว่าคุณหนูใหญ่จะไม่พอใจในการรับใช้ จึงให้สาวใช้ที่คอยรับใช้นางตามเข้าวังไปด้วย”

“เสี่ยวซุน?” หลิงหลงฟูเหรินสีหน้าค่อย ๆ เคร่งขรึมเล็กน้อย วันนี้ตอนที่แม่นมหยางมา เซี่ยจื่ออานที่อยู่ต่อหน้าแม่นมหยางได้บอกเป็นนัย ๆให้นางปล่อยเสี่ยวซุนไป แต่หลังจากที่เซี่ยจื่ออานเข้าวังไปแล้ว นางได้สั่งให้คนโบยเสี่ยวซุนไปอีกรอบ หากวันนี้นังเด็กนั่นยังคงถูกขังในห้องมืด ก็ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่

แม่นมหยางที่เห็นสีหน้าของหลิงหลงฟูเหริน ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าพวกเขาไม่ได้ปล่อยสาวใช้คนนั้น นางขมวดคิ้วตอบ “ใช่แล้ว คือสาวใช้คนนั้นที่ฮองเฮาต้องการให้นางเข้าวังไปด้วย”

เหล่าฟูเหรินไม่รู้ว่าหลิงหลงฟูเหรินได้ลงมือกับเสี่ยวซุนอีกแล้ว คิดว่าถึงแม้นางจะถูกทรมาน แต่ว่าเรื่องที่ต้องให้เข้าวังไปก็คงไม่เป็นไร สาวใช้คนนั้นถูกโบยไปไม่กี่ครั้งเองนี่?

ดังนั้นนางจึงออกคำสั่ง “พวกเจ้าไปพาเสี่ยวซุนมาที่นี่ แล้วค่อยเก็บเสื้อผ้าของคุณหนูใหญ่ส่งมอบให้แม่นมนำเข้าไปในวัง”