ตอนที่ 222 ฉินเสี่ยวตั่วตกอยู่ในอันตราย

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

สิ่งที่เหอเหวินเจี้ยนไม่ได้สังเกตก็คือเหนือศีรษะเขามีรูกล้องอยู่

ถ้าหากว่าในตู้ใบนี้นั้นมีความลับทางธุรกิจซุกซ่อนอยู่จริงๆ ล่ะก็เขาจะต้องโดนฟ้องในข้อหาขโมยความลับทางธุรกิจ

แต่ว่าเหอเหวินเจี้ยนมองเข้าไปด้านในของตู้อย่างตื่นเต้น แล้วพบว่าในตู้ไม่มีรูปสัญญาใดๆ มีเพียงแต่รูปภาพเท่านั้น

อีกทั้งเป็นรูปถ่ายของผู้หญิงหน้าตาสวยๆ ทั้งหมด

ตำแหน่งตรงกลางภาพนั้นมีภาพผู้หญิงสามคนแขวนไว้อยู่แถมยังติดเครื่องหมายถูกและผิดที่เหอเหวินเจี้ยนดูแล้วก็ไม่ใคร่เข้าใจนัก

เหอเหวินเจี้ยนไม่ได้รู้เลยว่าภาพพวกนี้หมายถึงแะไร แต่ในเมื่อเขาลงแรงไปมากกว่าจะเปิดตู้นี้ได้เห็นทีจะต้องพยายามตรวจสอบเอาให้ชัดเจน

ดังนั้นเหอเหวินเจี้ยนจึงเอามือถือออกมาในทันที แล้วถ่ายภาพสามภาพและถ่ายภาพในตู้โดยรวม หลังจากนั้นก็ส่งผ่านแอพพลิเคชันไป

ในตอนนั้นเอง บนรถ SUV ที่จอดออยู่ด้านนอกสนามกอล์ฟ หวังเอ้อร์เชอก็ได้รับข่าวที่เหอเหวินเจี้ยนส่งมาให้

โดยที่มีเย่เฉินและหลิวเจิ้งคุนอยู่ข้างๆ!

ทั้งสองคนเหมือนจับหวังเอ้อร์เชอเรียกค่าไถ่อย่างไรอย่างนั้น พวกเขานั่งข้างๆ เขาด้วยท่าทีดุดันอย่างมาก

เพราะว่าข้อความนี้มีใช้การส่งแบบข้อความลับ ดังนั้นภาพนี้จึงจะอยู่ได้แค่สามวินาทีเท่านั้น ดังนั้นหวังเอ้อร์เชอก็รีบใช้นิ้วขวาจิ้มหน้าจอค้างไว้เพื่อบันทึกรูปภาพ

เย่เฉินรับโทรศัพท์มา เมื่อเห็นรูปภาพแล้วก็เกิดประหลาดใจขึ้นมาทันที “นี่คืออะไร?”

เดิมทีเย่เฉินก็เหมือนกับเหอเหวินเจี้ยนที่คิดไปว่าในตู้นั้นน่าจะมีความลับทางธุรกิจบางอย่างอยู่หรือเปล่า หรือไม่ก็อาจะเป็นหลักฐานในการทำผิดบางอย่าง หรืออาจะถึงขั้นเป็นยาเสพติดเลยด้วยซ้ำไป

แต่เขาเองก็เคยตรวจสอบทั้งสี่คนที่เคยมาตีกอล์ฟกับหลิวอวี่เจ๋อมาก่อน พวกเขาต่างเป็นลูกเศรษฐีที่เอ้อระเหยลอยชายไม่ทำงานทำการอะไร

และถึงแม้ว่าจะเป็นพวกไม่ทำอะไร แต่กลับไม่แตะต้องของอย่างพวกยาเสพติดกันแม้แต้น้อย เพียงแต่ชอบเที่ยวเล่นและจีบสาวกันเท่านั้น

ในเมื่อเป็นพวกลูกเศรษฐีเจ้าสำราญ อย่างนั้นแล้วภาพในตู้ที่ว่าก็น่าจะพอเข้าใจได้แล้ว

ในภาพที่ส่งมานั้นเป็นรูปของสาวสวย สาวสวยพวกนี้อาจเป็นเป้าหมายของพวกเขา

เย่เฉินขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น แล้วมองหญิงสาวทั้งสามคนในภาพอย่างละเอียดถี่ถ้วน แล้วก็ตกใจทันที!

“ซวยแล้ว!”

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเย่เฉินจะรู้จักสาวงามสองคนในภาพนั้น!

ที่อยู่ซ้ายสุดนั้นคือน้องสาวของฉินหงเหยียน ฉินเสี่ยวตั่ว!

ส่วนคนตรงกลางนั้นก็คือเจ้าของร้านกาแฟซือเฉินที่สวยในระดับเดียวกับหวังเจียเหยาคนนั้น!

ส่วนคนขวาสุดนั้นเย่เฉินไม่รู้จัก

หลิวเจิ้งคุนเองก็เหลือบมองเช่นกันแล้วกล่าว“ดูไปแล้วในตู้น่าจะไม่มีของมีค่าอะไร พวกหลิ่วอวี่เจ๋อเป็นแค่ลูกคนรวยที่เล่นสนุกไปวันๆ ผู้หญิงสามคนนี้น่าจะเป็นเป้าหมายของพวกเขา”

หวังเอ้อร์เชอที่ปากเสียก็กล่าวพร้อมกับหัวเราะคิกคัก “ใช่ครับ ผมก็ว่าอย่างนั้น ผู้หญิงในภาพสามคนนี้ต่างก็ถูกแปะด้วยเครื่องหมายที่แตกต่างกัน มันหมายความว่าอะไร?”

เย่เฉินเองก็สังเกตเห็นเครื่องหมายพวกนี้ เขาเองก็กำลังคิดเรื่องนี้อยู่เช่นกัน!

หวังเอ้อร์เชอชะโงกหน้ามามองหน้าจอโทรศัพท์มือถือแล้วก็เข้าใจ “ผมรู้แล้ว พวกเขาอาจจะชอบผู้หญิงที่โปรไฟล์ดี แล้วไอ้พวกนี้มันก็แข่งกันว่าจะใครจะจีบหล่อนติด! ฮ่าๆ จะต้องเป็นแบบนี้แน่นอน ไอ้พวกลูกคนรวยน่ารังเกียจ เที่ยวเล่นกันวันๆ ก็เอาแต่แข่งกันแต่เรื่องผู้หญิง แต่ว่าพวกเขาต่างก็เป็นลูกเศรษฐีหมื่นล้านแสนล้าน มีผู้หญิงที่พวกเขาจีบไม่ติดด้วยเหรอเนี่ย? ห่วยแตกชะมัด!”

หลิวเจิ้งคุนแค่นเสียง “ไอ้หนู ลูกเศรษฐีแสนล้านอยากจีบใครก็จีบติดเหรอ? นายใสซื่อเกินไปแล้ว ประเทศของเรามีคนร่ำรวยที่ไม่เปิดเผยตัวตั้งมากมาย พวกเขาห้าคนเป็นอะไร!”

หลิวเจิ้งคุนพูดถูก พวกหลิ่วอวี่เจ๋อถึงแม้อาจจะนับเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยระดับสูงในประเทศ ผู้หญิงทั่วไปต่างก็อยากจะสบาย

แต่ว่าพอเปรียบเทียบกับครอบครัวที่ใหญ่มากแล้วยังแตกต่างกันอยู่มาก

ดังเช่นตระกูลเย่ของเย่เฉิน หากว่าห้าคนนี้ชอบเย่อัยฉี อยากจะใช้สถานะครอบครัวและการเงินมาตามจีบหล่อนล่ะก็ เย่อัยฉีก็อาจจะมองพวกเขาเป็นคนโง่

หลิวเจิ้งคุนมองภาพถ่าย “นายลองดูผู้หญิงที่อุ้มเด็กคนกลาง ถูกแปะเครื่องหมายกากบาทเอาไว้แล้ว!”

ผู้หญิงคนที่หลิวเจิ้งคุนชี้นั้นก็คือเจ้าของร้านกาแฟซือเฉิน คนที่เย่เฉินเข้าใจผิดว่าเป็นพี่สะใภ้คนที่สองของตนเอง

ไม่เพียงแต่มีเครื่องหมายกากบาท ด้านล่างยังมีคนเขียนเอาไว้ว่า “พื้นเพครอบครัวยิ่งใหญ่เกินไป อย่าหาเรื่อง!…อาข่าย”

ในหัวของเย่เฉินก็ปรากฏภาพท่าทางของหญิงสาวคนนั้นขึ้นมาอีกครั้ง

“พื้นเพครอบครัวยิ่งใหญ่เกินไปเหรอ? ที่แท้แล้วครอบครัวผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ธรรมดา”

ที่จริงแล้วในครั้งแรกที่เย่เฉินเห็นผู้หญิงคนนั้นก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นมีบุคลิกภาพที่ดี คงจะเป็นลูกคุณหนูที่ไหนแน่

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าหล่อนจะรวยจน คนพวกไม่กล้านี้ปแหยมด้วย

“พี่รองทำไมรู้จักหล่อนได้!”

เย่เฉินสงสัย

และในเวลานี้เองหวังเอ้อร์เชอก็กล่าวขึ้นมา “ดูไม่ออกเลย ผู้หญิงคนที่อยู่ตรงกลางมีลูกแล้ว ยังจีบยากอีก แต่หน้าตาสวยดีจังเลย! ผู้หญิงสองคนซ้ายขวาคงจะไม่ตามจีบยากเท่าไหร่ล่ะมั้ง? ดูจากสัญลักษณ์ที่แปะไว้บนภาพ!”

พอเย่เฉินได้ยินเช่นนี้ในใจก็ไม่ใครจะพอใจนัก หรือว่าฉินเสี่ยวตั่ว น้องสาวของฉินหงเหยียนนั้นถูกพวกเดียรัจฉานทั้งห้าคนจัดการไปแล้วเหรอ?

แต่เมื่อเห็นภาพของฉินเสี่ยวตั่วแปะสัญลักษณ์สี่อัน โดยมีเครื่องหมายกากบาทสองอัน ส่วนเครื่องหมายสองอันที่เหลือนั้นคือวงกลมสีแดงเข้มและอ่อน

“เครื่องหมายสองอันนี้หมายความว่าอะไรกันแน่!”

เย่เฉินอยากจะรู้คำตอบจนทนไม่ไหว!

เขาอยากจะรู้ว่าน้องสาวแสนสวยและน่ารักที่ทั้งใสซื่อบริสุทธิ์คนนั้นของแฟนสาวตนเองถูกทั้งห้าคนนี้เหยียบย่ำไปแล้วหรือเปล่านะ!

หลิวเจิ้งคุนกล่าวว่า “คนแรกน่าจะยังไม่ได้ เครื่องหมายถูกน่าจะแปลว่าได้มาแล้ว คุณชายลองดูผู้หญิงที่อยู่ซ้ายสุด มีเครื่องหมายผิดสองอัน เครื่องหมายถูกสามอันนั่นปะไร!”

การวิเคราะห์ของหลิวเจิ้งคุน เป็นสิ่งที่เย่เฉินเองก็คาดหวังเช่นกัน!

ถ้าหากว่าพวกเขายังไม่ได้แตะต้องหญิงสาวล่ะก็ งั้นเย่เฉินก็จะมีโอกาสในการขัดขวางพวกเขาปกป้องไม่ให้ฉินเสี่ยวตั่วได้รับอันตราย!

“ส่งข้อความไปบอกเหอเหวินเจี้ยนให้เขาไปหาข่าวมาว่าเรื่องสัญลักษณ์พวกนี้นั้นหมายความว่าอย่างไรกันแน่”

เย่เฉินสั่งหวังเอ้อร์เชอ

หวังเอ้อร์เชอเองก็เกิดนึกสนุก “เอ๋? ไม่ใช่ความลับทางธุรกิจเสียหน่อยทำไปต้องถามด้วยล่ะครับ!”

เพี้ยะ!

หลิวเจิ้งคุนฟาดฝ่ามือลงบนศีรษะของหวังเอ้อร์เชอ “บอกให้นายถามก็ถามไปเถอะพูดมากทำไม!”

“ครับๆ…”

แล้วเหอเหวินเจี้ยนที่อยู่ในสนามกอล์ฟก็ได้ข้อความที่เห็นได้เพียงสามวินาที

ส่วนในตอนนี้พวกหลิ่วอวี่เจ๋อกำลังตื่นเต้นมองดู UFO อยู่ด้านนอก

ถ้าหากว่าเป็นจานบินทั่วๆ ไปย่อมไม่สามารถดึงดูดสายตาพวกลูกคนรวยทั้งสามคนนี้ได้

UFO ที่กำลังโบยบินอยู่นั้นเป็นสิ่งของเย่เฉินขอยืมมาจากเพื่อนโดยเฉพาะ ต่อให้เป็นนักวิจัยที่ศึกษาเรื่อง UFO โดยเฉพาะรวมไปถึงนักวิทยาศาสตร์ในประเทศก็ไม่มีทางจะจับได้ในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งที่จริงแล้วเป็นโดรนที่ทำมาเลียนแบบยาน UFO

เพื่อนคนนั้นของเย่เฉินชื่อว่า Musk ซึ่งก็คือประธานบริษัท SpaceX และรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla!