ตอนที่ 223 หลิ่วอวี่เจ๋อเปิดสารภาพแผนการทั้งหมด

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ถูกต้องคนที่ปล่อยจรวดไปอวกาศก็คือหมอนี่

เขาเป็นคนรวยที่บ้าที่สุดในโลก มีคนขนานนามว่าเป็น ‘ironman’ ในโลกแห่งความจริง

ในทัศนคติและความคิดของเขาอยู่เหนือกว่าคนทั่วไปหลายระดับ

ทั้งย้ายประชากรไปดาวอังคาร ประกอบจรวดเพื่อออกไปข้างนอก สร้าง Loop ในสายตาคนนอกแล้วอาจจะเป็นพฤติกรรมที่บ้าบอ แต่เขากลับทำให้มันเป็นจริง

ในตอนที่เขาจัดตั้ง SpaceX เขาก็เจอปู่ของเย่เฉิน ปู่ของชายหนุ่มเองก็ชื่นชมเขามาก ลงทุนให้เขาไปไม่น้อย

แต่ต่อมาปู่ของเย่เฉินเองก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่ให้เงินทุนอีกฝ่ายอีก เพราะว่าหมอนี่ผลาญเงินเก่งเกินไป

ตระกูลเย่ให้เงิน Musk ไปอย่างน้อยๆ หมื่นล้านเห็นจะได้

ดังนั้นคราวนี้เพื่อช่วยดึงดูดความสนใจของพวกหลิ่วอวี่เจ๋ออำนวยความสะดวกให้กับเหอเหวิ้นเจี้ยนได้เข้าไปดูของด้านในตู้ เย่เฉินถึงได้ขอยืม UFO จาก Musk มา

เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ Musk ย่อมต้องรับปากทันที แถมยังทวงบุญคุณกับเย่เฉิน

Musk ถามเย่เฉิน “นายยังอยู่ในประเทศใช่ไหม? จะให้พี่พานายไปเที่ยวไหม?”

เย่เฉินถามว่า “ไปเที่ยวที่ไหน?”

Musk “อวกาศไง!”

เย่เฉิน “ไสหัวไป!”

Musk เหมือนกับพนักงานขายชั้นยอด เขาพูดกับเย่เฉินว่ามาเถอะ ยุคแห่งการท่องอวกาศได้เริ่มขึ้นแล้ว นายแค่ต้องจ่ายเงินร้อยล้านดอลลาร์ ก็จะสามารถดื่มด่ำไปกับการเดินทางท่องอวกาศได้!

คุณปู่เคยกำชับกับเย่เฉินและพี่น้องของเขาเอาไว้ ถ้าหากว่าไปเจอ Musk ที่ไหนให้รีบเดินหนีไปให้เร็วที่สุด ถ้าปกติแล้วจะถ้าไม่มีความจำเป็นต้องไปพบเขาก็อย่าไปหาเขาเลย

เพราะทันทีที่ไปหาเขา เขาก็จะขอยืมเงิน โครงการอวกาศที่เขาสนใจนั้นผลาญเงินจนเกินไป

เย่เฉินด่า Musk ในสายโทรศัพท์อย่างดุเดือด นายมันคนสารเลว ยังมีหน้าจะมาขอเงินกันอีก นายติดเงินตระกูลเย่ของเราไปสองหมื่นกว่าล้านยังไม่คืนเลย!

Musk กล่าวอย่างไม่ยี่หระ รอให้คนอพยพย้ายไปดาวอังคารสำเร็จแล้ว เดี๋ยวค่อยไปคืนเงินกันที่ดาวอังคาร!

เย่เฉินพ่นคำหยาบคายมาเป็นชุดแล้วกดวางสาย

……

ในตอนนี้หลิ่วอวี่เจ๋อกำลังวีดีโอคอลกับหวังเจียเหยา เพื่อมองดู UFO ที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน

ทว่าหวังเจียเหยาที่เป็นเด็กผู้หญิง สนใจแต่พวกบ้านและเสื้อผ้า จะมาสนใจอะไร UFO

หญิงสาวเพียงแต่ถามเบาๆ “นายไปตีกอล์ฟกับเหล่าเหออีกแล้วเหรอ?”

“ครับ” หลิ่วอวี่เจ๋อพยักหน้ารับ อยากจะให้เหอเหวินเจี้ยนทักทายกับภรรยาของตนเอง

แต่พอเขาหันมามอง รอบๆ ตัวกลับไม่มีวี่แววของเหอเหวินเจี้ยน!

หลิ่วอวี่เจ๋อรีบกดวางสายทันทีแล้วหน้าถอดสี “เหล่าเหออยู่ไหน!”

วินาทีต่อมาหลิ่วอวี่เจ๋อและเพื่อนของเขาสองคนก็รีบวิ่งเข้าไปด้านใน แล้วเห็นเหอเหวินเจี้ยนกำลังอยู่ด้านข้างตู้ส่วนตัวของพวกเขาห้าคน!

เหอเหวินเจี้ยนเห็นหลิ่วอวี่เจ๋อรีบเดินมาก็มีท่าทีลนลานอย่างมาก

แต่เขาเป็นคนเจนสังคม จึงรีบฉีกยิ้มด้วยท่าทีนิ่งเฉย “ทำไมล่ะ UFO บินไปแล้วเหรอ?”

หลิ่วอวี่เจ๋อมองเหอเหวินเจี้ยนตั้งแต่หัวจจรดเท้าอย่างประเมิน ทันใดนั้นเองก็ฉุกใจได้ว่าช่วงนี้เหอเหวินเจี้ยนจงใจเข้าหาตนเอง เกรงว่าจะไม่ได้เพื่อย้ายมาบริษัทเอ็กซ์เพรสชุนเฟิง บางทีก็อาจจะมีเป้าหมายอื่นแฝงอยู่

หลิ่วอวี่เจ๋อยิ้มเจ้าเล่ห์พลางกล่าว “เหล่าเหอ คุณมาที่นี่ แถมยังเปิดตู้ส่วนตัวของพวกเรา มีเจตนาอะไร? อยากจะสืบเรื่องผมเหรอ”

หลิ่วอวี่เจ๋อยังถือว่าเกรงอกเกรงใจ เพื่อนที่อยู่ด้านหลังเขาก็ก่นด่า “ตาแก่ ทำไมต้องมาสอดแนมดูเรื่องส่วนตัวของพวกเราด้วย!”

เหอเหวินเจี้ยนหัวเราะคิกคัก “คุณชายหลิ่ว พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว เมื่อครู่ UFO บินต่ำมาก ลมแรงจนมีอะไรไม่รู้เข้าตาผมก็เดินเข้ามาในนี้โดยไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัว”

“ส่วนตู้น่ะ ผมไม่ได้เป็นคนเปิด มันเปิดอ้าอยู่ตลอดเลย เมื่อกี้ที่พวกคุณเห็น UFO ลืมปิดหรือเปล่า?”

คุณชายอีกคนกล่าววว่า “เป็นไปไม่ได้! ตอนผมไปจำได้แม่นเลยว่าปิดสนิทแล้วชัดๆ!”

หลิ่วอวี่เจ๋อเดินไปขวางด้านหน้าเหอเหวินเจี้ยน “คุณได้ถ่ายรูปเอาไว้หรือเปล่า?”

ถึงแม้ว่าในตู้จะไม่ได้ซุกซ่อนความลับทางธุรกิจ เป็นแค่ผู้หญิงหน้าตาสะสวย แต่ว่าจะปล่อยให้รูปของผู้หญิงพวกนี้หลุดออกไปไม่ได้

คนที่เข้าตาพวกคุณชายที่แสนร่ำรวยพวกนี้ได้ ล้วนแต่เป็นสาวสวยชั้นยอด แถมสาวสวยพวกนี้ปกติแล้วจะมีเจ้าของอยู่แล้ว อีกทั้งแฟนหรือสามีของเจ้าหล่อนล้วนแต่เป็นคนใหญ่คนโตที่มีอำนาจ

ทันทีที่เรื่องที่ของภรรยาพวกเขาลอดเข้าหูสามีเจ้าหล่อน อย่างนั้นพวกเขาก็จะจบเห่กัน

เหอเหวินเจี้ยนหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งให้หลิ่วอวี่เจ๋อ “ผมไม่ได้มีเจตนาบุกเข้ามา และยิ่งไม่มีทางถ่ายรูป ถ้าพวกคุณไม่เชื่อล่ะก็ ผมเอาให้พวกคุณดูก็ได้”

หลิ่วอวี่เจ๋อรับโทรศัพท์มา แล้วในคลังภาพ และบันทึกสนทนา wechat รวมไปถึง APPLICATION อื่นๆ ว่าไม่มีรูปภาพแล้วจริงๆ และก็ไม่มีการส่งข่าวไปให้ใคร

แต่หลิ่วอวี่เจ๋อไม่ใช่คนโง่ เหอเหวินเจี้ยนยังรู้ว่าใน APP พวกนี้มีข้อความลับ เขาจะไม่รู้ได้ยังไง?

หลิ่วอวี่เจ๋อเห็นความจริงถูกเปิดเผย ก็จะตบลงบนบ่าเหอเหวินเจี้ยน “นี่ ที่จริงแล้วไม่ได้มีเรื่องใหญ่โตอะไร ในเมื่อคุณเห็นแล้ว ยังไงเสียพวกเราก็เป็นคนกันเองบอกคุณไปก็ไม่เป็นอะไร”

“อวี่เจ๋อ…” คุณชายที่ร่ำรวยที่อยู่ด้านหลัง เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้หลิ่วอวี่เจ๋อบอกเรื่องนี้กับเหอเหวินเจี้ยน

หลิ่วอวี่เจ๋อยื่นมือมาเพื่อบอกว่าเขารู้ว่าตนเองพอจะคาดคะเนได้

จากนั้นหลิ่วอวี่เจ๋อก็เลยแนะนำกับเหอเหวินเจี้ยน “คุณเห็นรูปพวกสาวสวยๆ ในตู้นี้แล้วหรือยัง? คนพวกนี้คือคนที่พวกเราเจอโดยบังเอิญตามสถานที่ต่างๆ ในโลก อยากจะจีบแต่จีบไม่ติด คุณเองก็รู้ว่าลูกหลานเศรษฐีอย่างพวกเราต่างก็มีศักดิ์ศรี ถ้าจีบไม่ติดก็จะค้างคาใจเลยแปะรูปเอาไว้ ให้เพื่อนคนอื่นตามจีบต่อ เพื่อนๆ คนอื่นคนไหนจีบติดแล้ว ก็จะได้อัดคลิปสั้นๆ เอาไว้เพื่อให้เพื่อนคนที่พลาดได้ดูด้วย”

เหอเหวินเจี้ยนเห็นรูปภาพสามใบเล็กน้อย มิน่าคนแรกถึงเป็นรูปกากบาทกันหมดด

เหอเหวินเจี้ยนถาม “แล้วเครื่องหมายที่แปะบนนั้นหมายความว่ายังไง?”

หลิ่วอวี่เจ๋ออธิบาย “เครื่องหมายกากบาทหมายถึงพลาดแล้ว คือตามจีบก็ไม่ได้แบบนั้น ส่วนเครื่องหมายถูกก็แปลว่าได้มาแล้ว ส่วนเครื่องหมายวงกลมสีอ่อนๆ แปลว่าคุยกันถูกคอ สามารถนัดออกไปดื่มชาดูภาพยนตร์ วงกลมสีแดงอ่อน แปลว่าได้แตะเนื้อต้องตัวกันแล้ว เช่นจูงมือ โอบเอวอะไรแบบนั้น”

หลิ่วอวี่เจ๋อชี้วงกลมสองอันที่ถูกแปะบนตัวฉินเสี่ยวตั่วพลางอธิบาย

หลิ่วอวี่เจ๋อมองฉินเสี่ยวตั่วเล็กน้อย “ผู้หญิงคนซ้ายสุดเป็นแอร์โฮสเตส ข่ายจื่อเพื่อนของผมไปเจอโดยบังเอิญ แต่เสียดายที่ตามจีบยังไงเจ้าหล่อนก็ไม่สนใจ เขาโมโหก็เลยแปะรูปของเจ้าหล่อนมาที่นี่เพื่อส่งต่อให้พวกเรา เสียดาย เสี่ยวหม่านั้นทำได้มากที่สุดคือพัฒนาไปจนจับมือหล่อน ก็ถูกเจ้าหล่อนบล็อคไป เป็นผู้หญิงที่เข้าใจยากมากจริงๆ”

เสี่ยวหม่าชี้ไปที่เพื่อนผู้ชายหน้าตาหล่อเหลสาแต่ส่วนสูงไม่ถึง 170 ซม. ที่อยู่ด้านหลังเขา

เสี่ยวหม่ากล่าวอย่างไม่พอใจ “คนสารเลวอย่างฉินเสี่ยวตั่วจงใจวางตัวสูงส่ง ฉันเคยคั่วสาวสวยขายาวมาก็มาก หล่อนเป็นใครมาจากไหน คิดไม่ถึงว่าจะกล้าปฏิเสธกัน! อวี่เจ๋อ นายสูง 185 ซม. จะต้องสามารถเด็ดแม่ฉินเสี่ยวตั่วคนนี้มาได้แน่ พวกเราล้มเหลวกันหมด ตอนนี้ต้องดูแล้วว่านายจะสามารถล้างอายให้พวกเราได้หรือไม่!”

หลิ่วอวี่เจ๋อมองดูรูปภาพของฉินเสี่ยวตั่วที่สวมชุดเครื่องแบบแอร์โฮสเตส ด้วยใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์!