ตอนที่ 224 หลิ่วอวี่เจ๋อตามจีบฉินเสี่ยวตั่ว

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

‘เบญจภาคีล่าสาวแห่งเทียนไห่’ ตั้งแต่ก่อตั้งมายังไม่เคยล้มเหลวเลยสักครั้ง

ลูกเศรษฐีทั้งห้าคนอย่างพวกเขาไม่เพียงแต่มีเงินมาก อีกทั้งยังเป็นผู้ชายที่มีสไตล์ที่แตกต่างกัน

มีทั้งพวกผู้ชายที่มีกล้าม มีพวกนุ่มนวลอ่อนโยน แล้วก็มีพวกคนหุ่นดีเหมือนดารา หรือว่าจะเป็นพวกมากความสามารถ กับพวกสายตลกโปกฮา

ต่อให้มีคนจีบเจ้าหล่อนไม่ติด แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก็จะประสบความสำเร็จ

แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือเจ้าของร้านกาแฟซือเฉินจะไม่มีใครจีบติด ทั้งหมดเป็นกากบาท กระทั่งคนที่พัฒนาแปะวงกลมสีแดงอ่อนก็ยังไม่มี

แต่แอร์โฮสเตสอย่างฉินเสี่ยวตั่วที่ดูเหมือนเป็นคนธรรมดา ยังล้มเหลวทั้งสี่คน นี่ออกจะทำลายความมั่นใจของเหล่าลูกคนรวยอย่างพวกเขา

ส่วนหลิ่วอวี่เจ๋อในฐานะที่เป็นคนวางแผน เขาต้องรับผิดชอบล้างอายให้กับสมาชิกในกลุ่มทุกคน!

แอร์โฮสเตสอะไรพวกนี้เป็นคนโปรดของหลิ่วอวี่เจ๋อมาโดยตลอด!

คุณชายเศรษฐีอีกคนที่อยู่ข้างตัวเสี่ยวหม่า “อวี่เจ๋อ หวังเจียเหยาภรรยาของนายน่าจะตั้งท้องสักสี่เดือนแล้วใช่ไหม? ไม่อยากจะลองระบายอารมณ์กับฉินเสี่ยวตั่วบ้างเหรอ?”

ตอนนี้อันที่จริงหวังเจียเหยาตั้งท้องได้หกเดือนแล้ว ท้องโย้มากแล้ว หนำซ้ำอ้วนกว่าเมื่อก่อนก็มากโข ร่างกายของหล่อนในตอนนี้นั้นไม่ได้เหมือนนางฟ้าคนเดิมอีกแล้ว

บวกกับเด็กในท้องหวังเจียเหยาก็ไม่ใช่ลูกของหลิ่วอวี่เจ๋อ ตอนนี้เขาย่อมหมดความสนใจในตัวหญิงสาว

และเช่นเดียวกับหวังเจียเหยาที่ตั้งท้องได้หกเดือนแต่พ่อของลูกก็ไม่ได้อยู่เคียงข้าง หล่อนเองก็เหนื่อยหน่ายอย่างยิ่ง ท่าทีของหลิ่วอวี่เจ๋อก็ไม่ได้ดีกับหล่อนนัก

ทั้งสองคนแยกห้องกันนอนมานานแล้ว

หลิ่วอวี่เจ๋อพยักหน้ารับ “ฉินเสี่ยวตั่วคนนี้งานดีใช้ได้เลย ในเมื่อพวกนายล้มเหลวกันหมด พอดีกับที่ฉันกำลังเบื่อๆ ลองคั่วแม่คนนี้ก็ดีเหมือนกัน”

“เสี่ยวหม่าสืบได้ไหมว่าช่วงนี้หล่อนจะบินไปไหน? ถ้าบินไปอเมริกาล่ะก็ ฉันจะไปบอกเมียล่วงหน้า”

เสี่ยวหม่ากล่าวพลางหัวเราะ “สืบมาแล้ว พรุ่งนี้มีบินไปนิวยอร์ค แล้วจะค้างคืนที่นั่นคืนหนึ่ง”

“เยี่ยม งั้นเดี๋ยวฉันจองตั๋วไปนิวยอร์ค”

หลิ่วอวี่เจ๋อพูดพลางส่ง wechat บอกเลขาให้ช่วยจองตั๋วเครื่องบินให้เขา

แต่เหอเหวินเจี้ยนที่อยู่ด้วยกลับไม่เข้าใจ “คุณหลิ่ว ทำไมต้องเสียเงินบินไปนิวยอร์คด้วย? รอให้หล่อนกลับมาไม่ดีกว่าหรือไง เพราะที่ในประเทศน่าจะมีเวลามากกว่า”

พวกหลิ่วอวี่เจ๋อหัวเราะร่วน

หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เหล่าเหอ แค่ดูก็รู้แล้วว่านายยังไม่เข้าใจ พวกสาวๆ แอร์โฮสเตสอายุยังน้อยและยังชอบความโรแมนติก นายตามจีบหล่อนในประเทศนี้ ถ้าสามารถจีบติดได้ในสามวัน แปลว่าถ้าไปอยู่เมืองนอกแล้วคงยอมไปนอนด้วยทั้งที่รู้จักกันยังไม่ถึงหนึ่งวันดี สาวๆ พวกนี้วางตัวดีเวลาอยู่ในประเทศ แต่พอออกไปด้านนอกแล้วก็เปิดกว้าง อีกทั้งเวลาอยู่นอกประเทศพวกหล่อนมีเวลาจำกัด ต่อไปทุกคนก็จะต้องแยกกันคนละที่คนละทาง เจอหน้ากันแล้วเกรงว่าอาจจะไม่มีคราวหน้า ชอบพอกันก็นอนด้วยกันไปเลย ไม่มีมาเล่นตัวหรอก”

สาวๆ คนไหนๆ ก็ชอบความโรแมนติกกันทั้งนั้น หากว่าจะให้หล่อนไปนอนกับผู้ชายคนหนึ่งในเมืองที่ตนเองใช้ชีวิตมาตลอด 20 กว่าปีล่ะก็ไม่รู้สึกถึงความโรแมนติกเลยสักนิดเดียว

ทางที่จะไปโรงแรมนั้น พวกหล่อนหลับตาก็นึกออก ส่วนพวกพนักงานในโรงแรม พวกหล่อนอาจจะถึงขั้นใช้ภาษาถิ่นทักทายใส่ได้ด้วยซ้ำไป จะเอาความโรแมนติกกับความแปลกใหม่จากไหนมา?

แต่ถ้าหากว่าเรื่องนี้ไปเกิดที่ปารีส นิวยอร์คหรือลอนดอน คงจะต่างไปอย่างมาก

พวกหล่อนจะต้องรู้สึกได้ถึงความแปลกใหม่ ตื่นเต้นและลืมเลือนไม่ลง เหมือนถูกขายแต่ก็ยังช่วยนับเงินให้ลูกค้าด้วยซ้ำ พวกหล่อนโดนฟันแต่น่าจะยังขอบคุณที่มานอนกับเจ้าหล่อนด้วย

เกรงว่าต่อให้หลายปีหลังจากนี้ เจ้าหล่อนก็จะไปแต่งงานมีลูกที่เมืองตัวเอง ไปมีชีวิตที่มั่นคงแล้วไม่มีโอกาสบินกลับมาที่ประเทศพวกนั้นอีก

พวกหล่อนคงจะมีนึกถึงขึ้นมาได้บ้างในเวลากลางวัน ในตึกเอ็มไพร์สเตทหรืออาจในห้างสรรพสินค้าบางแห่ง พวกหล่อนอาจจะพบใครบางคน ไปเดินจับมือ ช็อปปิ้ง ดื่มเหล้าแล้วไปร่วมหลับนอนกับใครบางคน

ทั้งหมดนี้ล้วนแต่โรแมนติกแถมยังสมบูรณ์แบบสุดๆ…

พวกผู้ชายที่เลี้ยงอาหาร ชวนดูหนังจำนวนนับไม่ถ้วนพวกนั้น ไม่มีทางรู้ว่าผู้หญิงพวกนั้นง่ายขนาดไหนเวลาอยู่ต่างประเทศ

หลิ่วอวี่เจ๋อย่อมเป็นคนที่เป็นเลิศในด้านนี้ เขาเข้าใจความเย่อหยิ่งของผู้หญิงเป็นอย่างดี

หลิ่วอวี่เจ๋อถาม “ฉินเสี่ยวตั่วเป็นกำพร้าใช่ไหม?”

เสี่ยวหม่าพยักหน้า “ใช่ ที่บ้านค่อนข้างน่าสงสารเลยล่ะ ประวัติครอบครัวไม่ดีเท่าไหร่ แต่อย่าคิดจะใช้เงินชนะใจหล่อนล่ะ ผู้หญิงคนนี้ไม่ตกหลุมพรางเรื่องเงิน”

หลิ่วอวี่เจ๋อแค่นเสียง “เป็นแบบนี้แล้วคงจะต้องอยากได้การเอาอกเอาใจ นายนี่นะ อะไรๆ ก็อยากจะใช้เงินซื้อมา มิน่าถึงได้จีบหล่อนไม่ติด ดูฉันแล้วกัน ฉันเนี่ยนะชำนาญเรื่องการจัดการพวกคนน่าสงสารไม่มีพ่อไม่มีแม่ที่สุดแล้ว”

หลิ่อวี่เจ๋อมองภาพของฉินเสี่ยวตั่วพลางจินตนาการภาพที่ได้โอบกอดหล่อนเข้าอ้อมอก

แต่ว่าเรื่องของฉินเสี่ยวตั่วยังไม่ต้องพูดถึงเป็นการชั่วคราว เหอเหวินเจี้ยนรู้ความลับของพวกเขาแบบนี้ ทั้งยังดูมีพิรุธเหมือนอยากจะอยากได้ความลับทางธุรกิจอะไรไป

หลิ่วอวี่เจ๋อไม่มีทางปล่อยให้เหอเหวินเจี้ยนสะบัดตูดไปแบบนี้

ทันใดนั้นเองหลิ่วอวี่เจ๋อก็เข้ามาโอบไหล่อีกฝ่ายแล้วกล่าว “เหล่าเหองั้นพวกเราไปร้องเพลงกันเถอะ เดี๋ยวผมหาสาวสวยๆ ให้คุณสักคน ”

เหอเหวินเจี้ยนรีบร้อนขอตัวทันที “ไม่ล่ะๆ ผมแก่แล้ว เที่ยวไม่ค่อยไหวหรอก”

เสี่ยวหม่ากล่าวว่า “เหล่าเหอ คุณดูไปแล้วออกจะแข็งแรงนะ ไปกันเเถอะๆ ไปเที่ยวกัน”

เหอเหวินเจี้ยนบอกปัดไม่ได้ ทำได้เพียงติดตามพวกเขาไปที่ร้านคาราโอเกะส่วนตัว

พอเข้าไปในห้องคาราโอเกะ หลิ่วอวี่เจ๋อปรบมือ แล้วก็มีแม่เล้าพาผู้หญิงแถวหนึ่งมายืนต่อหน้าคนทั้งสี่

“เหล่าเหอ คุณเลือกสักคนสิ”

เหอเหวินเจี้ยนเดินวนรอบๆ อีกครั้งแล้วส่ายหน้า “คุณหลิ่ว พวกคุณสนุกกันเเถอะ ผมไม่ไหวแล้ว ที่บริษัทยังมีธุระปะปังให้จัดการ ผมขอตัวก่อนล่ะ”

ปัง!

เสี่ยวหม่าตบโต๊ะอย่างแรง “คุณเหอ คุณรู้ความลับของพวกเราแล้ว ถ้าหากว่าคุณไม่อยากมาเที่ยวกับพวกเรา แล้วพวกเราจะสบายใจได้ยังไง?”

เหอเหวินเจี้ยนหัวเสีย ลอบกล่าวกับตัวเองในใจ “ถ้ารู้ว่าความลับทางธุรกิจของเด็กพวกนี้คือการเผด็จศึกผู้หญิง ฉันคงขี้เกียจจะมายุ่งเรื่องพวกนี้! ต้องโทษเด็กบ้าหวังเอ้อร์เชอ ได้ข่าวอะไรมาเนี่ย!”

เหอเหวินเจี้ยนกล่าวต่อ “คุณหลิ่ว ผมไม่ได้จะวางท่าเป็นผู้ชายแสนดีอะไรหรอก ผมตั้งมาตรฐานเรื่องผู้หญิงเอาไว้สูงมากนะ ผมน่ะชอบคนแบบฉินหงเหยียนนอกจากนั้นคงไม่ไหว”

หลิ่วอวี่เจ๋อผุดลุกขึ้นแล้วพูดต่อ “ที่แท้แล้วคุณเหอชอบคนแบบนี้สินะ เข้าใจแล้ว งั้นคุณเหอก็กลับไปก่อนเถอะครับ ไว้คราวหน้าผมจะชวนผู้หญิงแบบที่คุณชอบมาด้วยแล้วกัน ผมขอรับรองว่าคุณเหอจะต้องพอใจแน่นอน!”

เหอเหวินเจี้ยผงกศีรษะรับ “คุณหลิ่ว คุณวางใจเถอะ เรื่องของคุณผมไม่บอกใครหรอก วัยรุ่นอย่างพวกคุณมีงานอดิเรกอย่างไรผมก็ไม่ก้าวก่ายหรอก”

พูดจบเหอเหลิวเจี้ยก็เดินออกไป

หลังจากที่เหอเหวินเจี้ยนเดินไปแล้ว เสี่ยวหม่าก็กระวนกระวายใจอย่างมาก เพราะว่าผู้หญิงคนที่อยู่ตรงกลางในรูปผู้หญิงสามคนที่เหอเหวินเจี้ยนเห็นนั้นมีพื้นเพครอบครัวที่ไม่ธรรมดา

หากว่าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป พวกเขาคงต้องโดนเอาคืนแน่

“อวี่เจ๋อตาแก่นั่นดูไม่น่าเชื่อถือเลย อีกทั้งฉันสงสัยว่าเขาจงใจตีสนิทกับนาย เพราะอยากได้ความลับอะไรจากนายเท่านั้นแหละ ไม่ได้อยากจะย้ายมาทำงานที่ชุนเฟิงอะไรหรอก” เสี่ยวหม่ากล่าวต่อ

หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวขณะสูบบุหรี่“ฉันรู้อยู่แล้วน่า นายสบายใจเถอะ ฉันจะต้องลากเหอเหวินเจี้ยนให้มาเที่ยวเล่นแบบนี้เหมือนพวกเราให้ได้เลย”

ในขณะที่หลิ่วอวี่เจ๋อสูบบุหรี่ จู่ๆ ก็พบว่าผู้หญิงด้านหน้านั้นมีคนหนึ่งหุ่นดี แถมดวงตายังเหมือนฉินหงเหยียนมากทีเดียว!

ในตอนนี้จู่ๆ เขาก็มีความคิดชั่วร้ายโผล่ขึ้นมาในหัว!