บทที่ 246 สมรู้ร่วมคิด!

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 246 สมรู้ร่วมคิด!

ออร่าสีดำล้อมรอบภูเขา ตอนนี้ทั้งภูเขาราวกับถูกคลุมด้วยเสื้อคลุมสีดำที่ดูลึกลับและน่ากลัว

“แกหาเรื่องตายอย่างงั้นเหรอ!?” บางคนในฝูงชนพูดจากันอย่างดุเดือด

“น้ำเสียงของแกแข็งกร้าวจังเลยนะ ไม่เห็นเหมือนกับร่างกายอันเหยาะแหยะของแกเลย อยากตายนักก็เข้ามาสิ!”

“จะดูถูกคนอื่นมากไปแล้ว! เอาสิอยากโดนนักเดี๋ยวจัดให้!”

คนมากมายต่างต่อสู้กันเพื่อสิ่งที่ตนต้องการ

ฉู่ชวิ๋นขมวดคิ้วกับเหตุการณ์รอบๆ ตัวที่เกิดขึ้น ความรู้สึกไม่สบายใจของเขาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนนิ่งเฉยกับมันไม่ได้

จิ่วโยวเองก็รู้สึกได้เช่นกัน

ในเวลานี้การต่อสู้เกิดขึ้นในหลายๆ ที่เพื่อได้เข้าใกล้ภูเขา

ปัง!

เกิดเสียงประหลาดดังขึ้น หุบเขาทั้งลูกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

“ดูนั้น ม่านแสงกำลังจางหายไปแล้ว!” ใครสักคนตะโกนขึ้น

การต่อสู้น้อยใหญ่ก็หยุดลงทันที ฝูงคนก็มากระจุกตัวกันเหมือนดักแด้ตลอดแนวเขา

ลำแสงสามสีบนไหล่เขาเริ่มสั่นไหว ราวกับเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างโลกกับสรวงสวรรค์ทั้งสวยและงดงาม มันค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ

“นายท่าน พวกเราควรทำยังไงดีครับ?” เหยียนชงถามขึ้น

ฉู่ชวิ๋นกำลังคิดว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมแสงถึงค่อยๆ หายไปอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้? อะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกแปลกใจอย่างมาก

“ฉันว่าตอนนี้กำลังจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น พวกเราต้องหยุดมองเหตุการณ์รอบๆแล้ว ตั้งสมาธิิก่อน” เสียงที่เหมือนเด็กๆ ของจิ่วโยวดังก้องอยู่ในหัวทุกคน

ฉู่ชวิ๋นมั่นใจมากว่าถ้าเขารอบคนรอบๆให้ใจเย็นคงไม่มีใครเชื่อเขาแน่ๆ

“ทุกคนรอฉันอยู่ตรงนี้ ฉันจะขึ้นไปดูเอง”

หลังจากนั้นร่างของฉู่ชวิ๋นก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนยอดเขา

เหยียนชงมองหน้าทุกคนแล้วก็ได้แต่รออยู่ตรงนั้น

“เธอทำอะไรของเธอ กลับไปรอก่อนสิ!” ฉู่ชวิ๋นยกคิ้วขึ้นทันทีที่เห็นจิ่วโยวตามมา

ดวงตาอันงดงามของเธอกระพิบปริบๆ ด้วยความสับสน ฉู่ชวิ๋นหิ้วเธอขึ้นมาเหมือนกระเป๋าก่อนที่โยนกลับไปยังด้านล่างของยอดเขาที่ที่เหยียนชงและคนอื่นๆ รออยู่

แม้ว่าเธอจะแข็งแกร่ง แต่ก็เทียบกับฉู่ชวิ๋นไม่ได้ ร่างของเธอลอยตรงไปหาพรรคพวกทันที แม้ว่าจะพลาดเป้าไปหน่อยแต่ก็เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้

จิ่วโยวที่หน้าเสียหันกลับไปหาทุกคนก่อนที่จะพูดอย่างดุดัน “อยากมีเรื่องหรือไงห๊ะ!”

คนทั้งสามหยุดหัวเราะทันที หันหน้ามองนกมองไม้ตรงอื่นแทน

จอมยุทธ์จำนวนมากกระจุกตัวกันอยู่ตามแนวเขา โชคยังดีที่แต่ละส่วนของภูเขามีพื้นที่รองรับจำนวนคนทั้งหมดได้ ไม่งั้นผู้คนต้องต่อแถวกันยาวเหยียดตั้งแต่ตีนเขาเป็นแน่

ผู้คนที่อยู่ปากทาง ยกเว้นเหยียนชงและคนอื่นๆ ก็วิ่งขึ้นมาจากทางเข้าอย่างร้อนรน

บางคนรีบไปยังถ้ำที่ปล่อยลำแสงสามสีออกมา ถ้ำแห่งนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 10 เมตรซึ่งมีแสงสีดำล้อมรอบทางเข้าเอาไว้

พลังของแสงนี้ทุกคนรู้เป็นอย่างดี ทันทีที่แสงสัมผัสร่างกายใครเข้าก็คนๆ นั้นจะตายในทันที

ผู้คนที่อยู่ข้างนอกต่างมองเข้าไป โดยหวังว่าม่านแสงจะจางหายไปจากนั้น พวกเขาจะได้รีบเข้าไปแย่งชิงสมบัติ

ไม่นานนักก็มีเสียงเหมือนไฟฟ้าดังขึ้นก่อนที่แสงจะหายไป

ข้างในถ้ำนั้นมีต้นไม้สูงกว่า 10 เมตร เป็นต้นแพร์ส่งแสงสีทองเปล่งประกายออกมาตระการตา ใครเห็นต่างก็รู้สึกตกใจ

“มันเป็นผลไม้ เร็วเข้าทุกคน”

“ผลแห่งนิพาน ใครได้ไปจะต้องแข็งแกร่งขึ้นแน่ๆ!”

“ผลแห่งนิพานเหรอ? สมบัติแห่งสรวงสวรรค์ รีบเข้าไปเอากันเถอะ”

จอมยุทธ์แต่ละคนต่างบ้าคลั่ง ในตอนนี้ไม่มีใครบ้างรู้ถึงประสิทธิภาพของผลไม้ชนิดนี้ พวกเขาหวังจะได้กินมันเข้าไปโดยเชื่อว่ามันจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เหลือเชื่อให้กับร่างกายของตน

ฟิ้ว!

เลือดกระเด็นไปทั่วทุกทิศทันที จอมยุทธ์ตรงหน้าถูกแยกเป็นสองส่วน

ฟิ้ว! เลือดสาดกระจายหลายเมตร

เกิดการฆ่าฟันเพื่อแย่งกันเข้าไป

ทันใดนั้นก็มีดาบยาวฟันใส่ฉู่ชวิ๋น มันเป็นฝีมือของจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ระดับ 9 เพราะตอนนี้ฉู่ชวิ๋นขวางทางเขาอยู่

ฉู่ชวิ๋นโกรธมากเขาสะบัดมือกลับไปอย่างไม่แยแส

“ไสหัวไปให้พ้น” หลังจากนั้นก็มีฝ่ามือพุ่งเข้ามาที่หน้าอกของฉู่ชวิ๋น

ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเยือกเย็นมาก เหล่าจอมยุทธ์โจมตีเขาเพียงเพราะเขากำลังยืนขวางทางอยู่ คนอื่นๆก็ฉวยโอกาศตามมาซ้ำเติมทั้งที!

ผั่ว!

ฉู่ชวิ๋นปล่อยหมัดใส่ศัตรูจนกลายเป็นหมอกเลือด ทำให้เหล่าจอมยุทธ์โดยรอบหวาดกลัว หลีกทางให้อย่างรวดเร็ว

“รีบไปๆ!” ใครสักคนตะโกน

“ผลไม้นี้จะทำให้พวกเราทะลวงระดับพลังได้ทันทีเลยนะ ทุกคนไปเร็ว!” เสียงร้องแบบเดียวกันนี้ดังขึ้นทั่วทุกบริเวณ

ฉู่ชวิ๋นเดินหาต้นตอของเสียง จนพบกับชายสวมชุดคลุมสีดำและผ้าสีดำปิดบังใบหน้า ทำให้มองไม่ออกเลยว่าชายคนนั้นเป็นใครกันแน่

พวกประตูวิญญาณสลายอย่างงั้นรึ? ชุดดูเหมือนกับที่หยานอี้และคนอื่นๆ พูดถึงเลย

ยิ่งไปกว่านั้น ชายคนนี้ป่าวประกาศไปทั่วโดยที่ตัวเองไม่ได้วิ่งเข้าไปแย่งผลไม้ด้วยเลย เขาได้แต่มองอยู่ไกลๆ

ลมปราณสีม่วงกระจายออกจากร่างของฉู่ชวิ๋นผลักคนที่อยู่รอบๆ ตัวเขาและพยายามจะจับชายชุดดำ แต่ชายชุดดำก็ตื่นตัวซะก่อน หนีหายเข้าไปในฝูงคนอย่างรวดเร็ว

จิตวิญญาณของฉู่ชวิ๋นแพร่กระจายและล็อคอีกฝ่ายเอาไว้ แต่จอมยุทธ์รอบตัวเขาบ้าคลั่งเกินไป เมื่อพวกเขาเห็นฉู่ชวิ๋นปิดกั้นเส้นทาง พวกเขาก็เริ่มโกรธ ทำให้มีกำปั้นนับสิบพุ่งเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น แต่ฉู่ชวิ๋นก็จัดการทั้งหมดได้ภายในพริบตา

จอมยุทธ์ที่อยู่รอบๆ เห็นว่าฉู่ชวิ๋นแข็งแกร่งเกินไปจึงรีบถอยหนีออกมา มันสำคัญที่จะแย่งชิงผลไม้ แต่ชีวิตก็มีความสำคัญมากกว่า

ไม่มีใครขวางฉู่ชวิ๋นในการไล่ตามชายชุดดำ

ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น จอมยุทธ์ทุกคนถอยไปหาที่ปลอดภัยข้างๆ ตัว

ฉู่ชวิ๋นมองไปรอบๆ และดวงตาของเขาก็หดลง

ปั้ง ปั้ง!

ละอองเลือดระเบิดเหมือนดอกไม้ไฟอีกครั้งและจอมยุทธ์ทุกคนที่วิ่งเข้าไปในถ้ำเพื่อคว้าผลไม้ก็ร่างระเบิดแหลกเละ

ในเพียงพริบตาภายในถ้ำก็เต็มไปด้วยเลือด

จอมยุทธ์ที่อยู่ด้านหลังต่างหวาดกลัวและเตรียมที่จะก้าวถอยหนี

แต่ไม่นานนักก็มีเสียงแหลมๆ ดังขึ้น

ปี้ดดดดดดดดดดดดดด!

ฝูงชนเมื่อได้ยินเสียงนี้ก็กรีดร้องออกมาด้วยความทรมาณ

ในจังหวะนี้กลุ่มชายชุดดำก็มารวมตัวกัน โจมตีใส่ผู้คนที่กำลังแสบแก้วหูอยู่และสังหารจอมยุทธ์ที่อยู่รอบๆ อย่างโหดเหี้ยม

ในพริบตาก็มีจอมยุทธ์นับสิบก็ล้มตายอย่างอนาถ

การจู่โจมโดยไม่ให้ทันตั้งตัวนี้ทำให้ใครหลายๆ คน ลืมตั้งท่าที่จะสู้

“ไอ้สารเลว! ฉันจะฆ่าแก!” ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาอย่างห้าวหาญ ตวัดดาบไปยังชายชุดดำที่สังหารพวกพ้องของเขาไป

แต่แล้วชายสวมชุดคลุมที่ตกเป็นเป้าก็ปล่อยหมัดสวนออกมา ทำลายดาบและร่างของชายคนนั้นภายในพริบตา

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ?

ทุกคนกำลังเดือดดาลด้วยความโกรธที่ชายขุดดำพวกนี้ล้วนอยู่ขั้นจักรพรรดิ และลงมือสังหารจอมยุทธ์มากมาย

ไม่นานนัก พื้นดินทั้งหมดก็ราวกับแม่น้ำแห่งโลหิต

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือเลือดเหล่านี้ไม่ได้ซึมลงไปในดินหรือไหลลงไปจากภูเขา แต่กลับถูกดูดไปโดยพลังลึกลับที่ซ่อนอยู่ในถ้ำ

“ฆ่า!”

ชายชุดดำตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น เหล่าจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิก็ทำการสังหารจอมยุทธ์ที่อยู่รอบๆ ทีละคน

“พวกประตูวิญญาณสลาย พวกแกอยากเป็นศัตรูกับยุทธภพนักใช่ไหม?!”

หนึ่งในจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคำรามออกมา เมื่อเห็นผู้ติดตามของตนถูกฆ่าตาย ตัวเขาก็พุ่งเข้าไปหาศัตรูอย่างบ้าคลั่ง

พวกชาวยุทธ์เริ่มรวมตัวกันหลายคนมาก จนจำนวนมากกว่าพวกชายชุดดำแล้ว

“ไสหัวไปให้หมด อย่างมาขวางทางฉัน!” ฉู่ชวิ๋นตะโกนขึ้นมาบ้าง

จอมยุทธ์ที่มีพลังไม่ถึงขั้นพอได้ยินเสียงฉู่ชวิ๋นก็ตัวสั่นด้วยความกลัวรีบถอยออกจากปากถ้ำทันทีเพื่อลงไปรวมตัวกับคนที่เหลือด้านล่างตีนเขา

ฉู่ชวิ๋นมองไปยังหนึ่งในชายชุดดำ และพุ่งเข้าใส่ด้วยกำปั้นที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร

ตู้ม!

เสียงระเบิดอันน่าขวัญผวาดังขึ้น ชายคนนั้นถูกต่อยกระเด็นไปไกลจนกระแทกกับผนังหินกระอักเลือดออกมา

“อะไรกัน!?”

ชายชุดดำผู้เป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิกรีดร้องออกมาด้วยความกลัวราวกับกำลังเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อน หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เสียง ‘ปัง!’ ก็ดังขึ้นพร้อมร่างกายระเบิดเป็นละอองเลือด

ฉากนี้ อย่าว่าแต่จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์เลย แม้แต่จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิเองก็ยังมึนงง

ในเวลานี้ จอมยุทธ์ที่วิ่งลงจากภูเขาเมื่อกี้ก็กรีดร้องขึ้นมา

ข้างล่างปรากฎว่าม่านแสงสีดำล้อมรอบทั้งภูเขาปิดกั้นการล่าถอยของพวกเขา

ชั่วครู่หนึ่ง ผู้คนก็ตื่นตระหนกเหล่าจอมยุทธ์ทั้งหมดต่างก็ตกอยู่ในความหวาดกลัวและสูญเสียความใจเย็นไปราวกับมดบนหม้อไฟ

“จุ๊ๆ พวกแกหนีไปไหนไม่รอดหรอก รอความตายอยู่ในถ้ำแห่งนี่แหละ!” ชายชุดดำจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิหัวเราะอย่างบ้างคลั่ง

“ไอ้พวกประตูวิญญาณสลาย พวกแกนั้นแหละที่รอความตายได้เลย!” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนหนึ่งพูดขึ้น

“พวกข้าต้อนพวกแกเหมือนกับหมาจนตรอกแล้ว ใครกันแน่ที่กำลังจะต้องตาย ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ฉู่ชวิ๋นปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างแรงก่อนพูดขึ้นมา

“จะเป็นอย่างงั้นแน่เหรอ? งั้นฉันจะส่งแกไปประตูนรกก่อนเลยคนแรก!”

ฉู่ชวิ๋นเข้าประชิดชายชุดดำคนนั้นด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่จะต่อยด้วยหมัดสายฟ้าอย่างจัง

ปัง!

ชายชุดดำจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิพยายามรับหมัดอย่างสุดความสามารถ กระดูกแขนของเขาที่รับหมัดเอาไว้แตกหักจนแหลกไม่เหลือชิ้นดี

“อ๊าก!” ชายชุดดำจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิร้องออกมาไม่เป็นภาษา พร้อมกับมองไปยังแขนที่แหละเละของตนก่อนที่จะตะโกนออกมาราวกับเห็นภาพหลอน

“กะ…แก เป็นใครกัน?!”

“ก็คนที่จะฆ่าแกไง” พูดจบฉู่ชวิ๋นก็ซัดหมัดซ้ำเข้าไปอย่างเลือดเย็น

ตู้ม!

แรงสั่นสะเทือนเขย่าถ้ำอย่างรุนแรง พร้อมกับลมกระโชกแรงภายในถ้ำ ร่างของชายคนนั้นกระดูกแตกหลายส่วนทิ้งรอยเลือดสดๆ ไว้บนพื้น

ฉู่ชวิ๋นไม่หยุดแค่นี้เขาลงมือต่อทันที

วิชาดัชนีสังหาร — กระบวนท่าสี่นิ้วกำราบมาร!

ตู้ม!

เกิดระเบิดที่น่ากลัวทั้งภูเขาจนเกิดแผ่นดินสั่นคลอนตัวชายชุดดำผู้เป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิประตูวิญญาณสลายร่างระเบิด

‘ตู้ม’ กลายเป็นละอองเลือด

ทุกคนต่างตกใจกับพลังของฉู่ชวิ๋นที่สามารถจัดการจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิได้อย่างง่ายดายภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที

จอมยุทธ์จักรพรรดิที่ยืนหยัดพร้อมจะปะทะกับชายชุดดำมองหน้าฉู่ชวิ๋น

อย่างครุ่นคิดก่อนที่จะพูดออกมาด้วยความตกใจ

“ไม่น่าเชื่อ ก…แกคือจอมมารฉู่งั้นเหรอ?”

ฉู่ชวิ๋นกำมือและพูดว่า “ใช่”

ชื่อเสียงของเขาดังก้องโลกอยู่นานแล้ว แต่หลายคนเพียงรู้จักฉายาของเขาเท่านั้น ไม่ค่อยมีคนเห็นหน้าเขาเท่าไร

“กระผม ซูฉุน จากฝ่ายใต้ของประเทศฝรั่งเศษครับ”

“ผม ว่านจื่อยวิน จากประตูแห่งเชียนคุน”

“ประตูแห่งวิญญาศาสตรา เชียนตู้ครับ”

“….”

ยกเว้นชายชุดดำจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ คนอื่นๆ ต่างรายงานว่าตนสังกัดสำนักไหน พรรคอะไร

ฉู่ชวิ๋นยกกำปั้นขึ้นแสดงความเคารพก่อนที่จะพูดอย่างดุดัน

“เอาละทุกท่าน วันนี้พวกเรารวมพลังกันเพื่อล้างบางไอ้พวกประตูวิญญาณสลาย นี้กันเถอะ ฉันหวังว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือแล้วจัดการมันไปด้วยกัน!”

“รับทราบครับ! พวกเราประตูแห่งวิญญาศาสตรา จะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ท่านจอมมารฉู่เอง! เอาหละพวกเรา ออกไปละเลงเลือดกัน!”

“เป็นเกียตรอย่างมากที่ได้ร่วมต่อสู้กับท่านครับ!”

พวกเขาเคยได้ยินถึงผลงานของฉู่ชวิ๋นในอดีต วันนี้ทุกคนได้เห็นพลังของชายผู้นี้กับตา ไม่มีใครโง่พอที่จะเป็นศัตรูกับเขาอย่างแน่นอน

“ขอบคุณทุกท่านมากที่ให้ความร่วมมือ!” ดวงตาของฉู่ชวิ๋นจับจ้องไปยังกลุ่มชายชุดดำอย่างองอาจ “ถ้าพร้อมแล้วก็จัดการพวกประตูวิญญาณสลายกันเถอะ!”

ประตูวิญญาณสลายนั้นมีจอมยุทธ์ขั้นจักพรรดิอยู่ 15 คน และพึ่งจะถูก

ฉู่ชวิ๋นสังหารไป 2 คน ตอนนี้แนวหน้าของพวกเขาที่เก่งกาจจึงเหลือเพียง 13 คนเท่านั้น

พวกชายชุดดำต่างเคร่งเครียด แน่นอนว่าพวกเขารู้จักชื่อเสียงของฉู่ชวิ๋น เขาเป็นคนที่เก่งกาจและโหดร้าย ไม่อาจประมาทได้เลย

ควันสีม่วงกระจายออกมาล้อมรอบตัวของฉู่ชวิ๋น แต่ก่อนที่เขาจะลงมืออีกครั้งหุบเขาทั้งลูกก็สั่นสะเทือน พร้อมกับเสียงคำราม

โฮก!!

เสียงดังมาจากด้านในของถ้ำลึก เสียงคำรามน่ากลัวเฉกเช่นการตื่นขึ้นของสัตว์ร้ายและกำลังเดินออกมาจากปากถ้ำ กลิ่นอายกระหายเลือดของมันทำให้ใครหลายๆ คน ตัวสั่น

ผู้คนของกลุ่มประตูวิญญาณสลายต่างก็คุกเข่ากราบลงไปบนพื้นก่อนที่จะพูดบทสวดออกมา “ลูกหลานของตระกูลจอมยุทธ์ ขอต้อนรับบรรพบุรุษกลับมาจากการจำศีล!”

ฉู่ชวิ๋นจ้องมองปากถ้ำอย่างจริงจัง ลมหายใจที่ออกมาจากถ้ำทำให้เขารู้สึกว่าเลือดรอบๆ พื้นกำลังระเหยไปรวมตัวกัน