ตอนที่ 260 : สนามกีฬาแห่งชาติ

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่ 260 : สนามกีฬาแห่งชาติ

“ศิษย์พวกนี้ไม่อาจจะประมาทได้ นี่ไม่ต้องนับว่ามีสองคนที่เป็นผู้เยาว์ที่โดดเด่นเลย” หวังเย่าโบกมือและขัดลัวจ้าวฮว่า

“แต่ถึงอย่างนั้นหัวหน้าก็เป็นอันดับหนึ่งอยู่ดี” ลัวจ้าวฮว่าพูดขึ้น

“พวกนายจะเข้าร่วมงานชุมนุมนี้รึเปล่า ? ” หวังเย่าไม่สนใจลัวจ้าวฮว่าและหันไปมองทหารรับจ้างคนอื่น ๆ

พี่หลง, เจ้าเขียว, เจ้าหนูและคนอื่น ๆ เดินเข้ามาสมทบ

“หัวหน้า เรารู้ถึงความแข็งแกร่งของเราดี มันไม่ได้โดดเด่นอะไร งานชุมนุมนี้ไม่ให้ใช้อสูร มันใช้ได้แค่ทักษะต่อสู้”

“หัวหน้า นายก็รู้ว่าเราแกร่งไม่พอ เราจึงไม่ได้เข้าร่วม”

พี่หลง, เจ้าหนูและคนอื่น ๆ เปิดปากพูดขึ้นมา หวังเย่ามองไปที่หลงปู้หยู๋และอันตงจ๋า ทั้งสองคนแข็งแกร่งจนเขาต้องสนใจ ทั้งสองแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ทหารของเขาตอนนี้แล้ว

“ฉันเองก็ไม่เข้าร่วม ฉันเพิ่งจะเริ่มฝึกทักษะไม่นานมานี้เอง” หลงปู้หยู๋พูดขึ้น

“ฉันเองก็ไม่เข้าร่วมเหมือนกัน ในหมู่ศิษย์สำนักแปดหมัดนั้น ฉันก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก” อันตงจ๋าพูดขึ้น

“ดูเหมือนว่าพวกเราทุกคนจะไม่เข้าร่วมงานชุมนุมนี้” หวังเย่าลูบคางแล้วพูดขึ้น “งั้นเราคงไปในฐานะผู้ชม”

“หลงปู้หยู๋ นายซื้อตั๋วให้ทุกคนที” เมื่อพูดจบ หวังเย่าก็โอนเงินกว่า 5 แสนเครดิตให้หลงปู้หยู๋เพื่อใช้ไปซื้อตั๋ว

“ปล่อยให้ฉันจัดการเอง” หลงปู้หยู๋พูดขึ้น

“งั้นก็ไปฝึกต่อเถอะ” หวังเย่าโบกมือก่อนจะกลับไปที่ห้องทำงาน

เมื่อนั่งลง เขาก็เปิดโน๊ตบุ๊คเพื่อทำการค้นหาเรื่องมิติลับ

“หือ…” อยู่ ๆ หวังเย่าก็พบข่าวที่แปลกประหลาด มันคือข้อมูลของมิติไฟ

ตอนแรกมิติไฟได้เกิดสงครามขึ้นมา ฝั่งหนึ่งคือมังกรเพลิง อีกฝั่งคือกิเลนไฟกับลูกที่บุกไปที่นั่น

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเพื่อยึดครองมิติไฟ พวกนั้นทำลายพื้นที่ในระยะหลายหมื่นไมล์และเปลี่ยนที่นั่นเป็นดินแดนนรกที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้

ผลลัพธ์ของการต่อสู้นี้แน่นอนว่ากิเลนไฟเป็นฝ่ายชนะ มันอยู่ถึงระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง ส่วนมังกรเพลิงนั้นได้รับบาดเจ็บหนัก

แต่กิเลนไฟไม่ได้ฆ่ามังกรเพลิง มังกรเพลิงต้องหนีเพื่อไปหาที่ซ่อนเพื่อที่จะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บให้ได้โดยเร็วที่สุด

ต้องรู้ก่อนว่าการได้รับบาดเจ็บที่หนักหนาแบบนั้นต้องมีคนมากมายคิดจะไปจัดการกับมัน

แน่นอนว่าหลังจากที่ชื่อหยวนจื่อออกจากมิติไฟมาแล้ว พวกทหารรับจ้างและผู้ตรวจสอบที่มีความคิดนี้ก็แห่กันไปที่มิติไฟ

ก่อนหน้านี้พลังของมังกรเพลิงนั้นสูงเกินไปจนพวกเขาไม่มั่นใจว่าจะจัดการกับมันได้ แต่ในเมื่อมันบาดเจ็บหนัก งั้นนี่ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี

หากพลาดโอกาสนี้ไปคงไม่มีโอกาสแบบนี้ง่าย ๆ

แม้แต่ในตลาดมืดก็ยังประกาศรางวัลในเรื่องนี้

เมื่อเห็นข้อมูลนี้ หวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงตอนที่เขาเห็นมังกรเพลิงครั้งที่แล้ว

“พวกกิเลนไฟออกจากมิติเทือกเขาหินโม่มาแล้ว” หวังเย่าอดคิดไม่ได้ “ฉันไม่รู้ว่าเธอจะไปที่มิติ 8-9 ดาวต่อรึเปล่า”

“พวกนั้นทิ้งห่างฉันไปเรื่อย ๆ ฉันต้องรีบพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเอง”

….

ไม่กี่วันต่อมาในวันที่ 5 ตุลาคม วันนี้คือวันเริ่มการชุมนุมศิลปะการต่อสู้

สถานที่จัดงานนี้คือสนามกีฬาแห่งชาติของเมืองหัวเซี่ย

สนามกีฬาแห่งชาตินั้นคือสนามที่ใหญ่ที่สุดในเมือง มันจุคนได้ 100,000 คน

งานกีฬาหลายอย่างถูกจัดขึ้นที่นี่ ที่นี่เป็นโดมคล้ายรังนกและมีลานอยู่ตรงกลางรายล้อมด้วยอัฒจันทร์ เป็นที่นั่งเรียงรายอยู่

ลานขนาดใหญ่ตรงหน้านั้นถูกสร้างขึ้นก่อนที่การชุมนุมจะเริ่มต้นขึ้น

บนท้องฟ้ามีเฮลิคอปเตอร์พร้อมกับจอภาพที่คอยฉายสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวที

ชัดแล้วว่าโดมแห่งนี้ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนได้เห็นการต่อสู้บนเวที ในอีกด้านก็เพื่อบันทึกการต่อสู้ทุกอย่างเอาไว้

ตอนนี้สนามกีฬาแห่งชาติคึกคักกันอย่างมาก มันเต็มไปด้วยผู้คนที่คาดหวังกับการชุมนุมนี้

หวังเย่าได้ซื้อตั๋วให้กับคนของกลุ่มทหารรับจ้างและบริษัททุกคน

พวกเขาซื้อตั๋วราคาแพง ดังนั้นจึงได้ที่นั่งวีไอพีใกล้กับเวที แค่ตาเปล่าก็สามารถมองเห็นการต่อสู้บนเวทีได้ชัดเจนแล้วไม่จำเป็นต้องมองไปที่จอภาพ

หวังเย่านั่งลงยังที่นั่งของตน โดยมีจ้าวเมิ่งซีนั่งอยู่ทางซ้ายและฟ่านฉิงเหมยนั่งอยู่ทางขวา การที่โดนสาว ๆ ห้อมล้อมแบบนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าน่าอิจฉาขนาดไหน อย่างน้อยก็มีหลายคนมองมาที่เขาด้วยสายตาอิจฉาและอยากมาแทนที่เขา

หลงปู้หยู๋นั่งอยู่แถวด้านหลัง หวังเย่าไม่รู้ว่าเขาตั้งใจรึไม่ แต่หยางเสี่ยวหยวนและคนของบริษัทคนอื่น ๆ ก็นั่งที่แถวนี้ด้วย

หวังเย่ารู้กฎของการชุมนุมทั้งหมดแล้ว

ในตอนที่สู้กันนั้นไม่ให้เรียกอสูรออกมา นี่คือการต่อสู้ที่ใช้ทักษะต่อสู้ล้วน ๆ

การชุมนุมศิลปะการต่อสู้จะจัดขึ้น 2 วัน ผู้คนหลายหมื่นคนได้ลงทะเบียนทดสอบแต่ตอนนี้เหลืออยู่แค่ 100 คนเท่านั้น

ใน 100 คนนี้มีความแข็งแกร่งอย่างน้อยที่ระดับ B

ในหมู่พวกนี้เป็นศิษย์จากสำนักต่าง ๆ , ผู้ตรวจสอบ 1-2 ดาว, สมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างระดับสูง, คนมีอำนาจในกองทัพ, คนจากตระกูลใหญ่และยอดฝีมือที่ไม่มีใครรู้จัก

บางคนมาที่นี่เพื่อเงินรางวัล บางคนมาเพื่อชื่อเสียง บางคนมาเพื่อโอกาส

ยังไงซะการชุมนุมนี้ก็ถ่ายทอดสดไปทั่ว เมืองที่เหลือเองก็ได้เห็นการต่อสู้นี้เช่นกันโดยไม่มีใครน้อยหน้าใคร

กฎของการชุมนุมนี้คือจะมีการแบ่งกลุ่มเป็น 10 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมี 10 คน รอบแรกจะหาคนแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม รอบสองจะจับฉลากกันอีกครั้ง สุดท้ายเมื่อได้ผู้ชนะมา 5 คนก็ค่อยมีการประกาศกฎอีกทีในวันพรุ่งนี้