คนอื่นๆ ในหลุมนั้นก็ขมวดคิ้วครุ่นคิดเช่นกัน ผ่านมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ทำไมชายหนุ่มผมแดงยังไม่ปรากฏตัวอีก
“ไม่เกิดเรื่องอะไรกับเฟอเรย์ใช่หรือไม่” ชายคนหนึ่งกระซิบเฟอเรย์เป็นคนที่แอชลินให้ไปดักหน้าขวางนักเรียนใหม่ไว้
“ไม่หรอก หมอนั่นไม่มีความสามารถมากขนาดนั้นหรอกน่า”แอชลินพูดอย่างเหยียดหยาม
“แต่แต่ครั้งที่แล้ว…” ชายคนนั้นลังเลและไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้นอีก
หน้าของแอชลินเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาจำเรื่องทั้งสองครั้งนั้นที่ชีอ้าวชวางเป็นฝ่ายเหนือกว่าได้เป็นอย่างดี ครั้งแรกเขาถูกโจมตีที่โรงอาหารและอีกครั้งหนึ่งเขาถูกโจมตีด้านหลังอาคารเรียนหรือว่าเด็กนี่จะไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นจริงๆ
“กลัวอะไร เดี๋ยวถ้าเขามาข้าจะทุบเขาให้แหลกเป็นหมื่นชิ้นเลย!” แอชลินพูดราวกับจะปลุกใจตัวเอง “รอก่อนเถอะข้าจะจัดการไอ้ผมแดงนั่นให้ลีดส์ดู ไม่รู้ว่าเขาจะกลัวอะไรนักหนา!”
พอแอชลินพูดคำนี้เสร็จ น้ำเสียงหยอกเย้าก็ดังขึ้นในหูของพวกเขาทันที “โอ้ เจ้ากำลังพูดถึงข้าหรือ”
ท่าทีของพวกแอชลินเปลี่ยนไปทันที เสียงนี้ก็คือชีอ้าวชวางคนที่พวกเขาวางแผนจัดการอยู่นั่นเอง!
เวลาต่อมา ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้ตอบสนองก็เกิดเสียงดังขึ้นอย่างกะทันหันจากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นรอบๆ พวกของแอชลิน
เถาวัลย์กินคนรอบๆถูกปลุกให้ตื่นขึ้นแล้ว!
เถาวัลย์กินคนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของสิ่งมีชีวิตในหลุมนี้ หลังจากที่พวกมันตื่นขึ้นมาก็ยืดตัวออกอย่างบ้าคลั่งและมุ่งไปที่หลุมดินอย่างรวดเร็วและพยายามที่จะเข้าไปพันคนที่อยู่ข้างในหลุมนั้น
“ออกไปเร็วเข้า!” แอชลินตะโกนและวิ่งออกไปจากหลุมก่อนจะเริ่มใช้เวทมนตร์โจมตีเถาวัลย์กินคนที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาพวกนั้น
ทุกคนรีบจัดการกับเถาวัลย์กินคนส่วนชีอ้าวชวางยืนมองภาพตรงหน้าอย่างสบายๆ เพราะเถาวัลย์กินคนไม่ได้โจมตีชีอ้าวชวางเลย
“เจ้าผ่านไปถึงตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่” แอชลินมองชีอ้าวชวางที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยความประหลาดใจและถามอย่างโกรธๆ เขาทั้งรู้สึกแปลกใจและหงุดหงิดงุ่นง่านพวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นตอนที่ชีอ้าวชวางเดินผ่านไปเลยเดิมทีพวกเขาต้องการใช้เถาวัลย์กินคนเพื่อฆ่าชีอ้าวชวางแต่พวกเขาไม่คิดว่าชีอ้าวชวางจะทำให้มันหันมาเล่นงานพวกตนแทน
“เจ้าคิดว่าข้าจะบอกเจ้าหรือ” ชีอ้าวชวางยิ้มบางๆ จากนั้นก็ไปยืนอยู่อีกฝั่งราวกับว่ากำลังดูเรื่องสนุก
“อย่าภูมิใจนักเลย หลังจากจัดการพวกนี้ได้แล้ว ข้าจะทุบเจ้าให้แหลกให้เจ้าเจ็บปวดเจียนตายไปเลย!” เวทมนตร์ในมือของแอชลินรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเปล่งแสงใส่เถาวัลย์กินคนทั้งหมดที่อยู่ใกล้เขา
พวกของแอชลินมีพลังระดับหกดาว ไม่นานก็เผาเถาวัลย์กินคนทั้งหมดที่โจมตีพวกเขาได้เถาวัลย์กินคนที่ด้านหลังก็ดูเหมือนกลัวถูกไฟเผาจึงค่อยๆ ถอยห่างออกไป
หืม?ชีอ้าวชวางเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่คิดว่าพืชเหล่านี้ยังคงมีไหวพริบอยู่ด้วย เมื่อรู้ว่าสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยก็ถอยกลับไป
“หึ! ทีนี้ก็ถึงตาเจ้าแล้ว!” แอชลินแสยะยิ้มและมองไปที่ชีอ้าวชวางที่ยังคงมองมาอย่างสบายๆ อยู่ จากสายตาของเขา ท่าทีของชีอ้าวชวางในเวลานี้ดูเหมือนไม่รู้ความเป็นความตายเลย
“ทุกคนต้องการที่จะกำจัดข้าให้สิ้นซากเลยหรือ” ชีอ้าวชวางยืนอยู่ตรงนั้นแล้วยิ้มให้ทุกคน
“หึ! หากจะคุกเข่าขอความเมตตามันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว! เจ้าทำให้ข้าต้องอับอายถึงสองครั้งวันนี้ข้าจะทุบร่างของเจ้าให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเป็นการระบายความเกลียดชังของข้า”
คนอื่นๆ ก็มีท่าทีดูถูกเหยียดหยามเช่นกัน
“ไม่มีทางเลือกจริงๆ หรือ” ชีอ้าวชวางมองทุกคนอย่างช่วยไม่ได้
“ฮึ่ม! ร้องขอความเมตตาตอนนี้มันสายไปแล้ว วันนี้เจ้าต้องตาย!” แอชลินหัวเราะเยาะคนอื่นๆ ก็เยาะเย้ยพร้อมด้วยความโหดร้ายในสายตาของพวกเขา
“เห้อ… ”ชีอ้าวชวางถอนหายใจเบาๆ จากนั้นส่ายหัวยืนตรงและยักไหล่ “ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางให้หันหลังกลับแล้วนะ”
แอชลินกำลังคิดจะหัวเราะแต่ก็ได้เห็นสายตาของชีอ้าวชวางเสียก่อน
สายตาเกียจคร้านของชีอ้าวชวางเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นแววตาคมปลาบราวกับว่ามันจะแทงทะลุร่างได้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปแล้วแทนที่ด้วยความเย็นชาราวกับธารน้ำแข็ง
ชีอ้าวชวางเหลือบมองและยกมือขึ้นจากนั้นสายลมที่มองเห็นได้ก็พุ่งไปทางพวกของแอชลินแล้วรวบตัวทั้งหมดเข้าด้วยกันทันที
พวกของแอชลินหัวเราะเยาะและพยายามทำลายลมที่ดูเหมือนจะอ่อนแอแต่เวลาต่อมาสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปเชือกลมนี้ไม่สามารถทำลายได้! มันค่อยๆ ขยายเป็นเส้นลมเล็กๆ หลายเส้นแล้วมัดจนแน่นยิ่งขึ้นอีก
“เจ้าเจ้าทำอะไร” สีหน้าของแอชลินเปลี่ยนไปทันที เพราะเขาพบว่าไม่เพียงแต่เขาจะทำลายเชือกลมไม่ได้ แต่เชือกลมยังค่อยๆ กระชับรัดแน่นขึ้นอีกมันแทบจะรัดเข้าไปในผิวหนังของเขาแล้ว
“ทำในสิ่งที่เจ้าต้องการจะทำกับข้าไง” ชีอ้าวชวางยิ้มอย่างมีเสน่ห์แล้วพูด
“เจ้า! เจ้าจะฆ่าข้าหรือ?! ”สีหน้าของแอชลินซีดลงเขาเห็นเพียงความเย็นชาในแววตาของชีอ้าวชวางเด็กผมแดงคนนี้ไม่ได้ล้อเล่น! จะฆ่าเขาจริงๆ!
สีหน้าของคนอื่นๆ รอบตัวแอชลินก็เปลี่ยนไปเช่นกันในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่สามารถออกจากเชือกลมที่ดูเหมือนจะอ่อนแอนี้ได้จริงๆ ชีอ้าวชวางกำลังจะฆ่าพวกเขาจริงๆ!
ชีอ้าวชวางยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเฉื่อยชาพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าเชือกลมที่รัดคนเหล่านั้นไว้เริ่มรัดแน่นขึ้นจนตัดผ่านเสื้อผ้าเข้ามาถึงผิวหนังพวกเขาจนมีเลือดไหลซึมออกมาทุกคนต่างส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดแต่เสียงก็ไม่อาจหลุดลอดไปจากหุบเขาแห่งนี้ได้ความกลัวในใจของทุกคนยิ่งเพิ่มขึ้นทวีคูณชีอ้าวชวางเตรียมเขตกั้นไว้ล่วงหน้าแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงของพวกเขาเล็ดลอดออกไป ในตอนแรกพวกเขาไม่ได้คิดรอบคอบแบบนี้เลย คิดแค่ว่าจะใช้เถาวัลย์กินคนฆ่าชีอ้าวชวาง
ความกลัวค่อยๆ เกาะกินหัวใจของทุกคน ลมหายใจแห่งความตายก็เริ่มแผ่ปกคลุมพวกเขาแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกคนก็หายใจไม่ออก พวกเขาอยากกรีดร้องและวิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัวแต่พวกเขาทำอะไรไม่ได้เลย ความเจ็บปวดในร่างกายและความทรมานของจิตวิญญาณทำให้ทุกคนแทบคลั่งน้ำตาและน้ำมูกไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่สภาพของพวกเขาตอนนี้เลวร้ายมาก!
“อย่า อย่าฆ่าข้า เขาขู่ข้าให้จัดการกับเจ้า ข้าไม่ได้อยากทำเช่นนี้” คนที่อยู่ข้างๆ แอชลินคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตาด้วยสีหน้าเจ็บปวด
เมื่อคนอื่นเห็นก็ทำตามและคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตาเช่นกัน
เวลานี้ร่างกายของแอชลินเต็มไปด้วยเลือดหมดแล้ว เชือกลมที่ซับซ้อนเหล่านั้นได้ฝังลึกลงไปในเนื้อทำให้เขาตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน ตอนนี้เขาไม่สนใจสิ่งอื่นอีกต่อไปแล้ว เขาคุกเข่าลงและร้องขอความเมตตา “ชีอ้าวชวาง ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ พี่สาวของข้าเป็นภรรยาของเจ้าเมืองจวี้เฟิง ข้าให้สิ่งที่เจ้าต้องการได้นะ ความมั่งคั่งร่ำรวยก็ได้! ตราบใดที่เจ้าปล่อยข้าไป!”
เหล่าคนที่เมื่อครู่บอกว่าจะทุบชีอ้าวชวางให้แหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตอนนี้พวกเขากลับมาคุกเข่าร้องขอความเมตตาแล้ว
“หืม?” ชีอ้าวชวางเลิกคิ้วมองแอชลินด้วยความสนใจและเชือกลมบนตัวของแอชลินก็ดูเหมือนจะคลายออกเล็กน้อยด้วย
เมื่อแอชลินเห็นสิ่งนี้เขาก็คิดว่าเขาพูดถูกทางจึงรีบพูด “อำนาจ เงินและสาวงาม ข้าให้เจ้าได้ทั้งหมดเลย ตราบใดที่วันนี้เจ้าปล่อยข้าไป” หลังจากที่พูดสิ่งนี้แอชลินก็เหลือบมองพวกคนที่คุกเข่าอยู่ข้างๆ เขาอย่างดุร้าย ไอ้พวกนี้กล้าหักหลังเขาต่อไปจะต้องคิดบัญชีให้ได้ พอคนเหล่านั้นถูกมองแบบนี้ก็ตกใจและโอดรวญอย่างขมขื่น ในใจก็กำลังคิดว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี
“ฮ่าๆ ฟังดูดีทุกอย่างเลยนะ” ชีอ้าวชวางยิ้มและมองไปที่แอชลิน
แอชลินดีใจมากและกำลังจะลุกขึ้นจากพื้นแต่จู่ๆ ชีอ้าวชวางก็หันกลับมาและพูดประโยคสั้นๆ ไว้ “อำนาจ เงิน ผู้หญิง…น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่านี้”
หลังจากคำพูดที่แผ่วเบานั้นจบลงชีอ้าวชวางก็ลอยขึ้นและร่างของนางก็หายไปจากสายตาของทุกคนอย่างรวดเร็ว
ทุกคนมองหน้ากัน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชีอ้าวชวางจะปล่อยพวกเขาไป
แอชลินยืนขึ้นก่อนจะมองไปยังทิศทางที่ร่างของชีอ้าวชวางหายไป ทันใดนั้นก็หันไปมองคนที่ยังคุกเข่าอยู่บนพื้นและพูดอย่างร้ายกาจ “ข้าจะไม่มีวันปล่อยพวกเจ้าไป ข้าจะทำให้พวกเจ้าตายทั้งเป็น…” แต่คำสุดท้ายยังไม่ทันจบก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงดังโครมครามเสียก่อน
ร่างกายของแอชลินระเบิดทันที เนื้อและเลือดของเขากระจายออกไปทุกที่เลือดและกระดูกที่กระจายนั้นทำให้ทุกคนนิ่งอึ้งไปหมด เวลาต่อมาพวกเขาก็เป็นไปตามแอชลินทุกคนถูกเชือกลมรัดจนตายทั้งหมด
เสียงเคลื่อนไหวดังขึ้นอีกครั้ง เหล่าเถาวัลย์กินคนขยายออกไปอย่างรวดเร็วเข้าไปพันกระดูกทั้งหมดบนพื้นแล้วลากกลับมาและเริ่มย่อยพวกมันอย่างช้าๆ อีกทั้งในส่วนลึกของเถาวัลย์กินคนก็ยังมีศพของคนที่แอชลินส่งไปคอยดักชีอ้าวชวางก่อนหน้านี้อยู่ด้วย
ในสถานที่แห่งนั้น มีคราบเลือดสีแดงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งแล้วมันก็ค่อยๆ แห้งจนเป็นสีดำไป
ไม่มีศพ! ไม่เหลือซาก! คำพูดที่แอชลินพูดมาก่อนหน้านี้ ไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้!
ชีอ้าวชวางยังคงเดินไปข้างหน้าด้วยท่าทีสงบแต่มีประกายเย็นชาเล็กน้อยปรากฏขึ้นในแววตาของนาง
สำหรับคนอย่างแอชลิน ถ้ามีโอกาสก็ฆ่าไปเลยดีที่สุด มิฉะนั้นจะมีปัญหาไม่รู้จบ! ในสถาบันดวงดาว ชีอ้าวชวางทำไม่ได้ เพราะนางรู้สึกได้ว่ามีคนที่แข็งแกร่งมากในสถาบันดวงดาว หากมีบางสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้นที่นั่น คนต่อไปที่จะถูกฆ่าคือตัวนางเอง แต่ที่นี่แตกต่างออกไป ในเมื่ออีกฝ่ายอาศัยกฎมาฆ่านางได้ ทำไมนางจะใช้กฎนั้นไปฆ่าพวกเขาไม่ได้ล่ะ
สายลมพัดพากลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงให้หายไปในอากาศมีเพียงรอยเลือดดำคล้ำบนพื้นเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเคยมีเหตุการณ์นองเลือดที่นี่แต่มีเพียงนักเรียนที่มีคุณสมบัติไม่เพียงพอเท่านั้นที่จะตื่นตระหนกกับการโจมตีของเถาวัลย์กินคน
ชีอ้าวชวางเดินออกมาจากหุบเขาที่แคบและยาวนั้นแล้วมองไปยังภูเขาตรงหน้าทันใดนั้นนางก็หันกลับมาและตะโกนไปที่ด้านหลัง “ออกมาเถอะ”