ฝีเท้าของกู้ชูหน่วนหยุดชะงักลงราวกับหนักอึ้ง

แววตาที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลของจอมมารมีความเยือกเย็นแฉลบผ่านอย่างเลือนราง

“ผู้คอยปรนนิบัติต่ำต้อยคนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะกล้าสมรู้ร่วมคิดกับคนนอก ก่อความวุ่นวายที่หุบเขาพิศวิญญาณ แล้วยังสังหารลูกน้องของผู้นำกองธงกล้วยไม้มากมาย จุ๊ๆๆๆ ต่อให้เขาได้รับการโปรดปรานมาก ก็เกรงว่าผู้นำกองธงกล้วยไม้ไม่มีทางปล่อยเขาหรอก”

“แต่….เจ้าว่าผู้พิทักษ์ของเราจะคืนเยี่ยเฟิงให้กับผู้นำกองธงกล้วยไม้หรือไม่?”

“อย่างไร หรือว่าเจ้าสงสัยว่าผู้พิทักษ์จะไม่คืนเยี่ยเฟิงให้ผู้นำกองธงกล้วยไม้หรือ?”

ทหารยามมองไปบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง เห็นไม่มีคน ถึงได้กล่าวซุบซิบขึ้นว่า“ผู้พิทักษ์ฝ่ายขวาได้ไล่คนรับใช้แยกย้ายทั้งหมดแล้ว และได้ปิดกั้นข่าวคราวทั้งหมดด้วย เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าเขาได้จับตัวเยี่ยเฟิงแล้ว ข้าเลยสงสัยว่าผู้พิทักษ์ไม่มีเจตนาที่จะมอบเยี่ยเฟิงหรอก”

“เขาไม่ส่งมอบเยี่ยเฟิง แล้วจะเก็บไว้ทำสิ่งใด?คงไม่ใช่….”

“ชู่วว์ เบาๆ อย่าให้คนได้ยิน ความคิดของผู้พิทักษ์นั้น ไม่มีใครจะเดาออก”

“แต่ทำเช่นนี้ ไม่ใช่จะทำให้ผู้นำกองธงกล้วยไม้ไม่พอใจหรือ?”

“เดิมผู้พิทักษ์ของพวกเราเป็นมิตรเพียงผิวเผินกับผู้นำกองธงกล้วยไม้ พวกเขาต่อสู้กันเองเบื้องหลังกี่ครั้งล่ะเพื่อที่จะได้เยี่ยเฟิง ผู้พิทักษ์อาจจับเอาเยี่ยเฟิงไว้จริงๆ และไม่ยอมให้เลย”

กู้ชูหน่วนกล่าวถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า“ผู้พิทักษ์ฝ่ายขวาคือใครกัน?”

“ข้างกายของจอมมารมีผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายฝ่ายขวา ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายเป็นคนจิตใจดี ส่วนผู้พิทักษ์ฝ่ายขวาเหี้ยมโหด”

“ที่ข้าถามคือ ผู้พิทักษ์ฝ่ายขวาเป็นคนอย่างไร?”

“เจ้าชู้ประตูดิน ละโมบ รักในอำนาจ มุ่งมั่นกบฏ”

“โอ้ย จอมมารนี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ”

“ท่านพี่หญิง แล้วเกี่ยวอะไรกับจอมมาร?”เปลือกตาของจอมมารกระตุก เพราะเหตุใดความผิดอะไรล้วนแต่เป็นของเขา?

“ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เขาสามารถเลี้ยงดูคนออกมาได้สารเลวเช่นนี้ ตัวเขาเองจะดีที่ไปไหนได้”

“…….”

จอมมารริมฝีปากกระตุก ยอดกระหม่อมคล้ายมีฝูงกาบินผ่าน

คำพูดนี้ หากเป็นคนอื่น ได้ไปเจอพญายมนานละ

เขากล่าวแก้ตัวว่า“ท่านพี่หญิง จอมมารเป็นคนจิตใจ น่ารัก อ่อนโยนมาก จิตใจบริสุทธิ์มาก และนุ่มนวลมากด้วย”

“ถุย ข้าเชื่อตายล่ะ เจ้าน้องชาย เจ้ายังเด็ก มีบางคนนะที่รู้หน้าไม่รู้ใจ ต่อไปพี่จะค่อยๆสอนเจ้า เด็กดี”กู้ชูหน่วนจะลูบศีรษะเขา นี่ถึงได้รู้ว่า เขาสูงกว่านางอยู่

กำลังจะยืดเท้าขึ้น จอมมารก็ได้ย่อลงครึ่งหนึ่งเพื่อรอนางลูบสัมผัสแล้ว

นางยิ้ม แล้วเอื้อมมือสัมผัสศีรษะของเขา จากนั้นกล่าวว่า“น้องรู้ความ ไม่ว่าใครก็ชอบเจ้า”

“มีเพียงแค่พี่หญิงเท่านั้นที่มีสิทธิ์ลูบสัมผัสศีรษะข้าได้ คนอื่น….เหอะ…..”

“พอแล้ว รู้ว่าเจ้ามีขีดจำกัด น้องชาย บอกพี่ทีว่าผู้พิทักษ์ฝ่ายขวาอยู่ที่ใด?

“เลี้ยวขวาที่ด้านหน้าแล้วเลี้ยวซ้ายสามครั้งก็จะถึงห้องของผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา ”

“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปเอาเยี่ยเฟิงออกมา พวกเราค่อยพากันออกไป”

“ท่านพี่หญิงสนิทกับเยี่ยเฟิงหรือ?”คำพูดของเขาอึมครึมกว่าวันปกติ แววตาที่มีสเน่ห์เย้ายวนใจดวงนั้นมีความแปลกประหลาดเปล่งประกายออกมา

“ก็ได้อยู่ เขาก็คือสหายของข้า เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ อย่าวิ่งวุ่นวายไปมั่ว ไม่นานข้าจะกลับมา”

“ได้สิ”

จอมมารลูบสัมผัสผมที่เรียบลื่นราวกับน้ำตกอย่างเชื่อฟัง และมุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย

หลังจากที่กู้ชูหน่วนหายไป รอยยิ้มที่มุมปากของเขาค่อยๆจางหาย และไม่เห็นว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างไร ก็ได้มายืนอยู่ตรงหน้าของทหารยามทั้งสองคนแล้ว