บทที่ 251: การประมูลสมบัติของชาติ (2)
ทั่วทั้งโถงประมูลตกอยู่ในความเงียบทันที
เสียงเดียวที่ได้ยินในตอนนี้คือเสียงการกดแป้นพิมพ์อย่างดุเดือดเท่านั้น มันแทบจะเหมือนกับคนทั้งหมดกำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง …เว้นแต่ฉินเย่
เขารู้ว่าคู่แข่งของเขาในคราวนี้เต็มไปด้วยความช่ำชอง และพวกเขาก็อาจจะมีอุบายอยู่มากมายในขณะที่ตนเองไม่มีอะไรเลย อันที่จริง เด็กหนุ่มไม่แม้แต่จะนึกถึงสินทรัพย์สภาพคล่องของตัวเองด้วยซ้ำ เพราะเงินทั้งหมดของเขาต่างก็รวมกันอยู่ในบัญชีเดียว ในเมื่อคนอื่น ๆ ลังเลมากนัก เขาก็ไม่รังเกียจที่จะเป็นคนเปิดราคาเป็นคนแรก !
“1.2 พันล้าน” เขายกป้ายในมือขึ้น และแขกทั้งหมดต่างก็หันมามองเด็กหนุ่มอย่างสนใจทันที
สุภาพบุรุษท่านนี้มาจากที่ไหนกัน ?
เขาไม่มีแม้กระทั่งกลุ่มผู้ช่วยมาด้วย แต่การเพิ่มราคาครั้งแรกของเขากลับมากถึง 200 ล้าน ?! เขาจะต้องเป็นหนึ่งในตัวแทนของโรงประมูลเจียเต๋อแน่ !
ไป๋อี้ชายที่ได้ยินเช่นนั้นก็หยิบค้อนขึ้นมา เขาพยายามอย่างหนักในการข่มความตื่นเต้นบนใบหน้าของตัวเอง 1,200 ล้าน… นั่นไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลย แต่มันก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่เพียงพอที่จะสะท้อนถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของถ้วยพระเนตรสวรรค์เปลี่ยนสี
“ผู้ประมูลหมายเลข 21 1,200 ล้านครั้งที่หนึ่ง…” เขาเว้นช่วงประมาณสามวินาทีก่อนจะพูดต่อ “1.2 พันล้านครั้งที่สอง…”
“1,260 ล้าน”
“1,280 ล้าน !”
“1,300 ล้าน !”
ป้ายสามหมายเลขถูกยกขึ้นในอากาศก่อนที่ไป๋อี้ชานจะเอ่ยจบ จากนั้นรายละเอียดของผู้ประมูลทั้งสามก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
เจ้าพ่อของเก่าชาวญี่ปุ่น ฟูจิโมโต้ ฮิโรบูมิเสนอ 1,260 ล้าน
มหาเศรษฐีร้านอาหารอาหารระดับไฮเอนด์ของญี่ปุ่น นิชิโนะ มิโอะเสนอ 1,300 ล้าน
ยักษ์ใหญ่ด้านการสื่อสารของจีน ไช่ต๋า เสนอ…
แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งที่จะตามมาเท่านั้น
เสียงสามเสียงนั้นไม่ต่างอะไรกับการจุดดอกไม้ไฟครั้งแรกในช่วงปีใหม่ อันที่จริง มันใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำก่อนที่รายชื่ออื่น ๆ จะปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ LED ขนาดยักษ์
“ผู้ประมูลหมายเลข 40 1,380 ล้าน”
“ผู้ประมูลหมายเลข 27 1,460 ล้าน”
“ผู้ประมูลหมายเลข 4 1,500 ล้าน”
“ผู้ประมูลหมายเลข 9 1,600 ล้าน”
จำนวนเงินยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว และหน้าจอ LED ก็ปรากฏข้อมูลของผู้ประเมินที่เสนอราคาสูงสุดอย่างต่อเนื่อง …ตอนนี้ราคาประมูลได้พุ่งไปถึง 1,800 ล้านหยวนภายในชั่วพริบตา !
นี่คือพลังของสมบัติระดับชาติ
มันคือสิ่งที่มีเพียงแค่สองชิ้นในโลก และนี่ก็เป็นเพียงชิ้นเดียวที่แสดงให้เห็นถึงรุ่งอรุณแห่งยุคสมัยใหม่ของญี่ปุ่น มูลค่าทางประวัติศาสตร์ของมันนั้นมากมายมหาศาล !
ชาวญี่ปุ่นคือผู้เข้าร่วมการประมูลที่ลงทุนเยอะที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ทันทีที่ราคาพุ่งขึ้นถึง 1,500 ล้าน มันก็ขึ้นไป 1,600 ล้าน 1,700 ล้าน และ1,800 ล้านอย่างรวดเร็ว มันแทบจะเหมือนกับว่าผู้ประมูลทั้งหมดกำลังเสนอราคาของพวกเขาอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย !
หัวใจของฉินเย่เต้นไม่เป็นจังหวะ
การได้มาเห็นงานประมูลด้วยตัวเองนั้นแตกต่างจากที่ดูผ่านโทรศัพท์อย่างสิ้นเชิง
มันมีความรู้สึกตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อป้ายเสนอราคาถูกยกขึ้นพร้อมกับการเสนอราคาที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนที่อยู่ภายในห้องต่างอะดรีนาลีนหลั่งไหลไปทั่วร่าง แม้แต่ฉินเย่ ผู้ที่นั่งเอนหลังพิงพนักอย่างเอื่อยเฉื่อยก็ลุกขึ้นมานั่งตัวตรงโดยไม่รู้ตัว
นี่มันน่าตื่นเต้นเกินไป !
จำนวนเงินที่แสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยที่เหนือจินตนาการของคนธรรมดายังคงปรากฏขึ้นบนหน้าจออย่างต่อเนื่อง มันคล้ายกับมีกระแสไฟฟ้าแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง และมันก็ทำให้หัวของเขารู้สึกตื้อไปหมด
“ใจเย็น ๆ….” ฉินเย่สูดหายใจเข้าช้า ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ราคาประมูลของถ้วยพระเนตรสวรรค์เปลี่ยนสีในตอนนี้ได้พุ่งสูงเกินกว่าที่ไป๋อี้ชานได้คาดการณ์เอาไว้ และมันก็ใกล้จะถึง 2,000 ล้านในเวลาไม่นาน นี่คือราคาประมูลที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การประมูลทั้งหมด แม้แต่ไป๋อี้ชายก็ไม่สามารถเก็บท่าทีของตนได้อีกต่อไป ลมหายใจของเขาเริ่มติดขัด เสียงที่เอ่ยออกมานั้นสั่นเทาขณะที่เริ่มนับ “1,800 ล้านครั้งที่หนึ่ง …!!!”
ความตื่นเต้นที่รุนแรงทำให้เสียงของเขาแหบแห้ง “1,800 ล้านครั้งที่สอง… !!!”
“1,800 ล้าน–…”
“1,840 ล้าน !!”
เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ฉินเย่จะทันได้เอ่ยออกไป
เวรเอ้ยย… ฉินเย่คลึงขมับของตนและหันไปมองเจ้าของเสียง มันคือชายชาวญี่ปุ่นอีกคนหนึ่ง !
พวกเขาเสนอราคาราวกับจะไม่มีทางหยุด
พวกหมาบ้า !
“2 พันล้าน !!!” ฉินเย่กัดฟันกรอดและเอ่ยออกไปก่อนที่ไป๋อี้ชานจะได้นับ
คนทั้งหมดที่อยู่บริเวณนั้นต่างหันไปมองฉินเย่ทันที และครั้งนี้ พวกเขาต่างก็มองเด็กหนุ่มอย่างหวาดระแวง โดยเฉพาะเหล่ามหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นที่อยู่รอบ ๆ
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าฉินเย่จะมาที่นี่เพียงเพื่อเที่ยวเล่น เพราะอย่างไรแล้วเงินพันล้านหยวนนั้นก็เป็นจำนวนเงินที่มหาเศรษฐีสักคนหนึ่งจะสามารถมอบให้กับลูกชายที่สุรุ่นสุร่ายของตนได้ แต่เงิน 2 พันล้านนั้นถือว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างมากทีเดียว
มันคือการเปลี่ยนแปลงในเลขตัวแรกของตัวเลขสิบหลัก
“คุณไม่ได้มาที่นี่เพื่อเล่นสนุกสินะ ?” พ่อค้าชาวญี่ปุ่นที่รูปร่างผอมมองฉินเย่เขม็งขณะที่หมุนแหวนมรกตที่นิ้วของตัวเองอย่างไม่สบายใจ “ให้ตายเถอะ… นี่เป็นจำนวนเงินที่ไม่คาดคิดเลยจริง ๆ! ข้อเท็จจริงที่ว่าของประมูลที่ควรจะเป็นรายการสุดท้ายกลับถูกนำมาประมูลเป็นรายการแรกไม่ได้ส่งผลต่อราคาของมันเลยแม้แต่น้อย !”
2 พันล้าน… 2 พันล้าน !!
ไป๋อี้ชานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับมึนงงจนเขาเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว
นี่คือเงิน 2 พันล้านหยวน ! สิบหลัก ! นี่คือเงินที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ! ไม่สิ… อันที่จริง มันสามารถพูดได้ว่าราคาเสนอเริ่มต้นของสมบัติชิ้นนี้คือราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรงประมูลทั้งหมดแล้ว นับประสาอะไรกับราคาปิดของมัน !
“ทุกท่าน ! 2 พันล้านครับ ! 2 พันล้านครั้งที่หนึ่ง !!” ด้วยการตีค้อนเบา ๆ เขาเริ่มนับทันที “ใครจะเป็นคนสุดท้ายที่ทิ้งร่องรอยไว้ในประวัติศาสตร์ของการประมูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ! ใครจะเป็นเจ้าของคนใหม่ของสมบัติระดับชาติชิ้นนี้ ? ใครจะเป็นผู้ที่ได้สมบัติที่แสดงถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นชิ้นนี้ไปเป็นหนึ่งในชุดของสะสมส่วนตัว ? นี่คือโอกาสสุดท้าย ! ขณะนี้เสนอราคาอยู่ที่ 2 พันล้านครับ !”
“2 พันล้านครั้งที่สอง !”
“2,040 ล้าน” เสียงหนึ่งดังขึ้น
ฉินเย่ชะงักไปเล็กน้อย นี่เป็นเสียงที่เขายังไม่เคยได้ยินมาก่อนตั้งแต่งานประมูลเริ่มต้นขึ้น
นักล่าที่ช่ำชองมักจะปกปิดตัวตนของตนเอาไว้จนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการโจมตี
ใช่แล้ว ราคาของถ้วยได้พุ่งขึ้นไปถึง 2 พันล้าน และเศรษฐีบางคนที่ไม่ได้ให้ความสนใจหรือเริ่มรู้สึกเจ็บที่ใจขึ้นมาก็ได้ถอนตัวจากการแข่งขันไปจนหมดแล้ว เพราะอย่างไรพวกเขาทั้งหมดก็คือนักธุรกิจ และการใช้เงินทุนมากขนาดนี้ก็จะต้องส่งผลให้ธุรกิจของพวกเขาเกิดปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน นอกจากนี้ เหล่าผู้ที่ผ่านการทำศึกมาอย่างโชกโชนก็รับรู้ได้ว่าชาวญี่ปุ่นพวกนี้จะไม่มีทางยั้งมือ
ดังนั้น การเสนอราคา 2 พันล้านจึงเป็นการบรรทัดฐานที่กำหนดถึงจุดเริ่มต้นของการแข่งขันที่แท้จริง
พวกที่ยังไปต่อจะเป็นพวกที่ร่ำรวยอย่างมหาศาล หรือไม่ก็พวกที่ต้องได้ถ้วยพระเนตรสวรรค์เปลี่ยนสีไปอยู่ในครอบครองให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ ราคาเสนอที่เพิ่มขึ้นก็จะค่อย ๆ ลดปริมาณลงเช่นกัน
“2,040 ล้านครับ !! 2,040 ล้าน !” จำนวนเงินที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทำให้ไป๋อี้ชายแทบเสียสติ เขาเอ่ยตัวเลขออกไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “ผู้ประมูลหมายเลข 18 ! คุณโชโตะ ทาคากิ ประธานของกลุ่มบริษัทโซนี่ได้เสนอราคาที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดประมูลมา ! ราคาประมูลตอนนี้เกิน 2 พันล้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ! 2,040 ล้านครั้งที่หนึ่ง !!”
“มีแขกผู้มีเกียรติท่านไหนที่ต้องการเสนอราคาที่สูงกว่าผู้ประมูลหมายเลข 18 ไหมครับ ? ทางโรงประมูลเจียเต๋อของเราเป็นโรงประมูลเดียวที่มีการประมูลสมบัติระดับชาติเช่นนี้ ! นี่คือโอกาสเดียวของท่านที่จะได้สมบัติระดับชาติไปไว้ในครอบครอง !”
หน้าผากของฉินเย่เวลานี้เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเย็น
อัตราการเพิ่งขึ้นนั้นเหนือความคาดหมายของเขาเป็นอย่างมาก แม้ว่ามันจะไม่ได้เพิ่มขึ้นทีละร้อยล้าน ทว่าเขาก็มีเงินเหลืออยู่อีกเพียงแค่ 900 ล้านเท่านั้น
หากพูดกันตามตรง เงินจำนวน 900 ล้านนั้นไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลย ฉินเย่ควรจะรู้สึกสบายใจกับจำนวนเงินที่เขายังมีอยู่ แต่ถึงกระนั้นหัวใจของเด็กหนุ่มกลับเต็มไปด้วยความหวาดระแวง มากจนไม่มีคำพูดใดสามารถอธิบายความรู้สึกภายในจิตใจของเขาได้
“2,100 ล้าน” ฉินเย่เพิ่มราคาประมูลขึ้นอีก 60 ล้านหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“2,500 ล้าน !” โชโตะ ทาคากิรีบเอ่ยออกไปทันทีก่อที่ไป๋อี้ชานจะได้เริ่มนับ
ป้ายประมูลอื่น ๆ ที่เตรียมจะยกขึ้นถูกลดระดับลงทันที
“2,500 ล้าน… 2,500 ล้านแล้วครับ…” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาของไป๋อี้ชานแหบพร่า ครั้งนี้ เขาพูดน้อยกว่าการประมูลครั้งอื่น ๆ ที่ตนเคยเป็นผู้ดำเนินงานมาในอดีต แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เขารู้สึกราวกับว่าลำคอและหัวใจของเขาถูกบีบด้วยพลังงานบางอย่าง และเขาทำได้เพียงเอ่ยออกมาอย่างอ่อนแรง “2,500 ล้าน… ราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์โรงประมูล ! สมกับเป็นสมบัติของชาติ… 2,500 ล้านครั้งที่หนึ่ง !!”
โชโตะกำหมัดแน่นอย่างร้อนรน เงิน 2,500 ล้านนั้นเป็นจำนวนเงินที่มากพอที่จะทำให้ธุรกิจของเขาตกอยู่ในความลำบากอย่างไม่ต้องสงสัย อันที่จริง เขาถึงขั้นที่ต้องขายที่ดินสองผืนของตัวเองเพื่อให้ได้เงินจำนวนนี้มาด้วยซ้ำ ให้ตายเถอะ เด็กคนนี้มาจากไหน ! นายใช้จ่ายเงิน 2 พันล้านเล่น ๆ โดยที่ไม่มีผู้ช่วยเลยสักคนได้อย่างไร ?! เด็กนี่เป็นใครกันแน่ ?!
อย่างไรก็ตาม สายตาของเขาไม่ได้จับจ้องไปที่ฉินเย่แต่อย่างใด
ด้วยการเสนอราคาสูงถึง 2,500 ล้าน เขาไม่คิดว่าฉินเย่จะสามารถเสนอราคาได้สูงกว่าตนอีกต่อไป ดังนั้นความสนใจของเขาในตอนนี้จึงเล็งไปที่ประธานคนปัจจุบันของมิตซูบิชิคอร์ปอเรชั่น อิวาซากิ เคียวยะ
ด้วยเหตุผลที่แปลกประหลาด ตั้งแต่ที่การประมูลเริ่มขึ้น อิวาซากิยังไม่ได้ยกป้ายประมูลของตนขึ้นมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ฉินเย่รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขากำลังถูกบีบและเริ่มมีเลือดไหลออกมา
2,500 ล้าน… นี่มันเหนือการคาดเดาของไป๋อี้ชานไปเยอะมาก ! นี่มันบ้าไปแล้วชัด ๆ!
แต่เขาก็ไม่สามารถยอมแพ้ได้
“สอง–…” ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังจะเอ่ยออกไป หูของเขาก็ได้ยินเสียงของอะไรบางอย่าง
กึก… มันเป็นเสียงที่แผ่วเบาซึ่งดังอยู่ภายในหูของเขา และมันก็ดังขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่ไม่ทันไร เสียงที่เหมือนกันก็ดังขึ้นในเวลาต่อมา กึก กึก กึก กึก….
เสียงเหล่านี้มาจากด้านล่างของเรือสำราญ
“2,500 ล้านครั้งที่สอง !!” ไป๋อี้ชานหันไปมองฉินเย่ด้วยแววตาลุกโชน เขารู้ดีว่าฉินเย่มีเงินสำหรับการประมูลในครั้งนี้มากเท่าไหร่ ทำไมเขาถึงยังไม่เสนอราคาอีก ?
หรือว่าเขาจะทนไม่ไหวที่ต้องเสียเงินไปมากกว่านี้ ?
แต่นั่นก็สมเหตุสมผลเช่นกัน เงิน 2,500 ล้านนั้นถือว่าเป็นจำนวนที่มหาศาลมาก เขาคงจะถึงขีดจำกัดของตัวเองแล้ว…
“2,500 ล้าน ครั้งที่–…”
“2,600 ล้าน !” ฉินเย่ที่เพิ่งได้สติรีบยกป้ายของตนและเอ่ยออกไปทันที
“2,600 ล้าน…. ราคาประมูลตอนนี้อยู่ที่ 2,600 ล้านแล้วครับ !!!” ไป๋อี้ชานเปิดใช้ระบบนำร่องอัตโนบัติเป็นที่เรียบร้อยแล้วในเวลานี้ “2,600 ล้านครั้งที่หนึ่ง !”
การกระทำของฉินเย่ได้สร้างเสียงฮือฮาเบา ๆ ให้กับเหล่าผู้ร่วมประมูล คนทั้งหมดต่างเริ่มสงสัยว่าเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นใคร พวกเขาทั้งหมดต่างคิดว่าอีกฝ่ายมาที่นี่เพียงเพื่อเล่นสนุก แต่ไม่มีใครคิดเลยว่าฉินเย่จะสามารถติดตามการเสนอราคาได้จนจบ มันชัดเจนแล้วว่าตอนนี้มีเพียงฉินเย่และโชโตะเท่านั้นที่แข่งขันกันเพื่อถ้วยใบนี้
มือของโชโตะกำแน่นกว่าเดิม 2,600 ล้าน ?! พระเจ้า ! นี่ที่บ้านของนายผลิตธนบัตรเองหรือยังไง ?!
“ท่านครับ !” ผู้ช่วยที่นั่งอยู่กับโชโตะเองก็เริ่มเหงื่อตก “ไม่ได้แล้วครับ ! เราไม่สามารถเพิ่มเงินได้มากกว่านี้อีกแล้ว ! หากเราทำเราจะต้องขายวิลล่าที่เหลืออยู่ทั้งหมด เราอาจจะต้องขายเบนท์ลีย์รุ่นจำนวนจำกัดที่ท่านรักด้วยนะครับ !”
“เงียบ !” แก้มของโชโตะสั่นระริกด้วยอารมณ์มากมาย เม็ดเหงื่อเริ่มหยดลงมาจากปลายจมูก ห้าวินาทีต่อมา เขาก็กัดฟันและเอ่ยขึ้นว่า “ขายมันซะ… ขายวิลล่าที่หรูที่สุดที่ผมมี รวมถึงเบนท์ลีย์รุ่นจำนวนจำกัดของผมด้วย !!!”
เขาไม่ได้สนใจเลยว่าอีกฝ่ายจะทำตามหรือไม่ ประธานของกลุ่มบริษัทโซนี่กำลังทำทุกวิถีทางเพื่อเพิ่มการเสนอราคาประมูลของตัวเอง เขาละทิ้งขีดจำกัดของตัวเองและขายทุกอย่างที่ตนมี
ผู้ที่ร่ำรวยมากอย่างเขาไม่ได้มีสินทรัพย์สภาพคล่องมูลค่าหลายพันล้านแต่อย่างใด เพราะอย่างไรแล้ว หากไม่ใช่ผู้ประกอบการ คนส่วนใหญ่ก็มักมีสินทรัพย์ในสภาพคล่องต่ำ !
“แต่ท่านครับ…”
“เงียบ !!!” โชโตะจ้องมองหน้าจอเขม็ง “ถ้วยใบนี้แสดงถึงประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น สิ่งที่ผมซื้อคือประวัติศาสตร์กันยาวนานนับร้อยปีของมัน ! นี่คือของที่เป็นของญี่ปุ่น ! ผมจะต้องได้มันมาให้ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม !”
“2,600 ล้านครั้งที่สะ–…”
“2,800 ล้าน !!!”
ขณะที่เขาเอ่ยเสนอราคาสุดท้ายไป โชโตะก็หันไปจ้องตากับฉินเย่ “สุภาพบุรุษท่านนั้น”
“นี่คือครั้งสุดท้ายที่ผมจะยกป้ายของตัวเองขึ้นมา”
“หากคุณยังสามารถเสนอราคาที่มากกว่านี้ได้ ผมจะเป็นฝ่ายยอมเอง”
ฉินเย่ไม่ได้ตอบออกไปในทันที เขากำลังครุ่นคิดว่านี่เป็นเพียงเรื่องตลกหรือไม่
เด็กหนุ่มเกือบจะหมดเงินแล้วเช่นกัน มันเป็นเรื่องดีที่เขาสามารถรวบรวมเงินได้เป็นจำนวนสองเท่าของราคาประเมินของถ้วยพระเนตรสวรรค์เปลี่ยนสี และเขาก็มั่นใจว่าโชโตะ ทาคากิเองก็คงจะใช้สินทรัพย์สภาพคล่องของตัวเองจนเกือบหมดแล้วเช่นกัน ดังนั้น… คำถามที่เขาสงสัยอยู่ตอนนี้ก็คือเขาต้องเสนอราคามากเท่าไหร่ถึงจะสามารถทำลายความหวังของอีกฝ่ายได้อย่างสิ้นเชิง ?
เงียบ 2,800 ล้านครั้งที่หนึ่ง… 2,800 ล้านครั้งที่สอง… จากนั้น ขณะที่จะนับเป็นครั้งที่สาม ฉินเย่ก็กัดฟันแน่นและเอ่ยเสนอราคาออกไปเป็นครั้งสุดท้าย “3 พันล้าน !!!”
จากนั้นเขาจึงหันกลับไปมองโชโตะ “นี่คือการเสนอราคาครั้งสุดท้ายของผมเช่นกัน”
“หากคุณสามารถให้ได้มากกว่านี้… ผมคงคิดเกี่ยวกับสิ่งอื่นแทน”
โชโตะหลับตาลงด้วยความขมขื่น
3 พันล้าน… !!!
ราคาที่น่าตกใจนี้สร้างเสียงฮือฮาและเสียงโห่ร้องไปทั่วทั้งสถานที่ประมูล
เงิน 3 พันล้านหยวนสำหรับของหนึ่งชิ้นนั้นไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ! นี่คือการแข่งประมูลที่ดุเดือดที่สุดที่เคยมีมา ! นี่คือมรดกตกทอดของชาติ !
ไป๋อี้ชานแทบจะเสียสติ มือของเขาสั่นเทาขณะที่ถือค้อนอย่างอ่อนแรง “3 พันล้านครั้งที่หนึ่ง…”
เสียงของเขาดังก้องไปทั่ว แทบจะเหมือนกับว่ามีฝนทองตกลงมา คนทั้งหมดจับจ้องสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยลมหายใจที่ติดขัด
“3 พันล้าน… ครั้งที่สอง !”
“3 พันล้าน… ครั้งที่สาม !!”
“ปะ ปิด… ปิดการประมูลครับ ! ถ้วยพระเนตรสวรรค์เปลี่ยนสีถูกขายออกไปในราคา 3 พันล้านหยวนให้กับผู้ประมูลหมายเลข 21 ! ยินดีด้วยครับ ! คุณได้ครอบครองชิ้นส่วนประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ! นอกจากนี้ ชื่อของคุณจะถูกสลักลงในประวัติศาสตร์ของโรงประมูลเจียเต๋อในฐานะของผู้ชนะในการประมูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งเสนอจำนวนเงินที่สูงที่สุดในประวัติกาล !!!”