บทที่ 15 ทักษะดาบระดับทองแดง

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

“โชคดีที่ศพยังอยู่ในสภาพดี ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถคัดลอกพรสวรรค์ได้!”

เย่เทียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขาทดลองทราบถึงข้อจํากัดของพรสวรรค์ในการคัดลอกมานานแล้ว หากศพไม่สมบูรณ์เกินไป เขาก็จะไม่สามารถตรวจสอบพรสวรรค์ได้ ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าไม่สามารถคัดลอกพรสวรรค์ได้

“คัดลอกพรสวรรค์เงาทมิฬ!”

เย่เทียนคิดและเริ่มคัดลอก

พริบตาเดียว พรสวรรค์เงาทมิฬก็ถูกคัดลอกสําเร็จ

เย่เทียนไม่ได้กลับบ้าน แต่เริ่มผสานพรสวรรค์ในทันที

การผสานพรสวรรค์เงาทมิฬไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้แก่เย่เทียนมากนัก เพราะในตอนนี้ความแข็งแกร่งของร่างกายเย่เทียนเหนือกว่าก่อนหน้านี้มาก บวกกับการผสานพรสวรรค์หลายต่อหลายครั้ง ทําให้ระดับภูมิคุ้มกันต่อความเจ็บปวดของเย่เทียนเพิ่มขึ้น

ดังนั้นร่างกายจึงรู้สึกเจ็บปวดอยู่เล็กน้อย นอกจากเหงื่อที่ไหลออกมา ก็ไม่มีอะไรอื่นอีก

สิบนาทีผ่านไป พรสวรรค์เงาทมิฬก็ถูกผสานอย่างสมบูรณ์

ในเวลานี้พรสวรรค์ของเย่เทียนก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

[มนุษย์: เย่เทียน

พรสวรรค์ในการฝึกฝน: ปานกลาง

พรสวรรค์ด้านความเร็ว: ระดับเริ่มต้น

พรสวรรค์ด้านดาบ: ปานกลาง

พรสวรรค์เงาทมิฬ: ระดับเริ่มต้น]

“มีพรสวรรค์สี่ชนิดแล้ว!”

เย่เทียนพอใจกับพรสวรรค์ของเขามาก เขาไม่รู้สถานการณ์ของฐานทัพอื่น แต่เขามั่นใจว่าไม่มีใครที่มีพรสวรรค์มากกว่าไปกว่าเขาในฐานหลินไห่

ที่ฐานหลินไห่ เขาจะเป็นผู้ที่มีความสามารถมากที่สุด

“หลี่ฉุนผู้นี้น่าจะมีทรัพย์สินติดตัวอยู่บ้างใช่หรือไม่?”

เย่เทียนตรวจสอบศพของหลี่ฉุนอย่างละเอียด

เขาพบว่าดาบของหลี่ฉุนไม่เลวนัก มันเป็นดาบสีดําที่มีรอยเลือดอยู่ตรงกลาง ดาบดําเล่มนี้ไม่มีรอยบิ่นจากการต่อสู้เมื่อครู่แม้แต่น้อย แต่ดาบของเขาได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงหลังจากการต่อสู้ครั้งนี้

“ดาบดําเล่มนี้น่าจะเป็นอาวุธเวทย์ เราสามารถใช้มันเป็นอาวุธได้!”

เย่เทียนเก็บดาบดําของหลี่ฉุนด้วยความปิติยินดี จากนั้นก็ค้นเสื้อผ้าของหลี่ฉุน

ไม่นานทั่วทั้งร่างของหลี่ฉุนก็ถูกเย่เทียนค้นหาโดยละเอียด

เย่เทียนค้นพบหนังสือลับ , บัตรสีทองสามใบ, บัตรสีขาวห้าใบ, และธนบัตรธรรมดา

เมื่อเห็นผลลัพธ์เหล่านี้ เย่เทียนรู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าการคัดลอกพรสวรรค์เงาทมิฬเสียอีก

เพราะบัตรทองใบหนึ่งมีมูลค่าถึง 1 ล้านหยวน บัตรสีขาวเท่ากับ 10,000 หยวน รวมแล้วเป็นเงินมากกว่า 3 ล้านหยวน!

“บัตรทองนั้นเปรียบได้กับบัตร ATM ในชาติที่แล้วของเรา ฐานหลินไห่ไม่สามารถสร้างบัตรทองนี้ได้ ว่ากันว่ามันถูกสร้างขึ้นจากฐานทัพขนาดใหญ่ และธนาคารของฐานทัพขนาดใหญ่ก็มาเปิดขึ้นในฐานหลินไห่ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็สามารถนำบัตรทองพวกนี้ถอนเงินออกมาได้!” เย่เทียนคิดกับตัวเอง

กระเป๋าตังค์ของเย่เทียนมีเงินเพิ่มมากกว่าสามล้านหยวนในพริบตา และคุณค่าของเย่เทียนก็พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว บวกกับพรสวรรค์ของเงาทมิฬ เขารู้สึกว่าเขาสามารถเติบโตได้ในระยะเวลาอันสั้น แม้กระทั่งเติบโตจนตระกูลโม่ไม่สามารถเมินเฉยได้อีกต่อไป

“ตอนนี้ยังมีอีกปัญหาหนึ่งที่ต้องแก้ไข โม่เฉ่าเป่ย!”

เย่เทียนปลดปล่อยจิตสังหารออกมา

ตอนนี้ไม่เขาก็โม่เฉ่าเป่ยต้องตายกันไปข้าง

แม้ว่าเขาจะยังไม่แก้แค้นโม่เฉ่าเป่ย แต่หากหลี่ฉุนไม่กลับไป โม่เฉ่าเป่ยจะต้องรู้ว่าหลี่ฉุนทำงานผิดพลาด การลอบสังหารครั้งต่อไปโม่เฉ่าเป่ยอาจจะว่าจ้างนักรบขั้นปลายหรือแม้แต่นักรบชั้นยอด มาเลยก็ได้

ดังนั้น

เขาจึงจำเป็นต้องกําจัดโม่เฉ่าเป่ยโดยเร็วที่สุดเท่าที่ เพื่อที่จะปลดเปลื้องปัญหาทั้งหมดที่เขาอาจจะต้องเผชิญ

แน่นอนว่าเขาไม่มีทางที่จะสังหารโม่เฉ่าเป่ยด้วยสถานะของตัวเองได้ หากเป็นเช่นนั้นเขาจะต้องถูกตระกูลโม่ตามแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งแน่นอน

“งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน!”

เย่เทียนมองไปที่ร่างของหลี่ฉุนและยิ้ม

ตอนนี้เขามีพรสวรรค์เงาทมิฬและดาบดําของหลี่ฉุน เขาสามารถปลอมตัวเป็นหลี่ฉุนได้อย่างแน่นอน!

“ก่อนอื่นต้องจัดการศพของหลี่ฉุนก่อน!”

เย่เทียนรีบหาที่ว่างและไม่เป็นที่สังเกต ขุดหลุมลึกฝังศพหลี่ฉุนจากนั้นก็ปกปิดร่องรอย

แม้ว่าในอนาคตศพนี้จะถูกเปิดเผย แต่มันก็คงจะนานมากแล้ว ในตอนนั้นคงไม่มีปัญหาอะไรอีก

ตอนนี้เป็นเวลาดึกมากแล้ว เย่เทียนรีบกลับบ้าน

หลังจากกลับไปเย่เทียนไม่ได้รีบพักผ่อน แต่เริ่มทําความคุ้นเคยกับพรสวรรค์เงาทมิฬ

เขาพบว่าพรสวรรค์เงาทมิฬไม่ได้ท้าทายสวรรค์อย่างที่คิด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบอยู่ในเงามืดตลอดเวลา

การอยู่ในเงามืดต้องใช้พลังปราณ และมีเงื่อนไขว่าต้องอยู่ในเงาเท่านั้นหากมีแสงส่องเข้ามาร่างกายจะถูกเปิดเผย

ประการที่สองภายใต้สถานะเงาไม่สามารถโจมตีได้ เมื่อโจมตีร่างก็จะถูกเปิดเผย และหากถูกโจมตีในขณะหลบอยู่ในเงาก็จะถูกบังคับให้ออกจากการหลบซ่อนทันที

พรสวรรค์เงาทมิฬเหมาะสําหรับการซ่อนตัวและลอบสังหาร ในช่วงเวลาที่สําคัญก็สามารถใช้หลบเลี่ยงศัตรูได้ มันไม่เหมาะกับการต่อสู้ที่ต้องเผชิญหน้าโดยตรง

“จำได้ว่า ยังมีตําราลับอีกเล่มหนึ่ง!”

เย่เทียนหยิบตําราลับที่ค้นพบในส่งของหลี่ฉุนออกมา และอ่านมันอย่างละเอียด ยิ่งเขาอ่านมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น

นี่คือตําราลับวิชาดาบ – ดาบเงา!

ดาบเงามีเพียงแค่กระบวนท่าเดียว เป็นดาบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้า

แต่สิ่งที่ทําให้เย่เทียนตื่นเต้นจริงๆก็คือคำอธิบายบนเส้นทางแห่งดาบ แม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ด้านดาบ แต่เขาก็ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับเส้นทางแห่งดาบมากนัก

วิถีดาบแบ่งออกเป็นสามระดับ นั่นคือ รูปแบบ พลัง และเจตจำนง แม้ว่าคนทั่วไปจะใช้ดาบได้ แต่มันเป็นเพียงรูปแบบเท่านั้น แต่ไม่สามารถควบคุมพลังได้ หากต้องการควบคุมพลังต้องมีพรสวรรค์ในด้านดาบ

นอกจากนี้ ทักษะดาบเงาเป็นทักษะดาบระดับทองแดง เรียกได้ว่าเป็นทักษะดาบที่ทรงพลังมาก หากฝึกสําเร็จพลังการต่อสู้จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพียงพอที่จะต่อสู้ข้ามระดับได้

“ตามที่ระบุไว้ข้างต้น ทักษะดาบแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ เหล็กดํา ทองแดง เงิน และระดับทอง คนทั่วไปสามารถฝึกทักษะดาบระดับเหล็กดำได้ แต่หากไม่มีตำราทักษะดาบ เขาจะไม่สามารถฝึกทักษะดาบแม้แต่ระดับเหล็กได้ ไม่ต้องพูดถึงทักษะดาบระดับทองแดงเลย แม้ว่าหลี่ฉุนจะมีทักษะดาบระดับทองแดง แต่โชคร้ายที่เขาไม่มีพรสวรรค์ด้านดาบ มิฉะนั้นคงเป็นเราที่จะต้องตายในวันนี้! “เย่เทียนกล่าวด้วยความยินดี

“ให้โม่เฉ่าเป่ยมีชีวิตอยู่อีกสักสองสามวัน ฉันจะฝึกทักษะดาบเงาก่อน เมื่อสามารถใช้ทักษะดาบเงาได้คล่องแคล่วแล้ว ค่อยลงมือ!”

เย่เทียนตัดสินใจ

ด้วยพรสวรรค์ด้านดาบระดับกลาง เขาสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะดับได้อย่างง่ายดาย ภายในเวลาเพียง 3 วันทักษะดาบระดับทองแดงที่คนธรรมดาไม่สามารถฝึกฝนได้ไปตลอดชีวิต เย่เทียนฝึกฝนได้ถึงขั้นเริ่มต้น

นอกจากนี้วิถีดาบของเย่เทียนก็พัฒนาขึ้นอีกเล็กน้อย นับว่าเป็นก้าวสำคัญของทักษะด้านดาบของเขา ในตอนนี้เขาสัมผัสได้ว่าระดับกลางของทักษะดาบเงาก็อยู่ไม่ไกลนัก

กลางดึกคืนหนึ่ง

ตระกูลโม่ ภายในที่พักของโม่เฉ่าเป่ย

โม่เฉ่าเป่ยรู้สึกหงุดหงิดมาก สามวันผ่านไปเขายังไม่ได้ขาวใดๆจากเงาทมิฬ

หลี่ไห่ยืนอยู่ข้างๆโม่เส้าเป่ย สามารถสัมผัสได้ถึงความโกรธของนายน้อยได้อย่างชัดเจน

“ผู้อาวุโสหลี่ เจ้าเงาทมิฬนั่นคงไม่หอบเงินของข้าหนีไปหรอกนะ? นี่ก็สามวันแล้วไม่มีข่าวคราวใดๆ หรือว่ามันที่เป็นถึงนักรบไม่สามารถหาโอกาสลงมือกับผู้ฝึกยุทธ์ได้? “โม่เฉ่าเป่ยกล่าวอย่างเย็นชา

“นายน้อย แม้ว่าเงาทมิฬจะเป็นพวกโลภมาก แต่ทุกครั้งที่มีคนจ้างวานเขาจะต้องจ่ายเงินล่วงหน้า แต่เขาก็ขึ้นชื่อเรื่องความน่าเชื่อถืออยู่เสมอ บางทีเขาอาจจะรับภารกิจอื่นในเวลาเดียวกัน จึงยังไม่มีโอกาสได้ลงมือ” หลี่ไห่คาดเดา

“ขอให้มันเป็นอย่างที่ท่านว่า ไม่งั้นข้าจะทำให้เงาทมิฬรู้ถึงความน่ากลัวของตระกูลโม่ของพวกเรา !” โม่เฉ่าเป่ยพยายามระงับความโกรธของและโบกมือให้หลี่ไห่ออกไป

หลี่ไห่ออกจากที่พักของโม่เฉ่าเป่ยและเดินออกไปจากสวน

ค่ำคืนนี้มืดมาก หลี่ไห่สัมผัสได้ถึงรังสีฆ่าฟันเบาบางที่ปกคลุมคฤหาสน์ตระกูลโม่

หลี่ไห่รู้สึกหวาดกลัว แต่ไม่นานเขาก็ยิ้มออกมา

“ข้าคงจะคิดมากไป ใครจะกล้าลงมือกับตระกูลโม่ ? ”

ขณะที่เขากําลังจะจากไป ร่างๆหนึ่งก็ปรากฏขึ้นข้างๆ เขา พร้อมกับดาบสีดำที่พุ่งเข้ามา

ดาบนี้รวดเร็วมาก แม้ว่าปฏิกิริยาการตอบโต้ของหลี่ไห่จะเร็วแค่ไหน เขาก็ไม่อาจตั้งตัวได้ทัน

วินาทีก่อนที่เขาจะสิ้นสติ เขาก็นึกถึงคนๆหนึ่ง เงาทมิฬ!

“ทําไมมันถึงฆ่าข้า?”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของอาวุโสหลี่ไห่!