แต่ความจริงแล้ว ปฏิกิริยาตอบสนองในเรื่องนี้ของแสนรักก็เป็นเหมือนกับมีดที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของเธอเรียบร้อยแล้ว เธอไม่อยากยอมรับ แต่ครั้งนี้ เธอแพ้ให้กับผู้หญิงคนนั้นจริงๆ
ทำไมเป็นแบบนี้?
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้รักเธอหรอกเหรอ?
ตอนนั้นที่นางท้องโตเธอไม่เห็นว่าเขาจะเห็นอกเห็นใจเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วทำไมหลังจากนั้นห้าปี เขากลับเปลี่ยนเป็นแบบนี้กัน?
สุดท้ายแล้วแป้งร่ำก็กลับไปด้วยความตกตะลึง……
——
เส้นหมี่เองก็จิตใจเหม่อลอยอยู่ตลอดเช่นกัน
จนกระทั่งคณาธิปขับพาเธอออกไปไกลจากใจกลางเมือง เกือบจะถึงคลินิกของเพื่อนเขาอยู่แล้วนั้น เธอถึงได้ค่อยๆมีสติขึ้นมา
“คุณหยุดก่อน คณาธิป หยุดรถก่อน!”
เมื่อได้สติขึ้นมาแล้วเธอรีบให้ชายหนุ่มจอดรถทันที น้ำเสียงได้ยินถึงความโมโหอย่างชัดเจน
คณาธิปจอดรถ
“สวยใส ผม……”
“โอเคค่ะ ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น วันนี้ฉันยังมีธุระ ไม่ไปหาเพื่อนคุณแล้ว ขอโทษทีนะคะ!”
เส้นหมี่ตัดบทเขา เปิดประตูรถแล้วเธอก็จะออกไปทันที
หลังจากที่คณาธิปเห็นเธอเป็นแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกร้อนใจ
“สวยใส คุณฟังผมก่อน เมื่อกี้นี้ผมไม่ได้มีเจตนาจริงๆ ผมก็แค่เห็นพวกเขาทำให้คุณอับอายแบบนั้น ผม….ผมทนดูไม่ได้ ถึงได้พูดแบบนั้นออกไป สวยใส”
เขาไม่กล้าแตะต้องเธออีก หลังจากที่เห็นเธอลงจากรถแล้ว เขาก็รีบตามลงมาจากที่นั่งคนขับ อ้อมมาขวางเธอเอาไว้อีกครั้ง
เมื่อครู่นี้ เป็นแผนรับมือชั่วคราวจริงๆ!
เขาดูต่อไปไม่ได้แล้วถึงได้พูดออกไปอย่างลวกๆว่าเธอเป็นแฟนของเขา
แต่อาการที่เส้นหมี่แสดงออกมานั้นกลับไม่ได้มีการผ่อนคลายใดๆเลย
แม้กระทั่ง เป็นเพราะคำพูดของเขา ยิ่งทำให้ดวงตาของเธอมืดมนยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลายปีขนาดนี้ เธอมีท่าทางแบบนี้กับเขาน้อยมาก
คณาธิปเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย…..
“สวยใส?”
“คุณรู้เรื่องของฉันตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม? และคุณเองก็รู้จักแสนรักด้วยใช่ไหมคะ?”
ในที่สุดสายตาของเส้นหมี่ก็จ้องมองมาที่เขาตรงๆ แต่น้ำเสียงกลับเย็นชามากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
สิ้นเสียงแล้ว ชายหนุ่มตรงหน้าก็หน้าซีดขึ้นมาแล้วจริงๆ
“คุณฟังผมอธิบายก่อนนะ…..”
“ไม่ต้องค่ะ ความจริงแล้วรู้เรื่องก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน ใช่ค่ะ ฉันเป็นอดีตภรรยาของแสนรัก ลูกทั้งสองคนของฉันก็คือลูกของเขา เพราะฉะนั้น ธิป คุณอยู่ห่างๆจากฉันหน่อยจะดีกว่านะคะ เพื่อไม่ให้เขาต้องมาทำร้ายคุณ ต่อไปทางที่ดีที่สุดก็ทำเป็นไม่รู้จักกับฉันไปเลยก็ได้!”
ในที่สุดเส้นหมี่ก็สงบลง แล้วก็เอ่ยเตือนคนๆนี้ขึ้นมาทีละคำๆ
แต่คณาธิปได้ยินแล้วกลับโมโหขึ้นมาแล้ว!
“ทำไมผมจะต้องอยู่ห่างจากคุณด้วย? พวกคุณไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว เขายังมีสิทธิอะไรที่จะทำกับคุณแบบนี้อีก? สวยใส คุณไม่ต้องกลัวนะ ต่อไปผมสามารถปกป้องคุณได้”
แล้วเขาก็ก้าวเข้าไปหาเส้นหมี่ด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง
เส้นหมี่ตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที
แล้วก้าวถอยหลังไป เธอจ้องมองเขา จู่ๆความรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนก็เพิ่มขึ้นมา
เธอไม่ได้สนใจเขาอีก แล้วรีบเดินไปข้างทางอย่างรวดเร็วแล้วโบกแท็กซี่มาคันหนึ่ง
ไม่นานเธอก็ออกไปจากที่นี่แล้ว
ความจริงแล้วไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ความคิดของคนๆนี้ที่มีต่อเธอ แต่เธอเคยบอกไปตั้งแต่แรกแล้ว ว่าพวกเขานั้นเป็นได้เพียงแค่เพื่อนกันเท่านั้น ในชีวิตนี้เธอไม่สามารถรักผู้ชายคนไหนได้อีกแล้ว
และยิ่งไม่สามารถยู่ด้วยกันกับผู้ชายคนไหนได้อีกด้วยเช่นกัน!
เส้นหมี่ขึ้นรถไปแล้ว แล้วบอกที่อยู่ของบ้านเช่าไป อยากจะกลับไปนอนก่อน
แต่กลับคาดไม่ถึงว่าเวลานี้โทรศัพท์จะดังขึ้นมาเสียก่อน
“ฮัลโหล?”
“หมี่ เธออยู่ไหนน่ะ? ทำไมจู่ๆรินจังก็ถูกส่งตัวกลับมาแล้ว? รินจังไม่ได้อยู่ด้วยกันกับเธอหรอกหรือ?”
เป็นเสียงของลุงธนาตย์ ที่บอกว่าจู่ๆรินจังก็ถูกส่งตัวไปหาเขา
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
รินจังไม่ใช่ว่าจะยังอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลเหรอ?
เส้นหมี่รู้สึกแปลกๆเล็กน้อย : “ฉันอยู่ข้างนอกค่ะ ฉันไม่รู้ว่ารินจังถูกส่งกลับไปแล้ว ใครไปส่งคะ? แล้วก็คิวคิวล่ะ? ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอคะ?”
“ไม่เห็นคิวคิวนะ เป็นคนวัยรุ่นใส่สูทมาส่ง เธอไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม?”
เส้นหมี่ : “………”
ทันใดนั้นเอง หลังจากที่เธอตื่นเต้นอยู่พักหนึ่งแล้ว ความคิดที่น่ากลัวก็แวบขึ้นมา และลางสังหรณ์ที่ไม่ดีก็ปรากฏขึ้น
“โอเคค่ะ ฉันรู้แล้ว คุณลุง ฉันจะไปเช็คก่อนนะคะ”
เส้นหมี่พูดขึ้นมาอย่างขอไปที จากนั้นก็วางสายไปแล้วโทรไปที่โรงเรียนอนุบาล
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ หลังจากที่ได้ยินว่าเธอคือแม่ของรินจังแล้ว คนที่โรงเรียนอนุบาลก็บอกเธอทันทีว่าเด็กถูกรับไปแล้วจริงๆ
“คนที่ชื่อเคมีมารับไปค่ะ”
“คุณว่าอะไรนะคะ? เคมี?”
“ใช่ค่ะ และเขายังรับพี่ทั้งสองคนของเธอชินจังและอิคคิวไปด้วยนะคะ”
“!!!!”
สุดท้ายแล้วเส้นหมี่ก็ไม่ได้ยินอะไรแล้ว
ความรู้สึกกลัวที่มืดฟ้ามัวดินปกคลุมลงมาจากศีรษะของเธอ เธอสั่นไปหมด และแม้แต่โทรศัพท์มือถือก็ร่วงลงไปอยู่ในรถอีกด้วย
ไม่ เป็นไปไม่ได้
เขาไม่ทำแบบนี้ เพียงแค่ทะเลาะกันเท่านั้น เขาไม่ทำเรื่องที่ใจดำแบบนั้นอยู่แล้ว
เส้นหมี่ปลอบใจตัวเองไม่หยุด
แต่ตอนที่เธอเก็บโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วโทรหาเคมีอีกครั้ง ความจริงที่โหดร้ายกลับทำผลักเธอลงไปในเหวลึกอีกครั้ง
“คุณผู้หญิงครับ คุณถามผม? แล้วผมจะไปถามใคร? ผมก็ยังรู้สึกงงอยู่เลย? อยู่ดีๆทำไมให้ผมไปรับเด็กทั้งสองคนมา? แล้วส่งลูกสาวของคุณไปอยู่กับลุงของคุณแบบนั้น?”
“………”
เป็นเวลานาน เส้นหมี่ที่ซีดจนดูเหมือนไม่มีเลือดอยู่แล้วนั้น ถึงได้ยินประโยคที่ตัวเองพูด : “แล้วลูกล่ะคะ? ลูกไปไหน?”
“คุณหมายถึงคุณหนูคิวคิวเหรอครับ เขากับคุณหนูชินชินถูกรับกลับมาด้วยกันแล้ว ท่านประธานให้ผมจองตั๋วเครื่องบินไปมาเลเซียน่ะครับ!”