บทที่ 275
บทที่ 275

ถังหยินโบกมือให้จ้านหูที่นั่งอยู่ที่นั่งอยู่และร้องตะโกนเสียงดัง “จ้านหูมานั่งนี่สิ”

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนนั่น จ้านหูก็พลันหันหน้ามาอย่างกังวล ก่อนจะเห็นถังหยินที่กำลังโบกมือให้ตน ทำให้เขาเดินเข้าไปถามอย่างกระวนกระวาย “มีอะไรหรือขอรับ ?”

ถังหยินบอกให้จ้านหูนั่งลงก่อน จากนั้นก็ร้องสั่งคนรับใช้ให้นำอาหารมาให้ จากนั้นก็เป็นชายหนุ่มที่พูดขึ้นว่า “เรียนภาษาเฟิงเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ?”

จ้านหูส่ายหัวอย่างเชื่องช้า ปากกล่าวว่า “ข้ายังไม่ได้เริ่มเลยขอรับ” แม้ว่าเขาอยากจะเรียนรู้ภาษาของชาวเฟิง แต่ก็ไม่มีใครที่ว่างมาสอนตนเลยสักคน ด้วยทางฝั่งของถังหยินเองก็ยุ่งมากจนเขาไม่สามารถที่จะมานั่งดูแลใครเป็นรายบุคคลได้ ทำให้จ้านหูเป็นอยู่ลำบากมากทีเดียวเนื่องจากไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่น ๆ ได้

ถังหยินพยักหน้าอย่างเข้าใจ ด้วยถ้าไม่สามารถที่จะพูดภาษาเดียวกันได้ งั้นแล้วเมื่อพวกเขาอยู่ในสนามรบก็คงร่วมมือกันได้ยาก และเมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็พลันกล่าวว่า “ไว้ข้าจะช่วยสอนให้ก็แล้วกัน !”

“ยินดีมากขอรับ !” จ้านหูยินดีมากทีเดียว ด้วยผู้คนในพื้นที่ของแคว้นเฟิงล้วนแล้วแต่ใช้ภาษาของแคว้นเฟิง ทำให้ตัวเขาที่พูดไม่ได้คล้ายกับหูหนวกเป็นใบ้ยังไงยังงั้น

ถังหยินไม่ได้แนะนำจ้านหูกับใครเป็นพิเศษ แต่การที่เขาดึงอีกฝ่ายมากินข้าว ก็เห็นได้ว่าชายหนุ่มให้ความสำคัญกับอีกฝ่ายมากแค่ไหน ซึ่งการกระทำที่ว่า มันก็ทำให้ทุกคนเริ่มให้ความสนใจกับจ้านหูมากขึ้น

เมื่อมื้ออาหารจบลง ถังซ่งก็ได้เดินเข้ามาจากด้านนอก จนกระทั่งมาถึงด้านหน้าของถังหยินแล้วกล่าวแจ้ง “นายท่านขอรับ อู่กวนมาแล้ว !”

“ดี” ถังหยินรับคำแล้ววางตะเกียบลงในทันที “ให้เขารอที่โถง !”

“รับทราบขอรับ !” ถังซ่งตอบและรีบเดินออกไป

ไม่มีใครรู้ว่าอู่กวนเป็นใคร และทุกคนต่างก็สงสัยจนต้องถามออกมา “นายท่านรู้จักเขาหรือ ?”

ถังหยินหัวเราะ ก่อนยืนขึ้นและพูดว่า “ข้าได้ยินมาว่าพลังปราณของเขาแข็งแกร่งไม่เลว ดังนั้นข้าเลยอยากที่จะให้เขามาเข้าร่วมกับเรา !”

“อย่างนั้นเองหรือขอรับ !” บรรดาแม่ทัพของกองทัพเทียนหยวนต่างก็ตื่นเต้นที่ได้ยิน ด้วยพวกเขาต่างก็ต้องการจะเห็นว่าอู่กวนมีพลังมากเพียงใด เหตุใดถังหยินถึงได้สนใจอีกฝ่ายนักหนา

เมื่อถังหยินเดินไปที่โถง เจ้าหน้าที่ทุกคนก็พากันเดินตามเขาไปทีละคน และแม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พวกเขาก็อยากรู้อยากเห็นยิ่งนัก !

เมื่อถังหยินมาพบ อู่กวนก็กำลังยืนอยู่ในกลางโถงแล้วมองไปรอบ ๆ อยู่พอดี

ถังหยินที่เห็นแบบนั้นก็พลันหัวเราะแล้วเดินเข้าไปใกล้ก่อนพูด “เราพบกันอีกครั้งแล้วนะ !”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นอู่กวนก็หันกลับมาทันที ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วแน่น ด้วยจำหน้าของชายหนุ่มได้ “คนเมื่อคืน ? ” อู่กวนพูดพลางสำรวจถังหยินตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ผู้ดูแลมณฑลเทียนหยวน ถังหยิน” ถังหยินตอบตรงไปตรงมา

“เจ้าคือถังหยิน ?” อู่กวนตกใจ ร้องโพล่งออกมา

ถังหยินทรงพลังเพียงใด ! อีกฝ่ายมีอำนาจปกครองเหนือ 3 มณฑลและมีกำลังทหารที่แกร่งกว่าซ่งเทียนเสียอีก ! ซึ่งมันก็ทำให้เขาคิดว่าคนที่น่าจะอยู่ในตำแหน่งนี้ได้จะต้องมีบุคลิกแบบจิ้งจอกเฒ่าอย่างเดียวเท่านั้น

และเมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อถังหยิน หยวนอู่และหยวนเปียวก็พลันตวาดขึ้นพร้อมกัน “เจ้า ! นี่เจ้ากล้าเรียกนายท่านถังหยินแบบห้วน ๆ เลยงั้นหร…”

โดยไม่รอให้คนทั้งสองพูดจบ ถังหยินก็พลันยิ้มและโบกมือห้ามไว้ ก่อนที่เขาจะหันมองตรงไปที่อู่กวนแล้วพูดว่า “ไม่ต้องห่วงหรอก เขาไว้ใจได้ แต่เรื่องฝีมือของเขานี่สิ มันจะเหมือนกับที่ข้าเคยได้ยินมาหรือเปล่านะ ?”

ในเวลานี้อู่กวนหายจากอาการตกใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ภายในใจจะทำการคาดเดาไปมา ว่าทำไมถังหยินถึงเรียกตนมาพบ “ข้าเรียนรู้มาแค่เล็กน้อยเท่านั้น ต้องขออภัยด้วยที่ไม่อาจตอบสนองความคาดหวังได้”

“งั้นหรือ งั้นก็มาสู้กันสักหน่อยก็แล้วกัน !” หยวนเปียวก้าวไปข้างหน้า ใช้สายตาจ้องมองไปที่อู่กวน

คราวนี้ถังหยินไม่ได้ห้ามพวกเขา ด้วยชายหนุ่มต้องการที่จะรู้ว่าพลังที่อีกฝ่ายมีมากมายเพียงใด

อู่กวนมองไปที่หยวนเปียวอย่างสบาย ๆ เช่นเดียวกับการแสดงออกบนใบหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ก่อนจะตามมาด้วยคำพูดอันแสนเฉยชา “อาวุธมันไม่มีนัยน์ตา เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าจะประลองกับข้า ?”

น้ำเสียงนั้นไม่ได้เบา ๆ เลย ! และนอกจากถังหยินกับพี่น้องของเขาแล้ว ก็ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับหยวนเปียวเช่นนี้มาก่อน ! ดังนั้นทันทีที่เขาได้ยิน หยวนเปียวก็พลันหัวเราะอย่างเยือกเย็นและพูดเยาะเย้ยออกมา “ทำไม กลัวหรือไง ?!”

อู่กวนไม่ได้คล้อยตามการรยั่วยุนี้แม้แต่น้อย เขาเพียงแค่หันมองไปที่ถังหยินและพูดอย่างสบาย ๆ “ถ้าอย่างนั้นล่ะก็… เข้ามาเลย !” ขณะที่พูด เขาก็หันกลับไป และโดยไม่รอคำจากถังหยิน หยวนเปียวก็พลันตะโกนเสียงดัง เหวี่ยงหมัดไปที่ใบหน้าของอู่กวน !

พวกเขาสองคนเข้าใกล้กันมา ทำให้หมัดของหยวนเปียวใกล้เสียจนคนธรรมดาไม่สามารถตอบสนองต่อมันได้ หากแต่เทคนิคการเคลื่อนไหวของอู่กวนก็รวดเร็วมาก ด้วยเขาเพียงเอียงตัวไปทางด้านข้างเล็กน้อย ก็สามารถหลบการโจมตีนี้ได้แล้ว !!!

…และหลังจากหลบหมัดนั้นได้ อู่กวนก็ได้ตั้งท่าจะเดินออกไปจากโถงใหญ่ ราวกับการโจมตีก่อนหน้าไม่นับเป็นอะไร !

“เฮ้ !” ปฏิกิริยาของอู่กวน ทำให้หยวนเปียวจมูกย่น ด้วยในความทรงจำของเขา ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียวที่กล้าดูถูกเขาแบบนั้น !!

หยวนเปียวคำรามอีกครั้ง ก่อนเกิดหมอกกระจายออกไป และในพริบตามันก็ได้ห่อหุ้มทั้งร่างของเขา กลายเป็นเกราะปราณ !จากนั้นเขาก็พลันกระโดดขึ้นไปในอากาศ พุ่งตรงไปหาอู่กวนในขณะเดียวกันก็ชกหมัดออกอย่างแรงไปที่ด้านหลังศีรษะของอีกฝ่าย !!

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้อาวุธใดและใช้ออกเพียงกำปั้น แต่นี่ก็เป็นหมัดที่ปกคลุมไปด้วยพลังปราณ ทำให้ถ้าโดนเข้าไปเต็ม ๆ มันก็คงแรงดั่งเอาค้อนทุบเนื้อ !!

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ถังหยินก็ขมวดคิ้วแน่น ด้วยเขารู้สึกว่าการโจมตีของหยวนเปียวรุนแรงเกินไป

อย่างไรก็ตาม อู่กวนที่กำลังเดินออกไปก็ดูเหมือนจะมีตาหลัง เขาไม่ได้หันศีรษะมามองเลย เพียงรอรับกำปั้นของหยวนเปียวอยู่อย่างนั้น ก่อนที่จะใช้จังหวะเพียงชั่วพริบตา ขยับตัวหลบไปด้านข้าง ทำให้หมัดที่ตรงเข้ามาพลาดเป้าไป !!!

แม้ว่าเขาจะดูเหมือนช้า แต่ทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก การเคลื่อนไหวของเขาหลบหลีกและตอบโต้เสร็จสิ้นในบัดดล ทำให้หยวนเปียวไม่มีทางหลบ ถูกอู่กวนเตะเข้าที่ซี่โครงด้านซ้ายอย่างจัง !

หยวนเปียวร้องลั่นออกมาด้วยความตกใจ ทว่าร่างมหึมาของเขาก็ไม่ได้ตกลงบนพื้นแต่อย่างใด กลับกระเด็นออกไปกระแทกกับผนังของห้องโถงแทน

เนื่องจากการป้องกันของเกราะปราณ หยวนเปียวเลยแทบไม่ได้รับบาดเจ็บเลย ทำให้หลังจากที่ตั้งตัวได้ เขาก็พลันร้องตะโกนพร้อมกระโดดดีดตัวขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ เขาก็กำลังโกรธอย่างแท้จริง !!!!

“เอาอาวุธมาให้ข้า !” หยวนเปียวตะโกนบอกคนรับใช้ที่อยู่นอกประตู

“เดี๋ยวก่อน !” เป็นถังหยินที่ร้องห้ามหยวนเปียว ด้วยแม้ว่าเขาจะประมาท แต่อู่กวนก็ยังไม่ได้ปลดปล่อยพลังปราณออกมาเลยด้วยซ้ำ ซึ่งสิ่งนี้มันก็แสดงให้เห็นว่าทักษะของเขาทรงพลังเพียงใด และแม้ว่าหยวนเปียวจะได้อาวุธมา ชายร่างใหญ่ก็คงจะไม่ใช่คู่มือของอู่กวนอยู่ดี !

ถังหยินยิ้มให้อู่กวน แล้วจึงกล่าวชื่นชม “ว่องไวซะจริง ๆ!”

จนตอนนี้ใบหน้าของอู่กวนยังคงสงบเหมือนเดิม ไม่มีความโกรธหรือความตื่นตระหนกใดบนใบหน้า เขาเพียงจับมือถังหยินและพูด “ท่านกล่าวชมเกินไปแล้ว !”

“คนของข้าดูท่าว่าจะก้าวร้าวเกินไปหน่อย ต้องขออภัยด้วย !” ถังหยินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

แม้ว่าอู่กวนจะไม่พอใจกับสิ่งที่เขาพูด แต่ก็ยากที่จะพูดอะไรต่อไป ดังนั้นเขาจึงยิ้มอย่างใจเย็นและพูดว่า “ข้าคงจะหนักมือมากเกินไปหน่อย”

ทว่าจู่ ๆ ถังหยินก็พลันเดินไปยังชั้นวางอาวุธที่ด้านข้างของห้องโถง ก่อนถามว่า “ถนัดใช้อะไรเป็นพิเศษไหม ?”

เมื่อได้ยินคำถามของชายหนุ่ม อู่กวนก็ถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ ด้วยดูเหมือนว่าถ้าไม่ต่อสู้ให้จบภายในวันนี้ ตัวเขาก็คงจะกลับไปไม่ได้ จึงได้แต่ฝืนยิ้มแล้วเงยหน้าขึ้นบอก “ดาบ !”

“แบบไหน ?”

“ขอแบบยาว !”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถังหยินก็ได้หันไปมองบนชั้นวาง ก่อนจะหยิบเอาดาบจันทร์เสี้ยวบนนั้น และโยนมันไปที่อู่กวนพร้อมตะโกน “รับ !”

อู่กวนรับดาบ ก่อนปรับให้กระชับมือ ซึ่งเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นเข้ากับถังหยินที่ได้หยิบดาบทั้ง 2 เล่มของตัวเอง และกำลังเดินตรงไปที่ลานด้านนอกห้องโถง “ข้าขอเป็นคู่มือของท่านก็แล้วกันนะ ?”

“ท่านจะสู้อย่างนั้นเหรอขอรับ ?”

นี่เป็นความคาดหวังของถังหยินอย่างแท้จริง ด้วยเขาอยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายมีฝีมือเก่งกาจเพียงใด !!

“ไม่จำเป็นต้องออมมือหรอก มีเท่าไหร่ก็ใช้ให้หมดนั่นแหละ” ถังหยินถือดาบคู่ของเขาในมือ ปากก็หัวเราะไปขณะยืนรออยู่ที่ลานกว้าง

“แต่…?” คำพูดของถังหยินน่าฟัง แต่ถ้าเขาทำร้ายอีกฝ่ายจริง ๆ พวกทหารยามจะปล่อยเขาไปงั้นเหรอ ? อู่กวนหัวเราะอย่างขมขื่นในใจ

ถังหยินขัดจังหวะ “ท่านชอบเล่นการพนันสินะ งั้นคราวนี้เรามาพนันกันด้วยอะไรดีเล่า ?”

อู่กวนตกใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตั้งสติได้และพาตัวเองมายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามชายหนุ่มแล้วร้องถาม “พนันแบบไหนล่ะ ?”

“ถ้าท่านอู่ชนะข้าได้ ข้าจะทำอะไรให้ท่านก็ได้อย่างนึง ส่วนถ้าเป็นข้าชนะ งั้นแล้วข้าก็ขอให้ท่านเข้าร่วมกับกองทัพเทียนหยวน เอาแบบนี้ดีไหม ?” ถังหยินถาม

อู่กวนเหล่ตาจ้องมองไปที่ถังหยินอย่างเงียบ ๆ เพราะเมื่อฟังอีกฝ่ายพูดแล้ว เขาก็รู้สึกว่านิสัยแบบนี้นะหรือที่เป็นผู้ว่ามณฑล !!! น่าจะเป็นคนบ้าเสียมากกว่า !

แต่ทว่าในจังหวะนั้นเหมือนจะคิดอะไรได้ ดวงตาของอู่กวนพลันส่องแสงเป็นประกาย ในขณะที่ร้องถามว่า “ถ้าข้าขอตำแหน่งผู้ว่ามณฑล ท่านก็จะยอมให้ข้างั้นหรือ ?”

ถังหยินตกใจ จากนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “แน่นอน ! ถ้าเอาชนะข้าได้น่ะนะ !”

“งั้นก็ดี !” สิ้นเสียง อู่กวนก็พลันปลดปล่อยพลังปราณออกมาจากร่าง เพื่อสร้างเป็นเกราะและอาวุธปราณออกมา โดยในเวลาเดียวกันนั้น ดาบจันทร์เสี้ยวในมือเขาก็ได้กลายเป็นดาบเขี้ยวหมาป่าไปแล้ว !

ถังหยินใช้ออกด้วยความสามารถที่แท้จริงของเขาในทันที และโดยไม่รอช้า เขาก็ได้เรียกสวมเกราะปราณสีดำ พร้อมกับดาบในมือทั้ง 2 เล่มที่ถูกปกคลุมไปด้วยพลังปราณอย่างรวดเร็ว !