ตอนที่ 453 เหมาะสมไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
พอพูดจบเธอก็วิ่งออกจากตึกใหญ่ของหลานอวิ้นไป ก่อนจะถูกนักข่าวข้างนอกตีวงล้อมเอาไว้แทบจะในชั่วพริบตา
“จี้อี้ ขอสัมภาษณ์หน่อยค่ะ เมื่อกี้คุณพูดจริงรึเปล่าคะ ที่ว่า ‘โตวซื่ออ้าย’ (รักทั้งสิ้น) เป็นผลงานที่คุณเขียนขึ้นเองกับมือ”
จี้อี้พยักหน้าอย่างหนักแน่น “จริงค่ะ! มันคือผลงานของฉัน!”
“งั้นขอถามหน่อยว่า ทำไมผลงานของคุณถึงไปอยู่ในมือของเฉินเชียนโหรวได้ เมื่อกี้ฉันได้ยินว่าช่วงนี้คุณเองก็ไม่ได้ส่งเพลงให้กับบริษัทเลยนี่คะ!”
“ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้ว่ามันกลายไปเป็นผลงานของเธอได้ยังไง! แต่ฉันจะต้องรู้ให้ได้!”
“…”
เฉินเชียนโหรวมองจี้อี้ที่ถูกปิดกั้นไปด้วยกำแพงนักข่าว สีหน้าชั่วร้ายก็พลันปรากฏขึ้นในเสี้ยวนาที!
เธอขมวดคิ้วแน่น แล้ววกกลับเข้าไปในอาคารหลังใหญ่ของบริษัทอีกครั้ง!
แค่เข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง เฉินเชียนโหรวก็รีบยกมือถือขึ้นมาโทรออกทันที
“ไง มีอะไรรึเปล่า” เสียงทุ้มแว่วมาจากปลายสาย
เฉินเชียนโหรวกัดฟันแน่น “มีอะไรงั้นเหรอ วันนี้จู่ๆ จี้อี้ก็โผล่หัวมาที่โถงใหญ่แล้วป่าวประกาศต่อหน้าทุกคนว่า ‘โตวซื่ออ้าย’ (รักทั้งสิ้น) เป็นผลงานของเธอ แหกปากโวยวายว่าจะเอาของของเธอกลับไปให้ได้!”
“ว่าไงนะ!” อีกฝ่ายมีทีท่าตกใจ “จี้อี้ไปหาเธอ?”
“ฉันจะสร้างเรื่องให้มันได้อะไรขึ้นมาฮะ!” เธอพูดอย่างฉุนเฉียว ก่อนจะนิ่งไปสักพักแล้วพูดต่อ “เพลงนี้เป็นของจี้อี้จริงๆ?”
“ก็ประมาณนั้น เธอแต่งเสร็จก็ส่งมาให้ฉันช่วยปรับให้ ใครมันจะไปรู้เล่าว่าตอนนั้นเธอจะเลือกเพลงนี้”
เฉินเชียนโหรวเดือดจนหน้ามืดตาลาย “ที่แท้ก็เป็นของจี้อี้จริงๆ แล้วทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ฮะ!”
“ตอนนั้นฉันก็บอกไปแล้วว่าเป็นเพลงของคนอื่น เธอก็…”
“หุบปาก! หลินสื่อเจีย ฉันอาศัยเพลงนี้กลับมาดังได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ ฉันจะกลับไปล้มลงอีกไม่ได้เด็ดขาด! นายไปหาวิธีมา ยังไงซะเรื่องนี้ก็จะต้องถูกสะสาง!”
หลินสื่อเจียนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นว่า
“เธออย่าเพิ่งใจร้อน ฉันจะค่อยๆ คิด”
เพลงใหม่เพิ่งจะปล่อยไปได้ไม่ถึงสี่สิบแปดชั่วโมง โลกโซเชียลก็ร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง!
ตอนที่เฉินฝานซิงรับรู้เรื่องนี้ ก็ปาเข้าตอนเที่ยงของวันถัดมาแล้ว ไม่ง่ายนักที่เธอจะตัดสินใจหยุดพักผ่อนให้เต็มอิ่มเป็นเวลาสองวัน เพราะนี่ก็จวนจะถึงวันเกิดของคุณผู้ชายบางคนแล้ว หลายวันมานี้เธอยุ่งมาโดยตลอด ความคุกรุ่นที่ป๋อจิ่งชวนซ่อนไว้เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เธอต้องคิดแล้วว่าควรจะทำอะไรในวันเกิดของเขาดี
เธอยกมือถือขึ้นมาค้นหาสูตรอาหารต่างๆ และวิธีจัดตกแต่งงานเลี้ยงวันเกิดในอินเทอร์เน็ต นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอข่าวร้อนที่ติดท็อปวันในทุกๆ แพลตฟอร์มบนอินเทอร์เน็ตเข้า
เธอประหลาดใจนิดๆ ก่อนจะเลื่อนอ่านความเห็นจำนวนหนึ่งบนอินเตอร์เน็ต จากนั้นก็โหลดเพลง ‘โตวซื่ออ้าย’ (รักทั้งสิ้น) มาเปิดฟังอยู่หลายรอบ
จากนั้นแววตาของเธอก็ทอแสงแห่งความว่างเปล่า ก่อนที่มุมปากจะโค้งขึ้นจางๆ
เมื่อเทียบกับการที่เธอหว่านล้อมให้จี้อี้ยอมมาเป็นคนในสังกัดของเธอไปเมื่อครั้งก่อน จังหวะและโอกาสในครั้งนี้จะเหมาะสมไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว…
–
เพราะอาศัยเพลงนี้กอบโกยเสียงตอบรับและความนิยมกลับมาได้จำนวนหนึ่ง ส่งผลให้ตอนนี้ ‘ซิงเกิลใหม่ของเฉินเชียนโหรวถูกขโมยมา’ กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นอีกครั้ง!
เมื่อเห็นคำวิพากษ์วิจารณ์อันบ้าคลั่งที่โผล่ขึ้นมาให้เห็นอย่างไม่จบสิ้นบนอินเทอร์เน็ต เฉินเชียนโหรวก็เดือดจนลุกขึ้นมาเขวี้ยงปาข้าวของในห้องทำงาน
เจียงหรงหรงรีบปรี่เข้ามาในเสี้ยวนาที ภาพที่เห็นคือห้องทำงานที่มีสภาพเละเทะ สมองของเธอก็พลันเต้นตุบๆ ก่อนจะทรุดลงไปหอบหายใจบนโซฟา!
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เชียนโหรว หมู่นี้เธอเป็นอะไรไป! โอกาสดีๆ แบบนี้ ทำไมจู่ๆ ถึงปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นได้อีก!”
เฉินเชียนโหรวนั่งอยู่บนโซฟาด้วยหน้าตาใสซื่อ
“หนูก็ไม่ทราบค่ะ คุณย่า หนูไม่ทราบเลยจริงๆ หลายวันมานี้หนูเอาแต่แต่งเพลง อัดเพลงอยู่กับโปรดิวเซอร์หลินจนไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน หนูจะไปรู้ได้ไงว่าจู่ๆ จี้อี้จะโผล่ออกมาแล้วบอกว่าเพลงนี้เป็นของเธอ!”
ตอนที่ 454 เธอไม่เหมาะกับการร้องเพลงเลยสักนิด
“ต่อให้หนูอยากได้เพลงของเธอจริงๆ หนูก็จะไปบอกกับเธอสักคำ หนูไม่ได้โง่นะ เราคือหลานอวิ้น ถ้าหนูใช้เพลงของเธอ เธอก็ต้องรู้ไปตั้งแต่ทีแรกแล้ว จะมาหาหนูก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เรื่องนี้ไม่เป็นผลดีต่อใครเลย ไม่ว่าจะกับตัวหนูหรือหลานอวิ้นก็ตาม…”
“ช่วงนี้หนูมีแต่ข่าวเสียๆ หายๆ คุณย่าคะ ตอนนี้หนูเองก็เสียใจ ทำไมทุกครั้งคนที่โดนทำร้ายต้องเป็นหนูด้วย หรือว่าวงการบันเทิงจะไม่เหมาะกับหนูจริงๆ”
เฉินเชียนโหรวว่าพลางกุมขมับ เสียงพูดเคล้าเสียงสะอื้นทำให้รู้ว่าเธอกำลังร้องไห้
ที่เฉินเชียนโหรวพูดมาก็มีเหตุผล เจียงหรงหรงเชื่อคำพูดของเธออย่างไร้ข้อแม้ แต่เมื่อได้ฟังประโยคสุดท้ายที่ว่าเธอไม่เหมาะกับวงการบันเทิงนั้น กลับทำให้ผู้เป็นย่ารู้สึกหวั่นใจ
“เอาเถอะ ฉันรู้ว่าช่วงนี้เธอมีความกดดันสูง! ย่าไม่ดีเองที่ไม่คิดถึงความรู้สึกของหลาน!
ตอนนี้หลันอวิ้นฝากความหวังเอาไว้กับเธอ เธอออกจะโดดเด่นขนาดนี้ จะไม่เหมาะกับวงการบันเทิงได้ยังไง เธอเป็นดาวนำโชคของเรา อุปสรรคเป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยง พยายามต่อไปย่อมเป็นผลดีเสมอ!”
เธอลอบซ่อนแววตาที่ทอประกายลำพอง
“หนูทราบค่ะคุณย่า หนูผ่านมันมาได้ตั้งหลายต่อหลายครั้ง ครั้งนี้หนูก็ไม่กลัวหรอกค่ะ! เพียงแต่…ครั้งนี้จี้อี้ทำเกินไปแล้วจริงๆ…มีเรื่องอะไรไม่ยอมคุยกันแบบส่วนตัว เรื่องนี้เธอเองก็ยังไม่มั่นใจแท้ๆ แต่ดันไปป่าวประกาศแบบนั้นต่อหน้านักข่าว…”
แค่ได้ยินคำนั้นเจียงหรงหรงก็ชักสีหน้าขรึมทันที
“จี้อี้ล่ะ”
เฉินเชียนโหรวส่ายหน้า “หนูไม่ทราบค่ะ หลังจากที่ออกไปเมื่อสายเธอก็ไม่กลับเข้ามาอีกเลย!”
ดวงตาหลักแหลมของเจียงหรงหรงหรี่เล็ก เสียงเย็นเอ่ยขึ้น
“สองปีมานี้ไม่ได้ปล่อยผลงานอะไรออกมาเลยก็ไม่ว่าแล้ว ตอนนี้ยังจะมาก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้อีก…”
ไม่ทันพูดจบเธอก็ลุกพรวดขึ้นมา!
“จี้อี้คนนี้ ไร้คนอบรมสั่งสอนเสียจริง!”
_
ในตอนนั้นเอง จี้อี้ที่มาถึงห้องทำงานของหลินสื่อเจีย แต่เขากลับไม่อยู่ที่นั่น เธอจึงไปตามหาเขาถึงที่บ้าน
หลินสื่อเจียจัดการกับเนื้อเพลงที่จี้อี้ให้เขาไว้อย่างสะอาดหมดจด
ในตอนที่เขากำลังคว้ากุญแจเตรียมจะออกจากบ้าน ทว่าแค่เปิดประตูออก ก็พบกับจี้อี้ที่ปรี่เข้ามาอย่างร้อนใจ!
“รุ่นพี่!”
หลินสื่อเจียมีสีหน้าอึดอัด
ทว่าจี้อี้ที่ชวนให้อกสั่นขวัญหายกลับไม่ได้สังเกตเห็น เธอรีบคว้าแขนเสื้อของเขาไว้ แล้วมองหน้าเขาอย่างร้อนรน!
“รุ่นพี่ เพลงที่ฉันส่งไปให้พี่ก่อนหน้านี้ล่ะ เพลง ‘โตวซื่ออ้าย’ (รักทั้งสิ้น) ทำไมมันถึงได้กลายเป็นซิงเกิลใหม่ล่าสุดของเฉินเชียนโหรวไปได้ล่ะ!”
แววตาของหลินสื่อเจียวูบไหวด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ก่อนที่คิ้วของเขาจะขมวดเข้าแล้วสลัดแขนของจี้อี้ออกไป
“ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไร!”
ใบหน้าที่ซีดขาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วถอดสีไปทันตา ร่างกายอ่อนยวบ ทิ้งตัวเข้าหาผนังตรงทางเดิน เธอหันมองหลินสื่อเจียอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเครือ
“เป็นพี่…ใช่ไหม พี่ใช่ไหมที่เป็นคนเอาเพลงของฉันไปให้เฉินเชียนโหรว!”
หลินสื่อเจียหันมองซ้ายขวาอย่างหวาดระแวง ก่อนจะเปิดประตูแล้วลากจี้อี้เข้าห้องไป
ที่ใจกลางของห้อง จี้อี้ข่มน้ำตาจ้องหลินสื่อเจียเขม็งด้วยสีหน้าผิดหวังระคนเจ็บปวด
“รุ่นพี่ทำแบบนี้ทำไม! ทำไม พี่ไม่รู้รึไงว่าเพลงนี้มันสำคัญกับฉันมากแค่ไหน!”
หลินสื่อเจียมีสีหน้าที่เหลืออดเล็กน้อย “จี้อี้ ฉันเคยบอกเธอไปตั้งนานแล้วใช่ไหม ว่าให้เลิกฝันที่จะได้เป็นนักร้องสักที เธอไม่เหมาะกับการร้องเพลงเลยสักนิด! ฉันยอมรับความสามารถทางด้านดนตรีของเธอนะ แต่แค่กับเครื่องดนตรีเท่านั้น!”