ตอนที่ 311 แผนที่

แม่สาวเข็มเงิน

คำพูดของเจียงป่าวชิงทั้งตั้งใจและจริงใจมาก กู่ฟู่กุ้ยถึงกับพูดไม่ออก แค่เขาคิดว่าเด็กสาวตัวเล็ก ๆ คนนี้หลอกทุกคนในหมู่บ้านจนหัวปั่นมานานถึงสามปีก็รู้สึกอึดอัดในใจแล้ว

เขารู้สึกว่าศักดิ์ศรีของเขาถูกท้าทาย

จิ้นเทียนหยู่เห็นว่ากู่ฟู่กุ้ยมีสีหน้าไม่สู้ดีนักจึงรีบเดินออกมาทันที

“เป็นชายหรือหญิงก็ไม่สำคัญหรอก หลายปีมานี้หมู่บ้านเรามีเจียงป่าวชิง ชีวิตของพี่น้องในหมู่บ้านของเราต่างก็ปลอดภัยขึ้นกันทั้งนั้น ป่วยไข้ยังมีหมอ อย่างน้อยคุณงามความดีนี้ก็เป็นเรื่องจริงที่นางทำให้กับพวกเรา ไม่สำคัญว่านางจะเป็นหญิงหรือชาย เพราะถึงยังไงนางก็ไม่ได้ตั้งใจหลอกเรา เพียงแค่จำเป็นต้องทำเพื่อความปลอดภัยของนางกับน้องของนาง”

คำพูดนี้มีเหตุผลมาก กู่ฟู่กุ้ยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง เขาพยักหน้าอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็นึกขึ้นได้ “ไม่ใช่สิ เดี๋ยวก่อนนะน้องสาม ข้าดูจากปฏิกิริยาของเจ้าแล้ว นี่เจ้ารู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้วรึ ?”

จิ้นเทียนหยู่ชะงักไปเล็กน้อย เขานึกถึงตอนที่ตัวเองเพิ่งได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเจียงป่าวชิงเป็นผู้หญิง เขาก็หน้าแดงก่ำทันที

สายตาทุกคนไปรวมอยู่ที่จิ้นเทียนหยู่ และเริ่มเกิดเสียงซุบซิบนินทากัน “มิน่า เมื่อครู่หัวหน้าสามถึงได้ปกป้องเจียงป่าวชิงขนาดนั้น เขาคงรู้มาก่อนแล้วว่านางคือเด็กสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม”

“ข้าก็ว่า! หัวหน้าสามนี่ช่างไม่มีน้ำใจเลยจริง ๆ ไม่คิดว่าเขาจะปิดบังพวกเราเช่นนี้ เขาคงอยากครอบครองนางก่อนคนอื่นแน่ ๆ”

จิ้นเทียนหยู่เถียงไม่ขึ้นเลยทีเดียว “ไม่ใช่… ข้าไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้น พวกเจ้าอย่าพูดเหลวไหลเซ่!”

ในตอนนี้เอง เสียงสนทนาเล็ก ๆ ของซูรุ่ยเอ๋อร์กับชายผู้หนึ่งดังขึ้นจากด้านนอก ทำให้จิตใจหลี่อันหรูสั่นไหวทันที เกิดประกายแสงวาบอยู่ในดวงตาของนาง

เจียงป่าวชิงชำเลืองมองหลี่อันหรูและยิ้มเย็นชา ละครฉากสำคัญอยู่ช่วงหลังต่างหากเล่า!

ซูรุ่ยเอ๋อร์เดินจูงมือชายคนหนึ่งเข้ามาในห้องอย่างช้า ๆ “พี่อี๋ มาดูละครฉากสำคัญเป็นเพื่อนข้าหน่อยสิ” น้ำเสียงหวานหยดย้อยของซูรุ่ยเอ๋อร์ดังขึ้น มู่จิ้งอี๋ต้องยอม แต่พอเขาเข้ามาเห็นเจียงป่าวชิงในชุดผู้หญิงก็ตกตะลึง

เจียงป่าวชิงยิ้มให้มู่จิ้งอี๋อย่างมีความหมาย นางรู้ดีว่าเขาเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง มู่จิ้งอี๋แทบจะเข้าใจได้ทันทีว่าแผนการของพวกเขาล้มเหลวแล้ว

ซูรุ่ยเอ๋อร์มองมู่จิ้งอี๋อย่างทอดถอนใจเล็กน้อย “พี่อี๋ เกรงว่าเราคงไปไกลสุดได้เพียงเท่านี้”

มู่จิ้งอี๋ยิ้มจาง ๆ เขาควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าหลี่อันหรูมาก “ไม่ทราบว่าขั้นตอนไหนหรือที่เผยพิรุธให้เจ้าเห็น ?”

ซูรุ่ยเอ๋อร์ถอนหายใจเบา ๆ “เฮ้อ ที่จริงก็หลายเรื่องอยู่ แต่ข้าจะไม่พูดเป็นอย่าง ๆ เมื่อก่อนข้าไม่ได้คิดอะไรมากก็เพราะว่าข้าอยากให้โอกาสพี่เป็นครั้งสุดท้าย แต่พี่กลับทำให้ข้าผิดหวังมาก” นางลูบแก้มมู่จิ้งอี๋อย่างอ่อนโยน

ที่ผ่านมานางยกพวกไปลักพาผู้ชายกลับมามากมาย และนางรู้ว่าทำไมนางถึงได้รู้สึกพิเศษกับชายแซ่มู่ผู้นี้ บางทีนางอาจเหงามาหลายปีแล้ว และชายแซ่มู่ผู้นี้ปฏิบัติกับนางเป็นอย่างดี หัวใจที่แก่และอ้างว้างของนาง แม้รู้ว่าอีกฝ่ายเพียงแค่โอ๋นางไปตามแผนการเท่านั้นแต่ก็อดตกหลุมพรางของเขาไม่ได้

หรือบางทีนี่คือวาสนาชะตาลิขิตอันเลวร้าย

ตั้งแต่แรกเริ่ม มู่จิ้งอี๋จงใจทำตัวให้ถูกซูรุ่ยเอ๋อร์ลักพากลับมาเพราะต้องการแทรกซึมเข้ามาช่วยหลี่อันหรูออกไป ในช่วงแรกเขาแอบทำอะไรหลาย ๆ อย่างอย่างระวังและรอบคอบ ไม่มีพิรุธอะไรแม้แต่น้อย อีกทั้งเขาก็ไม่ได้ติดต่อกับหลี่อันหรูเลย ไม่ว่าใครต่างก็คิดว่าเขากับนางไม่รู้จักกันทั้งนั้นและไม่มีใครจับสังเกตเขาได้ จนกระทั่งช่วงหลัง แม้แต่ซูรุ่ยเอ๋อร์เองก็เชื่อว่าเขาเป็นเพียงชายหนุ่มที่ถูกนางลักพาตัวกลับมาเท่านั้น

แต่เพราะไม่มีพิรุธอะไร เจียงป่าวชิงจึงระแวดระวังมู่จิ้งอี๋อยู่เสมอ ประกอบกับนางเคยเห็นอีกมุมหนึ่งของเขาโดยบังเอิญจึงยิ่งระวังมากกว่าเดิม

ซูรุ่ยเอ๋อร์ใช้นิ้วมือหนีบกระดาษแผ่นเล็กแผ่นหนึ่งและมองมู่จิ้งอี๋ สายตาของนางยังคงอ่อนโยนราวกับมองคนรักอยู่อย่างนั้น

“เมื่อคืนวาน ตอนที่ทุกคนกำลังตกแต่งบ้านกันให้วุ่น ข้าจับนกพิราบได้และได้รับกระดาษนี่”

ในที่สุดสีหน้าของมู่จิ้งอี๋ก็เปลี่ยนไป เขามองซูรุ่ยเอ๋อร์ มุมปากกระตุกเล็กน้อยแต่ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี เขารู้ว่าในกระดาษแผ่นเล็กนั้นมีการวาดเส้นทางหลักบางส่วนของหมู่บ้านอย่างละเอียดเอาไว้

นี่คือแผนที่ที่เขาตั้งใจส่งให้คนอื่นเพื่อเตรียมให้พวกนั้นมาโจมตีพวกโจรให้สิ้นซากทั้งด้านนอกและด้านใน โดยคิดไว้ว่าจะให้ลงมือตอนที่งานแต่งงานเริ่มขึ้น

ลักษณะเส้นทางและไหนจะพวกต้นไม้โดยรอบหมู่บ้านฟู่กุ้ยนั้นดูซับซ้อนซ่อนเงื่อนเกินไป แม้จะมีคนนำกำลังทหารมารออยู่ที่นอกหมู่บ้านแล้วก็ยังไม่สามารถฝ่าประตูเข้ามาได้

คืนนั้นที่เจียงป่าวชิงเห็นมู่จิ้งอี๋ตรงเส้นทางบนภูเขา นางคิดว่าเขาคงกำลังแอบจดจำแผนที่และเส้นทางต่าง ๆ ในภูเขาอยู่แน่ ๆ

ตอนนี้ในเมื่อซูรุ่ยเอ๋อร์สกัดแผนที่นี้ไว้ได้ มู่จิ้งอี๋ก็ไม่สามารถส่งข่าวออกไปได้ เห็นได้ชัดว่าแผนการของพวกเขาล้มเหลว

ตั้งแต่เห็นกระดาษแผ่นเล็กแผ่นนั้น หลี่อันหรูก็เหมือนถูกใครบางคนบีบคอ นางหมดหนแล้วแล้วจริง ๆ แผนการต่าง ๆ ที่วางไว้พังไม่เป็นท่า

ตอนนี้พวกคนนอกล้มเหลวแล้ว คนข้างนอกเข้ามาไม่ได้ นางไม่อาจได้รับความช่วยเหลือจากใครในตอนนี้ได้อีกแล้ว

สีหน้าของหลี่อันหรูน่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้

กู่ฟู่กุ้ยรับแผนที่ไปดูด้วยสีหน้าขรึมเข้ม “เรื่องนี้… ในเมื่อพวกเจ้ารู้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ทำไมไม่บอกข้าสักคำ หืม ?!”

ซูรุ่ยเอ๋อร์ถอนหายใจ “พวกข้าต้องติดสินบนถึงจะได้มา ไม่อย่างนั้นเราไม่มีหลักฐานอะไรมาพูดแน่ ๆ และข้าคิดว่าเหล่าหวู่คงไม่เชื่อ อีกอย่าง พี่อี๋เป็นคนของข้า ข้ามีความเห็นแก่ตัวอยู่บ้าง ข้าเกรงว่าถ้าเรื่องนี้ถึงหูพี่ใหญ่ มันจะถูกจัดการจนเสร็จไปเสียก่อน”

ซูรุ่ยเอ๋อร์หวังว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ กู่ฟู่กุ้ยจะให้ทางออกกับมู่จิ้งอี๋เพราะนางเห็นว่าหมู่บ้านไม่ได้รับความเสียหายอะไรจากเขา

แต่ถึงอย่างไร แม้แต่ซูรุ่ยเอ๋อร์เองก็ไม่คิดว่าวิธีการก่อเรื่องของหลี่อันหรูจะพาเจียงป่าวชิงเข้ามาเกี่ยวด้วย แต่เรื่องที่เจียงป่าวชิงเป็นผู้หญิงน่าตกใจกว่า นางไม่เคยรู้มาก่อน ทว่าก็นั่นแหละ ใครจะไปคาดคิดได้

วันนี้กู่ฟู่กุ้ยรู้สึกเจ็บใจเล็ก ๆ จากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ เขาขมวดคิ้วและพูดขึ้น “พวกเจ้าแต่ละคนช่างปีกกล้าขาแข็งกันจริง ๆ เกิดเรื่องขึ้นแต่ปิดบังหัวหน้าใหญ่อย่างข้าและเลือกที่จะไปจัดการกันเอง แต่ช่างเถอะ พวกเจ้าจัดการกันมาถึงขั้นนี้แล้วข้าก็ไม่ขอก้าวก่ายอะไร พวกเจ้าดูกันเองเถอะว่าจะทำยังไงต่อไป”

……

งานแต่งงานของหลู่เว่ยต้งสิ้นสุดลงทั้งอย่างนั้น หลู่เว่ยต้งขังตัวเองอยู่ในบ้านเป็นเวลาหลายวันไม่ออกไปไหน

อย่างไรก็ตาม ความสนใจของผู้คนที่มีต่อเรื่องงานแต่งงานของหลู่เว่ยต้งล้มเหลว เทียบไม่ได้กับความสนใจเรื่องที่ว่า “เจียงป่าวชิงเป็นผู้หญิง”

ช่วงหลายวันนี้นอกบ้านของเจียงป่าวชิงเต็มไปด้วยผู้คนคลาคล่ำ พวกเขาต้องการมาดูหมอเจียงที่ตอนนี้เปิดเผยแล้วว่าเป็นผู้หญิง

การที่มีคนมาออกันอยู่หน้าบ้านเช่นนี้รบกวนการทำงานของเจียงป่าวชิงอย่างแรง แต่นางก็คิดว่าควรใจเย็น ๆ พยายามไม่คิดว่านี่เป็นการรบกวนและกลับมาใส่ชุดผู้ชายซะเลย เพียงแต่ไม่ได้ตกแต่งใบหน้าให้เป็นชายก็เท่านั้น

แม้จะเป็นเช่นนี้ พวกโจรที่รู้ว่าจริง ๆ แล้วหมอเจียงเป็นสาวสวยยังคงมาล้อมอยู่นอกบ้านของนางและพากันผิวปากก่อกวนอยู่ทุกวัน

โชคร้าย คนเหล่านั้นถูกจิ้นเทียนหยู่ลากออกไปเล่นงานจนหน้าบวมทีละคน พวกเขาได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วหัวหน้าจิ้นของพวกเขาก็คิดอะไรกับหมอเจียงเช่นกัน

แต่ในสายตาของผู้คนในหมู่บ้าน หัวหน้าสามของพวกเขานั้นค่อนข้างปอดแหก หลังจากที่เขาจัดการกับคนที่เฝ้ามองอยู่นอกบ้านของเจียงป่าวชิงในทุก ๆ วันเสร็จแล้ว เขาก็กลับทันที เขาไม่กล้าเข้าไปในบ้านของหมอเจียง ไม่กล้าเข้าไปพัฒนาความสัมพันธ์ทั้ง ๆ ที่อยากพัฒนา เขาไม่กล้ามองหน้าหมอเจียงเลยด้วยซ้ำ

วันหนึ่ง เจียงป่าวชิงตั้งใจจะลงเขาเพื่อไปซื้อของ ก็มีคนรีบไปแจ้งข่าวให้จิ้นเทียนหยู่ทราบ

“หัวหน้าสามขอรับหัวหน้าสาม… หมอเจียงกำลังจะลงเขา ท่านรีบไปกับนางสิขอรับ!”

จิ้นเทียนหยู่เขินอายจึงโกรธเอาดื้อ ๆ เขาพูดเสียงเข้ม “ข้าจะไปทำไม ?!”

ชายคนนั้นถอนหายใจเล็กน้อยพร้อมทั้งตบขาดังฉาด เขารีบพูดขึ้นอย่างร้อนรน “หัวหน้าสาม ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมท่านถึงยังไม่มีภรรยามาจนถึงตอนนี้ ถ้าท่านยังเป็นเช่นนี้ หมอเจียงจะถูกคนอื่นแย่งไปนะขอรับ ท่านดูใบหน้าเล็ก ๆ ที่งดงามของนางสิ ถ้าใบหน้านั้นไปยิ้มให้คนอื่นทุกวัน ท่านเต็มใจไหม และท่านลองนึกถึงน้ำเสียงไพเราะของนางสิ ถ้านางไปเรียกคนอื่นว่าพี่จ๊ะอย่างนู้นพี่จ๋าอย่างนี้ ท่านจะ…”

ชายคนนี้ช่างเป็นอัจฉริยะบุคคลที่ปลุกปั่นใจคนเก่งดีจริง ๆ เขายังพูดไม่ทันจบ จิ้นเทียนหยู่ก็เดินจากไปด้วยสีหน้าคร่ำครึซะก่อน

ดูจากทิศทางแล้ว เขาคงไปหาเจียงป่าวชิงที่ล่างเขาอย่างแน่นอน