บทที่ 233 ถูกคนตระกูลหลัวล้อม

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

แม่เฒ่าตระกูลหลัวต้องการมอบของขวัญแต่งงานให้หลานสาวของตนเอง นั่นก็คือหยกมีตำหนิครึ่งก้อนที่เปื้อนเลือด ไม่ใช่กล่องหยกหงส์มังกรที่ดูมีค่ามากกว่าหยกมีตำหนินั้นนับร้อยเท่า นี่ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจ ต่อให้ได้ฟังตำนานเล่าขานที่แม่เฒ่าอธิบายมาแล้ว หลายคนก็ยังคงมองกล่องหยกหงส์มังกรนั้นด้วยดวงตาเปล่งประกาย ไม่มีใครจ้องมองหยกมีตำหนิครึ่งก้อนที่เปื้อนเลือดนั้นเลย เพราะว่าจะอย่างไรนั้นก็เป็นแค่เรื่องเล่าเท่านั้น เป็นเพียงของที่หม่นหมอง ในสายตาของคนยุคปัจจุบันมีแค่เงินตราเท่านั้น ของอย่างอื่นไม่นับเป็นอะไรได้

เย่เทียนเฉินเห็นยายทวดหลับตาลง สิ้นลมจากโลกนี้ไป ในใจก็รู้สึกเจ็บปวด ถึงแม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับผู้อาวุโส แต่กลับรู้สึกได้ถึงความเมตตาและอ่อนโยนของเธอ อีกทั้งเธอยังคงคิดถึงลูกหลานรุ่นหลังในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตอีกด้วย ควรค่าแก่การเคารพ

บางทีเย่เทียนเฉินที่ได้มาเกิดใหม่จากดาวสิ้นโลก ในตอนนั้นเขามีฐานะเป็นผู้มีพลังพิเศษในระดับพระเจ้า ในโลกที่คนกินคนเช่นนั้น ทุกที่เต็มไปด้วยการฆ่าฟัน ความตายสำหรับทุกคนแล้วเธอเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนการกินข้าว มองความเป็นความตายอย่างเรียบเฉยด้วยจิตใจสงบนิ่งดุจสายน้ำไปนานแล้ว เพราะว่าเห็นมามากมายจนด้านชา อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เย่เทียนเฉินได้มาเกิดใหม่ในโลกใบนี้ มีความอบอุ่นของครอบครัว รู้สึกถึงความอบอุ่นในใจ ทำให้เขามีความรู้สึกต่อเรื่องการเกิดแก่เจ็บตายเหล่านี้ต่างออกไป

“คุณย่า คุณย่า ย่าตื่นสิ เยี่ยนเอ๋อร์ไม่อยากได้ของขวัญอะไรแล้ว ขอแค่ให้คุณย่ามีชีวิตอยู่อีกหลายปีก็พอ…” หลัวเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหล ยี่สิบปีแล้วที่ไม่ได้มาพบคุณย่า คิดไม่ถึงว่าวันนี้เมื่อได้พบกันจะเป็นการจากลาตลอดกาล ภาพเหตุการณ์ในอดีตปรากฏขึ้น ตอนเด็กๆ คุณย่าเป็นคนสั่งสอนตนเอง ใส่ใจตนเอง รักและปกป้องตนเอง ภาพเหล่านั้นปรากฏขึ้นในสมองของหลัวเยี่ยน นี่ทำให้เธอยิ่งรู้สึกเสียใจ

“แม่ครับ คุณยายทวดจากไปแล้ว ให้ท่านอยู่อย่างสงบเถอะครับ!” เย่เทียนเฉินทอดถอนใจแล้วพูดออกมา อดคิดไม่ได้ว่า จะไม่มีทางหลุดพ้นจากการเกิดแก่เจ็บตายจริงๆ หรือ? ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับการจากไปของญาติมิตรจริงๆ หรือ?

“ใช่แล้ว แม่เฒ่าดีใจมาก คงไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจแล้ว ได้เจอกับคุณหนูเป็นครั้งสุดท้าย ก็ทำให้ท่านพอใจมากแล้วครับ!” ลุงหวังพูดด้วยความเสียใจ

หลัวเยี่ยนสงบอารมณ์ของตน ไม่ได้คุกเข่าอยู่ที่พื้นอีกต่อไป เธอยืนขึ้นเช็ดน้ำตา มองไปยังคุณย่าที่นอนหลับตาไปตลอดกาล สูดหายใจลึกๆ ครั้งหนึ่งแล้วพูดออกมา “ลุงหวัง หนูกับเทียนเฉินไปก่อนนะคะ คงจะไม่มางานศพของคุณย่าแล้ว!”

“ครับ ผมจะไปส่งคุณเอง!” มือขวาของลุงหวังยังคงถือกล่องหยกหงส์มังกรอยู่ เขาพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น

หลัวเยี่ยนไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงมองไปยังคุณย่าที่นอนอยู่บนเตียงอย่างอาลัยอาวรณ์ กัดฟันแน่นหมุนตัวเดินจากไป เย่เทียนเฉินก็เดินตามหลังแม่ของตนไปโดยไม่ได้พูดอะไรมาก เขามองไปยังเหล่าญาติผู้ใหญ่แห่งตระกูลหลัวที่อยู่รอบๆ จากพลังพิเศษแห่งการรับรู้ เขารู้สึกได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มีสายตาที่เป็นมิตร โดยเฉพาะกลิ่นอายความโหดเหี้ยมที่แผ่ออกมาจากร่างกายนั้น ท่าทางหากพวกเขาแม่ลูกต้องการที่จะไปจากตระกูลหลัวอย่างราบรื่นคงจะไม่ง่ายแล้ว

“หยุดนะ ตระกูลหลัวเป็นสถานที่ที่พวกแกอยากมาก็มาอยากไปก็ไปหรือไง?” ตอนนี้เอง ในที่สุดชายสูงวัยแห่งตระกูลหลัวคนหนึ่งก็ทนไม่ไหวจนต้องก้าวออกมา สายตาจ้องมองไปยังกล่องหยกหงส์มังกรในมือของลุงหวังเขม็ง ของสิ่งนี้ล้ำค่าเหลือเกิน บนโลกนี้มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง สามารถทำให้ใครหลายคนใจเต้นจนบ้าคลั่งได้

“ลุงสอง ไม่ได้พบกันหลายปี คุณเองก็แก่แล้ว ยังต้องการแย่งชิงอะไรอีกหรือคะ?” หลัวเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองชายวัยกลางคนตรงหน้า เอ่ยถามออกมาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความจนใจ

“หึ ฉันไม่ได้ต้องการแย่งชิงอะไร เพียงแต่ของที่เป็นของตระกูลหลัวของพวกเรา ไม่อาจถูกคนนอกนำไปได้!” ชายวัยกลางคนที่ถูกหลัวเยี่ยนเรียกว่าลุงสองแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง มองไปยังหลัวเยี่ยนอย่างเหยียดหยามแล้วพูดขึ้น

“ใช่แล้ว ของของตระกูลหลัวของพวกเรา จะให้คนนอกเอาไปได้ยังไง?”

“คนไปได้ แต่กล่องหยกหงส์มังกรต้องอยู่ที่นี่!”

“คนที่ถูกตระกูลหลัวขับไล่ออกไปนานแล้ว ยังกล้ากลับมาอีก ช่างไม่รู้จักที่ตายเลยจริงๆ”

“พวกเรายอมให้แกได้เห็นหน้าแม่เฒ่าเป็นครั้งสุดท้ายก็ใจดีมากแล้ว อย่าได้ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”

“ทิ้งกล่องหยกหงส์มังกรไว้แล้วไสหัวไปซะ!”

ขอเพียงมีคนก้าวออกมาขวาง คนที่เหลือก็พากันตามน้ำไป ทุกคนต่างขวางหลัวเยี่ยนและเย่เทียนเฉินเอาไว้ ไม่ยอมให้พวกเขาแม่ลูกไปจากที่นี่ พูดให้ชัดเจนก็คือ ไม่ยอมให้กล่องหยกหงส์มังกรถูกเอาไป

ทุกคนที่อยู่ที่นี่ มีหลายคนที่มีส่วนร่วมในการขับไล่หลัวเยี่ยนออกจากตระกูลหลัวเมื่อปีนั้น จะอย่างไรหลัวเยี่ยนก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของหลัวเหยียนซง ต่อให้จะทำความผิดมากกว่านี้ก็ยังเป็นพ่อลูกกัน ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้ หลัวเยี่ยนแสดงความสามารถออกมา ทำให้เหล่าผู้อาวุโสในตระกูลหลัวต่างตกใจจนหายใจไม่ออก คิดว่าหากหลัวเยี่ยนเป็นผู้ชาย ตำแหน่งหัวเรือใหญ่คนต่อไปของตระกูลหลัวจะต้องเป็นของเธอแน่นอน ไม่จำเป็นต้องคิดเลย

ดังนั้นหากพูดถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน หลัวเยี่ยนแสดงความสามารถออกมาเกินหน้าเกินตาคนอื่น แสดงความสามารถเหนือกว่าเหล่าพี่น้องของคนตระกูลหลัวในรุ่นเดียวกันไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นหลัวเหยียนซงก็รักลูกสาวคนนี้มาก พูดอีกอย่างก็คือ หากต้องการไล่หลัวเยี่ยนออกไปจากตระกูลหลัว ก็ต้องบีบบังคับให้เธอและหลัวเหยียนซงผู้เป็นพ่อทะเลาะเบาะแว้งกันจนตัดความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก ถ้าหากว่าคนเหล่านี้ไม่ทำเรื่องร้ายกาจเมื่อปีนั้น ก็คงไม่กลายเป็นสถานการณ์เช่นในตอนนี้ ดังนั้นพูดได้ว่า ในหมู่คนเหล่านี้ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ต้องการเห็นหลัวเยี่ยนกลับมาที่ตระกูลหลัว และไม่มีแม้แต่คนเดียวที่หวังจะให้เธอนำกล่องหยกหงส์มังกรไป

ตอนนี้เอง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำพูดเสียดสีของคุณลุงทั้งหลาย หลัวเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไร เธอยังคงอดทนอดกลั้น ไม่ต้องการก่อเรื่องใดๆ กับคุณลุงเหล่านี้ เพราะศพของคุณย่ายังไม่ทันแห้ง หากได้เห็นกับ ภาพแบบนี้ ไม่รู้ว่าท่านจะเจ็บปวดใจขนาดไหน ยิ่งไปกว่านั้นที่สำคัญที่สุดก็คือหลัวเยี่ยนคิดเพื่อคุณพ่อของเธอ ต่อให้เมื่อปีนั้นเธอจะทะเลาะกับพ่อจนต้องตัดความสัมพันธ์พ่อลูก ต่อให้ไม่ได้กลับมาที่ตระกูลหลัวยี่สิบปีแล้ว แต่พ่อก็ยังคงเป็นพ่อ สุดท้ายเธอก็ยังเป็นลูกสาวของพ่อ

เย่เทียนเฉินเองก็ไม่ได้ลงมือและไม่ได้พูดอะไร เขากลับอยากจะเห็นว่าคนตระกูลหลัวเหล่านี้จะเล่นลูกไม้อะไรอีก วันนี้เขาได้เตรียมตัวมาพร้อมแล้ว ความจริงถ้าทำอะไรไม่ได้ก็ใช้กำลังเปิดทางและพาแม่เขากลับไปเท่านั้น แล้วเขาก็ไม่สนใจว่าคนเหล่านี้จะเป็นญาติผู้ใหญ่อะไร ญาติผู้ใหญ่พวกนี้ไม่คู่ควรที่จะเป็นญาติผู้ใหญ่ของเขาเย่เทียนเฉิน ไม่มีความคิดถึงครอบครัวเลยแม้แต่น้อย ในดวงตามีแต่ผลประโยชน์ ญาติเหล่านี้จะยังมีประโยชน์อะไรอีก?

“พวกคุณ…ของในกล่องหยกหงส์มังกร เป็นของขวัญแต่งงานที่แม่เฒ่ามอบให้คุณหนู คำพูดของแม่เฒ่าทุกคนต้องฟัง ต้องส่งมอบให้คุณหนู…” ลุงหวังทนไม่ไหว ก้าวออกมาเปิดปากพูด

“เหล่าหวัง แกยังเป็นคนของตระกูลเหลืออยู่หรือเปล่า?”

“ไอ้คนไม่รู้จักบุญคุณ ตอนนี้ถึงกับกล้าช่วยคนนอกมาหลอกลวงพวกเราแล้วเหรอ?”

“อยากตายหรือไง?”

“ถ้าพูดอีกประโยคเดียว ก็ไสหัวกลับไปตระกูลหวังเลย!”

คำพูดของเหล่าหวังทำให้ทุกคนรู้สึกไม่พอใจ ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเขาก็ไม่อยากให้หลัวเยี่ยนนำกล่องหยกหงส์มังกรนั้นไป ของสิ่งนี้มีค่ามาก ใครก็วางไม่ลง ต่อให้เป็นตระกูลใหญ่เช่นตระกูลหลัว ก็เกรงว่าไม่สามารถซื้อกล่องหยกหงส์มังกรที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองในโลกนี้ได้ นี่เป็นของที่ไม่อาจประเมินค่า ใครก็คิดอยากจะได้ไว้ครอบครอง

หลัวเยี่ยนเห็นคุณลุงเหล่านี้ กระทั่งมีเด็กรุ่นหลังบางคนที่กล่าวด่าลุงหวัง ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ ตอนเด็กๆ ลุงหวังรักตนเองมาก ยิ่งไปกว่านั้นลุงหวังยังเป็นพ่อบ้านให้กับตระกูลหลัวมาชั่วชีวิต พยายามรับใช้ทุกคนอย่างเต็มที่ พูดได้ว่าตระกูลหลัวสามารถมีทุกวันนี้ได้ ลุงหวังก็ต้องออกแรงไปมาก ทำงานเพื่อตระกูลหลัวมาชั่วชีวิต สุดท้ายกลับถูกคนพวกนี้ทำให้เกิดความอับอาย กระทั่งเด็กรุ่นหลังก็ยังไม่ให้ความเคารพเขาเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกหนาวเหน็บในใจ

“พวกคุณคิดจะทำอะไร? ลุงหวังทำงานให้ตระกูลหลัวของพวกเราอย่างรอบคอบมาชั่วชีวิต แต่สุดท้ายกระทั่งคำพูดดีๆ ก็ยังไม่ออกมาจากปากพวกคุณ ก็คุณไม่คิดว่ามันจะเกินไปหน่อยเหรอ?” หลัวเยี่ยนย้อนถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

“ตลกน่า เหล่าหวังก็เป็นแค่คนรับใช้ของตระกูลหลัวของพวกเราเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะตระกูลหลัวของพวกเราเลี้ยงดูเขามา เขาก็คงหิวตายไปแล้ว”

“ใช่แล้ว เธอยังเด็กกว่าพวกเรา มีคุณสมบัติมาสั่งสอนพวกเราที่ไหนกัน ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่เลย!”

“พูดจาไร้สาระให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ ทิ้งกล่องหยกหงส์มังกรไว้แล้วไสหัวไปซะ!”

เมื่อเห็นคนเหล่านี้ตะโกนโหวกเหวกบีบบังคับ ถูกความโลภบังตาจนถึงขั้นที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หลัวเยี่ยนรู้สึกหัวใจหนาวเหน็บมากจริงๆ คุณย่าเพิ่งจะจากไป แต่ที่นี่กลับไม่มีแม้แต่คนเดียวที่เศร้าโศกเสียใจ ทุกคนต่างก็จ้องกล่องหยกหงส์มังกรตาเป็นมัน ต่างต้องการที่จะได้ไปครอบครอง ส่วนลุงหวัง ทำงานเพื่อตระกูลหลัวมาชั่วชีวิต ต้องอดทนต่อความยากลำบากและคำก่นด่า สุดท้ายกลับไม่มีใครเคารพแม้แต่คนเดียว จะอย่างไรตนเองก็เป็นคนของตระกูลหลัว มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอยู่ ต่อให้ถูกขับไล่ออกไปจากตระกูลหลัวแล้ว ก็ยังไม่อาจตัดขาดความสัมพันธ์ทางสายเลือดได้ ตอนนี้คุณลุงทั้งหลายทำท่าทางราวกับต้องการฆ่าเธอ จะให้หลัวเยี่ยนไม่รู้สึกหนาวเหน็บในใจอย่างไรไหว

เดิมทีหลัวเยี่ยนไม่ต้องการแก่งแย่งชิงดีอะไร ตลอดมาเธอก็เห็นเรื่องเหล่านี้จนชินชาไปแล้ว แต่ว่าตอนนี้คนเหล่านี้ถึงกับบีบบังคับเธอ ทำให้เธอที่เดิมทีคิดจะทิ้งกล่องหยกหงส์มังกรและหยกมีตำหนิเปื้อนเลือดนั้นเอาไว้ต้องเปลี่ยนความคิด นี่เป็นของเพียงชิ้นเดียวที่คุณย่าให้ตนเอง จะต้องนำไปให้ได้ จะไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนเหล่านี้เด็ดขาด ถ้าหากต้องส่งมอบให้พวกเขาจริงๆ ไม่รู้ว่าจะถูกนำออกไปขายเมื่อไหร่ ทำให้คุณย่าต้องลำบากใจเปล่าๆ

“ฉันจะขอบอกพวกคุณให้ชัดเจนตรงนี้เลย กล่องหยกหงส์มังกรเป็นของที่คุณย่ามอบให้ฉัน ไม่ว่าจะเป็นกล่องหยกหรือว่าจะเป็นหยกมีตำหนิ ฉันก็จะนำไปทั้งหมด ถ้าหากว่าใครต้องการ ก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อน!” ทันใดนั้นหลัวเยี่ยนพูดกับคุณลุงทั้งหลายด้วยเสียงอันดังท่าทางทรงอำนาจ ไม่เห็นความขี้ขลาดเลยแม้แต่น้อย แสดงความสามารถในวันเก่าๆ ของเธอออกมาทั้งหมด

เมื่อได้ยินคำพูดของหลัวเยี่ยน ทุกคนในที่นี้ต่างตกตะลึง และรู้สึกประหลาดใจมาก ชั่วขณะนั้นจึงพูดอะไรไม่ออก ใครก็คิดไม่ถึงว่า คนที่มีท่าทางอ่อนโยนมาโดยตลอดตั้งแต่เข้ามายังตระกูลหลัว ต่อให้ต้องเจอกับคำพูดเสียดสีดูถูกและคำกล่าวว่าต้องการไล่นางออกไปของใครหลายคนก็ตาม หลัวเยี่ยนก็ไม่พูดไม่จา ดูเหมือนว่าจะทำให้ทุกคนคิดว่า หลัวเยี่ยนเป็นคนที่ถูกขับไล่ออกไปจากตระกูลหลัว ทำได้เพียงถูกพวกเขารังแกเท่านั้น ไหนเลยจะกล้าพูดอะไรออกมา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าคำพูดนี้ของเธอ จะมากพอที่จะทำให้ทุกคนในที่นี้พูดอะไรไม่ออก

“แกคิดจะบีบบังคับให้พวกเราลงมือหรือไง? กล่องหยกหงส์มังกรนั้นแกเอาไปไม่ได้ จำเป็นต้องทิ้งเอาไว้ที่นี่!” ในตอนนี้เองล็อคประตูมีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงที่เอาแต่ใจอย่างมาก

“ถูกแล้ว กล้าตีลูกของฉัน วันนี้ฉันจะตีลูกของแกให้มือหักขาหัก!” ตามมาด้วยเสียงของผู้หญิงที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างมากดังออกมาจากนอกประตู หยิ่งยโสเกินเยียวยา

……………..