ตอนที่ 189 ผลลัพธ์

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 189 ผลลัพธ์

เมื่อใบหน้าของสาวใช้ถูกเปิดเผยต่อหน้าทุกคน แววตาของหลี่ซื่อก็ปรากฏความกลัวเกิดขึ้น มิอาจสงบนิ่งเฉกเช่นเมื่อครู่อีก แม้กระทั่งอันหลิงอีก็มีความตื่นกลัวแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“หลี่ซื่อ เจ้าจักอธิบายว่าเยี่ยงไร ? “

ฮูหยินผู้เฒ่าตะโกนถามอย่างโมโห ดวงตาฝ้าฟางคู่นั้นเต็มไปด้วยความโกรธ ทำให้หลี่ซื่อใจเต้นแรงทันที

ผู้ที่ถูกเผยใบหน้าออกมาคือชิงเอ๋อ สาวใช้ที่อันหลิงอีเพิ่งยกให้เป็นสาวใช้ขั้นหนึ่งเมื่อมินานมานี้เอง

เมื่อสองวันก่อนนางยังเคยไปที่เรือนอันหลิงเกอโดยบอกว่าหลันซินโดน ‘ตีตาย’ ขอให้อันหลิงเกออย่าเอาเรื่อง ตอนนั้นนางยังพูดได้เก่งนัก วันนี้ถูกคนของฮูหยินผู้เฒ่ามัดตัวให้อยู่ในสภาพคุกเข่ากับพื้น ผมยังถูกดึงจนยุ่งเหยิง ใบหน้าซีดเซียว ยังเหลือความทะนงเหมือนในตอนนั้นอีกหรือ ?

อันหลิงเกอมองคนที่อยู่บนพื้นด้วยแววตาเย็นชาเล็กน้อย ริมฝีปากก็ยกยิ้มอย่างเยือกเย็น

ฝั่งหลี่ซื่อตื่นตระหนกไปครู่หนึ่ง แต่ก็สงบลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว

นางส่งคนไปเปลี่ยนของขวัญอันหลิงเกอ เรื่องนี้ชิงเอ๋อมิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นการที่ฮูหยินผู้เฒ่าจับชิงเอ๋อมาก็ต้องเป็นการเข้าใจผิดอย่างแน่นอน

หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง หลี่ซื่อจึงแสร้งตีหน้าเศร้า ท่าทางราวกับถูกปรักปรำ “ท่านแม่เจ้าคะ นี่เป็นสาวใช้ที่อีเอ๋อเพิ่งเลื่อนขั้นให้ ปกตินางเป็นคนสงบเสงี่ยมที่สุด ท่านจับนางมาด้วยเหตุอันใดหรือเจ้าคะ ? “

หลี่ซื่อกล่าวว่าสาวใช้ผู้นี้สงบเสงี่ยม เช่นนั้นก็หมายความว่าฮูหยินผู้เฒ่าจับผิดคน

ฮูหยินผู้เฒ่าหัวเราะออกมาทว่าแฝงไปด้วยความเย็นชา ใบหน้าสงบนิ่งมิได้มีความกังวล “แม่นมอู๋ เจ้าเล่ามาเถิดว่าสืบเจออันใดมาบ้าง ? “

แม่นมอู๋เดินขึ้นหน้าสองก้าวแล้วยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน เมื่อเผชิญหน้ากับหลี่ซื่อใบหน้ายังมีท่าทีให้เกียรติแต่แผ่นหลังยืดตรง

แม้ว่านางเพียงสวมชุดยาวสีเทาที่มิได้ดึงดูดสายตานัก ทว่าต่อหน้าบรรดาฮูหยินและคุณหนูมากมายมิมีท่าทีแข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่งและมิถ่อมตนจนดูต้อยต่ำ มิแปลกที่นางจักเป็นคนสนิทของฮูหยินผู้เฒ่า

“เรียนท่านฮูหยินผู้เฒ่า บ่าวคิดว่ารูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกทำมาจากหยกชั้นดี ดังนั้นจึงพาคนไปตรวจสอบร้านที่ขายรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกแล้วตามตัวเจ้าของร้านมาสอบถามเจ้าค่ะ “

หลังจากนั้นแม่นมอู๋ก็นิ่งไปชั่วครู่และเห็นว่าตอนนี้แววตาทุกคนจ้องมาที่นาง “เจ้าของร้านกล่าวว่าเขาจำเรื่องนี้ได้ ตอนนั้นฟ้ามืดแล้วมีสาวใช้ที่แต่งตัวดีไปซื้อรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกเพื่อนำไปมอบให้เจ้านายในงานวันเกิด เขายังทราบว่าสาวใช้มีไฝตรงหว่างคิ้ว มองแล้วหน้าตาช่างงดงาม”

รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกและงานวันเกิด สองเรื่องนี้รวมกันแล้วจึงรู้ว่าแม่นมอู๋มิได้ถามผิดคน

อีกอย่างเจ้าของร้านยังบอกว่าสาวใช้ที่ซื้อรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกแต่งตัวดี รูปร่างหน้าตาสวยงาม ระหว่างคิ้วยังมีไฝเม็ดหนึ่ง เช่นนี้การตามหาคนจึงง่ายมาก

ใบหน้าหลี่ซื่อเปลี่ยนไป แต่นางยังอธิบายแทนบุตรสาว “แม่นมอู๋ก็บอกแล้วว่าตอนนั้นฟ้ามืด เจ้าแน่ใจได้เยี่ยงไรว่าเจ้าของร้านมิได้ดูผิดคน ? “

แม่นมอู๋ตอบคำถามทันที “บ่าวก็กลัวผิดคนจึงนำตัวเจ้าของร้านมาที่จวนด้วยเลย ให้เขาดูสาวใช้ผู้นี้ด้วยตนเองแล้วยืนยันว่ามิได้ผิดคน บ่าวจึงสามารถจับสาวใช้ผู้นี้มาได้”

“เพียงฟังคำกล่าวมิกี่คำจากเจ้าของร้านก็สามารถกำหนดโทษอีเอ๋อได้เลยหรือ ? ” หลี่ซื่อกล่าวออกมาพร้อมเผยแววตาเศร้าโศกคล้ายกำลังได้รับความลำบาก

อันหลิงเกอหัวเราะออกมาทันใด ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความเยาะเย้ย “น้องหญิงสามจงใจสร้างปัญหาให้ท่านย่าในงานวันเกิด หลี่อี๋เหนียงมิรู้จักชี้แนะสั่งสอนนางก็แล้วไปเถิด ตอนนี้ยังคิดช่วยนางให้พ้นโทษอีกหรือ ? “

นัยน์ตาสีดำของอันหลิงเกอเปล่งประกายราวดวงดาว ใบหน้างามหาสิ่งใดเปรียบ แต่แววตานั้นทำให้หลี่ซื่อรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งกายแม้อากาศร้อน

“วันก่อนน้องหญิงสามมาที่เรือนของข้า นางพยายามถามต่อหน้าและสืบลับหลังว่าข้าเตรียมของขวัญอันใดให้ท่านย่า ข้ายังคิดว่าเพราะนางมิรู้จักให้อันใดเป็นของขวัญ ดังนั้นจึงกล่าวไปคำหนึ่งว่าท่านย่าชอบรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยก เมื่อครู่ทุกท่านก็เห็นแล้วว่ารูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกเป็นของน้องหญิงสามมอบให้ท่านย่า ตอนนี้ก็มีเจ้าของร้านเป็นพยานว่ารูปปั้นหยกถูกซื้อโดยสาวใช้ของน้องหญิงสาม เรื่องนี้ยังเรียกว่าเข้าใจผิดได้อีกหรือ ? “

อันหลิงเกอบอกนางตอนไหนว่าฮูหยินผู้เฒ่าชอบรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยก !

ดวงตาของอันหลิงอีเบิกกว้าง มองอันหลิงเกอพูดโกหกหน้าตายออกมา คำกล่าวยังดูจริงจังยิ่งนัก ทำเอานางที่อยากโต้แย้งพูดสิ่งใดมิออกเลย

ท่าทางเยี่ยงนี้ของอันหลิงอีในสายตาผู้อื่นเป็นท่าทางของคนหวาดกลัวความผิด ดังนั้นจึงอดเชื่อคำกล่าวของอันหลิงเกอมิได้

ส่วนเว่ยซื่อกลอกตาไปมา แววตาดูมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น แต่ภายนอกยังแสดงท่าทีคำนึงถึงส่วนรวม “ข้าคิดว่าเดิมทีคุณหนูสามแค่อยากให้ท่านแม่ประหลาดใจ แต่ผู้ใดจักรู้ว่ารูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกมีปัญหาจนเกิดเรื่องเยี่ยงนี้ขึ้น ที่ท่านแม่รู้สึกกังวลก็เพราะอารมณ์ชั่ววูบ พาลคิดว่ามีคนจงใจสาปแช่งตน เพียงแค่คุณหนูสามขอโทษและช่วยชี้แจงความเข้าใจผิดนี้ ข้าคิดว่าท่านแม่คงมิเก็บไปใส่ใจแล้ว”

คำแนะนำของเว่ยซื่อดีที่สุด นางผลักความผิดไปที่คุณภาพของรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกและโทษนั้นก็เป็นของเจ้าของร้าน มิได้เกี่ยวข้องกับอันหลิงอีและมิเกี่ยวข้องกับหลี่ซื่อด้วย

เมื่อได้ฟัง อันหลิงอีก็เริ่มหวั่นไหวเล็กน้อย เดิมทีนางกับหลี่ซื่อได้คุยเรื่องวันนี้ไว้ดีแล้ว จักทำให้ของขวัญอันหลิงเกอเกิดปัญหาและให้ฮูหยินผู้เฒ่าที่เอาแต่ปกป้องเกิดความรังเกียจขึ้นมา

แต่ของขวัญที่อันหลิงเกอมอบให้ฮูหยินผู้เฒ่ามิใช่รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกและมิรู้ด้วยเหตุใดมันจึงกลายเป็นของขวัญจากนางเสียเอง !

พอฮูหยินผู้เฒ่าส่งคนไปตรวจสอบ อีกทั้งตรวจสอบถึงตัวชิงเอ๋อ เรื่องนี้มีความแปลกไปหมดจนทำให้นางคิดมิออกเลยสักนิดว่าต่อไปจักเกิดอันใดขึ้น

แต่อันหลิงอีแน่ใจได้อย่างหนึ่งว่าเป็นฝีมือของอันหลิงเกอ !

มิเช่นนั้นเหตุใดตอนที่ถูกฮูหยินผู้เฒ่าซักถาม อันหลิงเกอกลับหลุดพ้นจากเรื่องนี้ไปได้ ?

เมื่อคิดได้เช่นนั้นอันหลิงอีก็กัดริมฝีปาก กำลังคิดผลักเรื่องนี้ไปที่ตัวเจ้าของร้าน แต่อยู่ ๆ ก็นึกถึงแผนร้ายที่นางได้ทำไว้ ในใจจึงเกิดความคิดรับมือขึ้นมาทันที

“ท่านย่าเจ้าคะ แม้ว่ารูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกนี้เป็นหลานส่งคนออกไปซื้อ แต่มันเป็นเพียงหยกปั้นชิ้นหนึ่ง เหตุใดจึงมีน้ำตาโลหิตไหลได้เจ้าคะ ? เรื่องนี้ท่านได้ส่งคนไปตรวจสอบอย่างชัดเจนหรือยังเจ้าคะ ? “

ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองแม่นมอู๋ อีกฝ่ายจึงเอ่ยขึ้น “เมื่อครู่บ่าวได้ตรวจสอบแล้วเจ้าค่ะ ด้านล่างสุดของรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกถูกคนเจาะและยัดเทียนแดงเข้าไป เทียนแดงถูกเผามาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว น้ำตาเทียนจึงไหลออกมาตามช่องตาของรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกเจ้าค่ะ”

คำกล่าวของแม่นมอู๋เป็นการอธิบายได้ดีมากถึงที่มาของน้ำตาโลหิตนี้ ทำให้ผู้คนรู้ว่าสิ่งนี้เกิดจากฝีมือมนุษย์มิได้เกิดจากความอัปมงคลของจวนโหว

เมื่อได้ฟัง อันหลิงอีก็รู้สึกเสียใจ ท่าทางน่าสงสารมิน้อย “ท่านย่าเจ้าคะ ท่านก็ได้ยินแล้ว หากหลานอยากส่งของขวัญให้ท่าน จำเป็นต้องลงมือกับรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกด้วยเหตุใด ? ของที่หลานเตรียมไว้มิใช่สิ่งนี้เลย เห็นได้ชัดว่ามีคนลงมือกับรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกเพื่อจัดฉากใส่ร้ายหลานเจ้าค่ะ ! “

“หรือว่ารูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกมิได้ซื้อกลับมาโดยสาวใช้ของน้องหญิงสาม ? “