เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 976 ใบหน้าที่คุ้นเคย

แปลโดย iPAT

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามองฟางหยวนและไม่รู้ว่าควรกล่าวสิ่งใด

 

ทรัพยากรอมตะเหล่านี้เป็นของฟางหยวนจริงๆ เขาไม่สามารถโต้แย้ง

 

ฟางหยวนมองจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าทัศนคติของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะเป็นเช่นไร ตราบเท่าที่มีทรัพยากรอมตะเหล่านี้อยู่ในมือ มันก็เหมือนเขาถือจุดอ่อนของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเอาไว้

 

ทันใดนั้นดวงตาของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาพลันส่องประกายขึ้นด้วยความคิดบางอย่าง

 

เขาเย้ยหยัน “ฮืม…เด็กเลว คิดว่าข้าไม่รู้ทันเจ้างั้นหรือ? เจ้าต้องการเอาเปรียบข้า พูดมา เจ้าต้องการสิ่งใด?”

 

ฟางหยวนแสร้งแสดงออกอย่างไม่มีความสุขนัก “ท่านกล่าวผิดแล้ว ข้าไม่ได้มาเพื่อเอาเปรียบท่านแต่มาเพื่อทำธุรกรรมที่ยุติธรรม”

 

“ฮ่าฮ่า” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเตรียมรับมือความไร้ยางอายของฟางหยวนไว้แล้ว “กล่าวมาตามตรง ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม”

 

ฟางหยวนก้มหน้ามองทรัพยากรอมตะในมือ “เมื่อท่านเป็นคนตรงไปตรงมา ข้าก็จะขอกล่าวตามตรง ข้าขอท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยได้หรือไม่?”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตะลึงก่อนจะถามกลับ “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้ามี!?”

 

ฟางหยวนลอบมีความสุขอยู่ภายใน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีมันอยู่จริงๆ

 

นี่เป็นเพียงเรื่องที่เขาคาดเดาเท่านั้น

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเคยใช้ท่าไม้ตายใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยล่อลวงฟางหยวนมาแล้ว

 

ย้อนกลับไปเมื่อฟางหยวนถามเกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา คำตอบที่ได้คือ

 

“ใบหน้าที่คุ้นเคย? เจ้าช่างกล้าหาญนัก! นั่นเป็นท่าไม้ตายอมตะที่มีวิญญาณทัศนคติในตำนานเป็นแกนกลาง แม้ข้าจะมอบให้เจ้า เจ้าก็ไม่สามารถใช้งานมันได้ แต่ท่าไม้ตายใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยเหมาะสมกับเจ้ามาก กล่าวได้ว่ามันเป็นรุ่นก่อนหน้าของท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย นี่คือท่าไม้ตายระดับมนุษย์ที่เจ้าสามารถใช้งานได้จริง!”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินไม่สามารถโกหก

 

เขาไม่ได้กล่าวว่าไม่มีแต่บอกเพียงว่า แม้ข้าจะมอบให้เจ้า เจ้าก็ไม่สามารถใช้งานมันได้

 

แต่ตอนนี้ฟางหยวนมีวิญญาณทัศนคติอยู่กับตัว

 

เทพปีศาจปล้นสวรรค์สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยเมื่อเขาอยู่ในระดับหก ดังนั้นฟางหยวนก็น่าจะทำได้เช่นกัน

 

“ย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น เทพปีศาจปล้นสวรรค์ได้ออกตามหาร่างหลักของข้าเพื่อร้องขอให้เขาหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ ร่างหลักของข้าสนใจและร่วมมือกับเทพปีศาจปล้นสวรรค์เป็นเวลายี่สิบเอ็ดปีตามเวลาของโลกภายนอก หากนับเวลาภายในถ้ำสวรรค์ มันถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมาก”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารำลึกถึงอดีต

 

เขาหยุดก่อนกล่าวต่อ “ตลอดยี่สิบเอ็ดปี ร่างหลักของข้ากับเทพปีศาจปล้นสวรรค์ร่วมมือกันหลายครั้งแต่ยังล้มเหลว ความมั่งคั่งทั้งหมดของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ถูกใช้ไป กระทั่งคลังสมบัติของร่างหลักก็สูญสิ้น โดยธรรมชาติร่างหลักของข้าย่อมไม่ยอมรับการสูญเสีย เทพปีศาจปล้นสวรรค์ต้องนำบางสิ่งมาแลกเปลี่ยน สุดท้ายท่าไม้ตายใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คลุมเครือ และท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยจึงถูกส่งมอบ”

 

“เป็นเช่นนั้น” ฟางหยวนพยักหน้าและสลักข้อมูลนี้เอาไว้ในใจ

 

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีรากฐานที่ลึกซึ้ง

 

ความมั่งคั่งคือจุดเริ่มต้นของความพินาศ มันเป็นเหตุผลที่นิกายเงาบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา กระทั่งวังสวรรค์ยังต้องการยึดครอง

 

ฟางหยวนจับตามองคลังสมบัติแห่งนี้เช่นกัน แต่เขายังมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอที่จะบุกโจมตีและสร้างปัญหาให้กับตนเอง

 

“เด็กบ้า เจ้าต้องการท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยงั้นหรือ? ฮ่าฮ่า เจ้ามีประสบการณ์ที่ดีกับท่าไม้ตายใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยแล้วใช่หรือไม่? ทุกสิ่งที่มาจากข้าล้วนเป็นสมบัติระดับสูงสุดทั้งสิ้น แต่ท่าไม้ตายใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยเป็นเพียงท่าไม้ตายระดับมนุษย์ ดังนั้นมันจึงไม่เหมาะสมกับเจ้าในตอนนี้ถูกต้องหรือไม่?”

 

ฟางหยวนตอบอย่างตรงไปตรงมา “ข้าต้องการใช้ทรัพยากรอมตะระดับแปดจำนวนหนึ่งชิ้นแลกเปลี่ยนกับท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหัวเราะแต่ในวินาทีต่อมาเสียงหัวเราะกลับถูกแทนที่ด้วยความโกรธ “เด็กเลว! เจ้าคิดว่าข้าโง่งั้นหรือ? เจ้าต้องการใช้ทรัพยากรอมตะระดับแปดเพียงหนึ่งชิ้นซื้อท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย? ฝันไปหรือไม่!?”

 

ฟางหยวนไม่สนใจน้ำเสียงที่เย็นชาของฝ่ายตรงข้ามและถามด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น “แล้วท่านต้องการเท่าใด?”

 

“ทรัพยากรอมตะระดับแปดจำนวนสิบชิ้น!”

 

ครั้งนี้เป็นการแสดงออกของฟางหยวนที่เปลี่ยนแปลงไป “เป็นไปไม่ได้! ข้าจะมีทรัพยากรอมตะระดับแปดมากมายเช่นนั้นได้อย่างไร? ท่านคิดว่าข้าเพียงหยิบมันขึ้นมาจากพื้นจริงๆงั้นหรือ?”

 

เขากรีดร้องออกมาด้วยความไร้ยางอาย

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเผยรอยยิ้มเขินอายเล็กน้อยและกล่าว “แปดชิ้น?”

 

ดวงตาของฟางหยวนยังเบิกกว้าง เขาตะโกน “แปด? ท่านกำลังปล้นข้า! ย้อนกลับไปท่านบอกข้าด้วยตนเองว่าท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยต้องใช้วิญญาณทัศนคติเป็นแกนกลาง โดยปราศจากวิญญาณทัศนคติ ข้าจะไม่สามารถใช้งานมันได้ แต่ข้าเพียงต้องการมันเพื่อใช้อ้างอิงในการอนุมานท่าไม้ตายใหม่ที่เหมาะสมกับข้าเท่านั้น! ท่านคิดว่าข้าจะใช้ทรัพยากรอมตะระดับแปดถึงแปดชิ้นเพื่อแลกเปลี่ยนกับมันจริงๆงั้นหรือ?”

 

น้ำลายของฟางหยวนพุ่งออกมาจากปากและตกกระทบลงบนใบหน้าของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอยหลังกลับสองสามก้าวด้วยการแสดงออกที่เขินอาย

 

เขาถูกฟางหยวนหลอกมาหลายครั้งและสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการต่อรอง แต่เห็นได้ชัดว่าประสบการณ์ของเขายังไม่มากพอและไม่สามารถตอบโต้ฟางหยวน

 

หลังจากทั้งหมดจิตวิญญาณแผ่นดินก็เป็นเพียงเจตจำนงที่เกิดจากพลังงานสวรรค์พิภพเท่านั้น พวกเขามีความคิดที่เรียบง่าย จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสามารถบรรลุถึงจุดนี้ถือว่าไม่ธรรมดาแล้ว

 

ฟางหยวนยังกดราคาลงเรื่อยๆ เขาทำให้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยดูลดมูลค่าลงขณะที่เน้นย้ำความล้ำค่าของทรัพยากรอมตะระดับแปด

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่สามารถแข่งขันกับฟางหยวนและต้องยอมรับความพ่ายแพ้ในที่สุด

 

ในชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนเคยเป็นพ่อค้ามาหลายร้อยปี นอกจากนี้เขายังมีแนวความคิดของโลกมนุษย์ใบเดิม ดังนั้นตรรกะของเขาจึงแตกต่างจากผู้คนบนโลกใบนี้อย่างสิ้นเชิง

 

สุดท้ายฟางหยวนก็ลดเพดานราคาลงมาเหลือเพียงห้าชิ้น

 

นี่คือขีดจำกัด

 

หากเขาลดราคามากกว่านี้ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะไม่ขายท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยให้เขา

 

แน่นอนว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่ยอมรับความสูญเสีย หลังจากคำนวณต้นทุนและกำไร เขารู้สึกว่าราคานี้เป็นราคากลางที่ดีที่สุดแล้ว

 

ฟางหยวนส่งมอบทรัพยากรอมตะระดับแปดจำนวนห้าชิ้นและได้รับท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยมาครอบครอง

 

สำเร็จ!

 

เขามีความสุขมาก

 

แม้เขาจะมีแสงแห่งปัญญา มันก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะอนุมานท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย เขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา แต่ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของเขาแทบจะไม่ถึงระดับผู้เชี่ยวชาญขณะที่ท่าไม้ตายชุดคุ้นเคยทั้งสามเป็นท่าไม้ตายบนเส้นแห่งการเปลี่ยนแปลง

 

‘กระทั่งข้าจะสามารถอนุมาน มันก็ไม่เหมือน แต่ตอนนี้ข้าได้รับท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยฉบับดั่งเดิมที่ปราศจากข้อบกพร่องมาจริงๆ!’

 

ฟางหยวนไม่มีอารมณ์อยู่ต่อและเร่งเดินทางกลับทันที

 

เขากลับแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและเริ่มศึกษาท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย

 

ท่าไม้ตายนี้ใช้วิญญาณทัศนคติเป็นแกนกลาง เป็นเรื่องยากที่จะใช้วิญญาณอมตะดวงอื่นทดแทนเพื่อแสดงพลังอำนาจของท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย

 

นอกจากนี้ยังต้องใช้วิญญาณอมตะอีกสองดวง หนึ่งในสองคือวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์

 

ฟางหยวนล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ขณะที่เขาไม่มีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะอีกดวง

 

“ดูเหมือนว่าในช่วงเวลาที่เทพปีศาจปล้นสวรรค์อยู่ในระดับหก เขามีวิญญาณอมตะทั้งสองอยู่ในการครอบครอง”

 

ฟางหยวนเข้าไปในถ้ำใต้พิภพและใช้แสงแห่งปัญญาเพื่อดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย

 

หลายวันต่อมา เขาประสบความสำเร็จในที่สุด

 

วิญญาณอมตะทั้งสองดวงถูกนำออกไปและแทนที่ด้วยวิญญาณระดับมนุษย์อีกนับหมื่นดวงแต่ผลลัพธ์ของมันแทบจะไม่สามารถแทนที่วิญญาณอมตะทั้งสอง

 

ด้วยเหตุนี้การกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายของเขาจึงมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าเดิมถึงสิบเท่า

 

ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยใช้วิญญาณทั้งหมดไม่ถึงสามสิบดวงรวมวิญญาณทัศนคติ ดังนั้นมันจึงใช้เวลาในการกระตุ้นการทำงานน้อยมาก

 

หลังจากดัดแปลง ฟางหยวนเพิ่มวิญญาณเข้ามานับหมื่นดวง เป็นธรรมชาติที่การกระตุ้นใช้งานจะไม่สะดวกเหมือนต้นฉบับ

 

แต่เขาไม่มีวิธีอื่น

 

ฟางหยวนทดลองใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยฉบับแก้ไข

 

ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้เขาค่อนข้างพึงพอใจ

 

ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยฉบับปรับปรุงใหม่สามารถแสดงพลังอำนาจของท่าไม้ตายฉบับดั่งเดิมได้หกสิบส่วน ด้วยการพึ่งพาวิญญาณอมตะเพียงดวงเดียว นี่ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว

 

จุดอ่อนเดียวของมันเป็นเพียงเรื่องของเวลา เขาต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการกระตุ้นการทำงานของท่าไม้ตายนี้

 

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะมันไม่ใช่ท่าไม้ตายที่ใช้ในการต่อสู้

 

‘ในชีวิตก่อนหน้าข้าประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์และสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คลุมเครือ แต่ตอนนี้ข้าสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยที่มีประสิทธิภาพสูงมากกว่าร้อยเท่า! ข้าสามารถหลอกผู้อมตะระดับเจ็ดได้อย่างสมบูรณ์ ข้าเพียงต้องระวังวิธีการตรวจสอบที่ทรงพลังของผู้อมตะระดับแปดเท่านั้น!’ ฟางหยวนคำนวณอยู่ภายใน

 

ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยยอดเยี่ยมเกินไป มันไม่ใช่การปลอมตัวอย่างผิวเผินแต่จะส่งผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามโดยตรง

 

แม้รูปลักษณ์ของฟางหยวนจะเหมือนคนแปลกหน้าแต่ผลกระทบของท่าไม้ตายนี้จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกราวกับพบมิตรสหายที่ไม่ได้เจอกันมานานหรือเป็นบุคคลที่รู้สึกประทับใจเพียงแรกเห็น

 

หลังจากได้รับท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย ฟางหยวนฝึกฝนมันทุกวัน

 

แม้วิญญาณทัศนคติจะอยู่ในระดับแปดแต่เงื่อนไขการใช้งานกลับต่ำมาก มันต้องการเพียงพลังจิตและไม่พึ่งพาพลังงานอมตะ

 

ดังนั้นการฝึกฝนของฟางหยวนจึงมีค่าใช้จ่ายน้อยมาก

 

เมื่อฟางหยวนคุ้นเคยกับท่าไม้ตายนี้ เวลาในการกระตุ้นใช้งานมันจึงลดลงครึ่งหนึ่ง

 

“ทุกสิ่งเตรียมพร้อมแล้ว ตอนนี้ข้าเพียงต้องรอภัยพิบัติของไท่เป่ยหยุนเฉิง”

 

ในช่วงเวลานี้ฟางหยวนอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู บางครั้งเขาก็จะเดินทางไปทีทหมู่บ้านเล็กๆแห่งนั้นเพื่อตรวจสอบต้นไม้แห่งความฝัน

 

เขายังหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันอย่างต่อเนื่องและใช้วิญญาณเหล่านี้เก็บเกี่ยวผลไม้แห่งความฝัน

 

เมื่อเวลาผ่านไปอาการบาดเจ็บของเขาก็ค่อยๆดีขึ้นและในที่สุดวันแห่งภัยพิบัติของไท่เป่ยหยุนเฉิงก็มาถึง