บทที่ 269 แม่น้ำยมโลก สะพานจำใจ แดนปรโลก

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 269 แม่น้ำยมโลก สะพานจำใจ แดนปรโลก

“พวกผู้ฝึกเซียนสมควรตาย พวกเจ้ามันชั่วร้ายนัก!”

ท่ามกลางเสียงคำรามด้วยความโกรธและไม่ยอม พืชพิษยักษ์ต้นหนึ่งพลันล้มลงกับพื้น

นี่คือว่านมังกรพิษพืชอสูรที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับระดับหลอมรวมเทพ มีศักยภาพไม่ธรรมดา

เล่าลือว่าหลังจากมันเติบโตถึงระดับอริยะ ต่อให้เป็นเผ่ามังกรก็อาจจะต้านพิษของมันไม่ไหว ต้องล้มลงทันที

พืชอสูรชนิดนี้เป็นสมบัติล้ำค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้บำเพ็ญที่ฝึกวิชาพิษ

น่าเสียดายก็แต่มันเจอเข้ากับดาวมฤตยู

ไม่ว่าจะเป็นวิชาแก้พิษของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาว หรืออัสนีเทพวิหคชาดของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดง ในระดับหนึ่งล้วนแล้วแต่เอาชนะทางว่านมังกรพิษต้นนี้

มิหนำซ้ำระดับพลังของผู้สูงศักดิ์สวรรค์สามคนยังอยู่เหนือกว่าว่านพิษต้นนี้ พอร่วมมือกันจึงจัดการมันได้ง่ายๆ

สุดท้ายด้วยความสามัคคีอย่างถูกต้องชอบธรรม ว่านมังกรพิษก็ถูกดาบใหญ่เปลวเพลิงของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดงฟันรากขาด

รากขาดทั้งหมด ของเหลวสาดกระจาย อย่าเอ่ยเลยว่าอนาถเพียงใด

ว่านพิษที่ไม่รู้เติบโตมากี่พันปีกินสิ่งมีชีวิตมาไม่รู้เท่าไรถูกตัดไปเช่นนี้

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดงเก็บดาบใหญ่ในมือ ก่อนทำเสียงขึ้นจมูก “มารร้ายนี่น่าจะมีสาวกวิญญาณร้ายเลี้ยงไว้ ดีที่ไม่เติบโต ไม่เช่นนั้นหากรอมันทะลวงอีกหนึ่งสองระดับพลังย่อย ก็คงแปลงร่างเป็นคนได้ ถึงตอนนั้นอยู่กับพวกสาวกวิญญาณร้าย คงจะเป็นปัญหาไม่น้อย”

ปกติแล้ว ระดับความยากในการกลายร่างของพืชสูงกว่าสัตว์อสูร

อีกทั้งสัตว์อสูรกับพืชที่มีระดับสูงมากเท่าไร การกลายร่างก็ยิ่งยากมากเท่านั้น

อย่างเช่นปีศาจยุงที่เสิ่นเทียนเคยเจอก็มีรากฐานธรรมดา แค่ระดับพลังทองก็กลายร่างเป็นมนุษย์ได้

แต่มารดาเถาลวี่จีที่มีรากฐานแข็งแกร่งในที่ราบหมอกลับแล แต่ทะลวงถึงจุดสูงสุดหลอมรวมเทพฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะ ถึงจะเริ่มกลายร่าง

ว่านมังกรพิษนี่มีรากฐานแกร่งมาก แม้จะไม่ติดรายนามไม้วิญญาณ แต่ก็เป็นว่านวิญญาณระดับสูงสุดที่ล้ำค่ายิ่ง

เดาว่าถ้ามันทะลวงพลังไปราวๆ หลอมรวมเทพตอนกลาง ก็จะกลายร่างเป็นคนได้ ถึงตอนนั้นมันจะหลุดจากพันธนาการดินและน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม!

น่าเสียดายก็แต่วันนั้นยังมาไม่ถึงก็ถูกตัดรากเสียแล้ว

ถึงได้เคียดแค้นและไม่ยอมแพ้ขนาดนั้น

………

“ในที่สุดก็จัดการมันได้ ล้ำค่ามาก!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวขุดรากว่านมังกรพิษที่หนักสิบกว่าตันอย่างระมัดระวัง จะได้ไม่ทำให้เครารากเสียหาย

แม้ว่านมังกรพิษจะถูกฟันขาดแล้ว แต่ส่วนรากยังเป็นอยู่ หากตั้งใจบ่มเพาะก็อาจจะให้กำเนิดวิญญาณอสูรขึ้นมาใหม่ได้

สำหรับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวแล้ว พืชพิเศษชนิดนี้มีมูลค่าสูงมาก

ไม่ว่าจะเก็บก้าน ใบ หลอมโอสถเหลว หรือศึกษาเภสัชศาสตร์การเติบโตของมัน ก็ล้วนแล้วแต่ได้ผลประโยชน์ที่สูงมาก

และเพราะเช่นนี้เองนางจึงไม่ได้เก็บเข้าแหวนเก็บของทันที แต่เก็บไว้ในขวดยาเพื่อคงชีพมันไว้

อย่าถามว่าเหตุใดลัทธิชั่วร้ายเลี้ยงว่านมังกรโลหิตไม่ได้ แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวเลี้ยงได้

นั่นเป็นเพราะแสงสว่างแห่งความถูกต้อง!

หลังจากขุดรากว่านมังกรพิษออกมาเก็บอย่างดีแล้ว ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวก็ยิ้มกล่าว “ศิษย์พี่หญิงตันอู่ ศิษย์พี่หญิงบัวแดง พืชวิญญาณนี่มีประโยชน์กับข้าจริงๆ

เดี๋ยวข้าจะแปลงว่านพิษนี่เป็นมูลค่าส่งไปให้ที่พำนักของพวกท่าน พวกท่านคิดว่าอย่างไร

เทียนเอ๋อร์ ถึงตอนนั้นอาจารย์อาจะหลอมเป็นโอสถแล้วค่อยให้เจ้า”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดงพยักหน้า “พืชนี้ไม่มีประโยชน์กับข้าเลย ศิษย์น้องหญิงจะเอาก็เอาไปเถอะ”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ยิ้มเช่นกัน “ข้าก็เช่นกัน แต่ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์มีสวรรค์ปกป้องดูแลอยู่จริงๆ เดินทางมาตลอด ทุกคนเจอพืชพิษ โอสถวิญญาณแทบไม่เคยขาด ได้อะไรมาเยอะมากจริงๆ”

เสิ่นเทียนพยักหน้า “อาจารย์อาชมเกินไปแล้ว ตอนนี้สาวกวิญญาณร้ายพวกนั้นน่าจะรู้เรื่องแดนศักดิ์สิทธิ์ปิดล้อม คงจะหนีไปก่อนแล้ว มองจากห้องโอสถห้องอาวุธที่ผ่านมา พวกเขาเอาสมบัติล้ำค่าส่วนใหญ่ไปแล้ว เหลือเพียงโอสถวิญญาณกับพืชพิษพวกนี้”

สำหรับเสิ่นเทียน ได้อะไรหรือไม่ไม่ได้สำคัญมากจริงๆ

ถึงอย่างไรเขาก็เกาะดวงชะตาของอาจารย์อากับศิษย์พี่หญิงน้องหญิงพวกนี้แล้ว ฟินไปไม่รู้กี่ครั้ง

ไม่ขาดทุนแล้ว~!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวยิ้ม “ระหว่างโอสถพิษกับโอสถศักดิ์สิทธิ์ ความจริงไม่ได้มีเส้นแบ่งเขตที่ชัดเจน โอสถศักดิ์สิทธิ์บางอย่างก็มีฤทธิ์ยารุนแรงเกินไป หากคุณสมบัติกายของตนไม่แกร่งพอหรือตรงข้ามกับธาตุ ก็จะกลายเป็นยาพิษร้ายแรงถึงชีวิต

แต่สมุนไพรพิษร้ายอย่างว่านมังกรพิษ บางครั้งก็ใช้พิษต้านพิษได้ สำหรับข้าวัตถุดิบยาล้ำค่าพวกนี้ก็เพียงพอแล้ว”

เมื่อเห็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวที่ยังคงตื่นเต้น เสิ่นเทียนก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวท่านนี้ปกติจะมีลักษณะเรียบร้อย ไม่ร้องขออะไร

ไม่นึกเลยว่าจะสนใจพืชพิษวิญญาณทุกชนิดมากขนาดนี้

อาจารย์อาที่เล่นกับพิษ จะล่วงเกินไม่ได้~

……..

“เทียนเอ๋อร์ ต่อไปเราจะไปที่ใด”

เมื่อเห็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดงถามด้วยอารมณ์ร้อนใจแล้ว เสิ่นเทียนก็จ้องหน้าผากนาง

จากนั้นค่อยๆ ชี้ไปทางตะวันตกของเมืองโบราณอนันต์ “ศิษย์รู้สึกได้รางๆ ว่าตรงนั้นน่าจะมีมหาโชคลิขิตอยู่”

ทางตะวันตกมีมหาโชคลิขิตหรือ

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์สามคนทำหน้าจริงจัง ดวงตาเป็นประกาย

หากบอกว่าตอนแรกพวกนางยังสงสัยในฐานะบุตรแห่งโชคของเสิ่นเทียน เช่นนั้นตอนนี้ก็ยอมรับอย่างหมดใจแล้ว ในเมื่อเทียนเอ๋อร์รู้สึกว่าทางตะวันตกมีมหาโชคลิขิต เช่นนั้นก็ต้องมีมหาโชคลิขิต

เพียงแต่ว่าโชคลิขิตหมายถึงอันตรายเสมอ

อย่างเช่นว่านมังกรพิษนี้ หากผู้บำเพ็ญระดับดวงจิตดรุณไปพบเข้า นั่นก็ไม่ใช่การเก็บเกี่ยวว่านพิษ แต่เป็นการมอบตัวเองเป็นอาหารแทน

“ทุกคนต้องระมัดระวังมากขึ้น อย่าประมาทเด็ดขาด! หากเจออันตรายที่รับมือไม่ไหว จำไว้ว่าให้ยิงอัสนีทะลวงเมฆแจ้งกับทุกคน”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ดูจะแกร่งที่สุดในผู้สูงศักดิ์สวรรค์สามคน ตอนนี้เรียกกระจกฐานหยกออกมาเดินนำอยู่หน้าทุกคน

กระจกฐานหยกไม่ใช่แค่ยิงแสงเทพโจมตีได้ แต่ยังเป็นของวิเศษตรวจสอบชั้นยอด

จุดที่กระจกฐานหยกปกคลุม จะมีศัตรูซ่อนตัวได้ยากมาก

มีเหล่าอาจารย์อาคุ้มกันอยู่ รู้สึกปลอดภัยจริงๆ!~

……

กลุ่มคนมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว บุกฝ่าไปพันกว่าลี้ สุดท้ายก็มาหยุดอยู่หน้าแม่น้ำสายหนึ่ง

น้ำของธารนี้เป็นสีเหลือง เหมือนกับดินเหลืองผสมกับน้ำ ยามน้ำไหลจะเหมือนกับดินเลนขยับยึกยือ เห็นแล้วทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย

“ท่านผู้สูงศักดิ์สวรรค์ ที่นี่มีสะพานเล็ก แล้ว…แล้วยังมีศิลาโบราณด้วย”

ตอนนี้เองมีคนพบสะพานเล็กใต้แม่น้ำ ทุกคนจึงรีบเข้าไป

พบกับสะพานหินที่สร้างขึ้นจากหินดำทั้งหมด แผ่กลิ่นอายมืดหม่น ทำให้คนรู้สึกเย็นแผ่นหลัง

เสิ่นเทียนมองไปยังศิลาโบราณนั้น พบว่าบนนั้นแกะสลักอักษะใหญ่ที่มีทรงพลังไว้ ‘แดนปรโลกเล็ก’

สี่คำนี้เหมือนแฝงไว้ด้วยเวทล้ำลึก เหมือนกับน้ำวนลากจิตวิญญาณคนลงไปเรื่อยๆ

วิ้ง~

ดินบริสุทธิ์วัฏจักรในกายเสิ่นเทียนส่งพลังลึกลับออกมาขับไล่ความรู้สึกแปลกๆ นี้

เขาฝืนหันไปมองแม่น้ำนั้นอีกครั้ง พบว่าแม่น้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าประหลาด

แม่น้ำที่เดิมท็มีสีเหมือนดินเหลือง ตอนนี้กลับเป็นสีเหลืองโลหิต เหมือนกับว่าในน้ำมีโลหิตผสมอยู่จำนวนมาก

และที่น่าขนลุกกว่านั้นคือในแม่น้ำดั่งดินเหลืองนี้มีซากศพลอยขึ้นมาทีละร่าง ไหลไปตามคลื่นน้ำ

ภาพเช่นนี้ ทำให้คนอดนึกไปถึงคำต้องห้ามบางคำได้…แม่น้ำยมโลก

ก่อนจะมองศิลานั้นอีกครั้ง พบว่าสองข้างซ้ายขวาคำว่า ‘แดนปรโลกเล็ก’ ยังมีอักษรเล็กที่ดูไม่เตะตาอีกสองแถว

อักษรเล็กทางซ้ายคือ ‘แม่น้ำลืมเลือนเล็ก!’

ส่วนอักษรทางขวาคือ ‘สะพานจำใจเล็ก’

………………………..