บทที่ 270 โชคลิขิตที่เยี่ยฉิงชางยังใจสั่น

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 270 โชคลิขิตที่เยี่ยฉิงชางยังใจสั่น

“เจ้าผู้คุ้มกฎอู๋เซิง กลุ่มผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวมาถึงแม่น้ำลืมเลือนเล็กแล้ว”

“ช่วยไม่ได้ เขตแดนชีพจรดินตรงนั้นซับซ้อนเป็นพิเศษ ข้าวางค่ายกลมายาไว้แล้ว มากพอจะขวางพวกเขาไว้หนึ่งวัน”

“แต่ผู้คุ้มกฎ พวกเขาข้ามสะพานมาแล้ว”

“???”

…….

หน้าสะพานจำใจ ริมแม่น้ำลืมเลือน

ทุกคนเบิกตากว้าง ในดวงตามีแต่ความหวาดกลัว

ใช่ พวกเขาติดกับแล้ว!

แม่น้ำลืมเลือน สะพานจำใจ ไปจนถึงศิลาแดนปรโลก ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลมายาที่ยอดฝีมือระดับสุดยอดบางคนวางไว้

เมื่อทุกคนมาถึงหน้าแม่น้ำลืมเลือนแห่งนี้ก็ได้เข้าไปในค่ายกลมายาแล้ว เข้าไปในภาพมายาแห่งเขตแดนไม่มีสิ้นสุด

ความจริง หากไม่ใช่เพราะเสิ่นเทียนเห็นภาพนี้ในวงรัศมีเหนือศีรษะของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดงและเตรียมตัวมาก่อน ใช้ถาดวัฏจักรหกมรรคทำลายภาพมายาละก็ เกรงว่าตอนนี้แม้แต่ตัวเขาคงอยู่ในแดนมายา

ในภาพโชคลิขิตของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดง นางใช้เวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ กว่าจะออกจากค่ายกลมายานี้ได้ และตอนนั้นยอดฝีมือฝ่ายเซียนหลายร้อยคนที่ร่วมเดินทางมามากกว่าครึ่งถูกภาพมายากระชากจิตวิญญาณ

กายเนื้อและจิตวิญญาณพวกเขาตกไปในแม่น้ำลืมเลือน กลายเป็นสารอาหาร

มองจากในมุมหนึ่ง เสิ่นเทียนช่วยคนพวกนี้ไว้!

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน โชคดีที่มีท่านอยู่ในวันนี้!”

“ไม่นึกเลยว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนจะมีจิตใจแน่วแน่เช่นนี้ มองข้ามค่ายกลมายานี่ได้”

“ตอนแรกทุกคนบอกว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เป็นโอรสสวรรค์แปดดาว น้องเล็กยังไม่เชื่อ แต่ตอนนี้น้องเล็กยอมแล้ว!”

“ข้าจะไม่ลืมบุญคุณที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ช่วยชีวิตไปตลอดชีวิต ข้ามีบุตรสาวอายุเพิ่งสิบหก งดงามดั่งดอกไม้ ยินดีจะตามเป็นหญิงรับใช้ข้างกายบุตรศักดิ์สิทธิ์”

“เจ้าฝันเอาเถอะ บุตรสาวเจ้าหน้าตาอย่างกับปีศาจเมล็ดแตง คู่ควรปรนนิบัติข้างกายบุตรศักดิ์สิทธิ์รึ”

“บุตรศักดิ์สิทธิ์ เลือกบุตรสาวข้าเถอะ! นางยังมีสายเลือดของปีศาจจิ้งจอกด้วย!”

……

นี่มันอะไรกัน!

ภายใต้สถานการณ์จริงจังเช่นนี้ เหมาะจะคุยเรื่องส่งตัวบุตรสาวกันรึ

เรื่องแบบนี้ไม่ควรจะรอกลับไปแล้วค่อยแอบมาหาข้ารึ จากนั้นค่อยแอบส่งมาน่ะ!

แต่ละคนไม่เป็นงานกันเลยจริงๆ~

เฮ้อ ไฉนจู่ๆ ก็คิดถึงพวกตาแก่ซ่งกันนะ!

“เงียบหน่อย ที่นี่น่าจะเป็นแดนลับใจกลางที่แท้จริงของวิหารเจ็ดสังหารแห่งลัทธิวิญญาณร้ายแล้ว”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่มองแม่น้ำสีโลหิตปะปนกับสีเหลืองนั้น “ข้าเคยเรียนวิชาค้นวิญญาณประเมินแร่จากผู้อาวุโสเสินสุ่ยหลิงมาบ้าง ภูมิประเทศที่นี่มีความพิเศษอยู่แล้ว ทั้งยังมียอดฝีมือปรับแก้เขตแดน ทำให้เกิดเป็นเขตแดนแม่น้ำปรโลกที่พิเศษอย่างยิ่ง ชั่วร้ายมาก”

นางหยิบอัสนีทะลวงเมฆออกมาจากอกเสื้อก่อนจะยิงขึ้นฟ้า “เพื่อความปลอดภัย แจ้งพวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะดีกว่า!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดงถือดาบใหญ่เปลวเพลิง “เขตแดนนี้กับค่ายกลมายาแปลกจริงๆ แต่ก็ไม่มากพอจะคุกคามถึงผู้สูงศักดิ์สวรรค์ พวกเจ้าอยู่ที่นี่รอกำลังเสริมกลุ่มอื่น ข้าจะเข้าไปสำรวจเส้นทางก่อน”

เอ่ยจบแล้ว ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดงก็เร่งรีบไปยังอีกด้านของสะพานจำใจ ปกติหากเจอเขตแดนพิเศษ แดนลับหรือโลกเล็กจะต้องให้คนเข้าไปสำรวจเส้นทางก่อน

เผื่อว่าเจออันตรายร้ายแรงอย่างมวลอากาศแปรปรวน ทุกคนจะได้ไม่ตายไปพร้อมกัน

แต่คนที่ไม่รอสำรวจเส้นทางอย่างผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดงหาได้ยากมาก

“ศิษย์พี่หญิงเป็นคนใจร้อนเช่นนี้แหละ” ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “ศิษย์พี่หญิงตันอู่ พวกเราก็ตามเข้าไปช่วยด้วยแล้วกัน!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ขบคิดก่อนจะพูดขึ้น “ข้าพอรู้จักเขตแดนนี้มาบ้าง ข้าตามไปก็พอ ศิษย์น้องหญิงบัวขาวอยู่ที่นี่เถอะ! ถึงอย่างไรผู้สูงศักดิ์กับผู้จริงแท้พวกนี้ หากไม่มีผู้สูงศักดิ์สวรรค์ปกป้อง เกิดผู้สูงศักดิ์สวรรค์ของลัทธิวิญญาณร้ายโจมตี เกรงว่าคงมีอันตราย”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวครุ่นคิด ก็ใช่ ถึงความปลอดภัยของศิษย์พี่หญิงบัวแดงจะสำคัญ แต่ศิษย์คนอื่นก็สำคัญมากเช่นกัน

โดยเฉพาะเทียนเอ๋อร์ ต่อให้คนอื่นแตกพ่ายย่อยยับ แดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ๆ ก็แค่เสียพลังปราณเดิม แต่หากเทียนเอ๋อร์เป็นอะไรไป แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะไม่ใช่แค่บาดเจ็บเส้นเอ็นและกระดูก แม้แต่โอกาสในความยิ่งใหญ่ขึ้นก็ไม่มี

“ศิษย์พี่หญิงตันอู่พูดมีเหตุผล เช่นนั้นระวังตัวด้วย”

……

เสิ่นเทียนเดินหน้ามาหนึ่งก้าว “ให้ศิษย์ตามพวกอาจารย์อาบัวแดงไปด้วยเถอะ! หากเจอแดนมายาอีกก็จะได้รับมือได้”

“ไม่ได้!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวพูดโดยไม่ต้องคิดเลย “ที่นี่อันตรายเกินไป หากเจ้าเป็นอะไรไป ต่อให้ทำลายทั้งวิหารเจ็ดสังหารก็เรียกความเสียหายของแดนศักดิ์สิทธิ์คืนมาไม่ได้!”

เสิ่นเทียนหยิบป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ออกมาด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์อาบัวขาววางใจเถอะ ในป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์นี้มีพลังของอาจารย์ผนึกอยู่ ไม่เป็นอะไรแน่ อีกอย่างศิษย์ก็มั่นใจ หากไม่ใช่ผู้อริยะลัทธิวิญญาณร้ายลอบโจมตี ก็จะไม่มีใครทำอะไรข้าได้!”

หากไม่ใช่ผู้อริยะลอบโจมตีก็จะทำอะไรเสิ่นเทียนไม่ได้หรือ

เป็นคำพูดที่มั่นใจมากและวางอำนาจมาก!~

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนในชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรบ้าอำนาจแล้ว ท่านหญิงเซียนสาวกลุ่มหนึ่งก็เคลิบเคลิ้มไปทีละนิด

องอาจห้าวหาญไม่หวั่นเกรงจริงๆ สมกับเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือตอนนี้ในใจเสิ่นเทียนกำลังมีอีกเสียงต่อรองกันอยู่

“ผู้อาวุโส จะเข้าไปจริงๆ หรือ จะไม่มีอันตรายแน่รึ”

ป้ายคำสั่งเทพสงครามในอกเสื้อเสิ่นเทียนเปล่งแสงอ่อนที่แทบจะมองไม่เห็น “จะกลัวอะไร มีปู่บุญธรรมเจ้าอยู่ด้วย! หากมีอันตรายถึงชีวิตเจ้าจริงๆ ข้าจะหิ้วหอคอยเทพสงครามมาช่วย!”

เยี่ยฉิงชางมีน้ำเสียงตื่นเต้นนิดๆ “หายาก หายาก! ไม่อยากเชื่อว่าถิ่นกันดารที่นี่จะมีของดีเช่นนี้อยู่ เจ้าถือว่าโชคดีเลย! อย่าลังเล รีบไป~”

ของดีหรือ

เสิ่นเทียนไม่ค่อยเข้าใจว่าไฉนเยี่ยฉิงชางถึงตื่นเต้นขนาดนั้น

ถึงอย่างไรโชคลิขิตที่เขาเห็นเหนือศีรษะผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดงและผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ก็เหมือนจะไม่ได้น่าตกใจอะไรขนาดนั้น!

ช่างเถอะ ในเมื่อตาแก่นี่รับรองว่าจะไม่เป็นอะไร เช่นนั้นก็ลองดู!

ถึงอย่างไรหากเจออันตรายจริงๆ อย่างมากก็เก็บกลิ่นอายพลังทั้งหมดแล้วมุดลงดิน

เขาไม่เชื่อว่าตนมีไพ่ตายทั้งตัวเช่นนี้จะถูกสังหารได้ในพริบตา

……

เมื่อคิดได้ดังนั้นเสิ่นเทียนก็กล้าหาญขึ้นมาทีละนิด “อาจารย์อา ให้ข้าไปเถอะ!”

พอเห็นเสิ่นเทียนยืนหยัด ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

ช่างเถอะ ถ้าตามที่ศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์บอก เทียนเอ๋อร์คือบุตรแห่งโชคที่มีสวรรค์ปกป้องดูแล

บุตรแห่งโชคบุกแดนลับก็น่าจะไม่เจออันตรายกระมัง! บางทีอาจจะได้ช่วยพวกศิษย์พี่หญิงบัวแดงด้วย เพราะอย่างไรในค่ายกลมายาตรงหัวสะพานจำใจ เสิ่นเทียนก็หลุดพ้นมาเป็นคนแรกสุดแล้วเตือนพวกเขา

“ช่างเถอะ เช่นนั้นเทียนเอ๋อร์ต้องตามติดข้างหลังศิษย์พี่หญิงบัวแดงกับตันอู่ อย่าเสี่ยงอันตรายเด็ดขาด”

หลังจากผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวกำชับอย่างจริงใจเหมือนกับมารดาแล้ว เสิ่นเทียนก็ข้ามสะพานจำใจไป

ทันทีที่เขา ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่และผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดงเหยียบตรงอีกฝั่งของสะพาน ภาพทุกอย่างตรงหน้าก็เปลี่ยนไป

พวกเขาหันไปมองไม่เห็นสะพานแล้ว ข้างหลังเป็นเส้นทางดินเลนสีเหลืองทั้งหมด และข้างๆ สองทางดินเลนนี้ก็ปูด้วยดอกไม้สีแดงเต็มไปหมด

นั่นคือดอกไม้แปลกชนิดหนึ่ง มีดอกไม่มีใบ สีแดงสดสว่างจ้าดั่งโลหิต มองไปสุดลูกหูลูกตา

นอกจากเส้นทางเล็กดินเลนเลี้ยวลดคดเคี้ยวแล้ว ตรงสุดสายตายังแทบจะเป็นดอกไม้ชนิดนี้ทั้งหมด

แบ่งบานตามอำเภอใจ เสมือนโลหิตและเปลวไฟ

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่มีแววตาจริงจังขึ้นมาทีละนิด “เส้นทางยมโลก ดอกไม้ฟากฝั่ง~ยอดฝีมือเขตแดนคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่!”

……………………………………….