บทที่ 833 กรงขังที่ไม่มีวันหนีพ้น Ink Stone_Fantasy
“ส่วนที่แกบอกว่า 20 เมตร ก็คงจะหมายถึงรัศมีการทำลายของระเบิดสินะ…มีเพียงทางเดียวคือต้องทำให้ฉันอยู่ในรัศมีทำลายนี้ ถึงจะมั่นใจได้ว่าฉันจะถูกระเบิดจนตายหรือไม่ก็บาดเจ็บสาหัส…และเกมที่แกพูดถึง ก็คือการใช้ข้อได้เปรียบจากพลังพิเศษที่สามารถหายตัวได้ของแก หนีออกไปจากรัศมีระเบิดนี้…ถ้าหากฉันลังเลและยอมตกลงเล่นเกมกับแก สุดท้ายฉันก็จะต้องตายในสามนาทีนี้”
ขณะที่พูด หลิงม่อแบฝ่ามือข้างหนึ่งออก แล้วคว่ำฝ่ามือลงบนพื้นอาคาร…รีโมทควบคุมในมือเขาเป็นแค่เครื่องมือล่อลวง ซึ่งจุดประสงค์ที่แท้จริงของมันก็คือเบี่ยงเบนความสนใจของหลิงม่อ
ชายสวมแว่นที่กำลังตะลึงพรึงเพริดรีบดึงสติกลับมาทันที เขาจ้องหน้าหลิงม่ออย่างเจ็บใจ เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายทุพุ่งเข้ามาจากรอบทิศ ถึงจะไม่รู้ว่าหลิงม่อวางแผนอะไรไว้ในนี้ แต่ชายสวมแว่นกลับรู้สึกได้ถึงบางอย่างรางๆ…บางทีหลิงม่ออาจพูดถูกก็ได้ ที่นี่ได้กลายเป็นกรงขังตัวเขาไปแล้ว…
“แค่ข้อมูลที่ไม่ปะติดปะต่อกัน ก็สามารถคิดคำนวณได้ถึงขั้นนี้เลยหรอ…แต่ถึงจะเป็นอย่างนี้ มันก็ไม่น่าจะลงมือเด็ดขาดขนาดนี้นี่นา!…ไม่แน่การคาดเดาอาจผิดพลาด และในมือของฉันก็ยังมีเบี้ยต่อรองอยู่อีก มันไม่กังวลเรื่องพวกนี้บ้างหรอวะ…” ชายสวมแว่นลอบคิดด้วยสีหน้าตึงเครียด หากเปลี่ยนเป็นเขาที่ต้องเผชิญหน้ากับอานุภาพของระเบิด เขาไม่มีทางวู่วามทำอะไรโดยไม่คิดให้ดีก่อนอย่างนี้แน่นอน…
“แกแค่อยากจะฉวยโอกาสฆ่าฉันใช่ไหมล่ะ? ไม่ใช่แค่เพราะความแค้น แต่เพื่ออนาคตของแกด้วย ทุกคนในทีมถูกจัดการเรียบ เหลือแค่แกคนเดียว ถ้าหากไม่ทำอะไรซักหน่อย วันเวลาหลังจากนี้ของแกคงจะลำบากงั้นสินะ?” หลิงม่อพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบต่อ “ความสามารถพิเศษของแกอยู่ได้อีกไม่นานแล้วนี่ 5 นาที? หรือ 10 นาที? ทุ่มกำลังทั้งหมดเพื่อกำจัดฉันก่อน แต่ก็มั่นใจว่าตัวเองจะปลอดภัย…”
ชายสวมแว่นค่อยๆ ก้าวถอยหลัง แล้วพูดเสียงเย็นชา “พูดเรื่องพวกนี้แล้วมีประโยชน์อะไร? ที่แกกลับมาที่นี่ ก็เพื่อแก้แค้นไม่ใช่หรอ? แต่ฉันมีความสามารถพิเศษของฉันอยู่ แกไม่มีทางโจมตีฉันได้แน่นอน…แล้วแกจะทำอะไรในสามนาทีนี้ได้อีก?” พูดไป เงาร่างเลือนรางของเขาก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับได้กลืนเป็นหนึ่งเดียวกับความมืดมิด
“เก็บคำพูดนี้ไว้ปลอบใจตัวเองเถอะ…เดี๋ยวแกก็รู้เอง ว่าฉันจะทำอะไรได้…” หลิงม่อพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน ตาเปล่ามองไม่เห็น พลังจิตตรวจจับไม่เจอ แต่แค่นี้ ยังไม่ถือว่าไร้ช่องโหว่ซะทีเดียว…
ในสายตาเขา ชายสวมแว่นหายตัวไปแล้ว แต่สิ่งที่ปรากฏในสมองเขา กลับมีภาพที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงโผล่ขึ้นมา หนวดสัมผัสสีแดงอ่อนนับร้อยเส้นสานรวมกันเป็นตาข่ายสีแดงโลหิตผืนใหญ่ที่มองไม่เห็น และแผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณพื้นที่นี้ หนวดสัมผัสส่วนใหญ่ดำลงไปใต้น้ำ ราวกับเส้นคลื่นที่ไหวไปตามระลอกน้ำ พวกมันเรืองแสงอ่อนๆ และรอเงียบๆ อยู่ใต้ผิวน้ำ…
ขณะที่ชายสวมแว่นหายตัวไปยังไม่ถึง 2 วินาที หลิงม่อก็ขมวดคิ้วทันที
“หดตัว!”
ฝ่ามือข้างนั้นของหลิงม่อกำแน่นเข้าหากันทันที เมื่อหยดน้ำกระจายพร่างพราย เสียงกรีดร้องหนึ่งก็ดังตามมา
น้ำขังตรงนั้นมีจุดสีแดงเลือดปรากฏขึ้นทันที และมันก็กำลังขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว…
“อ๊ากกก! ไอ้หลิงม่อ แก…” เสียงกรีดร้องดังอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน หยดน้ำมากมายระเบิดขึ้นจากผิวน้ำ และเหยียดเป็นเส้นตรงไปทางกรงเหล็กอย่างรวดเร็ว…
“ช่องโหว่ที่ใหญ่ที่สุดของความสามารถพิเศษนี้ ก็คือตัวแก” หลิงม่อกำมือแน่นขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังบีบคอของชายสวมแว่น เหมือนเขากำลังค่อยๆ ออกแรง ทุกครั้งที่ข้อมือบิด ก็จะมีเสียงกรีดร้องดังมาจากรอบข้าง
เขาสัมผัสได้ว่าชายสวมแว่นกำลังพยายามหนีออกไปจากรัศมีนี้ แต่เพราะการโจมตีของหลิงม่อ เขาจึงทำได้เพียงหลบหลีกอย่างน่าอนาถ ถึงแม้จะมีความสามารถที่สัมผัสได้ถึงคลื่นดวงจิต และมีลักษณะเด่นที่ทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถล็อกเป้าตัวเองได้ แต่กลับยังคงได้รับบาดเจ็บมากมายในเวลาสั้นๆ
“แกสามารถทำให้สิ่งมีชีวิตมองไม่เห็นแกได้ แต่กลับไม่สามารถทำให้น้ำขังบนพื้นมองข้ามแกได้ ฉันสัมผัสได้ถึงตัวตนของแกได้น้อยลง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะสัมผัสไม่ได้เลย…นอกเสียจากว่าแกจะยืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน แต่ถ้าแกไม่ขยับจริงๆ ฉันก็จะก้าวเข้าไปหาแกพร้อมกับความตายทีละน้อยๆ…” หลิงม่อคิดในใจ
เวลาผ่านไป 30 วินาที เสียงกรีดร้องของชายสวมแว่นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในหนวดสัมผัสเหล่านี้ นอกจากหนวดสัมผัสรูปสสารแล้ว ยังมีหนวดสัมผัสทางจิตอยู่อีกจำนวนมาก ภายใต้สถานการณ์ที่ทั้งร่างกายและจิตใจได้รับบาดเจ็บพร้อมๆ กัน ในที่สุดเงาร่างของชายสวมแว่นก็ปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่ง ทว่าในเสี้ยววินาทีที่เขาโผล่ร่างออกมา เขาก็ยกรีโมทอีกหนึ่งอันขึ้นมาทันที แล้วตะโกนอย่างโกรธแค้น “เจ้าแซ่หลิง แกคิดว่าฉันไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลยจริงๆ หรอ! ฉันจะระเบิดทางเข้าออกให้หมด พวกแกจะได้ตายไปพร้อมๆ กับฉัน!”
“ที่แท้ก็ทางเข้าออกงั้นหรอ…” หลิงม่อจ้องรีโมทแวบหนึ่ง แล้วพึมพำเสียงเบา
ตอนที่เอารีโมทอันนี้ออกมา สีหน้าของชายสวมแว่นได้แปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว เดิมทีเขาตั้งใจว่าจะเก็บวิธีนี้ไว้ใช้เป็นวิธีสุดท้าย หลังจากระเบิดทำงานแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง เขาก็จะวิ่งพุ่งไปที่ประตูทางออก ถ้าหากเจอผู้หญิงพวกนั้นระหว่างทางด้วยก็ยิ่งดี เขาจะได้ฆ่าพวกเธอซะ…แต่ถึงจะทำอย่างนั้นไม่ได้ เขาก็ยังทำให้ที่นี่ถูกปิดตายได้…และทันทีที่เสียงระเบิดดัง คนอื่นๆ ที่ซุ่มอยู่ข้างนอกก็จะถูกเสียงนี้ดึงดูดเข้ามา…
เขาไม่ได้แค่อยากฆ่าหลิงม่อ แต่อยากฉวยโอกาสนี้ ขังทุกคนไว้ในนี้ให้หมด!
“กำลังเสริมใกล้จะมาถึงกันแล้ว ขอเพียงฉันยืนหยัดไปได้อีกหน่อย…น่าเสียดายที่เวลามีน้อยเหลือเกิน ฉันเองก็คิดออกแค่วิธีนี้…ไอ้พวกลูกทีมกากไร้ประโยชน์ ถูกศัตรูบุกเข้ารังไม่พอ แค่ต้านไว้ให้ถึง 5 นาทีก็ยังทำไม่ได้!” ชายสวมแว่นด่ากราดในใจ “ไอ้พวกหน้าโง่! ถ้าพวกแกจัดการพวกมันได้ซักคนสองคน หรือสู้กันแล้วบีบให้พวกมันถอยมาที่นี่ได้ ฉันคงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้! เป็นเพราะไอ้พวกนั้นอ่อนแอเกินไป แผนการของฉันถึงได้พังไม่เป็นท่าอย่างนี้!”
“แล้วก็แกอีกคน…” ชายสวมแว่นถุยน้ำลายผสมเลือด ลุกขึ้นยืนช้าๆ แล้วจ้องหลิงม่อผ่านเลนส์แว่นที่เอียงเล็กน้อย บนร่างกายของเขามีบาดแผลปรากฏขึ้นไม่ต่ำกว่าหลายสิบรอย สภาพเลือดท่วมทำให้เงาร่างที่มาๆ หายๆ ของเขาดูประหลาดกว่าปกติ…บริเวณใบหน้าของเขามีรอยแผลหนึ่งรอย ซึ่งรอยแผลนั้นเหยียดยาวไปจนถึงใบหูที่เหลือเพียงครึ่งเดียว และกลายเป็นแผลเหวอะหวะน่ากลัวไปแล้ว
เวลานี้ ความหวาดกลัวอย่างสุดซึ้งได้ฉายชัดในดวงตาเขา เดิมทีเขานึกว่าอาศัยความสามารถพิเศษที่โดดเด่นของตัวเอง ไม่ว่าหลิงม่อจะแกร่งอีกแค่ไหนก็ไม่มีทางจับจุดโจมตีเขาได้แน่นอน และนั่นก็คือความสะใจและความสุขที่เขาแสวงหามาโดยตลอด…ทั้งๆ ที่ดูเหมือนไม่ได้ร้ายกาจอะไร แต่ไม่ว่าจะเป็นคนที่แกร่งอีกซักแค่ไหนเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขา ก็ล้วนอับจนหนทางและสำแดงฝีมือออกมาได้ ความรู้สึกที่ได้ยืนมองอีกฝ่ายลนลาน กระทั่งกระอักเลือดอยู่ข้างๆ อย่างนี้ เป็นความรู้สึกที่อิ่มเอมอย่างหนึ่งสำหรับชายสวมแว่น…ความสามารถพิเศษนี้คือเหตุผลที่ทำให้เขาอยู่มาได้ถึงจนขั้นนี้ และเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวที่ทำให้เขากล้าล่อพวกหลิงม่อลงมาที่นี่!
แต่ตอนนี้ พลังพิเศษที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของเขาใกล้จะหมดประโยชน์เต็มทีแล้ว…ทันทีที่ความสามารถพิเศษของเขาไร้ผล ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจุดจบที่รอเขาอยู่คืออะไร…
“พลังพิเศษของมันคืออะไรกันแน่! นี่มันไม่เหมือนกับข้อมูลที่ฉันได้รับมาซักนิดเลยนี่!” ชายสวมแว่นคิดอย่างคลุ้มคลั่ง
“หลิงม่อ แกอย่าบีบฉันให้มากนะ ถ้าทางเข้าออกถูกระเบิด บวกกับที่นี่…ถึงพวกแกจะไม่ตาย แต่ก็อย่าคิดว่าจะรอดออกไปได้เลย” เขากำรีโมทแน่น แล้วจู่ๆ ก็พูดเสียงดังกว่าปกติ “ปล่อยฉันไปซะ! คราวนี้แกจะลองดีอีกก็ได้ แต่โอกาสมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น! ถ้าแกขยับอีกแค่ครั้งเดียว ฉันจะกดระเบิดซะ! แล้วขอบอกว่าระเบิดพวกนี้ไม่ได้ตั้งเวลาไว้ด้วยนะ!”
พูดไป เขาก็ค่อยๆ ก้าวถอยหลัง ทว่าความเร็วของเขาลดลงกว่าตอนก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัด…
หลิงม่อยืนมองเขาอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน แล้วจู่ๆ ก็พูดขึ้นว่า “ฉันอนุญาติให้แกไปได้แล้วหรอ?”
ชายสวมแว่นชะงัก แล้วกัดฟันกรอดด่ากราด “แกคิดจะลองดีจริงๆ ใช่ไหม? ถึงฉันจะถูกขังอยู่ในนี้กับพวกแก ก็ไม่แน่ว่าแกจะฆ่าฉันได้นะ รอให้กำลังเสริมของพวกฉันมา แกก็จะกลายเป็นแค่ปลาติดร่างแห…”
มือข้างที่กำรีโมทของเขากระตุกสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ถ้าหากไม่สุดวิสัยจริงๆ เขาก็ไม่อยากเลือกเดินทางเส้นนี้จริงๆ…
“ถ้าอย่างนั้นก็ลองดูสิ” หลิงม่อยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเดินเข้าไปหนึ่งก้าว
หยดน้ำมากมายกระจายไปตามระลอกคลื่นบนผิวน้ำ ราวกับมีปีศาจร้ายอะไรซ่อนอยู่ใต้น้ำ และกำลังพุ่งเข้าไปหาชายสวมแว่นอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของชายสวมแว่นแดงก่ำ “แกมันบ้า! ไอ้บ้า! ไปตายซะเถอะ! ไปตายซะให้หมด!!”
“แกร๊ก”
เสียงเบาๆ ที่ดังขึ้นขณะกดรีโมท ราวกับได้กลืนกินเสียงเคลื่อนไหวรอบทิศให้หายไปในทันที…
—————————————————————————–