ส่วนที่ 9 ภาคอุ้มท้องหนีรักมหาเศรษฐี ตอนที่ 4 อุ้มท้องหนีรักมหาเศรษฐี (4)

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวยในอนาคต ซูเจี้ยนจวินและหลี่เหม่ยเจวียนทำตามคำสั่งของซูหว่าน ออกไปซุ่มอยู่ที่นอกคฤหาสน์ตระกูลตู้แต่เช้ากลับมาตอนดึกทุกวัน 

 

 

ท่าทางลับๆ ล่อๆ ของสองคนนี้นำมาซึ่งความสนใจของเสี่ยวหลิงลี่ตั้งแต่แรกแล้ว นับตั้งแต่ขับไล่ครอบครัวของ“เมียน้อย”ออกไปได้อย่างราบรื่น หลิงลี่ใช้ความพยายามอย่างมากในการเกลี้ยกล่อมหลิงชีเย่ว์แม่ของตนเองให้ย้ายกลับไปที่บ้านตระกูลตู้ 

 

 

แน่นอนหลิงชีเย่ว์ในตอนนี้ยังไม่อาจให้อภัยตู้เฉิน ยังคิดอย่างมุ่งมั่นตั้งใจที่จะหย่ากับตู้เฉินและเสี่ยวเทียนเทียนพบว่าพ่อของตนเองก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นตอนนี้กำลังคิดหาวิธีที่จะทำให้พ่อกับกลับมาคืนดีกันเหมือนเดิม 

 

 

คำที่ว่าอยู่ใกล้มักได้เปรียบ เขาไม่เชื่อว่าทั้งสองคนอยู่ด้วยกันทั้งวันจะยังไม่สามารถจุดประกายไฟแห่งความรักขึ้นมาได้ 

 

 

แน่นอนว่าข้อสันนิษฐานไม่ต้องการให้คนมีตาหามีแววไม่มายุยงปลุกปั่น พ่อหนุ่มน้อยก็ร้ายกาจไม่เบานะ 

 

 

“พ่อ” 

 

 

วันนี้ เสี่ยวเทียนเทียนนั่งรถของตู้เฉินกลับมาจากโรงเรียนอนุบาลอีกเช่นเคย มองเห็นแผ่นหลังที่คุ้นตาของสองคนนั้นที่อยู่ไม่ไกล สายตาของเสี่ยวเทียนเทียนก็ส่องประกาย “พ่อครับ สองคนนั้นทำลับๆ ล่อๆ อยู่นอกบ้านเราทั้งวัน คงไม่ใช่คิดจะลักพาตัวผมหรอกนะครับ ผมกลัวจังเลยครับ! คุณครูอนุบาลบอกว่าตอนนี้ที่ข้างนอกมีคนเลวเยอะแยะมากเลย!” 

 

 

คนเลว? 

 

 

ตู้เฉินมองตามสายตาของเสี่ยวเทียนเทียนก็มองเห็นร่างของคนสองคนทำลับๆ ล่อๆ อยู่จริงๆ นั่นไม่ใช่ซูเจี้ยนจวินกับหลี่เหม่ยเจวียนหรือ 

 

 

ลักพาตัว? 

 

 

ตู้เฉินใจสั่น เขานึกขึ้นได้ว่าสองสามีภรรยานี้ดูเหมือนจะติดหนี้ข้างนอกก้อนใหญ่ พวกเขาวนเวียนอยู่ด้านนอกประตูบ้านตระกูลตู้ทั้งวันไม่เหมือนตอนแรกที่พวกเขามาขอร้องวิงวอนขอยืมเงินตนเอง หรือว่า พวกเขามีความคิดที่จะจับลูกชายของตนไปเรียกค่าไถ่ 

 

 

พอคิดถึงตรงนี้ นัยน์ตาของตู้เฉินก็ลึกล้ำเย็นเยือกขึ้นมาทันที… 

 

 

หลังจากรอให้รถขับเข้ามาจอดที่คฤหาสน์ตระกูลตู้ ประตูใหญ่ก็ค่อยๆ ปิดลง ซูเจี้ยนจวินสองสามีภรรยารอเก้อไปอีกหนึ่งวันเตรียมตัวที่จะจากไป ใครจะไปรู้ตอนนี้เองบอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่กำยำก็พรวดพราดออกมาจากประตูข้างๆ ของคฤหาสน์ตระกูลตู้หลายคน ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ตีสองสามีภรรยานอนอยู่บนพื้น ลากเข้าไปในสวนหลังบ้านตระกูลตู้ 

 

 

ตอนนี้ตู้เฉินเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านแล้ว กำลังนั่งลิ้มรสไวน์อยู่ที่โต๊ะไม้ในสวนด้วยท่าทางผู้ดีมีสง่าราศี 

 

 

“คุณชายรอง เอาตัวมาแล้วครับ!” 

 

 

บอดี้การ์ดชุดดำสองสามคนเอาตัวซูเจี้ยนจวินสองสามีภรรยามาโยนไว้ข้างหน้า ทั้งสองมองเห็นคุณชายรองตระกูลตู้ก็ตกตะลึง หวาดกลัวเล็กน้อย แต่พอนึกถึงคำพูดที่ซูหว่านสั่งเอาไว้ หลี่เหม่ยเจวียนก็สงบจิตใจลงไม่น้อย 

 

 

กลัว กลัวอะไร 

 

 

ลูกสาวบอกแล้วว่า มีคุณชายใหญ่ตู้คอยให้การสนับสนุนเธอ! 

 

 

แต่ปัญหาคือ คุณชายใหญ่ตู้เขาอยู่ที่ไหนล่ะ 

 

 

มองไปที่คนสองคนตรงหน้าตนเองอย่างมีนัยยะแอบแฝง  พอตู้เฉินยกมือขึ้น หุ่นยนต์ทำงานบ้านที่อยู่ด้านข้างก็รีบเอาแก้วและขวดไวน์ออกไปอย่างรวดเร็ว  “บอกมาสิ ทำไมพวกคุณมาวนเวียนอยู่ที่บ้านของผมตลอดเวลา พวกคุณคิดจะทำอะไร หรือว่า…ยังคิดจะขโมยของบ้านตระกูลตู้” 

 

 

“เปล่า เปล่า ไม่ใช่!” 

 

 

ได้ยินคำพูดของตู้เฉิน ซูเจี้ยนจวินก็รีบปฏิเสธอย่างร้อนรนจนตัวสั่น 

 

 

นี่มันไม่มีศักดิ์ศรีเลย! 

 

 

หลี่เหม่ยเจวียนถลึงตาใส่เขา แล้วจึงค่อยๆ ยืดตัวตรง “พวกเรา พวกเราก็เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย หรือว่าถนนทั้งสายนี้เป็นของบ้านคุณ” 

 

 

“อ้อ” 

 

 

ตู้เฉินยิ้มอย่างชั่วร้าย“ถูกต้อง ทั้งถนนนี้เป็นทรัพย์สมบัติของตระกูลตู้ของผม” 

 

 

หลี่เหม่ยเจวียน …… 

 

 

เธอลืมกำลังทรัพย์ของตระกูลตู้ไปได้อย่างไร  ช่างน่าเศร้าใจนัก 

 

 

“ต่อให้ ต่อให้ทั้งถนนเส้นนี้เป็นของบ้านคุณ ก็ต้องให้คนอื่นเดินบ้างสิ” 

 

 

หลี่เหม่ยเจวียนจงใจที่จะเล่นลิ้น เธอไม่มีทางพูดจุดประสงค์ที่แท้จริงของตัวเองออกมาเด็ดขาด 

 

 

เห็นหลี่เหม่ยเจวียนยังปากแข็งขนาดนั้น ตู้เฉินก็มองไปที่ซูเจี้ยนจวินที่ถูกตัวเองทำให้ตกใจจนตัวสั่นอีก 

 

 

ลำพังสองคนนี้ยังคิดจะลักพาตัวเรียกค่าไถ่เหรอ แม่งเอ้ยนี่มันกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่หรือไม่ 

 

 

เบื้องต้นแน่ใจแล้วว่าปัจจัยที่อันตรายของทั้งสองคนมีน้อยมาก ตู้เฉินก็เบาใจลง แต่เพื่อความรอบคอบเขาก็ตัดสินใจที่จะทำให้ทั้งสองคนหายสาบสูญไปตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า 

 

 

“พวกคุณติดหนี้อยู่เท่าไหร่ ผมจะช่วยคืนให้พวกคุณ เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยน……” 

 

 

ตู้เฉินโน้มตัวลง มองทั้งสองคนด้วยสายตาเย็นยะเยือก “พวกคุณก็อย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าผมอีก อย่ามาปรากฏตัวที่ละแวกบ้านผม มิฉะนั้น…อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจกับพวกคุณ!” 

 

 

“นี่…” 

 

 

ซูเจี้ยนจวินหวั่นไหวเล็กน้อย หันไปมองเหมือนเป็นการถามภรรยาของตนเอง 

 

 

คุณนี่ไม่ได้เอะใจบ้างเลย เวลานี้หลี่เหม่ยเจวียนรู้สึกว่าชีวิตตนเองนี้พ่ายแพ้ คุณคิดว่าตอนนี้มีน้ำเข้าไปในสมองเธอเท่าไหร่ถึงแต่งงานกับคนที่ไร้ศีลธรรมขนาดนี้ได้ 

 

 

“คุณชายตู้ พวกเราไม่ต้องให้คุณมาใช้หนี้แทนพวกเราหรอกค่ะ เสี่ยวหว่านของพวกเราบอกแล้วว่า สามีของเธอจะช่วยใช้คืนให้พวกเรา และยังจะเลี้ยงดูยามแก่เฒ่า ดังนั้นความหวังดีของคุณพวกเราไม่อาจรับเอาไว้ได้!” 

 

 

พูดมาถึงตรงนี้ หลี่เหม่ยเจวียนรู้สึกว่าความกล้าหาญของตนเองก็มีไม่น้อย 

 

 

ไม่ผิด! ก็คือความรู้สึกนี้แหละ ฉันตั้งใจจะเป็นแม่ยายของคุณชายใหญ่ตู้ จึงไม่สนใจผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ แบบนั้น  

 

 

อะไรที่เรียกว่าต่อไปอย่ามาปรากฏตัวที่นี่อีกรอให้ลูกสาวของฉันแต่งเข้าตระกูลตู้ก่อน ฉันก็จะเป็นเจ้าของที่นี่ครึ่งหนึ่ง สวนดอกไม้นี้ คฤหาสน์นี้ สระว่ายน้ำนี้ ทั้งหมดที่นี่จะไม่ใช่ของคุณตู้เฉินคนเดียวอีก! 

 

 

ต่อไปล้วนเป็นของพวกเรา ของพวกเราทั้งหมด…… 

 

 

ความโลภในดวงตาของหลีเหม่ยเจวียนเปล่งประกาย เหลือบมองสีหน้าเธอ ตู้เฉินได้แต่ยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เย็นยะเยือก ถึงตอนนี้เธอยังคงใฝ่ฝันที่จะให้ลูกสาวของตนเองแต่งงานเข้าตระกูลมหาเศรษฐีอยู่อีกหรือ?   

 

 

ตู้เฉินไม่ปฏิเสธว่าตนเองเคยชอบเคยรักซูหว่านอย่างลึกซึ้งมาก่อน ก่อนหน้าที่เทียนเทียนจะปรากฏตัว เขาเคยคิดจะให้สถานะกับเธอ อยู่กับเธอไปตลอดชีวิต 

 

 

แต่ว่าการปรากฏตัวของเสี่ยวเทียนเทียนเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปหมดสิ้น 

 

 

ผู้หญิงที่เต็มไปด้วยคำโกหกหลอกลวงต่อหน้าตัวเอง จะฉวยโอกาสตอนที่ตนเองไม่อยู่บ้านรังแกลูกของตนเอง คู่ควรกับความชอบและความรักที่ลึกซึ้งของตนเองจริงหรือ 

 

 

ตัวเองในตอนแรกต้องตาบอดแน่ จึงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดี 

 

 

ตู้เฉินเชื่อว่าสิ่งที่ตนเองเห็นสิ่งที่ตนเองสืบมาล้วนเป็นเรื่องที่แท้จริงทั้งหมด เขาหมดใจกับซูหว่านแล้ว เช่นเดียวกับที่รู้สึกกับพ่อแม่ของซูหว่าน เขาก็มีเพียงความรู้สึกขยะแขยง 

 

 

“ในเมื่อพวกคุณไม่ต้องการความช่วยเหลือของผมงั้นก็ยิ่งดี แต่ผมหวังว่าพวกคุณจะจำคำพูดผมได้ก็คืออย่ามาปรากฏตัวแถวนี้อีก มิฉะนั้นพวกคุณได้เห็นดีแน่!” 

 

 

ตู้เฉินพูดพลางโบกไม้โบกมืออย่างเยือกเย็น ทันใดนั้นบอดี้การ์ดหลายคนก็พุ่งเข้ามาลากซูเจี้ยนจวินและหลี่เหม่ยเจวียนเดินออกไปข้างนอก เวลานี้เองจู่ๆ รถลีมูซีนสีดำก็ค่อยๆ ขับเข้ามาจากด้านนอกประตู รถลีมูซีนรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัดมีความคล่องตัวสวยงามหยุดตรงด้านนอกสวน ประตูรถสีดำค่อยๆ เปิดออก สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาของทุกคนคือรองเท้าหนังที่สะอาดไร้ที่ติ รวมทั้งกางเกงขายาวตรง สองขาที่เรียวยาวตรง 

 

 

ชายหนุ่มที่สวมชุดสูทสีดำเดินลงมาจากรถ สูทที่เขาสวมใส่ประณีตเรียบร้อย ก็เหมือนกับเขาคนนี้ ที่มองไปครั้งแรกก็ให้ความรู้สึก สง่างามและละเอียดรอบคอบ 

 

 

“คุณชายใหญ่!” 

 

 

บอดี้การ์ดที่อยู่ในสวนเห็นร่างของคนผู้นั้นต่างก็ทักทายด้วยการก้มศีรษะแสดงความเคารพ 

 

 

นี่คือ…คุณชายใหญ่ตู้  ตู้หานหรือ 

 

 

หลี่เหม่ยเจวียนได้ยินดังนั้น สายตาเปล่งประกายทันที ทันใดนั้นเธอก็ออกแรงดิ้นจนหลุดจากการควบคุมตัวของบอดี้การ์ด ไม่กี่ก้าวก็พุ่งมาถึงตรงหน้าของตู้หาน“ลูกเขย! ในที่สุดพวกเราก็ได้พบคุณแล้ว!” 

 

 

ลูกเขย? 

 

 

ซูรุ่ยเพิ่งลงจากรถก็มองเห็นผู้หญิงผมเผ้ายุ่งเหยิงพุ่งตรงมาหาเขา เขาเตรียมจะใช้มือตบหล่อนให้กระเด็น ผลปรากฏว่าได้ยินผู้หญิงคนนั้นอ้าปากเรียกตนเองว่าลูกเขย 

 

 

มนุษย์ป้า นี่โผล่มาจากไหนกัน 

 

 

ซูรุ่ยหน้าบึ้งตึง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ตู้เฉินที่อยู่ข้างในตอนนี้ก็กระวนกระวายแล้ว เขารู้จักนิสัยเข้มงวดของพี่ชายตัวเองดี เวลานี้แน่นอนว่าไม่สามารถมองดูหลี่เหม่ยเจวียนผู้หญิงปากร้ายคนนี้มาวุ่นวายที่นี่ได้ 

 

 

“มานี่สิ ยังไม่ลากผู้หญิงบ้าคนนี้ออกไปให้ฉันอีก!” 

 

 

ตู้เฉินตะคอกเสียงเย็นยะเยือก บรรดาบอดี้การ์ดที่รู้สึกว่าตนเองจะตกงานก็รีบพุ่งไปข้างหน้าจะจับแขนของหลีเหม่ยเจวียนไว้ 

 

 

เวลานี้หลีเหม่ยเจวียนเองก็ไม่คำนึงถึงอะไรมากมายขนาดนั้นแล้ว รีบตะโกนไปบอกซูรุ่ยว่า “ลูกเขยคุณต้องพูดอะไรบ้างสิ! เสี่ยวหว่านของพวกเราให้ฉันมาหาคุณนะ! ทำไมคุณ…” 

 

 

“ช้าก่อน” 

 

 

จู่ๆ ซูรุ่ยก็พูดออกมาด้วยเสียงเย็นเยือก เดินทีละก้าว เดินมาที่หน้าด้านหน้าหลี่เหม่ยเจวียนอย่างสง่างาม “คุณพูดว่าเสี่ยวหว่านบอกให้คุณมาหาผมเหรอ คุณคือแม่ของซูหว่าน…หลี่เหม่ยเจวียนเหรอ” 

 

 

“ใช่ๆ !พ่อลูกเขยคุณรู้จักฉันเหรอ” 

 

 

พอเห็นซูรุ่ยเรียกชื่อของตนเองออกมา หัวใจดวงน้อยๆ ที่ตื่นตระหนกตกใจของหลี่เหม่ยเจวียน ก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมในชั่วพริบตา 

 

 

คำว่า“ลูกเขย” คำนี้ ยิ่งเรียกก็ยิ่งคล่องปากดีจริงๆ ! 

 

 

ซูรุ่ยโบกไม้โบกมือ แสดงความหมายให้บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ ถอยออกไป“เสี่ยวหว่านอยู่ที่ไหน พวกคุณพาผมไปหาเธอได้ไหม” 

 

 

“พี่ใหญ่” 

 

 

ตู้เฉินในเวลานี่ลุกขึ้นมายืนข้างๆ คนพวกนี้ เรื่องราวตรงหน้าประหลาดจนทำให้ตู้เฉินรู้สึกแปลกใจจนยากจะเข้าใจได้ และก็ตอนนี้เองเรื่องที่ทำให้เขายิ่งตื่นตกใจก็เกิดขึ้นแล้ว 

 

 

ประตูรถลีมูซีนอีกฝั่งด้านหลังของซูรุ่ยค่อยๆ ถูกคนผลักเปิดออก เด็กผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายคลึงกับเขาลงมาจากรถด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ “คุณพ่อคะ คุณพ่อ นี่พวกเราจะไปหาคุณแม่ไหมคะ รีบไปๆ สิคะ! ซูซูคิดถึงแม่จังเลยค่ะ!” 

 

 

นี่คือ…… 

 

 

จะอย่างไรตู้เฉินก็รู้ดีว่าพี่ชายของตนเองกำลังทำเรื่องอะไรอย่างบ้าคลั่งอยู่ แต่ซูเจี้ยนจวินและหลี่เหม่ย    เจวียนไม่รู้นี่! 

 

 

ตอนนี้มองเห็นซูเสี่ยวซูดึงชายเชื้อของซูรุ่ยตะโกนโวยวายว่าจะไปหาซูหว่าน สองสามีภรรยาตกใจจนทำอะไรไม่ถูกไปชั่วพริบตา 

 

 

ลูกสาวฉันมีลูกสาวโตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมพวกเราไม่รู้เรื่องเลย