บทที่ 255 บอกชื่อมา

ร่างเล็กๆ ของจิ่วโยววางปืนลงและมองอย่างเย็นชา

เธอเป็นสัตว์ปีศาจและเธอก็เป็นนักสู้ แม้ความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายจะแตกต่างกันมากแต่เธอก็ไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย

ตอนนี้เธอจับจ้องไปที่จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิที่กล่าวว่าจะเอาเธอกลับไปศึกษา เธอจะฆ่ามันทิ้งซะ!

ชายชราหัวเราะเบาๆ และเดินออกมาจากฝูงคนอย่างช้าๆ เพื่อจะต่อสู้กับเด็กสาวตัวน้อย

ฟึบ!

จิ่วโยวขยับร่างพร้อมกับยกปืนเงินคู่กายขึ้นมา ยิงกระสุนที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าเข้าใส่ชายชรา

ชายชราไม่แยแส ทันใดนั้นฝ่ามือของเขาก็สั่นปรากฏเป็นดาบสีดำ ซึ่งมีความยาวเพียง 50 เซนติเมตรเท่านั้น

แต่มันแข็งแกร่งมาก อากาศรอบๆ บิดเบี้ยวทันทีที่ดาบปรากฏออกมา ทำให้รู้สึกเยือกเย็นชาจนขนลุก

มันคือหนึ่งในสมบัติที่ทรงพลังอย่างแน่นอน

ชายชราใช้ดาบฟันกระสุนอย่างไม่แย่แส

แกร็ง!

ประกายไฟเกิดขึ้นจากการปะทะกันของโลหตามด้วยแสงสว่างที่เหมือนกับระลอกคลื่นของการระเบิด!

ตู้ม! ตู้ม!

ภายในพริบตาเดียวก็เกิดการระเบิดขึ้นในจุดที่พวกเขาทั้งสองยืนอยู่ก่อนหน้านี้ พื้นดินทรุดตัวลงและลมปราณที่มองไม่เห็นก็กระจายตัวออกไปเห็นได้เลยว่าทั้งสองต่างก็ต้องรับมือกับพลังที่มากมายมหาศาล

มีความตกใจปรากฏภายในดวงตาของชายชรา

ดวงตาของจิ่วโยวเบิกกว้างพร้อมสั่นไหวและเสียงที่ไร้เดียงสาก็ดังขึ้น

“แกเป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 2 สินะ”

“แม่หนูน้อยช่างรอบรู้ยิ่งนัก” ชายชราหัวเราะเสียงดังๆ ลมปราณทั่วร่างกายของเขาปรากฏออกมา แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวกระจายไปทั่วจนอากาศที่ว่างเปล่าระเบิด

สีหน้าของเหลยเป้าและคนอื่นๆ เปลี่ยนไป ชายชราคนนี้ต้องเป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 2 อย่างแน่นอน พวกเขาจนเป็นอดห่วงจิ่วโยวที่กำลังสู้อยู่ไม่ได้

ดวงตาของจิ่วโยวเยือกเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ “ขั้นจักรพรรดิระดับ2 แล้วไง”

ปืนเงินของจิ่วโยวเปร่งประกาย ปลายของกระบอกปืนสั่นไหวอย่างแรง กระสุนนัดสุดท้ายเตรียมที่จะยิงออกไป

ชายชราเหลือบตามองอีกฝ่าย พลังของจิ่วโยวเกินกว่าที่เขาคิดไว้มาก เขาไม่กล้าที่จะประมาณเลยแม้แต่น้อย เลยเอาดาบสั้นออกมาตั้งแต่เริ่มต้น

เพลงดาบหมื่นติดตาม!

ตู้ม!

รัศมีดาบและปืนปะทะกัน เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ที่น่ากลัวดังก้องไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน อากาศบิดเบี้ยวจนน่าตกใจพื้นดินสั่นสะเทือน ท้องฟ้าฉีกขาด

ทั้งสองต่างพุ่งเข้าใส่กัน

“ตายไปซะ!”

จิ่วโยวไม่พลาดโอกาสนี้ฟาดปลายปืนเข้าใส่ชายชราอย่างแรง

พื้นที่อยู่ข้างใต้เท้าของชายชราแตกและยุบตัวลงทันที ชายชราโบกมือเบาๆ เงาดาบมากมายก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

แก็ง!

ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทั้งเงาดาบและปืนปะทะกันอย่างไม่หยุดหย่อน

ดาบใหญ่ในมือของคิงคองชี้ไปที่เหลยเป้า คิงคองตะโกนออกมา

“เข้ามา รับความตายได้แล้ว!”

“ไอ้คิงคอง ถ้าแกอยากตายมากนักฉันก็จะสนองให้เอง” เหลยเป้าเนื้อเต้นเขาอยากต่อสู้ตั้งแต่เห็นจิ่วโยวสู้กับชายชราแล้ว

ฟิ้ว!

เหลยเป้ากำกระบองไว้แน่น เขากระโดดขึ้นสูงและฟาดเข้าใส่ดาบใหญ่ในมือของคิงคองที่ตั้งรับอยู่บนพื้น

แก็ง!

เสียงโลหะหนักปะทะกันจนเกิดเสียงดังที่ทำให้ผู้คนหูหนวก พื้นดินที่อยู่ใต้คิงคองสั่นสะเทือน

เหลยเป้าและคิงคองต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่อาวุธของเหลยเป้านั้นเป็นสมบัติลึกลับ ทำให้คิงคองต้องถอยร่นไปหลายครั้ง

แม้ว่าดาบในมือของคิงคองจะไม่ดีเท่าสมบัติลึกลับ แต่ก็ไม่ใช่ดาบธรรมดา มันเป็นดาบที่ตัดเหล็กหนาๆ ได้ราวกับเต๋าหูไม่งั้นคิงคองคงถูกเหลยเป้าฟาดใส่จังๆ ไปนานแล้ว

ตู้ม!

ดาบใหญ่ของคิงคองรับแรงกระแทกไปเต็มๆ จนคิงคองกระอักเลือดออกมา

เหลยเป้าคำรามออกมาอีกครั้งก่อนที่จะพุ่งเข้าไปเตรียมปิดฉาก

แก็ง!

คิงคองไม่อาจรับกระบองของเหลยเป้าได้เลย พื้นที่อยู่ใต้เท้าของเขาแตกกระจายเป็นวงกว้าง

เหลยเป้าผสานทักษะสายฟ้าเข้ากับกระบองอย่างสุดกำลัง จนทำให้อากาศรอบข้างบิดเบี้ยวฉีกขาด

แต่ถึงอย่างนั้นคิงคองเองก็ไม่สู้ไม่ถอย เขาพุ่งเข้าใส่เหลยเป้าอีกครั้ง !

แก็ง! แก็ง!

มีการปะทะกันหลายครั้งระหว่างดาบใหญ่กับกระบอง แรงปะทะรุนแรงจนถึงกลับทำให้ผู้คนหวาดสั่น

“ตายไปซะ ไอ้คิงคองยักษ์!” เหลยเป้าตะโกนออกมาและกะบองในมือของเขาก็สั่นไหวอย่างรุนแรง

มันเป็นการปะทะกันที่ดุเดือดมาก ดาบใหญ่ของคิงคองส่งเสียงราวกับจะแตกสลายออกมา เขาได้แต่ถอยหลังอย่างเดียว

คิงคองโกรธมาก เขากวาดดาบใหญ่ไปรอบตัวรัศมีดาบอันน่าสะพรึงกลัวก็ถูกปล่อยออกมา

เหลยเป้าดวงตาเบิกกว้าง รัศมีดาบพุ่งทางข้างหลังของเขาจนระเบิดออก

กระบองในมือของเหลยเป้าขยายใหญ่ขึ้น เขาเชื่อมั่นในอาวุธนี่มาก กระบองปะทะเข้ากับรัศมีดาบ จนระเบิดอย่างรุนแรงทำให้คิงคองตัวสั่นราวคนบ้าคลั่งและคำรามอกมา

แก็ง!

กระบอกเหล็กของเขาปะทะกับการโจมตีของดาบใหญ่เต็มแรง

พริบตานี้เอง เหลยเป้าก็ซัดบอลสายฟ้าด้วยมือซ้ายเข้าที่หน้าอกคิงคองเต็มๆ

ชายร่างยักษ์ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ร่างของเขากระเด็นไปไกล หน้าอก ไหม้เกรียมเป็นสีดำ กระอักเลือดออกมาไม่หยุด เขากระเด็นเข้าไปในห้องหนึ่งๆ ของสำนักภูพาทมิฬทันที

เหลยเป้ารีบตายหมายจะใช้จังหวะนี้ในการปริชีพอีกฝ่าย

แต่ทันใดนั้นเองก็มีบางอย่างปรากฏอย่างฉับพลัน ปัดกระบองเหล็กพร้อมพลังลมปราณที่น่ากลัว

“จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 2” เหลยเป้าอุทานออกมา

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 2 คนนี้คือชายยืนพูดกับชายชราที่กำลังต่อสู้กับจิ่วโยว

ในกลุ่มของพวกมันมีจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิถึง 15 คน มีจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 2 จำนวน 2 คนอยู่ในกลุ่ม

เมื่อเห็นแบบนั้น หัวใจของหยานอี้และคนอื่นๆ ก็ตกลงไปอยู่ในตาตุ่มทันที

หยานอี้และหวู่ปู้ซือมองหน้ากันอย่างเงียบๆ มีความขมขื่นปรากฏอยู่ในใจของพวกเขาการเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจทำอะไรได้เลย

“ดูเหมือนว่าจอมมารฉู่จะให้ของดีกับแกไว้สินะ ไม่เลวๆ” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 2 เหยียดมือออกไปดูดกระบองเข้ามาไว้ในมือและจ้องมองเหลยเป้าด้วยความรังเกียจ “ยังไงซะ สมบัติดีๆ แบบนี้อยู่ในมือของแกไปก็ไร้ค่า”

“เอาคืนมา!” เหลยเป้าคำรามออกมา กระบองยักษ์นี้เขาถูกใจมันมากเขาไม่ยอมปล่อยให้ถูกแย่งไปแบบนี้แน่

“ไม่ยอมงั้นก็มาเอาไปเองสิ” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 2 ยิ้มเยาะภายในพริบตาเดียว เขาก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเหลยเป้าและฟาดกระบองยักษ์ใส่เหลยเป้าอย่างแรง

แกร็ก!

เสียงกระดูกหักดังก้อง เลือดไหลออกมาจากแขนขวาที่ถูกทุบ แต่เหลยเป้าไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อยเขาอดกลั้นความเจ็บปวดไว้อย่างเต็มที่

“เฮ้ๆ…” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 2 ส่ายหัวและยิ้มอย่างชั่วร้าย

“ฉันบอกให้แกให้เอาไปไง แต่น่าเสียดายที่แกรับมันไว้ไม่ได้ เพราะงั้นก็ไม่ต้องแปลกใจเลยที่มันจะเป็นของฉัน”

เมื่อพูดจบ แววตาของเขาก็เย็นชา เขาแย่งกระบองไปจากเหลยเป้าอย่างง่ายดายแลตอนนี้เขาหมายจะจบชีวิตของเหลยเป้าซะตรงนี้เลย!

หยานอี้กัดฟันแน่น ได้แต่วิ่งเข้าใส่ชายชรา

ชายชราไม่สนใจเพียงแค่สะบัดมือลมปราณก็ซัดเข้าที่หน้าอกของหลานอี้อย่างจัง หน้าอกของเขายุบตัวร่างกายเกือบระเบิด

ชายชราแสยะยิ้มและหันไปหาเหลยเป้าต่อ

“ตาแก่ เแกกล้าดียังไง!” จิ่วโยวกระแทกปืนลงสู่พื้น ทำให้หินก้อนใหญ่พุ่งเข้าใส่ชายชรา ปิดกั้นการมองเห็นของเขา

จากนั้นปืนก็แทงไปที่พื้นอีกครั้ง ตัวปืนถูกดึงให้โค้งเหมือนคันธนู และมีจิ่วโยวเป็นดั่งลูกศร จากนั้นปืนที่กลายเป็นคันธนูก็ส่งจิ่วโยวออกไปเธอคว้าปืนมาด้วยและพุ่งเข้าใส่ชายชราที่เตรียมจะฆ่าเหลยเป้า ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในเวลาแค่ 3 วินาทีเท่านั้น!

จิ่วโยวที่เข้ามาช่วยยิงกระสุนออกมาจากปืนสีเงินทันที

ชายชราผู้กำลังจะฆ่าเหลยเป้าก็หยุดและหมุนตัว พร้อมเหวี่ยงกระบองออกไป

ในเวลานี้ จิ่วโยวราวกับนักฆ่าเมื่อกระสุนปืนถูกยิงออกไป ก็เกิดระลอกคลื่นสีเงินขนาดใหญ่ทั่วร่างชายชรา

เปรี้ยง!

หลังจากปะทะกันอย่างดุเดือด จิ่วโยวและชายชราลอยกลับมาจุดที่ตัวเองยืนอยู่เมื่อครู่

จิ่วโยวใช่ปืนแทงไปที่พื้นเพื่อค้ำยันตัวเองไม่ให้ถอยไปไกลมากกว่านี้ จากนั้นเธอก็วิ่งเข้าไปต่อสู้อีกครั้ง ความว่องไวของการแทงปืนยาวแทนหอกของเธอทั้งโหดเหี้ยมและเยือกเย็น

ในเวลานี้เอง จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิที่สู้กับจิ่วโยวก่อนหน้านี้ ก็สบโอกาสใช้ดาบสั้นแทงไปที่จิ่วโยว

ปืนสีเงินในมือของจิ่วโยวสั่นไหว หันมาปัดป้องการโจมตีของอีกฝ่าย

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 2 ทั้งสองคนโจมตีใส่จิ่วโยวอย่างเมามันโดยไม่รู้สึกเลยว่ากำลังกลั่นแกล้งเด็กสาวตัวเล็กๆ อยู่

ดวงตาที่นิ่งสงบของจิ่วโยวเย็นชา เส้นผมสีม่วงพริ้วไหว ทั้งร่างเปล่งประกาย ปืนสีเงินสั่นไหวและเปร่งประกายอย่างงดงาม เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีของขั้นจักรพรรดิระดับ 2 ถึง 2 คน จิ่วโยวกลับถอยหลังแค่ 1 ก้าวเท่านั้น เพราะเหลยเป้าอยู่ข้างหลังเธอ เธอถอยมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว!

“อย่ามัวแต่นิ่ง ฆ่ามันซะ!” ชายชราที่ถือดาบสั้นตะโกนออกมา

เส้นประสาทของหวู่ปู้ซือตึงด้วยความเครียดทันที แววตาของเขาวูบวาบด้วยความรุนแรง ตอนนี้มีเพียงแค่เขาแล้วสามารถต่อสู้ได้

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนหนึ่งพุ่งเข้าใส่หวู่ปู้ซือ และยกมือขึ้นเพื่อฆ่าเขา พร้อมคนอื่นๆ ที่ตามหลังมา

แต่ทันใดนั้น ก็ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นรวบตัวหวู่ปู้ซือ พร้อมกับผงสีขาวที่กระจายไปทั่วท้องฟ้าปิดบังสายตาของทุกคน

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิที่รีบเร่งเข้ามาต่างก็ตกใจกลัวและรีบกลั้นหายใจ

แต่คนที่รีบพุ่งเข้าไปก่อนหน้านี้ได้ถูกกลุ่มผงสีขาวปกคลุมเข้าไปแล้ว

แต่หลังจากที่มีบางคนสูดผงสีขาวเข้าไป พวกเขาก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะและเดินโซเซมาจนเกือบจะทรุดลง

แท่งคริสตัลปรากฏ ส่องประกายแสงสุกใสกระแทกศีรษะพวกมันอย่างรุนแรง

ตู้ม!

ระเบิดเป็นหมอกเลือด หัวของอีกฝ่ายระเบิดเพราะแท่งคริสตัล

ฉากนี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันจนทุกคนอดไม่ได้ที่จะต้องตกใจ

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิมากกว่า 10 คนจ้องมองไปในทิศทางเดียวกัน พวกมันมองผ่านผงสีขาวที่ตกลงมาก็เห็นชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าเคร่งขรึม

“จักรพรรดิยา ฆ่าได้ดี ๆ !” เหลยเป้าหัวเราะก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา

“หุบปากไปเลย!” จักรพรรดิยาตอบกลับไปและคิดในใจ ‘จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิพวกนี้ใช้ไม่ได้เรื่องเลย เขาอยู่มาเป็นร้อยปีเพิ่งเคยฆ่าจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิไปคนเดียวเอง’

“จักรพรรดิยา แกเองก็แก่มากแล้วนะ คงคิดว่าชีวิตของแกมันยาวนานพอแล้วสินะ?” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนหนึ่งโกรธจัด ยกมือขึ้นสร้างเป็นพายุกวาดแยกผงสีขาวออกไป

“แกกำลังพูดอะไร? ฉันอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าแกมีความสามารถมากพอก็เข้ามา” จักรพรรดิยาดูถูกเหยียดหยามอีกฝ่าย จริงๆแล้วเขาแสร้งทำเป็นว่าตัวเองเก่งไปงั้นแหละ เขาได้แต่รู้สึกผิดที่ทำแบบนี้ที่นี่มีจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิมากมายเกินไป เขาไม่ใช่ฉู่ชวิ๋น หากอีกฝ่ายบุกเข้ามาพร้อมกัน เขาคงได้แต่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ภายในเวลาไม่กี่วินาที

“เจ้าบ้านฉู่ ถ้า…ถ้าท่านยังไม่มา ที่นี่จะไม่เหลืออะไรแล้วนะ” จักรพรรดิยาใช้ความคิดอย่างมีสติ

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิมากกว่าโหลจากประตูวิญญาณสลายไม่ได้ก้าวเข้ามา เพราะเขากำลังเจอกับยวีเฉิงซึ่งรู้จักกันในนามจักรพรรดิยา เขาไม่เพียงแต่ช่วยเหลือผู้คน แต่ยังฆ่าคนด้วยผงสีขาวที่เห็นอยู่ในตอนนี้ด้วย

นี่คือสิ่งที่ผู้คนคิด ถ้าพวกเขาอยู่ตัวคนเดียวพวกเขาอาจหลีกทางให้อีกฝ่ายแม้จะมีหลายคนไม่กลัวจักรพรรดิยา แต่ทุกคนก็ล้วนกลัวความตายและไม่มีใครอยากเป็นรายแรกที่จะเข้าไปเสี่ยง

“จักรพรรดิยา ยาของท่านไม่มีใครเทียบได้ในแดนดิน มาร่วมกับพวกฉันสิ เป็นพวกพ้องประตูวิญญาณสลาย มันดีกว่าออกมาตายนะ เจ้านายของเราเพียงแค่ต้องการบางอย่างจากที่นี่เท่านั้น หากท่านเต็มใจยอมแพ้ พวกเรารับประกันว่าจะแบ่งของให้” ชายชราตะโกน

“จริงเหรอ?” จักรพรรดิยาทำท่าสนใจ

เมื่อเห็นทาทีของจักรพรรดิยา ชายชราจึงพูดต่อ “ฉันขอรับรองด้วยชีวิต ตราบใดที่ท่านยอมแพ้ ทรัพยากรของประตูวิญญาณสลายจะอยู่ในความดูแลของท่าน”

จักรพรรดิยาครุ่นคิดและพึมพำ “ฟังดูดีนะ”

“จะเอาด้วยไหมละ?” ชายชราชื่นชมยินดี คำพูดของเขาไม่ผิดทั้งหมด การรับจักรพรรดิยาเข้ามาจะเป็นประโยชน์อย่างมากในอนาคต

ดวงตาของจักรพรรดิยาวูบาบและพูดว่า “ตกลง”

จากนั้นเขาก็มองไปที่คนของสำนักภูผาทมิฬและพูดออกมาว่า “ขอโทษด้วยนะแต่ฉันยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป”

“ฮ่าฮ่าฮ่า จักรพรรดิยานี่ช่างเข้าใจสถานการณ์ดีจริงๆ” ชายชราหัวเราะ

“ถ้างั้นจักรพรรดิยาช่วยทำอะไรบางอย่างเพื่อเป็นการยืนยันหน่อยสิ”

“ไม่มีปัญหา” เมื่อจักรพรรดิยาพูดจบ ผงสีขาวก็หายไป

ตู้ม!

หวู่ปู้ซือถูกจักรพรรดิยาซัดกระเด็น จนกระอักเลือดออกมา จักรพรรดิยาติดตามเขาเหมือนเงา บิดคอหวู่ปู้ซือแล้วขว้างศพไปไว้ตรงหน้าของเหล่าจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิกว่า 10 คน

จักรพรรดิยามองดูชายชราแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พอใจกับหรือเปล่าล่ะ?

ถ้าไม่ ฉันจะสามารถช่วยฆ่ายัยเด็กน้อยนั้นให้ก็คน!”

“ฮ่าฮ่า…นังเด็กนี้ยังมีประโยชน์อีกมาก มันต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ท่านไม่ต้องใส่ใจหรอก จักรพรรดิยา ท่านแค่ถอยกลับไปรอที่ฐานของประตูวิญญาณสลายให้เรื่องนี้จบก่อน” ชายชรามีความสุขมากที่ได้รับจักรพรรดิยามาเป็นพวก ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!

“เข้าใจแล้ว!” จักรพรรดิยายกกำปั้นขึ้น มองอีกฝ่ายด้วยความเคารพ