ตอนที่ 175 ซื้อหรือไม่ซื้อ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มู่เฉียนซีกล่าวตอบ “ในเมื่อพวกเจ้านําสมุนไพรวิญญาณออกมาแล้ว เช่นนั้นก็อย่าได้เก็บกลับไปเลย ข้ายินดีจะช่วยพวกเจ้าเก็บมันไว้เอง”

“เจ้า เจ้า…” เหล่าผู้เฒ่าโกรธจนเนื้อตัวสั่นสะท้าน

มู่เฉียนซี “อย่าเพิ่งรีบร้อนสิ อันที่จริงเพียงแค่พวกเจ้านําสมุนไพรวิญญาณที่ทําให้ข้าพอใจออกมา ข้าก็ให้ยาวิเศษกับพวกเจ้าได้”

ถ้าพวกเขาไม่นำออกมา ถ้าหากนางไม่พอใจ พวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับยาวิเศษรักษาอาการบาดเจ็บ ยังจะต้องสูญเสียสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดไปอีกด้วย  พวกเขาทั้งหมดกรุ่นโกรธแทบกระอักเลือด

“มู่เฉียนซี เจ้ากําลังปล้นกันชัด ๆ!”

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น ท่าทีไม่รู้หนาวรู้ร้อน “เห็นได้ชัดว่าข้าทําข้อตกลงกับทุกคนอย่างยุติธรรม แต่พวกเจ้ากลับบอกว่าข้าปล้น ข้าไม่พอใจจริง ๆ เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไปอยู่กับพวกนักฆ่าของพันธมิตรเอียนหลัวไป!”

เมื่อเหลือบไปเห็นประกายแสงเย็นยะเยือกในดวงตาของมู่เชียนซี พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นกลัว

“เจ้าอย่าลงมือเลย พวกข้าเอาให้แล้ว ยอมเอาให้แล้ว…”

เมื่อถูกบีบบังคับมาจนถึงจุดนี้ พวกเขาไม่เอาออกมาก็ไม่ได้อะไร ทั้งยังจะต้องถูกสตรีอายุน้อยใจดําผู้นี้ส่งลงนรก  หากนําของออกมาดี ๆ  บางทีอาจจะสามารถแลกกับยาวิเศษได้ ดังนั้นสมุนไพรวิญญาณบางส่วนที่ถูกกดอยู่ใต้กล่องจึงถูกเขย่าออกมา  ต้องบอกเลยว่าสํานักและขุมกําลังของแคว้นชิงร่ำรวยมาก แม้แต่สมุนไพรวิญญาณระดับสี่ที่หาได้ยากก็ยังมี

มู่เฉียนซีพยักหน้าพึงพอใจ กล่าวว่า “อืม นั่นดีมาก ข้าพอใจเป็นอย่างมาก”

จินฉุนและผู้อาวุโสของราชสำนักแคว้นชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก พึงพอใจก็ดีแล้ว  พวกเขากลัวเหลือเกินว่าเมื่อถึงเวลาที่คุณหนูผู้นี้ไม่พอใจขึ้นมา พวกเขาคงได้เสียหายทั้งตัวคนและทรัพย์สิน  แต่แม้ว่ามู่เฉียนซีนางจะบอกว่าพอใจ สุดท้ายกลับให้ยาแก่พวกเขาเพียงเม็ดเดียว

หยิบสมุนไพรวิญญาณล้ำค่าออกมามากมาย สุดท้ายแลกเปลี่ยนมาได้เป็นเม็ดยาวิเศษเม็ดเดียว ผู้นําทั้งสองรับไม่ไหว กระอักเลือดออกมาจนได้

ทว่า… เวลานี้ในใจของฮั่วอู๋จี๋กําลังมีความสุข เขาพบว่าแม้สาวน้อยผู้นี้จะใจดํา นางยังมีเมตตาต่อพวกเขา อย่างน้อยนิกายเหยียนหลัวเหมิงของพวกเขาก็ไม่ได้ได้ยามาเพียงหนึ่งเม็ด แต่เป็นหนึ่งขวด!

ไม่ว่าการแลกเปลี่ยนนี้จะไม่คุ้มค่ามากเพียงใด พวกเขาก็ทําได้เพียงยอมรับมัน  กลืนยาลงไปรักษาอาการบาดเจ็บก่อนค่อยว่ากัน สถานการณ์บีบบังคับ ต้องอดทนไว้!

สี่กองกําลังใหญ่ของแคว้นชิงได้ทําลายไปหนึ่งและเก็บกวาดไปสามกองกําลัง ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ควรจะจัดการกับสี่กองกําลังของแคว้นจื่อเยี่ย

เมื่อสํานักตานจี้ สํานักอัสนีลึกลับ ซวนหยวนจือและอวิ๋นซินหรานรู้สึกว่าสายตาของมู่เฉียนซีจับจ้องมาที่พวกเขา พวกเขาพลันรู้สึกสังหรณ์ใจวาบอย่างที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น  นอกจากนั้นพวกเขายังเห็นว่ากองกําลังเหล่านี้ในแคว้นใกล้เคียง ถูกจัดการอย่างน่าสังเวชเพียงใด

พวกเขาไม่คิดว่ามู่เฉียนซีจะเห็นว่าพวกเขาทำเพื่อประโยชน์ของแคว้นและจะใจดีกับพวกเขา

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ที่นี่… ใช่สถานที่หลบซ่อนตัวของสมบัติหรือไม่ ? เวลานี้พวกเจ้าน่าจะรู้ดี”

หม้อเทพนิรันดร์ที่ยังไม่ใช่หม้อเทพนิรันดร์ ปรากฏขึ้นที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัยเลย  พวกเขาแพ้พนันอย่างสมบูรณ์!

เจ้าสํานักตานจี้กล่าวขึ้นว่า “พวกข้าแพ้การเดิมพันแล้ว ยาเม็ดอายุวัฒนะถูกเก็บรักษาอยู่ในสํานักของพวกข้า พวกข้าต้องกลับไปถึงจะนำเอามาได้”

หัวหน้าสํานักอัสนีลึกลับ “เก้าสายฟ้าลี้ลับของพวกข้าก็อยู่ในหอสมบัติของสํานัก รอพวกข้ากลับไป พวกข้าจะส่งไปให้ตระกูลมู่ภายหลัง”

ซวนหยวนจือ “ซีเอ๋อร์ รอให้ข้ากลับไปอย่างปลอดภัยแล้วจะจัดการส่งมอบธุรกิจเครื่องปรุงยาของราชวงศ์ให้ตระกูลมู่” อวิ๋นซินหรานเดินเข้ามาก่อนจะกล่าวว่า “ท่านผู้นำตระกูลมู่ นี่คือโฉนดที่ดินของทุ่งสมุนไพรตระกูลอวิ๋นของเรา โปรดรับไว้ด้วย”

ขณะที่อวิ๋นซินหรานกําลังมอบโฉนดที่ดินให้กับมู่เฉียนซี ดวงตาเขาพลันส่องประกายเย็นเยือกออกมา มือทั้งสองข้างของเขาที่ดูน่าขยะแขยงราวกับมีแมลงน่าเกลียดเกาะอยู่เต็มคว้าจับมู่เฉียนซี

ในตอนที่เขาแย่งชิงหม้อเทพปาฮวางชิงมู่  อวิ๋นซินหรานไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรมากจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ

อานุภาพของหม้อเทพปาฮวงชิงมู่ ไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีใดในการหลบหลีก  แต่เขากลับแสร้งทําเป็นได้รับบาดเจ็บสาหัสและรอโอกาสที่จะเข้าใกล้มู่เฉียนซีเพื่อฆ่าสังหารนาง!

น่าเศร้า การซุ่มโจมตีนี้มันอ่อนเกินไป เมื่อกระบี่มังกรเพลิงถูกปล่อยออกมา มู่เฉียนซีพลันฟันออกไป!

— ปัง! —

นางฟันแขนของอวิ๋นซินหรานอย่างรวดเร็วรุนแรง!

แขนถูกตัดขาดโดยพลัน อวิ๋นซินหรานยิ้ม กล่าวว่า “มู่เฉียนซี อย่าได้คิดว่าเจ้าจะรอดพ้นจากหายนะครั้งนี้ได้ วันนี้เจ้าจะต้องตาย!” ทันใดนั้นแมลงตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากแขนสีดําที่ถูกตัดลงบนพื้น

ความน่าขยะแขยงอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทําให้คนรอบข้างอยากอาเจียนอย่างมาก ถ้าหากแมลงนี้แพร่กระจายออกไป พวกเขาจะต้องตายเป็นแน่!

มู่เฉียนซีหยิบขวดยาออกมาเทลงก่อนจะกล่าวว่า “อ่อนหัดนัก อุบายเช่นนี้มันยังไม่เพียงพอ!”

— ฉึก!  ฉึก!  ซ่า! —

แมลงสีดําเหล่านี้ ถูกกัดกร่อนโดยยาของมู่เฉียนซี  เมื่ออวิ๋นซินหรานเห็นฉากบาดใจ พลันเบิกตากว้าง “เป็นไปได้อย่างไร ? ข้าไม่เชื่อ! นั่นมันคือยาอะไรของเจ้า ?”

มู่เฉียนซีกล่าวพลางยืดอกภาคภูมิใจ “เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องนี้หรอก เพราะเจ้ากำลังจะต้องตายแล้ว หึ ๆ!” จากนั้นนางกวัดแกว่งกระบี่มังกรเพลิงก่อนแค่นเสียงเย็นชา “มังกรเพลิงสังหาร!”

เมื่อเปลวเพลิงสีแดงเข้มที่มีจิตสังหารอันไร้ที่สิ้นสุดกําลังจะกลืนกินอวิ๋นซินหราน ทันใดนั้นร่างสีขาวพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วปานสายฟ้า เขาใช้โล่ป้องกันการโจมตีอันน่าเกรงขามของมู่เฉียนซี

— ตูม! —

ทันใดนั้น เกิดเสียงดังมาจากรอบ ๆ

มู่อีคิดจะวิ่งออกไปไล่ตามอวิ๋นซินหราน เจ้านี่อันตรายเกินไปแล้ว การมีชีวิตอยู่ของเขาอาจทําร้ายผู้นำตระกูลของเขาได้  ทุกคนที่คุกคามเขาจะต้องถูกทําลายสิ้น!

มู่เฉียนซี “มู่อีเจ้าไม่ต้องไล่ตาม คนผู้นั้นรวดเร็วและแข็งแกร่งมาก เขาไม่ใช่ผู้ที่พวกเจ้าจะตามได้ทัน”

คนตระกูลอวิ๋นตกใจไม่แพ้กัน นายน้อยลอบสังหารท่านผู้นำตระกูลมู่ไม่สำเร็จ  เช่นนั้นพวกเขาเล่า  ชะตากรรมของพวกเขาเล่า!

มู่เฉียนซีพูดอย่างเย็นชา “คนตระกูลอวิ๋น อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว!”

ในดินแดนลับนี้ นอกจากพันธมิตรเอียนหลัวแล้ว ก็เป็นตระกูลอวิ๋นที่ไล่ตามนางไปถึงด้านล่างของทะเลสาบ คนตระกูลอวิ๋นเหล่านี้ไม่สมควรปล่อยให้อยู่ต่ออีกต่อไป

“ขอรับ” องครักษ์เงาของตระกูลมู่เชื่อฟังคําสั่งมู่เฉียนซี ฉับพลันทันใดกลายเป็นเพชฌฆาตเพื่อเก็บเกี่ยวเอาชีวิตของคนตระกูลอวิ๋นเหล่านี้

“อ๊า!” เสียงร้องโหยหวนดังออกมา ซวนหยวนจือได้ฟังแล้ว หัวใจถึงกับสั่นสะท้าน  เขากลัวว่ามู่เฉียนซีจะปล่อยให้กระบี่เย็นขององครักษ์เงาตระกูลมู่ตกลงมาที่คอของเขา

คนของตระกูลอวิ๋นถูกจัดการแล้ว  เหลือคนจากสามกองกําลังใหญ่ของแคว้นจื่อเยี่ยไว้

มู่เฉียน “อย่ากลัวไปเลย หากพวกเจ้าไม่ได้คิดลงมือสังหารข้า ข้าผู้นี้จะไม่ฆ่าพวกเจ้าโดยไม่มีเหตุผล”

“เฮือก!” พวกเขาหายใจเข้าลึก ๆ

มู่เฉียนซีกล่าวต่ออีกว่า “ทุกคนบาดเจ็บหนักมาก ว่าอย่างไร ? ต้องการจะซื้อยาวิเศษหรือไม่ ?”

สตรีน้อยผู้นี้ต้องการซื้อขายอีกแล้ว ใบหน้าของตานคุนและซวนหยวนจือหม่นคล้ำ

“ไม่… ไม่แล้ว พวกข้าอาจจะซื้อไม่ไหว” ตานคุนกล่าวอย่างตระหนก

ซวนหยวนจือ “ใช่ พวกข้าซื้อไม่ไหว! ข้าไปฝึกบําเพ็ญตบะดีกว่า”

หัวหน้าสํานักอัสนีลึกลับ “ชะ… ใช่! พวกข้าก็จะไม่ซื้อ”

มู่เฉียนซียิ้มเย็นเยือก “เหอะ! ทุกคนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้  หากไม่มียาวิเศษใดมารักษาอาการบาดเจ็บ ประเดี๋ยวกระทบถึงชีวิตพวกเจ้า แล้วจะทําอย่างไรต่อไป ?”

เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ไม่เป็นอันตรายของมู่เฉียนซี หัวหน้าสํานักอัสนีกลับไม่รู้สึกว่านางเป็นมิตรเลย ซวนหยวนจือและตานคุน พวกเขาก็รู้สึกได้ว่ารอยยิ้มจากนาง ประหนึ่งปีศาจกําลังยิ้มให้พวกเขา

พวกเขายิ้มอย่างไม่เต็มใจกลับไปให้นางก่อนจะกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน

“พวกข้าซื้อก็ได้”

.

.