หลังจากฝึกฝนเพียงไม่กี่วัน เย่เทียนก็รู้สึกกลุ้มใจเล็กน้อย
ไม่ใช่เพราะว่าการฝึกฝนของเขาคืบหน้าช้า แต่เป็นเพราะการฝึกฝนของนักรบนั้นส่งผลกระทบมากเกินไป แม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวเพียงเก้ากระบวนท่า แต่นักรบก็ทําให้มวลอากาศโดยรอบสั่นไหวได้ทุกกระบวนท่า ห้องในบ้านเขานั้นเล็กเกินไป หากไม่ระวังก็อาจทําลายสิ่งของในบ้านโดยไม่ตั้งใจ
“คงจะถึงเวลาย้ายบ้านแล้ว บ้านหลังนี้อยู่ริมขอบของฐานมากเกินไป หากมีสัตว์ อสูรบุกเข้ามาในฐาน ที่นี่ก็จะถูกโจมตีก่อน ซึ่งมันค่อนข้างอันตราย ลําพังตัวเราเองคงไม่เป็นไร แต่น้องสาวเรายังไม่ได้เริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางผู้ฝึก เธอไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ ในอนาคตเรายังต้องออกจากฐานบ่อยๆ เกรงว่าไม่อาจปกป้องน้องสาวได้ตลอดเวลา คงต้องย้ายเข้าในเขตวิลล่าส่วนกลางของฐานทัพ! “เย่เทียนตัดสินใจ
พื้นที่วิลล่าขนาดเล็กที่อยู่ตรงส่วนกลางของฐานนั้นปลอดภัยมาก เว้นแต่ว่าฐาน ทัพถูกทําลาย มันไม่มีทางที่สัตว์อสูรจะสามารถโจมตีได้ง่ายๆ แต่ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงมากเช่นกัน วิลล่าขนาดเล็กที่สุดยังมีราคาถึง 10 ล้านหยวน ซึ่งครอบครัวธรรมดาไม่มีทางจ่ายไหว
เย่เทียนมีเงินมากกว่า 2 ล้านหยวน บวกกับสถานะนักรบของเขา เขาสามารถกู้เงินจากธนาคารของฐานหลินไห่ มันเพียงพอที่จะซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ
มื้อเที่ยง
เย่เทียนเอ่ยขอความเห็นจากเย่หยู “เสี่ยวหยู พี่ต้องการจะย้ายไปอยู่ในเขตวิลล่า ขนาดเล็กบริเวณส่วนกลางของฐานทัพ พี่คิดว่ามันดูไม่เลวเลย! ”
เย่หยูเบิกตากว้างและเดินไปแตะหน้าผากของเย่เทียน “ท่านพี่ไม่ได้ป่วยใช่ไหม? วิลล่าที่ตั้งอยู่ส่วนกลาง ราคาอย่างน้อย 10 ล้าน จํานวนเงินขนาดนั้นเราไม่มีทางจ่ายไหว! ”
“สาวน้อย คิดว่าตอนนี้พี่ของน้องเป็นใครกัน!” เย่เทียนดีดหน้าผากของเย่หูเบาๆ และยิ้มพร้อมพูดว่า “ตอนนี้พี่ชายรวยแล้ว! ”
พร้อมกันนั้น เย่เทียนก็วางบัตรทองสองใบไว้บนโต๊ะ
“นี่คือเงิน 2 ล้าน บวกกับตอนนี้พี่เป็นนักรบแล้ว การกู้เงินไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!”
เย่เทียนเชิดหน้าขึ้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“อา… ท่านพี่ตอนนี้เป็นนักรบแล้ว???”
เย่หูตกใจ ยกมือปิดปาก และกล่าวออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เธอจําได้ว่าพี่ชายของเธอฝึกฝนได้แค่ครึ่งปีเท่านั้น เขากลับเลื่อนขั้นเป็นนักรบแล้ว นี่มันเร็วเกินไป!
“อืม พี่เพิ่งทะลวงผ่าน แต่น้องห้ามนําเรื่องนี้ไปพูดกับใคร พี่มีพรสวรรค์เช่นนี้ มันอาจทําให้คนอื่นอิจฉาครอบครัวของเรา” เย่เทียนรีบพูด
“อื้ม น้องสัญญาว่าจะไม่พูด!” เย่หยุส่ายหัวเล็กๆของเธอ ขณะที่ดวงตายังเปล่งประกายด้วยความสุข เธอรู้สึกภูมิใจมากที่มีพี่ชายเป็นอัจฉริยะ
ผ่านไปไม่กี่วัน เย่เทียนยุ่งอยู่กับการจัดการเรื่องการเรื่องซื้อบ้าน
ในยุคสมัยนี้ไม่มีขั้นตอนยุ่งยากอย่างการขอใบอนุญาตอสังหาริมทรัพย์ เพียงแค่เซ็นสัญญาเท่านั้น ส่วนวิลล่าหลังเล็กนี้ก็ดูไม่เลวเลย การตกแต่งค่อนข้างเรียบง่าย คล้ายกับบ้านเรือนหลังเล็กๆในสมัยโบราณ มันไม่ใช่วิลล่าที่ทันสมัยอย่างที่เย่เทียนคิด
บางที่ฐานทัพขนาดใหญ่เหล่านั้นอาจจะสามารถสร้างวิลล่าที่ทันสมัยได้ แต่ในฐานหลินไห่กลับไม่มีความสามารถทําเช่นนั้นได้ เหตุผลหลักๆราคามันสูงเกินไป
สิ่งเดียวที่ทําให้เย่เทียนรู้สึกปลื้มใจก็คือบ้านหลังนี้มีขนาด 50 ตารางเมตร 5 ห้อง 2 ห้องนั่งเล่น 2 ห้องน้ํา และยังมีลานที่กว้างถึง 400 ตารางเมตร
นี่เป็นวิลล่าขนาดเล็กในฐานหลินไห่ เนื่องจากฐานหลินไห่ไม่ได้ขาดแคลนพื้นที่ เมื่อสร้างฐานทัพก็สร้างฐานขนาดใหญ่ขึ้น แต่ก็มีผู้คนเพียงไม่กี่แสนคน ด้วยคนจํานวนน้อยจึงส่งผลให้มีพื้นที่เหลือเฟือ
หลังจากซื้อวิลล่าแล้ว เย่เทียนก็เริ่มย้ายบ้าน
ของในบ้านเก่านั้นมีไม่มากนัก ใช้เวลาเพียงครึ่งวัน เขาและน้องสาวก็ได้เข้าอยู่ที่วิลล่าบริเวณส่วนกลางของฐานทัพอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตามวิลล่าหลังนี้ยังไม่กลายเป็นของเยเทียนจริงๆ
เมื่อเย่เทียนตายไปหรือไม่สามารถผ่อนส่งได้ วิลล่าหลังนี้จะถูกริบคืน
ดังนั้นเย่เทียนจึงต้องการส่งเงินกู้ก่อนนี้คืนโดยเร็วที่สุด
แต่เงินให้กู้ยืมมา 8 ล้านหยวนไม่ใช่เงินจํานวนน้อยๆ แม้แต่นักรบที่ต้องการหาเงินจํานวนนี้ก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน หากเป็นนักรบทั่วไปคงต้องใช้เวลาสิบปีหรือหลายสิบปีในการชําระคืน
แต่เย่เทียนรู้สึกว่าเขาไม่มีเวลามากขนาดนั้น หากคํานวณจากความเร็วในการล่าสัตว์อสูรของเขา คงใช้เวลาไม่นานนักในการชําระหนี้ก่อนนี้
ครึ่งเดือนต่อมา เย่เทียนก็ออกไปล่าสัตว์ร้ายที่หุบเขาเขียวขจีทุกวัน เขาเลือกสัตว์อสูรขนาดเล็ก หลังจากสังหารมันเขาก็นํามันกลับฐานทันที
เย่เทียนฆ่ามันวันละตัว ซึ่งมันมีมูลค่าเฉลี่ย 200,000 หยวน ในเวลาเพียงครึ่งเดือน เขาก็สามารถทําเงินได้มากกว่า 3 ล้านหยวน
การล่าสัตว์อสูรอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ เป็นสิ่งที่นักรบคนอื่นไม่กล้าทํา ไม่ใช่ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขามีไม่มากพอ แต่มันอันตรายเกินไป
ใครจะกล้ารับประกันได้ว่าพวกเขาจะกลับมาอย่างปลอดภัยในทุกครั้ง? นักรบส่วน ใหญ่ยังมีความสามารถในการต่อสู้ไม่มากนัก เพราะหากพบเข้ากับสัตว์อสูรที่ทรงพลัง พวกเขาก็ไม่มีเวลาพอที่จะหลบหนี
แต่ความเร็วของเยเทียนนั้นรวดเร็วมาก เขาสามารถใช้พรสวรรค์เงาทมิฬเพิ่ม ความเร็วได้พอๆกับนักรบขั้นปลาย นั้นจึงทําให้เย่เทียนกล้าที่จะล่าสัตว์อสูรอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากล่าสัตว์อสูรบ้าคลั่ง เย่เทียนก็เตรียมจะเก็บตัวฝึกฝนสักระยะหนึ่ง เขาพยายามทุ่มเวลาทั้งหมดฝึกฝนเพื่อยกระดับความแข็งแกร่ง
พริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกครึ่งเดือน
ด้วยเลือดสัตว์อสูรที่เพียงพอบวกกับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงความแข็ง แกร่งของเย่เทียนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในตอนนี้เขามีความแข็งแกร่งถึง 2,000 จิน ผิวหนังของเขาได้รับการขัดเกลาอย่างต่อเนื่องซึ่งเพียงพอที่จะป้องกันอาวุธเหล็กกล้าทั่วไปได้แล้ว
เปรียบเทียบกับชีวิตที่แล้ว มันเพียงพอที่จะป้องกันกระสุนได้!
น่าเสียดายที่ไม่มีกระสุนในยุคนี้!
วันนี้เย่เทียนกลับไปยังตลาดมืดอีกครั้ง เขาไม่ได้มาขายวัตถุดิบของสัตว์ร้าย แต่ มาซื้อของบางอย่าง
หอยุทธ์
“ข้าต้องการซื้อแผนที่ของทะเลสาบมรณะ!”
เย่เทียนกล่าว
ทะเลสาบมรณะตั้งอยู่ห่างจากฐานหลินไห่ไปสิบกิโลเมตร มีสัตว์อสูรอยู่มากมาย
เหตุผลที่ทะเลสาบแห่งนี้ถูกเรียกว่าทะเลสาบมรณะก็เพราะภายในทะเลสาบมีสัตว์ อสูรน้ําที่น่ากลัวจํานวนมาก แม้แต่นักรบชั้นยอดก็ยังยากที่จะรับมือ มันจึงได้ชื่อว่าทะเลสาบมรณะ
เหตุผลที่เย่เทียนอยากไปทะเลสาบมรณะก็เพราะเขาสนใจสัตว์อสูรนําชนิดหนึ่ง -แมงกะพรุนประภาคาร!
ก่อนยุคแห่งพรสวรรค์ แมงกะพรุนประภาคารเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในมหาสมุทร แต่เมื่อยุคแห่งพรสวรรค์มาถึง แมงกะพรุนประภาคารก็เปลี่ยนไป มันไม่อาศัยอยู่ใน มหาสมุทรอีกต่อไป และไม่ถูกจํากัดโดยสภาพแวดล้อม ความสามารถในการเอาตัวรอดของมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยปกติแล้วสิ่งมีชีวิตชนิดนี้พบได้ยากในทะเลสาบ แต่ในทะเลสาบมรณะมีพวกมันอยู่ไม่น้อย
อาจกล่าวได้ว่าแมงกะพรุนประภาคารเป็นสิ่งมีชีวิตบนโลก ไม่ได้เป็นสัตว์อสูรที่ ออกมาจากรอยแยกของมิติ แต่แมงกะพรุนประภาคารวิวัฒนาการจนแข็งแกร่งเช่นกัน พวกมันมีขนาดใหญ่ขึ้นหลายเท่า ลําตัวของพวกมันมีขนาดเท่าฝ่ามือของใครบางคน ถึงแม้มันจะดูอ่อนแอ แต่สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ก็ยากที่จะสังหาร แม้แต่นักรบก็ยากที่จะกําจัดแมงกะพรุนประภาคาร ว่ากันว่าหนวดของมันสามารถเจาะทะลุร่างกายของนักรบได้
เว้นเสียแต่ว่าเจอตัวมันก่อน ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะตายโดยไม่รู้ตัวอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อเย่เทียนเห็นข้อมูลของแมงกะพรุนประภาคาร เย่เทียนก็สนใจความสามารถของมันมาก เขาคาดว่าแมงกะพรุนประภาคารจะต้องมีพรสวรรค์ในการรักษาและฟื้นฟูอย่างแน่นอน ถ้าเขาคัดลอกพรสวรรค์ของมันมาได้ ชีวิตของเขาจะปลอดภัยขึ้นอีกหลายระดับ
แม้ว่าการไปทะเลสาบมรณะจะค่อนข้างเสี่ยง แต่การได้มาซึ่งการผจญภัยก็ถือว่าคุ้มค่า!