บทที่ 22 ทะเลสาบมรณะ

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

“แผนที่ของทะเลสาปมรณะมีราคา 10,000 หยวน และ 100,000 หยวน ไม่ทราบว่าท่านลูกค้าต้องการแบบไหน?

พนักงานถามอย่างจริงจัง

“มันต่างกันตรงไหน?”

เยู่เทียนถาม

“10,000 หยวนจะระบุข้อมูลภูมิประเทศและบริเวณสัตว์อสูรคร่าวๆ เท่านั้น แต่แผนที่100,000 หยวนจะละเอียดกว่ามาก มีข้อมูลอธิบายถึงสายพันธุ์และจุดอ่อนของสัตว์อสูรในทะเลสาบมรณะ” พนักงานหญิงสาวตอบ

“งั้นเอาแผนที่ 100,000 หยวน!”

เย่เทียนกล่าว

แค่ 100,000 หยวน ไม่ใช่เรื่องใหญ่สําหรับเขา การรู้จักทะเลสาปมรณะมากขึ้น ย่อมเป็นเรื่องดี มันช่วยให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายต่างๆได้

หลังจากจ่ายเงินไป 100,000 หยวน เย่เทียนก็ได้รับแผนที่ของทะเลสาบมรณะมา เขาซื้อยารักษาอาการบาดเจ็บอีกเล็กน้อย

ของเหลวธาตุบริสุทธิ์สามขวดที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ถือว่าดีกว่าน้ํายารักษาอาการบาดเจ็บ แต่ตอนนี้ใช้ไปแล้วหนึ่งขวด ที่เขามีอยู่ก็น่าจะเพียงพอ แต่น้ํายาที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ เขายังจําเป็นต้องซื้อมัน เพราะหากใช้ของเหลวธาตุบริสุทธิ์ในการรักษาบาดแผลเล็กน้อย มันจะเป็นการสิ้นเปลืองมากเกินไป

หลังจากซื้อของเสร็จ เย่เทียนก็กลับบ้านและกล่าวกําชับเย่หยูก่อนจะออกจากฐานหลินไห่ไป

การเดินทางระยะทาง 10 กิโลเมตรนั้นไม่ง่ายเลย เย่เทียนต้องระมัดระวังตัวอย่างมาก ใช้เวลามากกว่าครึ่งวันกว่าจะมาถึงทะเลสาบมรณะ

ตูม!!!

ไม่ไกลนัก เสียงการต่อสู้ก็ดังขึ้น

“มีคนอยู่!”

เย่เทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ทะเลสาบมรณะเป็นสถานที่ที่อันตรายมาก และมันอยู่ไกลจากฐานหลินไห่ แม้แต่นักรบชั้นยอดก็ไม่จําเป็นต้องออกมาล่าสัตว์อสูรไกลขนาดนี้ ทําไมถึงมีนักรบมาปรากฏตัวที่นี่?

“ต้องระวังไว้ก่อน!”

เย่เทียนคิดกับตัวเอง

นักรบสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในฐานหลินไห่ แต่ในป่าภายนอกก็ใช่ว่าจะไม่มีการต่อสู้ การต่อสู้เพื่อแย่งชิงทรัพยากรเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง

เย่เทียนก้าวเดินอย่างช้าๆ โดยแทบไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา เขาค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าใกล้บริเวณทะเลสาบมรณะ

ทะเลสาบมรณะมีภูมิประเทศที่แปลกประหลาดมันถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา และตรงกลางเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ แต่ภูเขาโดยรอบไม่สูงมากอาจเรียกได้ว่าเป็นเนินเขาขนาดเล็ก

สําหรับเย่เทียนแล้ว ข้อดีเพียงอย่างเดียวคือบนเนินเขามีต้นไม้มากมาย และบริเวณที่มีดสลัวก็มีอยู่ไม่น้อย ดังนั้นจึงเหมาะสําหรับเขาที่จะใช้พรสวรรค์เงาทมิฬ เพื่อซ่อนตัว

ไม่นานเงาร่างของคนกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเยเทียน

เขาซ่อนตัวอยู่ในความมืดและสังเกตอย่างระมัดระวัง

“เป็นเธอ!”

เย่เทียนเห็นร่างอันงดงามของเย่วหลิงที่เขาเจอในหอยุทธ์
เย่วหลิงและคนอื่นๆ กําลังต่อสู้กับสัตว์ร้ายอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบมรณะ ภาพที่เขาเห็นการต่อสู้ของคนกลุ่มนี้รุนแรงอย่างมาก

“จระเข้ยักษ์!”

เย่เทียนตกใจเมื่อเห็นสัตว์อสูรตัวนั้นอย่างชัดเจน

สัตว์อสูรจระเข้ยักษ์อยู่ห่างออกไป 10 เมตร เห็นได้ชัดว่าพวกมันเป็นสัตว์อสูรระ ดับกลาง และยังมีจระเข้ยักษ์จ่าฝูงที่มีขนาดประมาณราว 20 เมตร ทันทีที่พวกมันเคลื่อนไหว แผ่นดินก็สั่นสะเทือน

เย่เทียนมั่นใจ 100% ว่าจ่าฝูงจระเข้ยักษ์ต้องเป็นสัตว์อสูรระดับสูงอย่างแน่นอน มันเทียบเท่ากับนักรบระดับสูง

คนที่กําลังต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับสูงคือชายชราคนหนึ่ง เขาสามารถต่อกรกับมันได้ อย่างสูสี ระดับการบ่มเพาะของชายชราคนนี้จะต้องอยู่ในระดับนักรบผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน

“นักรบชั้นยอด 10 คนและนักรบผู้เชี่ยวชาญ 1 คน นอกจากนี้นักรบทั้งหมดยังคอยปกป้องเย่วหลิง พวกเขาน่าจะเป็นผู้คุ้มกันของเย่วหลิง น่าแปลกที่ทีมที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาทําอะไรที่ทะเลสาบมรณะ? หรือว่าทะเลสาบมรณะจะมีสิ่งที่เย่วหลิงต้องการ? “เย่เทียนครุ่นคิด

เขายังคงซ่อนตัวสังเกตการณ์ต่อไป

ในตอนนั้นเอง ร่างๆหนึ่งก็พุ่งออกมาจากทะเลสาบมรณะ เป็นนักรบวัยกลางคนที่ ยืนอยู่บนผิวน้ําของทะเลสาบ โดยไม่มีวี่แววว่าที่จะจมลงไปอีกทั้งเสื้อผ้าของเขาก็แห้งสนิท

“พรสวรรค์ที่เกี่ยวข้องกับน้ํา?”

เย่เทียนคาดเดา

พรสวรรค์เช่นนี้สะดวกมากเมื่ออยู่ในน้ํา แต่เย่เทียนไม่สนใจที่จะคัดลอก ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการคัดลอกมากที่สุดคือพรสวรรค์ของแมงกะพรุนประภาคาร

“คุณหนู ได้มันมาแล้ว รีบไปกันเถอะ!”

นักรบวัยกลางคนตะโกนอย่างตื่นตระหนก

ความเร็วของนักรบวัยกลางคนนั้นรวดเร็วอย่างมาก เขามาถึงชายฝั่งในพริบตา และรีบมอบของชิ้นหนึ่งให้กับเย่วหลิง

เนื่องจากความเร็วของเขา เย่เทียนที่อยู่ไกลออกไปจึงมองไม่เห็นว่าของชิ้นนั้น มันคืออะไร แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสมบัติที่น่าอัศจรรย์ บางทีนี้อาจจะเป็นเหตุผลที่เย่วหลิงและคนอื่นๆมาที่นี่

ทันใดนั้น

ทะเลสาปมรณะก็ไหลทะลักออกมาจระเข้ตัวใหญ่พุ่งออกมาจากทะเลสาป ร่างกายใหญ่โตของมันเหมือนกับจระเข้สายพันธุ์โบราณ แรงกดดันแผ่ขยายออกไปหลายพันเมตร แม้แต่เย่เทียนยังรู้สึกว่าอากาศโดยรอบเริ่มหนาวเหน็บ

“บ้าเอ๊ย พวกเขาไปยั่วยุสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่? นี่มันเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับสูงจริงๆใช่ไหม?” เย่เทียนกล่าวด้วยความประหลาดใจ

ในที่สุดเขาก็เข้าใจ

จระเข้ยักษ์สัตว์อสูรระดับสูงไม่ใช่จ่าฝูง มันเป็นเพียงหัวหน้าเท่านั้น จระเข้ยักษ์ที่พึ่งปรากฏตัวขึ้นผู้นําที่แท้จริง

“คุณหนู มันเป็นสัตว์อสูรชั้นยอด พวกเราจะหยุดมันไว้ ท่านรีบหนีไปก่อน!”

สีหน้าของชายชราตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก

“ไม่ เราต้องหนีไปด้วยกัน!”

เย่วหลิงกัดฟันและกล่าว

“ไม่ทันแล้ว!” ชายชรากล่าวอย่างหมดหวัง

พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ ที่นี่เป็นเพียงพื้นที่ห่างไกลเท่านั้น แต่กลับมีสัตว์อสูรชั้นยอดปรากฏตัวขึ้น นี่คือสัตว์อสูรที่ทรงพลังที่มีเพียงระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่สามารถต่อกรกับมันได้

เขาเป็นเพียงนักรบผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เขาจะต้านทานสัตว์อสูรตัวนี้ได้อย่างไร?

ยําากกกก!!!

นักรบชั้นยอดคนหนึ่งพุ่งเข้าใส่จระเข้ยักษ์โดยไม่ลังเล และเริ่มโจมตีอย่างบ้าคลั่ง เหมือนกับพร้อมสละชีวิต

ชายชราผลักเย่วหลิงไปให้ไกลที่สุด และรีดเค้นพลังปราณสร้างเกราะป้องกันด่านสุดท้ายเพื่อถ่วงเวลาให้เย่วหลิง

เย่วหลิงหันกลับไปมองและรู้ว่าเธอไม่สามารถช่วยคนอื่นได้ ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรีบหนีไป มิฉะนั้นทุกคนจะตายเปล่าที่นี่

แต่ในขณะที่เย่วหลิงกําลังหนีไป จระเข้ตัวอื่นๆ ไม่ต้องการที่จะปล่อยเหยื่อของมันไป

จระเข้ยักษ์กลุ่มหนึ่งวิ่งไล่ตามเย่วหลิง เย่วหลิงไม่กล้าหยุดสู้ เธอพยายามวิ่งหนี อย่างสุดชีวิต

“เร็วมาก ทรงพลังมากเช่นกัน ระดับการบ่มเพาะของเย่วหลิงน่าจะอยู่ที่จุดสูงสุดของนักรบชั้นยอด สามารถฆ่าเราได้อย่างง่ายดาย” เย่เทียนพึมพํา

ไม่ว่าเย่วหลิงจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ยากที่จะเอาชนะจระเข้ยักษ์กลุ่มนี้ได้ นอกจากนี้ผู้คุ้มกันของเธอก็ไม่สามารถหยุดสัตว์อสูรชั้นยอดได้ ดังนั้นเย่วหลิงจึงพยายามหนีอย่างสุดชีวิต

ตูม!!!

พลังที่แฝงอยู่ในร่างของเย่วหลิงระเบิดออกมา

เธอใช้ทักษะลับบังคับให้บรรลุถึงขั้นนักรบผู้เชี่ยวชาญชั่วคราว

นี่เป็นเพียงการเลื่อนระดับชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเวลาของทักษะนี้หมดลง เธอจะตกอยู่ในสภาวะอ่อนแอ เมื่อถึงเวลานั้นเย่วหลิงจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

“ตาย!”
เย่วหลิงใช้ดาบแทงทะลุศีรษะของจระเข้ยักษ์และเตะมันจนกระเด็นออกไป

แต่จระเข้ยักษ์นั้นมีจํานวนมากเกินไป และไม่นานเธอก็ถูกจระเข้ยักษ์พุ่งชนจนได้รับบาดเจ็บ

ในขณะนี้เธอทําได้เพียงมองหาโอกาสหลบหนีในขณะต่อสู้เท่านั้น

ไม่นานร่างของเย่วหลิงก็เต็มไปด้วยบาดแผล จํานวนจระเข้ยักษ์ที่ไล่ตามมาก็น้อยลงเช่นกัน

ไม่รู้ว่าเธอหนีไปไกลแค่ไหนแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีจระเข้ยักษ์ที่อยู่ข้างหลังเธออีกต่อไป แต่อาการบาดเจ็บของเธอรุนแรงมาก

ทันใดนั้น

สีหน้าของเย่วหลิงเปลี่ยนไป “ไม่ดีแล้ว ทักษะลับหมดเวลาแล้ว! ”

เมื่อเป็นเช่นนั้น ความรู้สึกของเธอก็จมดิ่งลงในความสิ้นหวัง

ที่นี่คือป่า เธอยังไปไม่ถึงเขตปลอดภัย เมื่อเวลาของทักษะลับหมดลง เย่วหลิงรู้ดีว่าเธอจะตกอยู่ในสภาวะอ่อนแอและหมดสติไป เมื่อถึงเวลานั้นไม่ว่าสัตว์ร้ายตัวใดก็สามารถฆ่าเธอได้

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป สติของเธอค่อยๆอ่อนแอลงเรื่อยๆ

ขณะที่เย่วหลิงกําลังหมดสติไป เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นข้างกายเธอ