บทที่ 238 กิจกรรมแข่งกีฬา

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

บทที่ 238 กิจกรรมแข่งกีฬา

หลังจากกลับถึงคอนโด

เมื่อเห็นว่ามันยังไม่ถึงเวลาบ่ายสามเลย หลี่หรงจึงขับรถออกไปดูความเรียบร้อยที่บริษัทของเธอก่อน

ทางด้านของอวี้ฮ่าวหราน เมื่อปรับอารมณ์ให้หายหงุดหงิดได้แล้ว เขาก็เข้าไปในห้องของตัวเองเพื่อเริ่มการบ่มเพาะ

ด้วยวัตถุโบราณสิบกว่าชิ้นที่นำมาจากบ้านของซูหว่านเอ๋อร์ มันจะทำให้ชายหนุ่มสามารถเสริมรากฐานระดับบ่มเพาะปัจจุบันให้มั่นคงได้อย่างสมบูรณ์แถมยังเพิ่มระดับขึ้นไปได้อีกต่างหาก

ที่อีกด้านหนึ่ง

ระหว่างขับรถไปบริษัท หลี่หรงก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อของเธอ

“หรงเอ๋อร์ ลูกช่วยพูดกับฮ่าวหรานให้หน่อยได้ไหม? ตอนนี้ลุงของลูกกำลังลำบากจริง ๆ”

น้ำเสียงของเขาดูอ้อนวอนเป็นอย่างมาก แต่หลี่ชงซานก็รู้ดีว่าคำขอนี้มันค่อนข้างมากเกินไป

แต่เขาเองก็อดไม่ได้เมื่อถูกหลี่อิงไห่ขอความเห็นใจอยู่หลายครั้ง จนเขาต้องโทรหาลูกสาวของตัวเองเพื่ออ้อนวอนแบบนี้

หลี่หรงขมวดคิ้วแน่นทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของพ่อเธอ

“พ่อ! พ่อฟังหนูนะ! อย่าไปเชื่อคำพูดของไอ้แก่เจ้าเล่ห์นั่นให้มาก! และอีกอย่างเรื่องนี้มันไม่มีทางเป็นไปได้ พี่เขยไม่มีทางแบ่งบริษัทให้ใครหน้าไหนแน่นอน พ่อเลิกคิดเรื่องนี้ไปได้เลย!”

หลังจากพูดจบ เธอก็ตัดสายทิ้งทันทีอย่างขุ่นเคือง

พ่อของเธอใจอ่อนกับญาติมากเกินไป!

เมื่อยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหจนเธออยากจะขับรถไปบ้านของหลี่อิงไห่เพื่อด่าเขาอีกรอบ!

หลายวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

วันนี้คือวันที่โรงเรียนอนุบาลจัดกิจกรรมแข่งกีฬา

ในขณะนี้ทั้งอวี้ฮ่าวหรานและหลี่หรงต่างก็มาร่วมกิจกรรมด้วยกันทั้งคู่

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่มีเพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่มาร่วมกิจกรรมของโรงเรียน ผู้ปกครองของเด็กคนอื่น ๆ ก็มาร่วมกิจกรรมเช่นกัน โดยเฉพาะหลิวเทียนอี้ ที่เมื่อเห็นอวี้ฮ่าวหรานก็รีบปรี่เข้ามาทันที

“แหะ ๆ สวัสดีครับท่านประธานอวี้! ไม่นึกเลยว่าวันนี้ท่านประธานก็มาที่นี่ด้วย ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่ดีจริง ๆ วันนี้ลูกสาวของท่านประธานก็จะลงแข่งด้วยใช่ไหม? เดี๋ยวผมจะช่วยเชียร์ลูกสาวของท่านสุดใจเลยครับท่าน!”

คำพูดที่ออกมาจากปากของหลิวเทียนอี้ยังคงมีแต่คำเยินยอและประจบประแจงเช่นเคย

อวี้ฮ่าวหรานเหลือบมองอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะไม่สนใจและเดินจากไปให้ห่าง ๆ แม้แต่หลี่หรงก็ยังรู้สึกอึดอัดใจเมื่ออยู่ใกล้คนผู้นี้ เธอเองก็เดินจากไปตามชายหนุ่มเช่นกัน

ผ่านไปครู่หนึ่งทั้งคู่ก็เดินไปถึงบริเวณที่จัดให้เด็ก ๆ เตรียมตัวก่อนเข้าแข่งขัน

ในเวลานี้ถวนถวนใส่ชุดกีฬาสีดำซึ่งช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น

อย่างไรก็ตามแววตาของเด็กน้อยกลับดูประหม่าอย่างชัดเจน

“ถวนถวน ไม่ต้องกังวล ทำใจให้ผ่อนคลาย พวกเราคอยเป็นกำลังใจให้ลูกอยู่เสมอ”

เด็กน้อยหันไปหาต้นเสียงทันที และเมื่อเห็นว่าเป็นพ่อและหลี่หรงเดินเข้ามา สีหน้าของเด็กน้อยก็ผ่อนคลายขึ้น

“พ่อ แม่หรง! ถวนถวนจะต้องได้ที่หนึ่งให้ได้!”

ถวนถวนพูดขึ้นพร้อมกับชูกำปั้นด้วยสีหน้ามั่นใจ

แต่แล้วในขณะเดียวกัน เด็กผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ ถวนถวนก็พ่นลมหายใจและพูดแทรก

“ฮึ่ม เป็นไปไม่ได้หรอก! เราต่างหากที่จะเป็นที่หนึ่ง! พ่อของเราเป็นโค้ชกีฬาเชียวนะ!”

ถวนถวนหันไปมองที่ด้านข้างทันที และก็พบว่าคนที่เพิ่งพูดคือเสี่ยวไห่

“แต่ว่า…”

เด็กน้อยแสดงสีหน้าประหม่ายิ่งกว่าเดิม เธอรู้เหมือนกันว่าพ่อของเสี่ยวไห่เป็นโค้ชกีฬา และด้วยความเป็นเด็กสิ่งนี้จึงทำให้เธอรู้สึกไม่มั่นใจ

อวี้ฮ่าวหรานที่อยู่ด้านข้างเมื่อเห็นภาพนี้ เขารีบลงไปนั่งยอง ๆ ที่ตรงหน้าถวนถวนและพูดให้กำลังใจอีกครั้ง

“อย่าว่อกแว่กสิลูกพ่อ มั่นใจในตัวเองหน่อย พ่อเชื่อว่าลูกชนะได้!”

อย่างไรก็ตาม เด็กผู้ชายที่ชื่อเสี่ยวไห่ เมื่อได้ยินคำพูดของอวี้ฮ่าวหราน เด็กน้อยคนนี้ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่จนพูดขึ้นอีก “ถวนถวนสู้ผมไม่ได้หรอกคุณลุง! พ่อของผมเป็นโค้ชกีฬาแต่คุณลุงไม่ใช่! ไม่ว่ายังไงถวนถวนก็ไม่มีทางวิ่งชนะผมแน่นอน!”

เสี่ยวไห่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ

อวี้ฮ่าวหรานเหล่มองไปที่เด็กผู้ชายตัวน้อยคนนี้อยู่ชั่วพริบตาก่อนที่จะไม่สนใจอีกต่อไป และหันกลับไปที่ถวนถวนและพูดขึ้นให้กำลังใจอีกครั้ง

เขาไม่ให้ยอมลูกสาวของตัวเองหมดกำลังใจเพราะเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ คนเดียวแน่

“ไม่ต้องกังวลนะถวนถวน ลูกก็น่าจะรู้ว่าพ่อเก่งกว่าทุกคนในโลกนี้ ดังนั้นลูกเองก็จะเก่งกว่าทุกคนเช่นกัน พ่อให้สัญญาตราบใดที่ลูกมีความตั้งใจ ที่หนึ่งก็จะเป็นของลูกแน่นอน!”

“อื้ม! หนูจะพยายาม!”

หลังจากได้ยินประโยคล่าสุดจากปากพ่อของเธอ ความมั่นใจของเด็กน้อยก็เริ่มกลับมา

หลังจากผ่านไปอีกราวครึ่งชั่วโมง การแข่งขันวิ่งก็เริ่มต้นขึ้น

เด็กตัวเล็ก ๆ หลายคนวิ่งแข่งกันอย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนทางด้านของอวี้ฮ่าวหรานและหลี่หรงต่างก็ส่งเสียงให้กำลังใจถวนถวนกันอย่างสุดฤทธิ์

ในขณะนี้ ถวนถวนวิ่งด้วยสีหน้ามุ่งมั่น เด็กน้อยดูเหมือนจะขจัดความว่อกแว่กจากคำพูดของเสี่ยวไห่เมื่อครู่นี้ออกไปหมดเรียบร้อยแล้ว

เด็กน้อยวิ่งอย่างรวดเร็วจนขึ้นมาอยู่เป็นอันดับที่สอง แต่อันดับที่หนึ่งกลับไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเสี่ยวไห่

ด้วยการฝึกซ้อมที่มีระเบียบแบบแผนจากผู้เป็นพ่อที่เป็นโค้ชกีฬามืออาชีพ ดังนั้นเสี่ยวไห่จึงทำได้ดีมากกว่าเด็กคนอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด ถ้าเป็นตามสถานการณ์ปกติเด็กคนอื่น ๆ คงไม่มีทางเทียบกับเสี่ยวไห่ได้แน่นอนในเรื่องของกีฬา

อย่างไรก็ตาม ถวนถวนใช่เด็กธรรมดาทั่วไปซะที่ไหน?

เมื่อเห็นว่าลูกสาวของตัวเองไม่น่าจะไล่ตามเสี่ยวไห่ทันแน่นอน อวี้ฮ่าวหรานผู้ซึ่งดูอยู่และไม่อยากให้ลูกสาวของตัวเองแพ้เด็กที่ปากมากคนนี้เขาก็เริ่มโคจรพลังวิญญาณและปล่อยให้มันไหลไปเข้าสู่ร่างของถวนถวนอย่างรวดเร็ว

ถวนถวนที่กำลังจะหมดกำลังใจเมื่อวิ่งเท่าไหร่ก็วิ่งตามคู่แข่งไม่ทัน แต่เมื่อจู่ ๆ เด็กน้อยรู้สึกได้ว่าตัวเองกลับมีแรงเพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหันและสัมผัสได้ว่าร่างของตัวเองเบาราวกับขนนก การวิ่งให้เร็วขึ้นมากกว่าเดิมมันก็ดูไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เด็กน้อยเริ่มสับฝีเท้าให้ไวขึ้นด้วยความเบิกบานถึงแม้ว่าจะยังคงประหลาดใจอยู่ก็ตาม

ในเวลาแค่ชั่วอึดใจ เด็กน้อยวิ่งไล่ทันเสี่ยวไห่และแซงไปได้อย่างง่ายดาย จนท้ายที่สุดก็เข้าเส้นชัยด้วยอันดับหนึ่งตามที่คาดหวัง!

“เย้! หนูได้ที่หนึ่ง!”

หลังจากวิ่งจบ ถวนถวนก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เด็กน้อยตะโกนอย่างร่าเริงกับสวีรุ่ยและครูอีกหลายคนที่เดินเข้ามาแสดงความยินดีด้วย

“ถวนถวนเก่งจริง ๆ เลย! ครูไม่นึกเลยว่าหนูจะเก่งขนาดนี้!”

“มาเร็วถวนถวน มาจิบน้ำสักหน่อย หนูจะได้หายเหนื่อยเร็วขึ้น!”

“…”

เสี่ยวไห่ที่วิ่งตามเข้ามาที่เส้นชัยทีหลังมองไปที่ถวนถวนด้วยสีหน้างงงวย

เด็กน้อยคนนี้ไม่เข้าใจว่าตัวเองแพ้ได้ยังไง พ่อของเขาเป็นถึงโค้ชกีฬามืออาชีพ และเขาก็ฝึกซ้อมมาหนักมาก เขาไม่ควรจะแพ้ให้กับเด็กผู้หญิงแบบนี้นี่นา!

ด้วยความไม่ยินยอมในหัวใจ เด็กน้อยที่ชื่อเสี่ยวไห่ก็เริ่มเบะปากและร้องไห้โฮ

“อ…อึก….ฮือออ…พ่อจ๋า!”

เมื่อเห็นเช่นนี้ ครูสองสามคนก็รีบวิ่งเข้ามาปลอบเด็กชาย แต่ไม่ว่าจะปลอบยังไงเด็กชายก็ไม่หยุดร้องไห้ง่าย ๆ สักที

เมื่อผ่านไปสักพักการแข่งขันวิ่งก็จบลง

หลังจากประกาศผลการแข่งขันวิ่งเสร็จ การแข่งกระโดดไกลก็เริ่มขึ้นต่อ ซึ่งคราวนี้ก็เช่นเดิม ด้วยการเกื้อหนุนจากพลังวิญญาณที่อวี้ฮ่าวหราน แอบส่งให้ ถวนถวนชนะที่หนึ่งเหมือนเดิมอย่างไร้ปัญหา

แน่นอนว่าผลงานขนาดนี้ของเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มันทำให้พ่อแม่ของเด็กคนอื่น ๆ ประหลาดใจ

“ลูกใครกันเนี่ยเก่งจริง ๆ เมื่อกี้เด็กคนนี้ก็เพิ่งวิ่งแข่งชนะได้ที่หนึ่ง”

“ใช่ เมื่อกี้ฉันนึกว่าเด็กผู้ชายจะชนะแน่นอนแล้วเชียว”

“…”

ทุกคนต่างมองไปที่ถวนถวนด้วยแววตาชื่นชม

หลังจากนั้นเมื่อการแข่งขันกระโดดไกลจบลง ถวนถวนก็วิ่งกลับมาหา อวี้ฮ่าวหรานและหลี่หรงพร้อมกับเหรียญทองสองเหรียญที่แขวนอยู่ที่คอ