“ช่วยอะไรไม่ได้ไร้ประโยชน์จริงๆ!!”
แสนรักด่าบอดี้การ์ดคนนี้อย่างแรง แล้วรีบเดินออกมาจากออฟฟิศทันที
เส้นหมี่เห็นแล้ว ก็รีบตามมาทางด้านหลังด้วยเช่นกัน
แสนรัก : “คุณจะตามผมมาทำไม? ผมให้คุณไสหัวไปคุณไม่ได้ยินเหรอ?”
เส้นหมี่อ้าปากขึ้น : “ไม่ได้ยิน แสนรัก เวลานี้แล้ว พวกเรายังไม่ต้องทะเลาะกันก่อนได้ไหม หาลูกให้เจอก่อนแล้วค่อยว่ากัน ได้ไหม?”
เธอยอมรับว่าเธอกลัว เริ่มยืนอยู่ทางด้านหลังเขาแล้วอ้อนวอนขอร้องด้วยท่าทางที่ดูน่าสงสาร
ไม่มีวิธีอื่น เธอก็เป็นแบบนี้ ลูกชายก็คือจุดอ่อนของเธอ เวลานี้อย่าว่าแต่จะให้เธอยอมรับว่ากลัวเลย แม้แต่จะให้เธอยอมรับความผิด ว่าสิ่งที่เธอพูดเมื่อครู่นี้นั้นล้วนแต่เป็นเรื่องเหลวไหล!
เธอก็จะทำตามอย่างไม่ลังเล
แสนรักจ้องมองเธอ
แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังเลือกลูกชาย จากนั้นทั้งสองคนก็ออกไปด้วยกัน
พนักงานที่รอจะซุบซิบนินทากันอยู่ทางด้านนอก : “………”
นี่มันอะไรกัน?
ท่านประธานกับสาวสวยวัยรุ่นคนนี้ออกมาด้วยกัน? สรุปแล้วเธอมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่?
ไม่ใช่สิ ผู้หญิงคนนี้…..ดูๆแล้วรู้สึกคุ้นหน้าอยู่หรือเปล่า?
ดวงตาคู่นั้น ริมฝีปากที่จืดจางไปแล้วแบบนั้น….
“พระเจ้า นั่นไม่ใช่….ภรรยาคนก่อนเหรอ!!”
“…….”
ทั้งสำนักงานออฟฟิศของท่านประธานแผ่นดินไหวไปแล้ว…..
——
ชินจังและคิวคิวทั้งสองคนแอบหนีออกมาจริงๆ
แต่พวกเขายังไม่ได้ไปไกล ยังคงอยู่ในสนามบิน เนื่องจากว่าพวกเขากำลังปรึกษาเรื่องสำคัญเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งกันอยู่!
“เรารู้สึกว่าแด๊ดดี้กับหม่ามี๊จะต้องมีปัญหากันอย่างแน่นอน”
“อืม”
ชินจังที่นั่งอยู่บนโซฟาในร้านกาแฟ มือเล็กๆนั่นกอดแก้วนมอุ่นๆเอาไว้ เห็นด้วยกับความคิดของน้องชายด้วยความรู้สึกกลัดกลุ้ม
ความจริงแล้วจู่ๆการที่ไปรับพวกเขามาจากโรงเรียนอนุบาลแล้วพามาที่สนามบิน หลังจากนั้นน้องสาวก็ไม่ได้มาด้วยกันอีก ไม่ต้องดูก็รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่ไม่ดีแบบนั้นอีกด้วย
ถ้าอย่างนั้นตอนนี้จะทำอย่างไรดี?
ชินจังรู้สึกกลุ้มใจมาก เนื่องจากว่าเขามีลางสังหรณ์แบบหนึ่ง ครั้งนี้มั่นใจว่าเป็นปัญหาของแด๊ดดี้อีกแล้ว
ถ้าหากเป็นแบบนี้ คิวคิวหมดความอดทนขึ้นมา แล้วไม่ยอมให้หม่ามี๊อยู่กับแด๊ดดี้อีกจะทำยังไง? เขากับน้องสาวก็จะไปอยู่กับหม่ามี๊อีกใช่หรือเปล่า?
มือเล็กๆของชินจังกำทรานส์ฟอร์เมอร์สเอาไว้แน่น
“ชินจัง เรารู้สึกว่าแบบนี้ไม่ใช่วิธีที่ดีเลย พวกเราจะต้องคิดวิธีสั่งสอนแด๊ดดี้กันแล้ว”
และเป็นอย่างที่คิด คิวคิวที่คิดแบบเดียวกันนี้ก็เริ่มเอ่ยพูดขึ้นมาแบบนี้
ใบหน้าเล็กๆของชินจังยิ่งซีดขึ้นแล้ว เขาก้มหน้าลงไม่ได้เอ่ยพูดออกมา
“ชินจัง?”
“….นายว่ามาเถอะ”
ในที่สุดชินจังก็พยักหน้าลงอย่างไม่มีเรี่ยวแรง
คิวคิวจึงนั่งลงตรงข้ามกับเขาแล้ววางแผนขึ้นมาอย่างละเอียด
“นายดูนะ แด๊ดดี้ให้คนพาพวกเรามาส่งที่สนามบิน จะต้องอยากจะพาพวกเราไปสถานที่ใดซักที่นึงอย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้หม่ามี๊เห็น ในเมื่อเป็นแบบนี้พวกเราก็ใช้วิธีหนามยอกต้องเอาหนามบ่งแก้ไขด้วยวิธีเดียวกันเลยสิ”
“อะไรนะ?”
ชินจังเงยหน้าขึ้นมาทันที ดวงตาคู่สวยนั้นจ้องมองน้องชายคนนี้เอาไว้
เขาจับได้อย่างรวดเร็วว่าที่คิวคิวพูดนั้นไม่ใช่เขา แต่คือพวกเขานั่นเอง
คิวคิวไม่ได้สังเกตถึงเรื่องเหล่านี้ ได้ยินพี่ชายถาม ยังคิดว่าเขาไม่เข้าใจ จึงอธิบายขึ้นมาอย่างละเอียด
“ก็ในเมื่อแด๊ดดี้ไม่ให้หม่ามี๊เจอพวกเรา ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ร่วมมือกับหม่ามี๊เสียเลย ไม่ให้แด๊ดดี้หาพวกเราสามคนเจอ อุ๊ย ไม่สิ สี่คนต่างหาก ยังมีน้องอีก พวกเราให้เขาได้ลองกับรสชาติที่หาพวกเราไม่เจอบ้าง นายว่าดีไหม?”
“ดี”
และชินจังก็ตอบรับอย่างสบายใจแล้ว
เนื่องจากว่าเขาเองก็รู้สึกว่าแด๊ดดี้ควรจะรู้ถึงความผิดที่ตัวเองทำบ้างเหมือนกันจริงๆ
สองพี่น้องจึงออกมาจากร้านกาแฟ แล้วเพียงชั่วพริบตาเดียวก็ไปตรงจุดจำหน่ายตั๋วของสนามบินแล้ว
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เส้นหมี่ที่กำลังนั่งอยู่ในรถของแสนรัก ทั้งสองคนกำลังมุ่งตรงไปยังสนามบินอย่างรวดเร็ว และทันใดนั้นเองโทรศัพท์มือถือของก็ได้รับข้อความหนึ่งฉบับ
“คุณสวยใสที่เคารพ ท่านได้ซื้อตั๋วเครื่องบิน 4 ใบไปยังเมืองเคลียร์ เวลาคือ14.35…..”
“อา–”
เส้นหมี่ตกใจเสียจนร้องออกมาเสียงดัง!
แสนรักที่ขับรถอยู่ทางด้านหน้าได้ยินแล้ว ก็ด่าว่าออกมาด้วยใบหน้าที่ดูโมโหขึ้นมาทันที : “คุณร้องอะไรน่ะ? เป็นบ้าเหรอ?”
เส้นหมี่จึงไม่ได้ส่งเสียงออกมาแล้ว
นี่ช่างน่าตกตะลึงเกินไปแล้ว!
ไม่คิดว่าเธอจะจองตั๋วเครื่องบินสี่ใบโดยไม่มีที่มาที่ไปแบบนี้ อีกทั้งสามใบนั้นเป็นตั๋วเด็กอีกด้วย…..
ก้นบึ้งในใจของเส้นหมี่นั้นเกิดความคิดที่เหลวไหลขึ้นมา
และในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ได้รับข้อความฉบับหนึ่งอีกครั้ง และฉบับนี้เป็นข้อความตัวอักษรปกติเท่านั้น
“หม่ามี๊ ได้รับข้อมูลตั๋วเครื่องบินหรือเปล่าครับ? ผมคิวคิวเอง หม่ามี๊ฟังผมนะ เมื่อกี้ผมกับชินจังจองตั๋วเครื่องบินเอาไว้สี่ใบ พวกเรากลับเมืองเคลียร์ ไม่ต้องไปสนใจแด๊ดดี้นั่นแล้ว”
“แค่กแค่กแค่ก….”
เส้นหมี่ได้รับแล้ว ทั้งรู้สึกอึ้งทั้งตกใจ จึงไอขึ้นมาอย่างรุนแรงในทันที
แสนรัก : “………”
เท้าเหยียบเบรก และในที่สุดชายหนุ่มที่มีอารมณ์วุ่นวายใจเนื่องจากลูกชายหายไปนั้น ก็จอดรถลงตรงกลางทาง
“ลงไป!”
“อา?” แววตาของเส้นหมี่แสดงออกถึงท่าทางที่น่าสงสารแบบนั้นขึ้นมาทันที
“อย่าเลยคุณ ฉันไม่ไอแล้ว เมื่อกี้นี้ฉันสำลักลมเย็นๆไปนิดเดียว ฉันรับประกันเลย ฉัน….”
“อย่าให้ผมต้องพูดอีกเป็นครั้งที่สอง!”
คำพูดที่ออกมาทีละคำของผู้ชายคนนี้ เหมือนกับแทบอยากจะกัดเส้นหมี่ให้ตายไปเสียเลย!