แต่ก็เป็นเพียงแค่ช่วงเวลานึงเท่านั้น
เนื่องจากว่าวินาทีต่อมา ผู้หญิงคนนี้ถอดแว่นกันแดดออก หลังจากนั้นก็เอาแว่นตาและกระเป๋าที่อยู่ในมือทุบไปที่เขา!!
“ไม่ให้ฉันขึ้นมาใช่ไหม? รู้สึกว่าฉันน่ารังแกได้ขนาดนั้นเลยเหรอ? แสนรัก ฉันจะบอกคุณให้นะ วันนี้ถ้าหากคุณไม่เอาลูกมาคืนฉัน ฉันจะก่อเรื่องให้ที่นี่เดือดร้อนกันไปทั่วเลย!”
“ปึง–”
รูม่านตาของแสนรักหดลงอย่างรุนแรง
เด้งตัวออกจากเก้าอี้ทันที กระเป๋ากับแว่นกันแดดทุบลงมาบนโต๊ะทำงาน ทำให้คอมพิวเตอร์และยังมีเอกสารพังกระจายทั่วไปหมด
“!!!!”
แสนรักตกตะลึงไปแล้ว!
มองดูคอมพิวเตอร์และเอกสารข้อมูลที่ถูกทุบอยู่ตรงหน้า และยังมีก้อนหินก้อนใหญ่ที่กลิ้งออกมาจากกระเป๋าใบนั้น เขารู้สึกโมโหมากถึงขีดสุดเสียจนไม่สามารถพูดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวในช่วงสองสามวินาทีนั้น
เส้นหมี่ : “………”
แย่แล้ว เธอโหดเกินไปหรือเปล่า? คอมพิวเตอร์ของเขาคงจะมีอะไรอยู่มากมายเลยใช่ไหม? ทุบจนพังแล้วยิ่งจะไม่มีช่องทางที่เหลืออยู่ที่จะสามารถปรึกษากันได้แล้วสิ?
อา รู้ตั้งแต่แรกควรจะเอาก้อนหินก้อนเล็กกว่านี้มาเสียหน่อย
เส้นหมี่รู้สึกมาเสียใจภายหลังอยู่เล็กน้อย
และเวลานี้เอง ในที่สุดก็มีเสียงตวาดขึ้นด้วยความโมโหดังขึ้นในออฟฟิศนี้ : “เส้นหมี่!! คุณแม่งอยากตายใช่ไหม? อยากจะตายเดี๋ยวผมจะทำให้คุณสมหวังเอง!”
เส้นหมี่ก้าวถอยหลังไปก้าวใหญ่ในทันที
“นี่……นี่เป็นเพราะคุณบังคับฉันต่างหาก ใครให้คุณมาแย่งลูกชายของฉันไป และยังจะส่งไปที่มาเลเซียอีก คุณจะทำอะไร? ต่อไปจะให้ฉันไม่ต้องเจอลูกอีกใช่ไหม? แสนรักฉันจะบอกคุณให้นะ ถ้าหากคุณทำแบบนี้ต่อไปอีก เรื่องที่ยิ่งบ้าระห่ำกว่านี้ฉันก็สามารถทำออกมาได้!”
เส้นหมี่หาความมั่นใจกลับมา แล้วเริ่มพยายามสู้ด้วยเหตุผลทั้งหมดของตัวเอง
อีกทั้ง เธอเองก็เริ่มเตือนผู้ชายคนนี้เอาไว้ด้วย
แสนรักได้ยินแล้วก็ยิ่งโกรธจัด : “คุณยังกล้าขู่ผมอีกเหรอ? ผมจะบอกคุณให้นะ นั่นคือเลือดเนื้อเชื้อสายของผม ผมอยากจะส่งพวกเขาไปที่ไหนก็ได้!”
“แต่นั่นฉันเป็นคนคลอดออกมา ฉันเป็นแม่ของเขา!”
“คุณไม่มีสิทธิที่จะมาเป็นแม่เขาแล้ว เส้นหมี่ เริ่มตั้งแต่ที่คุณไปคบชู้ข้างนอกอย่างไม่รู้จักอับอาย คุณก็ไม่คู่ควรกับการเป็นแม่ของพวกเขาแล้ว ไม่คู่ควรแม้แต่จะมาแตะต้องเลยด้วยซ้ำ!”
คิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายแล้วผู้ชายคนนี้จะด่าออกมาแบบนี้
เส้นหมี่อยากจะหาก้อนหินมาอีกแล้ว
ครั้งนี้ เธอจะไม่ทุบไปที่คอมพิวเตอร์เขาแล้ว แต่จะทุบไปที่หัวของเขาเลย!
ทุบเขาให้ยับเยินหลังจากนั้นก็โยนเข้าไปในเตาเผาเพื่อสร้างขึ้นมาใหม่ นี่มันอะไรกัน?!
“แสนรัก คุณพูดมาให้ชัดเจนนะ ฉันไปคบผู้ชายคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่? นั่นเป็นเพียงแค่คนอื่นทนเห็นการกระทำของพวกคุณต่อไปไม่ไหวถึงได้ตั้งใจช่วยฉันเอาไว้ คุณคิดว่าฉันเหมือนคุณที่หิวกระหายจนถึงขนาดที่ฉันตั้งท้องอยู่ก็ยังพาผู้หญิงกลับมาบ้าน?”
“………”
“แล้วอีกอย่าง ต่อให้ฉันจะหาแฟน แล้วยังไงล่ะ? ผิดกฎหมายเหรอคะ? พวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว คุณให้ผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้นมาเป็นภรรยาของประธานแล้ว? ทำไมพอมาถึงฉัน ก็กลายเป็นไปคบชู้อยู่ข้างนอกแบบนี้ล่ะ? คุณไม่รู้สึกว่านี่มันน่าขำมากหรอกเหรอ?”
ประโยคสุดท้ายนี้ ไม่ต้องรุนแรงเกินไปเลยจริงๆ!
แทบจะในทันที ที่ผู้ชายที่กำลังโมโหอยู่คนนี้ดูเหมือนกับถูกตบหน้าหนึ่งที จนสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที
จัดการกับผู้ชายเลวๆแบบนี้ ควรจะต้องเป็นแบบนี้จริงๆ มิเช่นนั้นแล้ว เขาก็คงจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร และยิ่งจะจำไม่ได้ด้วยว่าเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเธอแล้ว
บรรยากาศในออฟฟิศนั้นเงียบลงมาในที่สุด
และในเวลานี้ ในออฟฟิศที่เต็มไปด้วยควันระเบิดนี้ เสียงทั้งหมดก็หยุดลงเป็นการชั่วคราว เงียบเสียจนแม้กระทั่งเข็มเล่มหนึ่งหล่นลงบนพื้นนั้นก็สามารถได้ยิน ได้ยินแล้วทำให้คนรู้สึกกลัว
เส้นหมี่อดที่จะกำนิ้วมือของตัวเองเอาไว้แน่นไม่ได้
“ไสหัวไปซะ!”
“อะไรนะ?”
เส้นหมี่เงยหน้าขึ้นมามองทันที สงสัยว่าตัวเองได้ยินผิดหรือเปล่า?
แต่เห็นได้ชัดว่าเธอได้ยินไม่ผิด
เป็นเพราะเวลานี้ ผู้ชายคนนี้ได้กดลำโพงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะ : “เรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”
การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบหนึ่ง ทั้งๆที่เมื่อครู่นี้ยังสามารถเห็นถึงความโมโห ดุและแม้กระทั่งความรู้สึกที่ดูอาฆาตแค้น
แต่ตอนนี้ ไม่รู้ทำไม? หลังจากที่ถูกเส้นหมี่ด่าแบบนี้แล้ว เขาที่กลับมาเป็นปกติ นอกจากความเย็นชาแล้ว ใบหน้าหล่อเหลานั่นก็มองไม่เห็นอย่างอื่นอีกเลย
เส้นหมี่ : “……..”
รู้สึกกระวนกระวายใจมาก และกำลังจะเข้าไปต่อว่าต่อขานกับผู้ชายคนนี้
แต่เวลานี้ จู่ๆก็มีคนที่พุ่งเข้ามาจากทางด้านนอก : “แย่แล้วครับ ท่านประธาน คุณชายสองคนหายไปจากที่สนามบินแล้วครับ!”
“นายว่าอะไรนะ?!!”
คำพูดนี้เมื่อพูดออกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเส้นหมี่หรือแสนรักที่อยู่ในออฟฟิศนั้นก็ล้วนแต่มองไปยังบุคคลนี้ในทันที อาการที่แสดงออกมานั้นไม่มีความสงบนิ่งอีกแล้ว
คนๆนี้ เป็นบอดี้การ์ดที่แสนรักให้ไปส่งลูกชายทั้งสองคนขึ้นเครื่องเมื่อไม่นานนี้
“ขอโทษครับท่านประธาน พวกเราไม่ได้ดูคุณชายทั้งสองคนให้ดีเอง แต่…..แต่พวกเขาฉลาดมาก หลังจากที่ถึงสนามบินแล้ว พวกเราก็ถูก….ถูกพวกเขาสลัดทิ้งไปเลยครับ”
บอดี้การ์ดแทบจะร้องไห้ออกมาจริงๆแล้ว
ไม่มีวิธีอื่นแล้ว เจ้านายตัวน้อยของพวกเขาทั้งสองคน ดูจะไม่ใช่มนุษย์อยู่จริงๆ
เดิมทีแสนรักตัดสินใจพาพวกเขาส่งตัวไปที่มาเลเซีย เนื่องจากรู้ว่าลูกๆไม่ใช่คนที่หลอกง่ายแบบนั้น จึงได้ส่งบอดี้การ์ดไปส่งถึงเจ็ดแปดคน
แต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ถึงสนามบินแล้ว เด็กสองคนนี้ก็อ้างว่าจะขอไปห้องน้ำ ให้บอดี้การ์ดพวกนี้แยกกันไป จากนั้นอีกคนหนึ่งก็ใช้แท็บเล็ต แล้วก็แฮกโทรศัพท์มือถือของพวกเขาทันที….
แสนรักและเส้นหมี่ไม่ได้เห็นท่าทางที่ดูวุ่นวายกันของพวกเขาตอนที่อยู่ในโถงผู้โดยสารขาออกจริงๆ
นั่นเป็นความทุกข์ยากลำบากเป็นอย่างมาก!