ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 73

ฮองเฮายิ้มเจ้าเล่ห์ “ขอให้ลงโทษ? เพราะเรื่องการถอนหมั้นใช่หรือไม่?”

มหาเสนาบดีเซี่ยกล่าวอย่างหน้าเจื่อน ๆ “กราบทูลฮองเฮา กระหม่อมมาขอรับโทษเพราะเรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมควบคุมภรรยาไม่ได้ สั่งสอนบุตรตรีไม่ดี หักหน้าขององค์จักรพรรดิเหลียง กระหม่อมสมควรตายเป็นหมื่น ๆ ครั้ง ”

“ควมคุมภรรยาไม่ได้?” นี่เอาจากไหนมาพูด? เรื่องนี้เกี่ยวข้องอันใดกับหยวนซื่อ?” ฮองเฮามองเขาอย่างสงสัย

เดิมทีฮองเฮาคิดว่าเขาจะโยนความผิดทั้งหมดให้เซี่ยจื่ออาน คิดไม่ถึงเลยว่าจะดึงหยวนซื่อเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ที่ซุนกงกงเพิ่งจะบอกเมื่อสักครู่นี้ นางยังคิดว่าซุนกงกงได้ยินมาผิด ไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้จริง ๆ”

มหาเสนาบดีเซี่ยกล่าว “ฮองเฮาโปรดให้กระหม่อมชี้แจง เรื่องการถอนหมั้น เป็นการแก้แค้นส่วนตัวของหยวนซื่อ โดยที่นางไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา จึงนำมาซึ่งหายนะร้ายแรง กระหม่อมไม่ดีเองที่หลับหูหลับตาปล่อยให้นางกระทำการโดยไม่สนกฏเกณฑ์ใด ๆ ฮองเฮาได้โปรดลงโทษกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“เรื่องนี้ช่างแปลกเสียจริง เจ้าเล่ามาให้ข้าฟังหน่อย” ฮองเฮาเบิกตากว้างกล่าว

พระสนมเหมยเล่าสิ่งที่เพิ่งบอกกับหวงไท่โฮ่วไปอีกรอบ กล่าวเหมือนเดิมไม่มีคำไหนที่แตกต่างออกไปเลย

ฮองเฮาที่ได้ฟังก็ยิ้มแล้วยิ้มอีก มองไปที่หวงไท่โฮ่ว “เสด็จแม่ก็ได้ฟังเรื่องนี้แล้ว ท่านคิดเห็นเช่นไร?”

หวงไท่โฮ่วกล่าวออกไปโดยไม่ลังเล “ถ้าหยวนซื่อกระทำการน่ารังเกียจเช่นนั้นจริง ก็ต้องลงโทษนางอยู่แล้ว”

มหาเสนาบดีเซี่ยและหลิงหลงฟู่หรินที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็มองหน้ากัน และก้มหน้าลงทันที

ฮองเฮาตรัสถามหวงไท่โฮ่วอีกครั้ง “เสด็จแม่รู้เรื่องนี้ลึกซึ้งมากน้อยเพียงใดเพคะ?”

หวงไท่โฮ่วมึนงงเล็กน้อย ก่อนที่จะเข้าใจว่าฮองเฮาหมายถึงอะไร

ข่าวที่แพร่เข้ามาในวังวันนั้นไม่ใช่ข่าวลือจากภายนอก แต่เป็นคนที่ไปรับตัวเจ้าสาวที่กลับมารายงาน หรือจะพูดอีกอย่างนึงก็คือ เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนั้น อย่างน้อยจดหมายหย่าและการใส่ร้ายจื่ออานก็ออกมาจากประตูของจวนมหาเสนาบดี ที่ถามคำตอบคำ พิจารณาคำพูดอย่างรอบคอบ เพราะว่าวันนั้นมหาเสนาบดีเซี่ยไม่สามารถโต้แย้งได้ทั้งหมด

ดังนั้นก่อนหน้านี้นางก็คิดว่ามหาเสนาบดีเซี่ยโหดเหี้ยมไร้ความเมตตา ทารุณบุตรตรีที่เกิดจากภรรยาเอก

เพียงแต่ว่า วันนี้พวกเขาดึงหยวนซื่อที่นางไม่ชอบเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นพระสนมเหมยอีกแล้วที่ให้การเป็นพยานด้วยตนเอง จึงทำให้นางต้องปรับเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเรื่องราวทั้งหมดนี้ใหม่

แท้ที่จริงแล้วหยวนซื่อเป็นคนแบบไหนกันแน่นะ? เป็นคนที่เลวร้ายอย่างที่พระสนมเหมยและมหาเสนาบดีเซี่ยกล่าวหรือไม่?

หวงไท่โฮ่วสงวนท่าทีในทันใด และนึกถึงคำพูดและการกระทำของเซี่ยจื่ออานได้ ถ้ามารดาของนางมีพิษสงเช่นนั้น แล้วจะสอนบุตรตรีให้ดีแบบนี้ได้อย่างไร?

เมื่อคิดถึงจุดนี้ หวงไท่โฮ่วก็หลับตาลง กล่าวอย่างเฉยชา “ข้ารู้สึกอ่อนล้าแล้ว เรื่องนี้ยกให้ฮองเฮาจัดการเถิด ข้านั่งฟังอยู่ข้าง ๆ ก็พอแล้ว”

ฮองเฮายืนขึ้น โค้งคำนับกล่าว “เพคะ!”

นางนั่งลงอีกครั้ง ดวงตาอันเย็นชาของนางกวาดมองไปที่หน้าของพระสนมเหมย “สนมเหมย เจ้าอยู่ในวังหลังมาโดยตลอด แล้วเจ้าไปรู้เรื่องในจวนมหาเสนาบดีได้อย่างไร? และรู้ได้เช่นไรว่าหยวนซื่อมีพิษสงเช่นนี้?”

พระสนมเหมยตกใจ ใบหน้าแข็งทื่อเล็กน้อย “เรื่องนี้…”

“หืม?” นัยน์ตาของฮองเฮาเย็นชาขึ้น กดดันให้ตอบ

พระสนมเหมยกล่าวว่า “เรื่องเป็นเช่นนี้ ป้าของหม่อมฉันคือเหล่าฟูเหรินที่อยู่ในจวนมหาเสนาบดีแน่นอนว่า…”