ตอนที่ 273 ฆ่าจักรพรรดิปีศาจสีชาด

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

แหวนมิติของอันหลินกะพริบ หุ่นที่เปล่งประกายโลหะสีเงินปรากฏให้เห็น

เป่ยเหลียนมองหุ่นสองตัวที่อยู่ตรงหน้า พูดอย่างฉงนใจว่า “นี่น่ะหรือไพ่ตายของเจ้า”

อันหลินพยักหน้า “กันดั้มสองตัวนี้ล้วนมีความสามารถไม่ด้อยไปกว่าแปลงจิตขั้นต้น…มองจากกลิ่นอายที่ปะทุมาแต่ไกล ศัตรูอยู่ในระดับแปลงจิตขั้นต้นสามตัว ขั้นกลางสองตัว”

“จักรพรรดิเทพวายุกับจักรพรรดิว่านฉงกลางอากาศก็คือปีศาจแปลงจิตขั้นกลาง เจ้าถ่วงเวลาปีศาจสองตัวนั้นไว้ สามตัวที่เหลือยกให้พวกเรา พวกเราจะจัดการสามตัวนี้ให้เร็วที่สุด จากนั้นค่อยมาช่วยเจ้า”

เป่ยเหลียนมองอันหลิน ดวงตาฉายความไม่เชื่อ

กองทัพปีศาจทะเลกรูกันมาแต่ไกลอีกครั้ง แตรรบเริ่มดังไปทั่วเมืองริ้วคลื่น

มนุษย์หัววัวที่มีเขาสีแดงตัวหนึ่งย่ำคลื่นสีเลือด เหาะเหินเดินอากาศมา

วาฬที่มีขนาดหลายสิบจั้งถูกหมอกดำแบกลอยกลางอากาศ เหาะมาทางเมืองริ้วคลื่นช้าๆ นัยน์ตาเปล่งแสงสีม่วง แฝงพลังดึงดูดใจคน

ปะการังที่ถูกสีเขียวปกคลุมทั้งตัวเดินมา อสูรกายทะเลที่มีสองมือดุจเคียว หนึ่งก้าวไกลสิบจั้ง ทุกหนแห่งที่ผ่าน แผ่นดินถูกกัดกร่อนจนละลาย กลิ่นอายความตายคละคลุ้งไปทั่ว

“จักรพรรดิปีศาจสีชาด วาฬจอมอหังการ เทพมรณะปะการัง…” ชื่อของปีศาจทะเลระดับจักรพรรดิที่เลื่องชื่อในทะเลบูรพาออกมาจากของเป่ยเหลียน

ราชามุกดาที่รีบปรี่มาเมื่อได้ยินแตรรบ ก็ตกใจจนล้มกองตั้งแต่หัวเมืองแล้ว ใบหน้าซีดเผือด พึมพำว่า “ทำไมถึงมีปีศาจทะเลจักรพรรดิมากันมากมายปานนี้ นี่จะทำลายล้างเมืองริ้วคลื่นของข้าหรือ!”

ไม่ใช่แค่ราชามุกดาจนตกตะลึง ทหารไข่มุกที่รักษาเมืองบนกำแพงเมืองทั้งหมดก็ตกใจเช่นกัน ปกติแค่จักรพรรดิปีศาจตัวเดียวก็ทำลายล้างเมืองใหญ่ได้หลายเมืองแล้ว ตอนนี้มีจักรพรรดิปีศาจมาเยือนเมืองริ้วคลื่นถึงห้าตัว จะทำอะไรกันแน่

“จับตัวชาวไข่มุกหนึ่งหมื่นตัวมาสังเวย ที่เหลือสังหารให้เหี้ยน!”

จักรพรรดิปีศาจสีชาดยืนตระหง่านกลางอากาศ คลื่นสีเลือดห้อมล้อม เสียงดุดันกระจายไปทั่วฟ้าดิน

นี่ไม่ใช่การประกาศสงคราม แต่เป็นการประกาศผลลัพธ์

ครืน…

กองทัพปีศาจทะเลเคลื่อนพลแล้ว เสียงกู่ร้องดังสนั่นสะเทือนเมฆา

ขณะเดียวกัน จักรพรรดิปีศาจห้าตัวก็เคลื่อนไหวแล้วเช่นกัน สีหน้าของพวกมันเฉยชา ราวกับเป็นเพียงการย่ำมดตัวหนึ่งเท่านั้น

อินทรีสีเงินพุ่งใส่กำแพงมือพร้อมกับอัสนีสีขาวประหนึ่งกระบี่แหวกฟ้า

“อย่าตายละ” นัยน์ตาของเป่ยเหลียนกลายเป็นสีทอง เหลือบมองอันหลินแวบหนึ่ง ระเบิดสายฟ้านับพันหมื่นเส้น กระโจนใส่ปีศาจเทพวายุปานดาวตกที่เจิดจ้าที่สุด ประสานงากัน

ตูม!

การพุ่งชนของอัสนีแห่งการทำลายล้างสองชนิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ส่องให้รัตติกาลสว่างโร่ประดุจเป็นทิวา คลื่นพลังที่ก่อตัวจากพลังงานพุ่งขึ้นนับพันเมตร

จากนั้น ปีศาจเทพวายุก็ถูกธิดามังกรน้อยชนจนถอยร่นออกไปหลายร้อยจั้ง ท่ามกลางสีหน้าที่ตกตะลึงของจักรพรรดิปีศาจอีกสี่ตนที่เหลือ

“คนจากวังมังกร!” จักรพรรดิปีศาจสีชาดได้สติทันที

“ไม่เป็นไร มีแค่นางคนเดียว พวกเราล้อมสังหารนาง!” วาฬจอมอหังการพลิกตัว นัยน์ตาสีม่วงวาวโรจน์

ทว่าในตอนนั้นเอง กันดั้มสีเงินตัวหนึ่งก็ลอยลงมาจากฟ้า ปล่อยหมัดซัดร่างของวาฬขนาดหลายสิบจั้ง

มองไกลๆ เหมือนแสงสีน้ำเงินกระแทกบนร่างดำทะมึน จากนั้นก็ทำให้ร่างมหึมายุบลงไป…

วาฬจอมอหังการกรีดร้อง ตกลงจากท้องนภา

อากัปกิริยาของเทพมรณะปะการังเปลี่ยนไป กำลังจะเข้าไปช่วยเหลือ ก็มีร่างสีเงินพุ่งตรงเข้ามา ดาบเลเซอร์ในมือว่องไวดุจสายฟ้าฟาด วาดวงโคจรสีน้ำเงิน

“มีกองหนุนด้วยหรือ!” มันเบี่ยงตัวหลบดาบ หมอกสีเขียวหนาแน่นแผ่ออกมาในพริบตา มันเป็นหมอกพิษที่กัดกร่อนศาสตราวุธให้พินาศสิ้นได้ แผ่คลุมกันดั้มสีเงิน

กันดั้มที่ถูกหมอกพิษปกคลุมตวัดดาบเลเซอร์ในมืออย่างรวดเร็ว บีบคั้นให้ราชาปะการังถอยกรูด และชุดเกราะที่แสงวาวของโลหะเรียบลื่นดุจกระจก หมอกพิษทำอะไรมันไม่ได้เลยแม้แต่นิด

“เห็นผีแล้ว หุ่นพวกนี้มาจากไหน” หัวใจของจักรพรรดิปีศาจสีชาดบีบรัด เริ่มกวาดสายตามองรอบสมรภูมิรบ

จากนั้น มันก็เห็นชายหนุ่มที่ขี่สุนัขสีขาวกระโจนมาทางตน ข้างกายมีราชันวานรที่ถูกเปลวไฟสีดำปกคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า…

เหนือกำแพงเมืองริ้วคลื่น เหล่าทหารก็เริ่มต่อต้านกองทัพปีศาจทะเลอย่างฮึกเหิมด้วยเช่นกัน

ชั่วขณะที่พลทหารสิ้นหวัง พวกอันหลินกับธิดามังกรน้อยลงมืออย่างแกร่งกร้าว ขัดขวางจักรพรรดิปีศาจที่ไร้เทียมทานทั้งห้า มันปลุกเร้าขวัญและกำลังใจได้อย่างไม่ต้องสงสัย

“ทุกคนแข็งใจไว้! สงครามนี้พวกเรายังไม่แพ้!” ราชามุกดาตวัดกระบี่ตะโกนลั่น

ค่ายกลพิทักษ์เมืองถูกกระตุ้น คาถานับหมื่นพุ่งออกไปพร้อมเพรียงกัน ระเบิดพสุธาจนเกิดเป็นหลุมเป็นแอ่ง ปีศาจทะเลนับไม่ถ้วนถูกแรงระเบิดของพลังงานฉีกเป็นชิ้นๆ แต่จำนวนของปีศาจทะเลมีมากเหลือเกิน กำแพงเมืองก็สั่นสะเทือนอย่างแรงภายใต้การจู่โจมของปีศาจทะเล เห็นได้ชัดว่าต้านได้ไม่นานแล้ว

กลางอากาศ เป่ยเหลียนที่กำลังประมือกับปีศาจเทพวายุกับจักรพรรดิปีศาจว่านฉงพร้อมกันกำลังตกที่นั่งลำบาก

ทั้งสองเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแปลงจิตขั้นกลางอาวุโส แต่นางเพิ่งบรรลุระดับแปลงจิตขั้นกลาง แม้จะมีพลังแห่งสายเลือดที่ยิ่งใหญ่คอยหนุน แต่ก็ถูกรุมโจมตีจนรับมือไม่หวาดไม่ไหวแล้ว สู้จักรพรรดิปีศาจสองตัวนี้ไม่ได้เลย

ต้องใช้เคล็ดวิชานั้นแล้วหรือ

เคล็ดวิชาที่ต้องสละความบริสุทธิ์ของสายเลือดเพื่อเพิ่มพลังชั่วคราว เมื่อใช้มัน นับจากนี้นางจะหมดหวังกับการบรรลุระดับหวนสู่ความว่างเปล่า…

แต่หากไม่ใช้เคล็ดวิชาเข้าช่วยละก็ พวกอันหลินอาจตายได้

เป่ยเหลียนหันหน้ามองฝั่งอันหลินด้วยความกังวลอย่างยิ่ง

จากนั้นนางก็เห็นภาพที่ศีรษะของจักรพรรดิปีศาจสีชาดลอยลิ่ว…

ชายหนุ่มที่มีปีกสีขาว แสงกระบี่ดุจสายลม เหาะเหินกลางนภา นัยน์ตาสีขาวประดุจมองทุกอย่างทะลุปรุโปร่งปานเซียนกระบี่เหินเวหา

“นี่มัน…อันหลินหรือ เขาสังหารจักรพรรดิปีศาจสีชาดแล้วจริงๆ หรือ!”

“แต่เขามีพลังยุทธ์เพียงหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นกลางเท่านั้น…ทำได้อย่างไรกัน…”

เป่ยเหลียนเบิกตากว้าง ใบหน้างามสะคราญล่มแว่นแคว้นมีแต่ความตกใจ จ้องอันหลินไม่วางตา

จักรพรรดิปีศาจอีกสี่ตัวที่เหลือสัมผัสได้ว่าพลังของจักรพรรดิปีศาจสีชาดมลายหายไป ก็สะดุ้งโหยงเช่นกัน เมื่อพวกมันพบว่าผู้ที่สังหารจักรพรรดิปีศาจสีชาดเป็นมนุษย์ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณแล้ว ก็อึ้งจนพูดไม่ออก

“ล้อกันเล่นนา ปีศาจสีชาดถูกนักพรตมนุษย์ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณสังหารงั้นหรือ แม้จะมีสุนัขยักษ์กับราชันวานรคอยช่วย ก็ไม่น่าปราชัยรวดเร็วปานนี้!” ปีศาจเทพวายุเกิดความหวาดหวั่นขึ้นในใจอย่างอดไม่ได้

“นักพรตมนุษย์คนนั้นเป็นกุญแจสำคัญ แก้แค้น!” จักรพรรดิปีศาจว่านฉงพุ่งใส่อันหลิน สัตว์ประหลาดมีปีกนับร้อยตัวพุ่งออกจากดักแด้ยักษ์ โถมใส่อันหลิน

ปีศาจเทพวายุกางปีกสีเงินออก เรียกสายฟ้ามวลมหาศาลมาแผ่คลุมตัว แหวกอากาศพุ่งใส่อันหลินด้วยความเร็วเหนือความเร็วเสียง

เป่ยเหลียนกัดฟัน ขวางหน้าอันหลินชั่ววินาทีที่สายฟ้ากะพริบแปลบปลาบ

มืองามของนางแปรเปลี่ยนปานเล่นผูกเชือกแก้เชือก ปล่อยอินครั้งแล้วครั้งเล่า มังกรอัสนีสีน้ำเงินเก้าตัวพุ่งทะยานขึ้นฟ้า ก่อตัวเป็นค่ายกลมังกรขด พยายามขัดขวางการจู่โจมของจักรพรรดิปีศาจทั้งสองสุดชีวิต

อันหลินที่เพิ่งสังหารจักรพรรดิปีศาจ สมองส่งเสียงดังติ้งโดยพลัน

‘ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ภารกิจสำเร็จ!’

จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าพันธนาการบางอย่างภายในร่างกายถูกทำลายอีกครา

“เจ้าอัปลักษณ์ ต้าไป๋ รีบคุ้มครองข้า ข้าจะทะลวงขั้นแล้ว!”

อันหลินตะโกนลั่น เหาะไปทางกำแพงเมืองอย่างร้อนรนแล้วทำสมาธิ

“พี่อัน อย่าล้อเล่น เจ้าเพิ่งทะลวงไปไม่นานไม่ใช่หรือ โฮ่ง!” ต้าไป๋เหาะไปอยู่ข้างอันหลิน เบิกตากลมโตจนกว้าง

แต่ทว่า สิ่งที่ตอบมันเป็นพลังปราณที่ซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง รวมถึงกระแสพลังปราณที่แผ่คลุมหลายร้อยจั้ง…

ต้าไป๋ “…”

เจ้าอัปลักษณ์แคะจมูก “พี่รอง ไม่ว่าทฤษฎีใดในวงการบำเพ็ญเซียนก็ตาม อย่าเอามาใช้กับพี่อัน”

ต้าไป๋พยักหน้าเห็นด้วย “ข้าผิดไปแล้ว”

มีคนจะทะลวงขั้นหรือ สัมผัสได้ว่าพลังปราณฟ้าดินเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง จักรพรรดิปีศาจสี่ตนรู้สึกได้

พวกมันเบนสายตามองอันหลินบนกำแพงเมือง หนังตากระตุก เขาอีกแล้วหรือ!

นี่เป็นการฉลองด้วยการทะลวงขั้นหลังสังหารจักรพรรดิปีศาจสีชาดของพวกมันงั้นหรือ

มุมปากของเป่ยเหลียนก็กระตุกยิกๆ นางคาดเดานักพรตมนุษย์คนนี้ไม่ออกแล้ว แอบตีตรา ‘วิเศษ’ ให้นักพรตคนนี้ในใจเงียบๆ