ตอนที่ 1314 ไป๋ซู่ (9)

 

 

ตอนอวิ๋นลั่วเฟิงอยู่ข้างเขา เขาก็ไม่กล้าแสดงอาการเจ็บปวดออกไปไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน เด็กสาวมีการรับรู้ที่ไวมาก แค่สัญญาณเพียงเล็กน้อย นางก็สังเกตเห็น

 

 

“นายท่าน” ทันใดนั้นชายชุดน้ำเงินก็ร่วงลงมาจากฟ้าและหยุดอยู่ตรงหน้า เขาก้มคำนับอย่างเคารพ “หลินฉงกลับไปรับการลงโทษแล้ว นายท่านมีคำสั่งอื่นอีกหรือไม่”

 

 

อวิ๋นเซียวยืดตัวขึ้นมือเขากุมหน้าอกแน่นดวงตาเป็นประกายเย็นชา

 

 

“เมืองหลวง!”

 

 

เมืองหลวง? ชายหนุ่มชุดน้ำเงินหยุด นายท่านกำลังจะไปเมืองหลวงงั้นหรือ ที่นั่นมียอดฝีมือมากมายรวมตัวกัน

 

 

“หัวใจแห่งมันตาพบได้แค่ในเมืองหลวงเท่านั้น”

 

 

หัวใจแห่งมันตา? ชายชุดน้ำเงินถามอย่างระมัดระวัง “นายท่าน ข้าขอเรียนถาม แก่นแท้แห่งปัญญาคือสิ่งใดขอรับ”

 

 

“หัวใจแห่งมันตาจะทำให้ข้ามีชีวิตอยู่ได้สามวัน!”

 

 

เสียงของชายหนุ่มทั้งเยือกเย็นและลึกซึ้งทำให้ชายชุดน้ำเงินชะงัก ทำให้นายท่านมีชีวิตอยู่ได้สามวันงั้นหรือ หมายความว่าอย่างไร

 

 

“ในเมื่อเขาฝังคำสาปเลือดไว้ในหัวใจข้า ข้าจึงวางแผนจะควักหัวใจแล้วเอาแก่นเลือดเขาออกมาซะ” เสียงทรงอำนาจของเขาดังก้องไปทั่วทั้งผืนป่าเป็นเวลานาน…

 

 

ชายชุดนำเงินงุนงง

 

 

หรือนายท่านหมายความว่าหัวใจแห่งมันตาจะทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้สามวันไม่ว่าจะบาดเจ็บร้ายแรงแค่ไหน แม้เขาจะควักหัวใจออกมาเขาก็จะไม่ตายงั้นหรือ

 

 

แต่นั่นมันหัวใจเขานะ!

 

 

นายท่านถึงกลับยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อรักษาสัญญากับนายหญิง!

 

 

ชายชุดน้ำเงินรู้สึกเห็นใจหลินฉง

 

 

นายท่านรักนายหญิงมากแต่หลินฉงกลับโง่เสนอให้นายท่านหาสตรีอื่นมาเพื่อแก้คำสาปเลือด! ไม่น่าแปลกใจเลยที่นายท่านจะโมโหจนสั่งให้เขากลับไปรับโทษ!

 

 

ถ้าฉินหยวนอยู่ที่นั่น เขาคงไม่พูดอะไรขัดแย้งกับความตั้งในของนายท่าน กลับกัน หลินฉงฉลาดน้อยจริงๆ!

 

 

อวิ๋นเซียวกุมหน้าอกแน่นแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าสีครามเหนือศีรษะ

 

 

เฟิงเอ๋อร์ รอข้าก่อน ข้าจะกลับมาพบเจ้าอีกครั้งเมื่อข้าถอนคำสาปเลือดแล้ว!

 

 

 

 

เมื่อหูหลีเข้ามาในห้องก็เห็าอวิ๋นลั่วเฟิงนั่งอยู่ในห้องคนเดียวแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยท่าทางเศร้าซึม เขาก็กระแอมแล้วพูดว่า “ข้าแก้ปัญหาตระกูลหูเสร็จแล้ว ดังนั้นตอนนี้พวกเราก็เริ่มออกเดินทางได้”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงถอนสายตาแล้วพยักหน้าเล็กน้อย “พวกเราจะออกจากที่นี่พรุ่งนี้ คืนนี้เจ้าก็บอกลาบิดาและพี่ชายเจ้าก่อนได้”

 

 

“ตกลง ว่าแต่อวิ๋นลั่วเฟิง สามีเจ้า…” หูหลีตั้งใจจะถามเรื่องอวิ๋นเซียวแต่ถูกอวิ๋นลั่วเฟิงขัดขึ้นเสียก่อน

 

 

“เขามีบางอย่างต้องไปทำ พวกเราไม่จำเป็นต้องรอเขา”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงหลุบตา อะไรบางอย่างทำให้นางระแคะระคายใจว่าอวิ๋นเซียวเหมือนจะมีอะไรบางอย่างปิดบังนาง

 

 

“นายหญิง” ขณะที่อวิ๋นลั่วเฟิงกำลังคิดถึงอวิ๋นเซียว เสียงของเสี่ยวโม่ก็ดังขึ้นในจิตนาง “อวิ๋นเซียวทำทุกอย่างเพื่อท่าน! ดังนั้นสิ่งที่ท่านทำได้มีแต่ต้องเชื่อใจเขาเท่านั้น”

 

 

ถูกต้อง! สิ่งนางต้องทำมีแค่เชื่อใจเขา!

 

 

“เสี่ยวโม่ข้าไม่ต้องการรอเขาอยู่ที่นี่ ข้าจะลองพยายามพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองแล้วต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา!”

 

 

นางต้องหาเขาเจอไม่ว่าพวกเขาจะห่างกันแค่ไหนก็ตาม!

 

 

 

 

ตอนนั้นเองภายในหุบผา จิ่นอวี้ที่แบกไป๋ซู่อยู่ก็หยุดพักข้างก้อนหิน นางวางไป๋ซู่ลงบนแผ่นหินเรียบ ดวงตางดงามของนางฉายแววเป็นห่วงและกังวล

 

 

“นายท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”

 

 

ไป๋ซู่ไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตา โลหิตยังคงหลั่งรินออกจากรูโหว่บนแผ่นหลังเขาจนย้อมก้อนหินเป็นสีแดง

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1315 ไป๋ซู่ (10)

 

 

“ถ้าไม่ใช่เพราะนายท่านสร้างร่างกายใหม่จนแตกต่างจากคนธรรมดา การโจมตีสุดท้ายของอวิ๋นเซียวก็คงสังหารนายท่านไปแล้ว!” จิ่นอวี้กัดปาก “แต่แม้นายท่านจะมีชีวิตรอดมาได้ เขาก็ยังต้องจากไปอยู่ดีถ้ารักษาไม่ทัน อีกอย่าง เขาเพิ่งใช้วิชาคำสาปเลือดที่ใช้พลังชีวิตถึงหนึ่งพันปี!”

 

 

เปลือกตาของไป๋ซู่ขยับมือเขาห้อยอยู่ที่พื้นอย่างอ่อนแรว ใบหน้าเขาอาบไปด้วยเลือดจนนางไม่สามารถเห็นหน้าเขาได้ชัดเจน

 

 

แต่…

 

 

เมื่อกี้เมื่อต่อต้านอวิ๋นเซียว ไป๋ซู่จึงใช้แรงบังคับให้คืนร่างเดิม ดังนั้นนางจึงใช้แรงอย่างมากเพื่อแบกเขามาจนหน้าผากนางจึงชุ่มไปด้วยเหงื่อ

 

 

“นายท่าน ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ข้าปกป้องท่านไม่ได้ ทำได้แค่มองท่านโดนโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส!” สีหน้าของจิ่นอวี้อ่อนลง นางส่งสายตารักใคร่ไปให้ไป๋ซู่ก่อนลูบใบหน้าเขาและยิ้มอย่างอ่อนโยน “ตอนนี้มีทางเดียวที่จะช่วยท่านได้และ…ช่วยท่านฟื้นพลังบางส่วน ถึงแม้ว่าท่านจะเกลียดข้า ถ้าข้าก็จะทำ ข้าต้องช่วยท่าน!”

 

 

นางก้มหน้าลงแล้วจูบริมฝีปากเปื้อนเลือดของไป๋ซู่อย่างอ่อนโยน จากนั้นนางก็ยกมือขึ้นแล้วปลดเสื้อผ้าออก

 

 

“นายท่านช่วยข้าจากข้างถนนเพราะข้ามีร่างกายพิเศษ ถ้าร่างกายข้าได้รับการบำรุงจากสมุนไพรจะกลายเป็นสื่อกลางให้ท่านฟื้นพลัง แต่จนถึงตอนนี้ร่างกายข้าก็ยังไม่ดีพอจะช่วยท่านให้ฟื้นพลังทั้งหมด…”

 

 

“แต่ตอนนี้ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำสิ่งนี้เพื่อช่วยท่าน!”

 

 

ไป๋ซู่ขมวดคิ้วแล้วพยายามต่อต้าน แต่เขาไม่เหลือแรงพอที่จะยกมือด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากดูนางใช้มือเล็กลูบไล้ร่างกายเขา…

 

 

ภายในป่าลึก ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเสพสังวาสกันบนหินก้อนใหญ่ เพราะเป็นครั้งแรกของนาง จิ่นอวี้จึงเผลอทำตัวเองเจ็บจนใบหน้าซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด…

 

 

พอเวลาผ่านไป อยู่ๆ ชายหนุ่มก็ลืมตาขึ้นมา เขาก็ตีจิ่นอวี้อย่างแรง ร่างเปลือยเปล่าของนางลอยไปตกลงกับพื้นอย่างแรงจนเกิดเสียงดังตุบ

 

 

“นายท่านเป็นอะไรหรือไม่” จิ่นอวี้ยืนขึ้นอย่างลำบากแล้วมองไป๋ซู่ด้วยความดีใจและแปลกใจ

 

 

ไป๋ซู่ไอและอาเจียนออกมาเป็นเลือด เขากำหมัดแน่น เส้นเลือดบนหน้าผากเขาเต้นตุบๆ “จิ่นอวี้ เจ้ากล้าดีอย่างไร! ใครบอกให้เจ้าทำแบบนี้”

 

 

อาจเป็นเพราะบาดแผลเขายังไม่หายดี ไป๋ซู่จึงพูดอย่างอ่อนแรง แล้วใบหน้าหล่อเหลาร้ายกายของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงด้วยความโกรธ

 

 

“นายท่าน” จิ่นอวี้กัดปาก “นายท่านลืมแล้วหรือเจ้าคะว่าท่านเก็บข้ามาจากข้างถนนทำไม ข้าแค่…ต้องการช่วยท่าน”

 

 

ไป๋ซู่เยาะเย้ย “ช่วยข้า? อย่ามาตลก! ไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า! ไปเดี๋ยวนี้! ข้าไม่ต้องการเห็นหน้าเจ้าอีก!”

 

 

“นายท่าน?” จิ่นอวี้ชะงัก นางรู้ว่านายท่านจะโกรธแต่นางไม่คิดว่าเขาจะไล่นางออกไป

 

 

“นายท่านข้า…”

 

 

“ไสหัวไป! อย่าให้ข้าต้องลงมือสังหารเจ้า!” ดวงตาไป๋ซู่เป็นประกายสังหาร เขาไม่สามารถซ่อนอารมณ์ไว้ได้ น้ำเสียงของเขาเดือดดาลมาก!

 

 

“นายท่านเจ้าคะ” จิ่นอวี้ยิ้ม รอยยิ้มของนางมีเสน่ห์แต่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ดวงตานางเป็นประกายแน่วแน่ “ท่านช่วยข้าจากข้างถนนแล้วบำรุงร่างกายข้าด้วยสมุนไพรก็เพราะท่านต้องการใช้ร่งกายข้าฟื้นพลัง! แต่ตอนนี้ก็ผ่านมานานมากแล้วตั้งแต่ท่านให้ข้าอาบน้ำสมุนไพร…”