ตอนที่ 1312 ไป๋ซู่ (7)

 

 

พูดจบ หลิงไห่ก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เสวี่ยอิ๋งอดส่ายหน้าไม่ได้ก่อนตามเขาไป

 

 

 

 

บริเวณพื้นที่การต่อสู้

 

 

หูหลีกำลังเผชิญหน้ากับการโจมตีของผู้อาวุโสอย่างไม่เกรงกลัว เขายังคงรักษาสีหน้าเฉยชาไว้แต่ทันใดนั้นเอง…

 

 

เสียงเกรี้ยวกราดก็ดังผ่านอากาศแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน

 

 

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

 

 

ดูเหมือนในน้ำเสียงจะมีพลังฌานแทรกมาด้วย ทำให้ทุกคนที่ได้ยินสั่นสะท้านเหมือนถูกค้อนทุบ

 

 

หูโย่วอู่เงยหน้ามองอย่างประหลาดใจ แล้วเขาก็เห็นคนสองคนยืนอยู่บนอากาศ คนหนึ่งเป็นชายชราที่กำลังโกรธจนหน้าเขียวและอีกคนเป็นสตรีวัยกลางคนที่ค่อนข้างมีเสน่ห์ราวก้บกาลเวลาทำอะไรใบหน้านางไม่ได้ เห็นได้ชัดว่านางดูแลตัวเองเป็นอย่างดี

 

 

“ท่าน…ท่านคือ…” หูโย่วอู่หยุดใช้ความคิดแล้วขมวดคิ้ว “ข้าจำท่านได้แล้ว ท่าน…คือผู้อาวุโสของสำนักศึกษาเมืองประจิม”

 

 

ผู้อาวุโสสำนักศึกษาเมืองประจิมงั้นหรือ

 

 

ทุกคนชะงัก เหตุใดผู้อาวุโสสำนักศึกษาเมืองประจิมถึงมาอยู่ที่นี่

 

 

หูโย่วอู่เคยเจอหลิงไห่โดยบังเอิญ ตอนเขายังเด็ก เขาเคยติดตามบิดาเดินทางไปหลายที่แล้วบังเอิญพบหลิงไห่ที่ตอนนั้นเป็นที่เคารพนับถือเหมือนกับดวงดาว ดังนั้นเขาจึงจดจำหลิงไห่ไว้ในใจได้ แต่หลิงไห่ไม่รู้จักหูโย่วอู่ เขาทิ้งตัวลงมาจากอากาศแล้วรีบเดินเข้าไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยใบหน้าวิตกกังวล

 

 

“ศิษย์ข้า เจ้าบาดเจ็บหรือไม่”

 

 

ศิษย์?

 

 

หูหลีรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าจนตัวแข็งทื่อ

 

 

เด็กสาวคนนั้นเป็นศิษย์ของหลิงไห่งั้นหรือ

 

 

เป็นไปไม่ได้!

 

 

เหตุใดศิษย์ของผู้อาวุโสหลิงไห่ถึงอยู่กับหูหลี

 

 

“ศิษย์สบายดี” อวิ๋นลั่วเฟิงยักไหล่ “คนที่มีมีปัญหาคือหูหลี ไม่ใช่ศิษย์”

 

 

ได้ยินแบบนั้น หลิงไห่ก็หันไปหาหูหลีแล้วตะโกน “หูหลี เกิดอะไรขึ้น”

 

 

หูหลีมองหูโย่วอู่แล้วอธิบาย “ชายผู้นี้และคนอื่นๆ ใส่ความบิดาข้า! ข้าแค่กำลังทำให้เขาชดใช้ขอรับ!”

 

 

“ไร้สาระ!” หูโย่วอู่มองหน้าเขากลับ “โอวหยางเชียนหรานต่างหากที่ใส่ร้ายบิดาเจ้า ไม่ใช่ข้า! ผู้อาวุโสหลิงไห่อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระที่เขาพูดนะขอรับ! ข้าเป็นอาของเขา แล้วเหตุใดต้องใส่ร้ายพี่ชายตัวเอง”

 

 

หลิงไห่ส่งเสียงขึ้นจมูก “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อศิษย์ในสำนักหรือเจ้ากันล่ะ”

 

 

เขาก็หันไปหาหูหลีอีกครั้งก่อนจะเริ่มบ่น “หูหลี อย่างไรเจ้าก็เป็นถึงศิษย์ระดับสวรรค์ของสำนักศึกษาเรา เหตุใดเจ้าถึงจัดการคนพวกนี้ยากนัก ถ้าเกิดว่าพวกเขาทำให้ศิษย์ตัวน้อยของข้าบาดเจ็บขึ้นมาเล่า”

 

 

ดูเหมือนว่าตอนนี้หลิงไห่จะลืมไปแล้วว่าอวิ๋นลั่วเฟิงแข็งแกร่งกว่าหูหลี แล้วคนพวกนี้จะทำร้ายนางได้อย่างไร แต่ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้เพราะทุกคนกำลังตะลึงสิ่งที่หลิงไห่พึ่งพูด…

 

 

ศิษย์ระดับสวรรค์งั้นหรือ แสดงว่าหูหลีก็เป็นศิษย์ระดับสวรรค์ของสำนักศึกษาจริงๆ นะสิ

 

 

หูโย่วอู่ตัวสั่นแล้วเดินโซเซไปหลายก้าวก่อนจะล้มลงพื้นดังปัง ใบหน้าเขาซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปจริงๆ หูโย่วอู่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าหูหลีจะเป็นศิษย์ระดับสวรรค์จริงๆ!

 

 

“ไม่ ข้ายังมีนายท่านไป๋ซู่คอยช่วยอยู่!” ความสิ้นหวังในดวงตาหูโย่วอู่ถูกแทนที่ด้วยความหวัง

 

 

เขาลืมนายท่านไป๋ซู่ไปได้อย่างไร ด้วยพลังของเขา เขาต้องเอาชนะคนพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย ตอนนั้นเอง หูโย่วอู่ไม่ได้คิดถึงความจริงที่ว่าถ้าไป๋ซู่สามารถเอาชนะอวิ๋นลั่วเฟิงและพวกของนางได้ แล้วเขาจำเป็นต้องหลบอยู่หลังเขาไปทำไม

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1313 ไป๋ซู่ (8)

 

 

“อวิ๋นเซียว” อวิ๋นลั่วเฟิงเงยหน้ามองอวิ๋นเซียวที่กำลังเดินเข้ามาหานาง นางส่งยิ้มให้เขาแล้วถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง”

 

 

หัวใจของอวิ๋นเซียวกระตุกเมื่อเห็นรอยยิ้มงดงามบนใบหน้านาง เขาอดไม่ได้ที่จะยกมือกุมหน้าอก แต่นาทีต่อมาเขาก็เอามือลงเพราะนึกได้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงกำลังดูเขาอยู่

 

 

“ข้าสังหารไป๋ซู่ไม่ได้ เขาหนีไปอีกแล้ว!”

 

 

ไป๋ซู่หนีไปงั้นหรือ คำพูดไร้เหตุผลไม่จำเป็นต้องนำมาใส่ใจ ได้ยินแบบนั้นสีหน้าหูโย่วอู่ก็เปหลียนไปทันที นายท่านไป๋ซู่หนีไปจริงหรือ หมายความว่านายท่านทิ้งเขาไปแล้วงั้นหรือ

 

 

“ไม่!” หูโย่วอู่ส่งเสียงโหยหวนดังไปทั่วท้องฟ้า น้ำตาแห่งความสิ้นหวังไหลเอ่อดวงตาและใบหน้าก็ซีดไร้ชีวิต

 

 

“อวิ๋นเซียว ไปกันเถอะ ปล่อยให้หูหลีจัดการเอง”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงจับมืออวิ๋นเซียวและหันหลังเดินเข้าจวน หัวใจอวิ๋นเซียวกระตุกอีกครั้ง แต่เขาก็ไม่ได้สะบัดมือนางออกแล้วปล่อยให้นางลากเขาเข้าจวน

 

 

“เฟิงเอ๋อร์” อวิ๋นเซียวสบตาอวิ๋นลั่วเฟิง “ข้า…ต้องห่างจากเจ้าสักพัก”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดแล้วหันมาหาอวิ๋นเซียวก่อนถามว่า “เจ้ากำลังจะทิ้งข้าหรือ”

 

 

“ถึงแม้ไป๋ซู่จะอ่อนแอกว่า ข้าก็…สังหารเขาไม่ได้!”

 

 

เหมือนที่ไป๋ซู่เคยพูดไว้ครั้งหนึ่งว่าอวิ๋นเซียวไม่สามารถสังหารเขาได้!

 

 

“เพราะอะไร” อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้วถาม

 

 

“ไป๋ซู่มีร่างกายที่พิเศษ ไม่ใช่แค่ทำให้เขามีชีวิตยืนยาวแต่ยังทำให้เขามีพลังป้องกันสูงมาก” แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่เพราะคำสาปเลือด ไป๋ซู่คงถูกเขาสังหารไปแล้ว…

 

 

“ดังนั้นข้าจะออกไปหาโอกาสเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงจับแขนอวิ๋นเซียวแล้วพูดอย่างจริงจัง “ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”

 

 

“ไม่ ที่ที่ข้าจะไปอันตรายมาก เจ้า…”

 

 

“ข้าไม่กลัวตราบใดที่เจ้าอยู่กับข้า”

 

 

เสียงของนางเหมือนมีมนต์สะกด และอวิ๋นเซียวก็รู้สึกว่าหัวใจตัวเองถูกฉีกกระชากออกไปอีกครั้ง เหงื่อเย็นๆ ไหลลงจากใบหน้าหล่อเหลาของเขา

 

 

“อวิ๋นเซียว เจ้าบาดเจ็บหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงวิตกกังวลแล้วรีบตรวจร่างกายอวิ๋นเซียว

 

 

อวิ๋นเซียวก้มมองเด็กสาวที่กำลังกังวลแล้วยิ้มบาง “ไม่ต้องกังวล ข้าสบายดี เฟิงเอ๋อร์ เชื่อใจข้า อีกไม่นานข้าจะกลับมา”

 

 

เมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงได้ยินอย่างนั้นนางก็ปล่อยมือออกจากแขนอวิ๋นเซียวช้าๆ หลังจากผ่านไปสักพักนางก็มองหน้าเขาอีกครั้งแล้วเผยรอยยิ้มมั่นใจ

 

 

“ตกลง ข้าจะรอเจ้ากลับมา”

 

 

อวิ๋นเซียวยิ้มแล้วจับมืออวิ๋นลั่วเฟิงวางบนอก “ข้าจะรู้สึกได้เมื่อเจ้าคิดถึงข้าแม้ข้าจะไม่ได้อยู่ข้างเจ้า”

 

 

เขาพูดเรื่องจริงทุกครั้งที่อวิ๋นลั่วเฟิงคิดถึงเขา เขาก็จะรู้สึกเจ็บปวดเหมือนเครื่องในถูกดึงออกอย่างแรง!

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงเขย่งเท้าเพื่อจูบอวิ๋นเซียวแต่เมื่อริมฝีปากพวกเขาสัมผัสกันนางของรู้สึกได้ชัดเจนว่าร่างของเขาสั่น

 

 

“อวิ๋นเซียว?” อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดจูบแล้วมองใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเขาอย่างแปลกใจ “เจ้า…เจ้าเป็นอะไรหรือไม่”

 

 

เหตุใดนางถึงรู้สึกว่าอวิ๋นเซียวมีอะไรผิดปกติ

 

 

“ข้าไม่เป็นไร” อวิ๋นเซียวส่ายหน้าแล้วพยายามกดความเจ็บปวดในใจเขาไว้ “เฟิงเอ๋อร์เจ้าต้องรอข้านะ”

 

 

ก่อนที่อวิ๋นลั่วเฟิงจะตอบอะไรเขา ชายหนุ่มก็เดินออกจากจวนแล้วหายไปจากสายตานาง…

 

 

 

 

นอกประตูเมือง

 

 

ภายในป่ารกทึบ อวิ๋นเซียวยืนพิงต้นไม้ มือกุมหน้าอกแน่น เขาขมวดคิ้วเมื่อโดนทรมานจากความเจ็บปวดราวเครื่องในถูกฉีกกระชาก